20 กรกฎาคม 2548 23:30 น.

..เสียงนก..เสียงกา

ผู้เฒ่า

อันเสียงนกเสียงกาตามป่าเขา
แม้นแผ่วเบาไพเราะเสนาะหู
ธรรมชาติสร้างสนองให้ตรองดู
เราเรียนรู้แล้วแต่จิตความคิดคน

เสียงนกกาค่ามีอยู่ที่คิด
เพราะชีวิตเพียงสัตว์มิสับสน
ต่างมนุษย์สกปรกที่วกวน
ร้อยเล่ห์กลขาดสำนึกจะตรึกตรอง

ยิ่งส่งเสียงอวดโอ่ล้วนโง่เขลา
มนุษย์เราชั่ว-ดีมีสมอง
ให้ส่งเสียงดังสนั่นเหมือนลั่นกลอง
คนทั้งผองย่อมรู้จักความหนักเบา

โบราณว่าอ้าปากก็มากเรื่อง
ทำตนเชื่องหูตั้งคอยฟังเขา
หยิบสิ่งดีแม้นเสี้ยวเก็บเกี่ยวเอา
จึงจะเท่ารู้ทันมีปัญญา

เสียงที่ดังฟังแล้วตรองจะมองเห็น
เพราะอยากเด่นใคร่ดีหนีปัญหา
หรือกลบเกลื่อนลอกคราบภาพมายา
บังสายตาผู้คนจะพ้นฤา

อันเสียงนกเสียงกาภาษาสัตว์
เป็นสำบัดสำนวนควรยึดถือ
ตรองให้เป็นเรื่องราวที่เล่าลือ
มันก็คือคำเคียงเสียงนกกา

อันมนุษย์น่านิยมที่ลมปาก
แต่พูดมากสร้างสรรแต่ปัญหา
เพียงหนึ่งคำติฉินชอบนินทา
อายหมูหมากานกนรกเอย@				
2 กรกฎาคม 2548 00:10 น.

เปล่าครับ..เปล่าเจ้าชู้..

ผู้เฒ่า

เรื่องเจ้าชู้รู้ตัวว่ามัวหมอง
มิอาจร้องแก้ข่าวข้อกล่าวหา
ทุกถ้อยคำย้ำให้ไร้เมตตา
สื่อภาษาว่าเจ้าชู้ไม่รู้พอ@

เกิดเป็นชายแสนลำบากยากกว่าหญิง
เพราะทุกสิ่งโบราณสอนให้อ่อนข้อ
แม้นสตรีว่าบ้างจงรั้งรอ
อย่าไปต่อถ้อยวจีจะดีปลาย

เพียงลมปากฝากแนวใช่แก้วบาด
ถ้าเผลอพลาดเข้าใกล้ยังไม่สาย
โดนค่อนขอดเจ็บปวดว่าลวดลาย
ทนเถิดชายปลายมือค่อยถือดี

อันดอกไม้กับภมรตอนประสบ
เรื่องมันจบแค่กินก็บินหนี
แต่หญิง-ชายต่างภมรกับมาลี
จึงยังมีเยื่อใยสายสัมพันธ์

เพียงชมชอบคบหาว่าเจ้าชู้
แค่แอบดูหญิงงามในความฝัน
เรื่องรักใคร่ซาบซึ้งมีซึ่งกัน
คงสักวันฝันเล่นจะเป็นจริง

เพราะหัวใจหลายห้องมันร่องแร่ง
ทั้งเว้าแหว่งเกินเรียนรู้เรื่องผู้หญิง
คำเจ้าชู้ดั่งสร้างใช้อ้างอิง
ต้องทนนิ่งเฉื่อยชาแต่ว่ากลัว

นึกถึงเพลงร้องไว้ถูกใส่ร้าย
ตามสบายแม่คุณแม่ทูลหัว
หยอกกันเล่นรู้ใจว่าไกลตัว
มาทำยั่วอย่าเผลอเมื่อเจอกัน

พ่อไก่แจ้ขุนแผนแสนสะท้าน
ดั่งตำนานหนหลังที่รังสรรค์
คนแสนซื่อใจ-กายเหงารายวัน
บอกทันควันเรื่องเจ้าชู้ไม่รู้จริง

ปฏิเสธออดอ้อนใจอ่อนล้า
ปรัชญาความเจ้าชู้เรื่องผู้หญิง
ถ้าจับได้ไล่ทันหมั่นประวิง
อยู่นิ่งนิ่งรับสักกึ่งเพียงครึ่งเดียว@				
17 มิถุนายน 2548 23:17 น.

..รำลึก..

ผู้เฒ่า

บันทึกวิปโยคครั้งหนึ่งโลกแหลกสลาย
เกิดขึ้นเมื่อความตาย..         พรากเจ้าไปจนไกลตา

      มองแสงจันทร์กระจ่างเงาสว่างผิวธารา
หลังม่านชลนา.     ยิบระยับสะเทือนใจ

      หาดทรายกับสายลม.  ความขื่นขมที่อ่อนไหว
ขุนเขาที่ยาวไกล..      ผนึกในจินตนาการ

        แมกไม้ความรู้สึก    เร่งสำนึกให้ขับขาน
ปลดปล่อยรอยร้าวราน  .บันทึกผ่านอักษรา

      มหาสมุทรแม้นลึกล้ำ   มิเท่าคำจำนรรจา
ถ้อยคำพรรณนา                ทรงคุณค่าให้จดจำ

      เสียงแผ่วเคยแว่วหวาน  ยังกังวานคอยตอกย้ำ
กี่ครั้งและกี่คำ                     เป็นลำนำประจำใจ

     ปีเดือนที่เลือนลับ          มิหวนกลับคืนมาใหม่
เพียงภาพสนิทนัย . ตรึงรอยช้ำให้กล้ำกลืน 
 
     ครืนครืนเสียงซัดสาด  ..ป่าวประกาศว่ายังตื่น
ทะเลทุกวันคืน                   มันก็ตื่นอยู่ร่ำไป

     ดวงกมลของคนเศร้า     เก็บภาพเก่าตรึงดวงใจ
สุดสิ้นอายุขัย                    ประหนึ่งคลื่นกลับคืนรอย

     ครบรอบหวนรำลึก   เปิดบันทึกคำเรียงร้อย
จดจำคำว่า.คอย.      ชั่วชีวิตนิจนิรันดร์@

 @ไม่ว่าคุณจะ.คอย.อยู่ที่ไหน..สักวันผมจะไปหา..
แม้ไกลสุดฟากฟ้าถึงเวลาผมจะไป@

      เพราะรู้ว่าอยู่ใกล้..        ลมหายใจสายสัมพันธ์
คือที่เรามีกัน..      เธอกับฉันตลอดมา

     ทุกอย่างแม้นผ่านผัน ..  แต่ในฝันทุกเพลา
ลืมตาหรือหลับตา...ความคิดถึงเพียงหนึ่งเดียว.@

ทุกคนย่อมมีสิ่งที่ควรจดจำ..สำหรับเราไม่มีสิทธิ์เลือก
.และไม่ต้องการเลือก..ในวันหนึ่ง..ที่เรามีความรู้สึกยากจะลืม..

เรื่องนี้เริ่มเขียนตั้งแต่ที่วังแก้ว..ความจริงคาดไว้ว่าจะยาว..
เพื่อเก็บไว้ในอนุสาวรีย์แห่งใจ ประจำปี..แต่เนื่องจากภาระมาก
แต่เมื่อคิดจะเขียนนานแล้ว..ก็เลยต้องเขียนสักนิด.เพื่อระลึก
ถึงวันนี้..17มิ.ย2521..เพื่อเจ้าของ..สร้อยหิน.ในคอ..

ถ้าไม่จำเป็น ผมไม่เคยถอด..และรับรู้อยู่เสมอ
คุณคอยมอง และให้กำลังใจผม..อยู่ตลอดเวลา..

               สร้อย

สร้อยหินสี สวมคอ..หมายต่อรัก
มั่นคงนัก ชั่วฟ้า..ดินสลาย
สร้อยคงคอ รักอยู่..มิรู้คลาย
คอห่างกาย จึ่งขาดสร้อย..ที่ห้อยคอ

สองมือสวม ใส่สร้อย..ละห้อยหา
ภาพตรึงตรา มิวาย..เพราะสายศอ
แม้สวรรค์ บั่นรัก..คิดจักรอ
เพื่อสานต่อ พิศวาส..ทุกชาติเจอ

สัมผัสรัก ส่งมอบ..จากขอบฟ้า
รับรู้ว่า คอยดู..อยู่เสมอ 
ณ.วันนี้ โลกของฉัน..นั้นขาดเธอ
น้ำตาเอ่อ ทุกครา..มองฟ้าไกล

สร้อยยังสวม ติดคอ..รอเจ้าของ
ถึงคราต้อง ตามส่ง..อย่าสงสัย
ถึงเวลา พบกัน..ฉันจะไป
ยื่นสร้อยให้ กับเธอ..พร้อมเจอกัน..@

กลอนเรื่องนี้ เคยลงแล้วครั้งหนึ่ง..
แต่นับไม่ได้..สำหรับใจที่ไม่เคยลืม.				
14 มิถุนายน 2548 21:51 น.

..ฮัลโหล..

ผู้เฒ่า

เบอร์หน้าจอ โชว์ขึ้น ช่างขื่นขม
เก็บอารมณ์ รันทด กดรับสาย
ยินเสียงแผ่ว คนคุ้น ว่าวุ่นวาย
เหนื่อยแทบตาย ยุ่งชะมัด งานรัดตัว

โทรทุกครั้ง บ่นว่า เวลาน้อย
เสียงอ่อยอ่อย พูดจา น่าปวดหัว
คำคิดถึง เมื่อลา ช่างน่ากลัว
มันหม่นมัว ยามยิน แทบสิ้นลม

โชว์แต่เบอร์ พร้อมเสียง เพียงจะรู้
ว่ายังอยู่ หรือไม่ แค่เหมาะสม
มิโชว์ใจ กล้ำกลืน จะชื่นชม
ต้องโศกตรม หมดปลื้ม เขาลืมเลือน

โทรศัพท์ ข้างแก้ม แต้มด้วยน้ำ
แห่งความช้ำ จากหางตา ไหลมาเปื้อน
ปล่อยมันไหล รินย้อย เพื่อคอยเตือน
ว่ายามเยือน เป็นคู่สาย รักหายไป

เบอร์ที่โทร โชว์เห็น นั้นเป็นทุกข์
จะนั่งลุก ยืนนอน ก็อ่อนไหว
สงสารเถิด คนโทร ควรโชว์ใจ
เป็นเช่นไร ใจคนโทร พร้อมโชว์เบอร์..@				
11 มิถุนายน 2548 23:14 น.

ขอเถิดโยม...

ผู้เฒ่า

จงระวัง น้องนาง มียางหน่อย
เหมือนจะอ่อย ไขว่ห้าง น้องนางเอ๋ย
นุ่งก็สั้น มิเกรงใจ ผู้ใดเลย
อย่าทำเฉย เรียบร้อย เสียหน่อยนาง

วัดนะน้อง ชอบผ่า นุ่งผ้าขาด
ฆราวาส มองเห็น ใจเต้นผาง
สถานที่ ถิ่นธรรม ควรอำพราง
ยากจะวาง จิตสงบ ยามพบเจอ

ถ้าเข้าวัด แต่งเฉพาะ ให้เหมาะสม
คนนิยม มากกว่าหวัง เจ้านั่งเผลอ
เสื้อเกาะอก สายเดี่ยว เสียวนะเออ
ถ้าเลินเล่อ เผลอหก น่าตกใจ

แต่โบราณ เข้าวัด ต้องจัดร่าง
ให้ถูกทาง น่าชม สมสมัย
จะเดินเหิน ลุกนั่ง ระวังระไว
มิทำให้ ใครชำเลือง เคืองลูกตา

ปัจจุบัน เปลี่ยนไป ก็ไทยอยู่
ควรต้องรู้ เกี่ยวกับ ศาสนา
จะเข้าวัด สำรวม กิริยา
ใส่เสื้อผ้า มิดชิด สักนิดนาง

คนกับวัด ขัดกัน ก็บรรลัย
วัดควรไป เป็นประจำ อย่าทำห่าง
พุทธมามก..ควรจะวาง
สงสารพระ เจ้าบ้าง น้องนางเอย..@

เรื่องสุดท้าย ชุดฝาวัด..รวมได้ยี่สิบเรื่อง..ของเก่า -เขียน ขโมย..
ความจริงเรามิได้รังเกียจเลย .ในกรณีของ ชุดแต่งกาย.มันเป็นไปตาม
สมัยนิยม..และความจริงก็ดูสวยงามดีเพียงแต่ต้องตระหนักถึงสถานที่..

แต่ที่ได้เห็น และคุยกับพระ..ก็มีจริงๆ..แล้วพระเอง ก็พูดเรื่องนี้ไม่เหมาะ
ก็เลยสื่อออกมาเป็นบทกลอนนี้ติได้ชมได้..ไม่รับค้อนสวัสดีครับ..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผู้เฒ่า