15 กันยายน 2545 19:10 น.

ชมดอกไม้ (โคลงซ่อนกาพย์)

พนาไพร

เชิญชวนชมดอกไม้          เมืองไทยหลายมีมากไว้
งามกว่าที่แห่งไหน                   โลกหล้าไม่เทียบเทียมค่า
หลายพันธุ์หลากแมกไม้            สวยสดไซร้เจริญตา
เหมือนอยู่ดินแดนฟ้า               ถิ่นจ้าวมาเยือนนรา

        ดอกบัวสูงค่าล้ำ                ควรหาจำให้ติดตา
สำหรับใช้บูชา                         กราบไหว้พาน้อมจิตใจ
ตัวแทนแห่งวันทา                    ประดับ   ค่าควรคู่ไทย
สูงศักดิ์เจ้าดอกไม้                     น่าน้อมใจนำไหว้แล้ว

        ดอกคูณร่วงเกลื่อนพื้น       เป็นแนวผืนสีเหลืองแวว
โปรยดอกเป็นทิวแถว                 ยอดไม้แพรวแต่งก้านใบ
เมื่อดอกหล่นลงแล้ว                   อร่ามแก้วแววสดใส
ช่างน่ายลยิ่งไซร้                       เพราะเจ้าใคร่มองดูกัน

        หางนกยูงก็คล้าย               เหมือนกันหมายดอกคูณนั้น
หล่นร่วงตามกาลวัน                   เมื่อได้วันปลิดดอกไป
สีสันแสดสีนั้น                           สว่างพลันต้องอุทัย
แสดสดสวยสดไซร้                     ทั่วพื้นไทยเมืองน่าจำ

        ดอกหญ้าดูค่าสิ้น                ต้อยต่ำดินให้ดูช้ำ
มีแต่คนเหยียบย่ำ                       บดบี้ซ้ำไม่เหลือดี
แต่นั่นก็ยังทำ                             คุณค่านำก็มากมี
ถ้าอยู่บนฟ้านี้                             โบกพริ้วมีลมพัดหวน

        การเวกกลิ่นฟุ้ง                    หอมหวลทุ่งกลิ่นอบอวน
กลิ่นก็ช่างเชิญชวน                      สูดต้องควรดมเอาไว้
ตัวดอกน่าเย้ายวน                       หลงอยู่   ป่วนใจให้มอง
เพียงแค่ได้มองจ้อง                       ก็ให้ต้องหลงฝันหา

        ชบาชูช่อช้อน                      เชิดหน้างอนงามจับตา
โดดเด่นเป็นสง่า                          ยอดตั้งหน้าเชิดชูยัง
ขาวเหลืองสะดุดตา                       สวยยิ่งกว่าดอกอื่นทั้ง
อยากจะเด็ดดึงรั้ง                         แต่ต้องยั้งใจหมกมุ่น

        มะลิแทนสื่อผู้                       มีคุณคู่ที่ให้บุญ
คือแม่ที่การุณ                               ลูกน้อยอุ่นแม่เฝ้าคอย
แทนใจแด่พระคุณ                        ของแม่หนุนนำลูกน้อย
เป็นเช่นคำเรียงร้อย                       มอบไว้ถ้อยคำแลดู

        ดอกเข็มถึงว่าแม้                    จะดู   แค่เล็กจริงอยู่
แต่ค่านั้นมีอยู่                               มากล้นหมู่เป็นล้นพ้น
แมลงก็ยังรู้                                    มาดูดดูดื่มจากต้น
เลี้ยงชีพได้ท่วมท้น                        ทั่วทั้งตนตัวแมลง

อ๊ะอ๊ะ  อย่าเพิ่งไปช่วยติชมกันก่อนสิครับ  แล้วคอยติดตาม โคลงชมนก  โคลงชมปลา  ได้ในโอกาสต่อไปๆนะครับ
(ขณะนี้กำลังแต่งอยู่ยังไม่เสร็จครับ เลยยังไม่ได้เอามาให้ชมกัน ขอประทานอภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ)  อิอิอิอิอิ
ลงเรียบร้องแล้วนะครับโคลงชมนก  ใครยังไม่ได้อ่านเชิญกดที่นี่ได้เลยครับ           ชมนก(โคลงซ่อนกาพย์)  
อ๊ะเห็นว่าหลายๆคนไม่เห็นครับเลยเอามาบอกตรงนี้แล้วกัน  ลอง click ขวาแล้วกด select all ดูแล้วกลับมาอ่านโคลงใหม่ดูสิครับ  จะเห็นอะไรแปลกๆ  อิอิ				
9 กันยายน 2545 22:45 น.

ฟ้าหลั่งฝน-ฟ้าหลังฝน

พนาไพร

 ฟ้าหลั่งฝน 
 พนาไพร      
     ยามเมื่อฝนหล่นมาจากฟ้าหลั่ง
กระหึ่มดังสนั่นสั่นสะท้าน
ผู้คนวิ่งหลบฝนอลหม่าน
รีบเข้าบ้านชายคาหาร่มกาง
     มวลหมู่นกสกุณาพากลับรัง
มิรอรั้งฝ่าฝนหาหนทาง
เกาะพักอยู่แอบอิงกิ่งไม้บ้าง
อีกหลบข้างพอประทังกำบังกาย
     หมดตะวันทอดแสงแห่งเรื่องรอง
ฟ้าหม่นหมองดำมืดมิเฉิดฉาย
ลมกรรโชกโบกพัดซัดกร่ำกราย
ฝนโปรยปรายหล่นหลากฝากน้ำฝน


......................................................................

                                       ฟ้าหลังฝน 
 นักเดินทาง(Skeczys) 
     พิรุณหยาด หยุดหยด รดหลั่งฟ้า
พสุธา พาชุ่ม ทุกแห่งหน
พายุหาย คลายมืด หมองเมฆมน
ฟ้าหลังฝน แจ่มจ้า นภากาญจน์
     รังสิทอ ทองทา ฟ้าประดับ
ชมพูรับ ขับแต้ม แซมสีหวาน
สาดส่องสุด ทั่วหล้า สุธาธาร
หมอกเมฆม่าน ผ่านพา ฟ้าขลิบทอง
     เหมือนชีวิต ลิขิต ให้ทุกยาก
ดั่งวิบาก พายุ พัดหม่นหมอง
เฝ้ารอวัน ฝนซา ฟ้าเรืองรอง
ประภัสผ่อง รองรับ หลังพิรุณ				
6 กันยายน 2545 20:17 น.

อิจฉานะ(แต่ไม่แสดงออก)

พนาไพร

อย่ามองว่าฉันดี             ความจริงนี้ไม่ใช่หรอก
สิ่งที่แสดงออก                    เหมือนแกล้งหลอกมันไม่จริง
    ที่ทำไม่เสียใจ                ยิ้มรับไว้ในทุกสิ่ง
แต่ว่าอันที่จริง                    เพราะทำนิ่งแสร้งยินดี
    เจ็บปวดรวดร้าวใจ          ต้องเก็บไว้อยู่อย่างนี้
แต่ว่าทุกนาที                     ฉันคนนี้อยากพูดไป
    ฉันแอบอิจฉานัก            ที่เธอรักเขาหมดใจ
คนที่ถูกเมินไกล                 ต้องปวดใจซักเท่าไร
    ฉันได้แต่อิจฉา               เพราะรู้ว่าพูดไม่ได้
ถ้าพูดมันออกไป                  เธอคงไม่ยอมพบหน้า
    แอบมองเธอกับเขา           ฉันก็เศร้ามีน้ำตา
แต่ฉันก็ไม่กล้า                    ทำออกมาว่าน้อยใจ
    หวั่นไหวเมื่อพบเจอ          แต่ให้เธอรู้ไม่ได้
วันนี้ฉันเป็นใคร                  ฉันเข้าใจฉันรู้ดี				
31 สิงหาคม 2545 18:33 น.

คำสารภาพจากใจ

พนาไพร

ผิดที่ฉันปล่อยใจไปตามฝัน      ผิดที่ฉันปล่อยกายไปตามใจ
ผิดที่ฉันไม่ปรามห้ามหัวใจ          เลยปล่อยให้หัวใจไปรักเธอ

    ฉันผิดเองที่ห้ามใจไว้ไม่อยู่      รู้ทั้งรู้แต่ยังให้ใจมันเพ้อ
ไม่ห้ามตัวห้ามใจไว้เสมอ             ดันรักเธอก็เพราะฉันมันปล่อยใจ

    ฉันก็รู้ที่จริงเป็นสิ่งผิด              แต่ความคิดของใจกลับบอกไม่
แม้ฉันรั้งหัวใจไว้เท่าใด                ก็จะไปจนฉันมันใจอ่อน

    ต้องขอโทษสิ่งที่ใจไปทำไว้       เลยทำให้ตัวเธอต้องเดือดร้อน
ต่อไปนี้จะเก็บใจจับใส่กลอน         ขออ้อนวอนขอโทษอย่าโกรธเลย				
31 สิงหาคม 2545 18:17 น.

พระคุณแม่(โคลงสี่สุภาพ)

พนาไพร

พระคุณของแม่ล้น              มากมาย
กว่าสิ่งอื่นทั้งหลาย                   แหล่งหล้า
ไม่มีที่เสื่อมคลาย                     แปรเปลี่ยน
คอยแต่ดูแลข้า                        ห่วงเฝ้าเห็นใจ

     เมื่อเด็กแม่กล่อมให้              หลับไหล
นอนคู่อยู่มิไกล                         ห่างพ้น
ดูแลแก่ดวงใจ                           ลูกแม่
ด้วยรักลูกท่วมทั้น                     อยู่ใกล้ลูกยา

     ยามหิวก็เร่งร้อง                   เรียกหา
แม่ยิ่งรีบเร่งมา                          เพื่อป้อน
ตระเตรียมจัดแจงหา                 ให้แก่   ลูกเอย
คอยเป่าข้าวหายร้อน                  เพื่อให้ลูกกิน

     ยามแม่เมื่อแก่แล้ว                 ลูกน้อย   ดูแล
หาสิ่งของใช้สอย                        ทั่วถ้วน
ปรนนิบัติเฝ้าคอย                       ให้แม่
ก็เพราะรักแม่ล้วน                       จึ่งให้เต็มใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพนาไพร
Lovings  พนาไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพนาไพร
Lovings  พนาไพร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพนาไพร
Lovings  พนาไพร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพนาไพร