13 ตุลาคม 2547 08:15 น.

..อ้อนเพื่อน..

พี่ดอกแก้ว

คำว่าเพื่อนเตือนไว้ว่าไม่เหงา 
นอกจากเรายังมีสื่อชื่อ...สหาย 
ช่วยนำความอบอุ่นล้อมรอบกาย 
และทำลายเรื่องเศร้าพ้นเงาใจ 

คราวทุกข์ร้อนคนให้อ้อนก็คือเพื่อน 
มิเคยเลือนเชือนแชแปรผลักไส 
อาจบ่นว่าหน้าง้ำคว่ำลงไป 
แต่รีบทำทันใดเพื่อช่วยกัน 

คนเคยเคียงข้างกันวันมีสุข 
คราวพบทุกข์กลับหนีรี่ถลัน 
กลัวเสียชื่อเสียหน้าสารพัน 
คนเช่นนั้นมิใช่เพื่อนเหมือนคนจร 

เราต่างหวังมีเพื่อนเหมือนมิตรแท้ 
คอยช่วยแก้ช่วยไขไม่หลอกหลอน 
แต่เราเคยเป็นเพื่อนใครอย่างแน่นอน 
พึงสังวรณ์ก่อนขอตัดพ้อใคร 

อยากให้ใครสนองเราอย่างเข้าจิต 
เป็นมิ่งมิตรทุกเวลาพาสดใส 
เราต้องให้เขาก่อนด้วยหัวใจ 
เป็นทุนให้เรียกมิตรสนิทปอง 				
12 ตุลาคม 2547 18:38 น.

หัวโขน

พี่ดอกแก้ว

เปิดกวีบทที่ประทับใจ 
ท่านเขียนไว้งดงามตามเหตุผล 
ใช้ทวนย้ำพร่ำบอกดวงกมล 
ว่าสิ่งที่เป็นตนจริงหรือไร?... 
 
  ...เป็นรามลักษณ์ยักษ์ลิงแน่จริงหรือ?
แท้ก็คือหัวโขนเขาโยนใส่
พอจบบทหมดเรื่องถอดเครื่องไป
เดิมเช่นไรก็เป็นเหมือนเช่นเดิม... 


ใครคิดอวดศักดาว่ายิ่งใหญ่
ประพฤติในความกร่างอย่างฮึกเหิม 
พบผู้ด้อยยิ่งกระหน่ำเข้าซ้ำเติม 
เบ่งตัวใหญ่กว่าเดิมไม่เกรงใคร 
 
เมื่อถึงวันทัณฑโทษโลดรุกฆาต 
เรือกระดาษสิ้นศักดิ์เขาผลักไส 
จมกระแสเชี่ยวกลางชลาลัย 
เหลือเพียงร่างทิ้งไว้ไร้วิญญาณ
 
มาอย่างไรกลับไปอย่างมือเปล่า
ไร้เดือนดาวศักดิ์ยศหมดเรียกขาน
สิ้นทรัพย์ที่สะสมมาเนิ่นนาน
รักและชังสิ้นกาลในทรงจำ
 
แม้นก่อนตายคลายอำนาจวาสนา
ไร้ผลบุญนำพาอุปถัมภ์
หมดสิ้นฐานชูคออย่างเคยทำ
ต้องชอกช้ำเพราะหัวโขนโดนยึดไป				
12 ตุลาคม 2547 07:05 น.

ใจหวาน

พี่ดอกแก้ว

น้ำผึ้งหวานปานใดได้ลิ้มรส 
มิอาจเทียบหนึ่งหยดน้ำใจหวาน 
เชื่อมเยื่อใยสัมพันธ์อันยาวนาน 
ด้วยสายทานการอภัยไม่ขมครวญ 

ดอกไม้หอมน้อมใจให้ซึ้งหอม 
อาจยั่วย้อมกลิ่นกรายจรดปลายสวน 
เพียงชั่วครู่สิ้นกลิ่นหอมรัญจวน 
มิอาจทวนเท่าศีลกลิ่นหอมนาน 

ลุ่มธาราชื่นเย็นเป็นบางคราว 
ไม่อาจดับร้อนผ่าวถึงแก่นฐาน 
พิษเพลิงทุกข์เผาใจให้ร้าวราน 
ปัญญานำชื่นบานกว่าธารา 

จันทร์ว่างามยามเพ็ญเห็นกระจ่าง 
ยังดำด่างกลางเด่นเป็นรอยฝ้า 
แต่พระธรรมคำสอนพระศาสดา 
ยังงามเลิศเจิดจ้ายิ่งกว่าจันทร์ 				
10 ตุลาคม 2547 19:50 น.

เพียงเพื่อร้องขอ

พี่ดอกแก้ว

ล้นกระถางร่วงหล่นจนพื้นไหม้ 
กลุ่มควันคลุ้งลอยไล่จากธูปหอม 
บ้างสายตามุ่งหวังบ้างตรมตรอม 
ปักธูปแล้วนบน้อมบรรยายความ 

อธิษฐานขานกล่าวเรื่องราวขอ 
ใจจดจ่อขอไปบ้างไถ่ถาม 
บ้างโอดครวญเรื่องร้อนที่ลุกลาม 
สรุปความว่าขอให้พอใจ 

ในบางคนเฉยเมยไม่เคยสร้าง 
ความเพียรเป็นโครงร่างกลับเฉไฉ 
ไม่เคยสร้างความพร้อมจากภายใน 
รอหวังให้เทพบันดาลปานเสกมนต์ 

มีหรือที่โอ่งเปล่าคราวหน้าแล้ง 
น้ำขอดแห้งโอ่งไปไม่หาบขน 
แต่บนบานศาลกล่าวกับเบื้องบน 
ให้โอ่งน้ำของตนเต็มดังเดิม 

ความสำเร็จจักเสร็จสิ้นด้วยอินทรีย์ 
พร้อมพละที่มีมาสร้างเสริม 
ผลบุญเก่าจึงตามมาแต่งเติม 
ต้องพูนเพิ่มด้วยตนก่อนวอนขอบุญ 

ร่องรอยไหม้ยังเรียงเคียงกระดาน 
หลายปีผ่านม่านควันนั้นยิ่งหมุน 
เหนือกระถางล่องลอยคอยพึ่งคุณ 
ผู้สร้างทุนจากเครื่องเซ่นเช่นบนบาน 				
8 ตุลาคม 2547 16:05 น.

จิตรกรรมใจ

พี่ดอกแก้ว

ธรรมดาชาวพาราชอบของงาม
ทุกเขตคามปรุงแต่งแหล่งสถาน
ให้สดสวยทั้งนอกในเรือนชาน
ออกแบบงานฝีมือสื่อตรึงตรา
 
เครื่องประดับประดาสารพัน
หลากสีสันสดใสในภูษา
จิตรกรรมนำศิลป์ถิ่นนานา
เครื่องคาวหวานลานตาน่าลิ้มลอง
 
ผู้ใจสูงจึงสร้างสรรค์อันลือค่า
สิ่งงดงามต้องตามาสนอง
แก่ตนเองและผู้อื่นให้สมปอง
จิตกลั่นกรองประณีตการณ์งานสมบูรณ์
 
แต่ในความงดงามที่ปรากฏ
หากใจไร้กำหนดเรื่องเสื่อมสูญ
ลุ่มหลงกับความงามที่เทิดทูน
หรือเพิ่มพูนความจีรังอย่างฝังใจ
 
เมื่อความงามเสื่อมไปวัยชรา
หรือความเก่าคร่ำคร่ามาชิดใกล้
หรือถึงคราวแตกแยกทำลายไป
ความยึดในดวงใจก่อน้ำตา
 
ผู้สร้างสรรค์จริงแท้แค่สร้างสรรค์
ไม่ยึดมั่นให้ยืนยงคงวรรษา
มีเป้าหมายเพียงสร้างเต็มพลา
ให้สำเร็จจินตาคราเริ่มจินต์
 
ทั้งงานทอภูษาเครื่องอาหาร
ทั้งอาคารบ้านช่องห้องหอศิลป์
ทั้งระเบียบปกครองของแผ่นดิน
ทั้งหลั่งรินน้ำใจให้เด็กดี
 
เมื่อถึงกาลผ่านไปไม่งามแล้ว
หรือสิ้นแววเรืองรองผ่องราศี
มีถ้อยคำตำหนิเป็นราคี
ยอมรับได้ว่าชีวีย่อมเปลี่ยนแปลง				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว