21 ธันวาคม 2551 02:34 น.

พลังใจที่ปลายมีด

ฟา

     ในห้องใต้แสงไฟส่องสว่าง
จิตดับคว้างดิ่งลึกไปถึงไหน
เสียงข้างบนควากแควกสักปานใด
ยิ่งเหมือนผลักหัวใจให้ตกจม

     ทั้งกรีดเฉือนเลือดเปื้อนสีแดงฉาน
สำทับบนความทรมานขนานใหญ่
โธ่ชีวิตที่แน่แท้คืออะไร
เมื่อหัวใจทั้งดวงถูกทึ้งดึง

     ทอดอาลัยหมดก่อนวัยวันนี้หนอ
วันที่เหลือจะมีต่อเลิกคิดถึง
อนาคตที่ตั้งมั่นเคยรัดตรึง
น่าจะถึงเวลาต้องปล่อยไป

     "จงกลับมา กลับมาเถิดสาวน้อย"
เสียงใครหนอที่ลอยเข้ามาใกล้
โอ้มือฉันอุ่นขึ้นด้วยไอใคร
ได้ยินเสียงหายใจที่ปลายตา

     "ค่อยค่อยลืมตาขึ้นสิคนเก่ง"
มาต่อคำคนที่ให้หวั่นเกรงเป็นหนักหนา
เสียงใครกันเหมือนได้ยินก่อนหลับตา
อยากมองเห็นอยากดูหน้าว่าเสียงใคร

     ครั้งที่หนึ่งสองสามพยามอยู่
ฉันไม่รู้ทำไมเกือบไม่ไหว
แต่ที่สุดฉันอยากเห็นว่าคุณใคร
แล้วก็ลืมตาเห็นได้อย่างเต็มตา

     พูดไม่ออกบอกไม่ถูกแรงไม่ไหว
แต่คิดว่าเข้าใจในใบหน้า
เสื้อกาวน์ขาวรอยยิ้มกับแววตา
ฉันจำได้ค่ะว่าคุณคือใคร				
21 ธันวาคม 2551 02:01 น.

กาลครั้งหนึ่งความรัก

ฟา

     กาลครั้งหนึ่งซึ่งนานมาแล้ว
ชายหนึ่งแว่วเสียงหวานกังวานโศก
จึงออกตามเสียงไห้ด้วยเรือโยก
ย้อนลมโบกพัดพาให้เสียงมา

     อนงค์หนึ่งร่างขาวสาวสะพรั่ง
น้ำตาหลั่งไหลยาวพราวเกศา
ทอดเรือนร่างเรียบริมสายธารา
ส่งแววตาทอดไกลเกินขอบเดือน

     ครั้นเรือล่องลอยลำจนล้ำหน้า
นงพะงาสบตาแววเฉือดเฉือน
เอ่ยสำเนียงเสียงสั่นเป็นเชิงเตือน
"ไม่รับผู้มาเยือนจงเลยไป"

     สิ้นเสียงหวานขานขับกลับจับจิต
ชายหนุ่มคิดหาทำตามผลักไส
"โอ้เจ้าหนอนงเยาว์ เจ้าไล่ใคร"
ท่านนั้นไง ใช่ผู้อื่นคนใดที่ไหนกัน

     อันจะให้ผู้ใดไปให้พ้น
ควรมีเหตุของผลแม้เพียงสั้น
นี่เพียงเราแค่พบสบตากัน
ใยจึงกางวาจากั้นสัมพันธ์ใจ

     หนึ่งเหตุผลข้าก็แจ้งท่านอยู่
ข้าไม่รับผู้มาเยือนจากแห่งไหน
มิตร ศัตรู หรือผู้ต้องการใจ
โปรดล่องเรือเลยให้เร็วพลัน

     โอ้นงลักษณ์ลักขณาของน้องนี้
มิอาจที่พี่จะไปอย่างหุนหัน
แต่เจ้าลักสร้อยเรื่องร้ายอย่างไรกัน
จึงไหวสั่นหวั่นใจไม่พาที

     ใช่จะพรอดออดพร่ำเมื่อช้ำจิต
หรือจะฉวยโอกาสชิดในทุกที่
แต่เสียงร่ำไห้เจ้าดึงฤดี
ให้พี่ล่องทวนนทีนี้ขึ้นมา

     ด้วยความห่วงกังวลบันดลจิต
จึงเร่งติดตามขึ้นมาตรงหน้า
แม้เพียงน้อยจะสามารถในสายตา
แค่เพียงรับผ้าซับตาของพี่ไป

     หากไม่รับถึงจักไล่ให้ไกลถิ่น
ก็จะย่างขึ้นสู่ดินอยู่เคียงใกล้
ได้โปรดเถิดกันยาอย่าจืดไป
ขอน้ำใจเจ้าสักหยดรดบนทรวง				
21 ธันวาคม 2551 00:59 น.

บุรุษนี้ "ที่รัก"

ฟา

    ลมหนาวพัดผ่าน
เท้าสะท้านไหว
เปลือยเปล่าเกินไป
ซีดไร้แรงยืน

     ลงนั่งม้าไม้
ใต้ร่มใบดื่น
แรงลมพัดคลืน
ลิ่วลื่นร่วงโรย

     หล่นลงตรงหน้า
พาใจระโหย
สิ้นปีใบโปรย
โรยตามเวลา

     แล้วตัวเธอนี่
คนดี ใจจ๋า
เปลี่ยนตามเวลา
หรือว่ามั่นคง

     หว่างเสียงลมหวือ
คือความประสงค์
สื่อออกมาตรง
ส่งพฤติกรรม

    สองขาสูงยาว
ย่อเข่ามองขำ
สองมือกอบกำ
สองเท้าแนบทรวง

     อบอุ่นซึ้งซาบ
มิตรภาพใหญ่หลวง
สิ่งใดทั้งปวง
ล่วงพ้นกลใจ

     สายตาประสาน
ส่งแววหวานไหว
คำตอบของใจ
ส่งไล่ขึ้นมา

      ขอบคุณคนดี
ใจที่มีค่า
รักซึ่งมอบมา
เติมปรารถนาแห่งใจ				
21 ธันวาคม 2551 00:18 น.

ราตรีสีเหลืองน้ำเงิน

ฟา

     รอยยิ้มหน้างาน   สานสัมพันธ์ใส
ด้วยจิตพร้อมใจ จัดไว้เพื่อเรา
ต้อนรับเซ็งแซ่ เสียงแหย่แก้เหงา
ชุมชนคนเก่า วันเสาร์ค่ำคืน

    หน้างานยืนเม้าท์ สองเราชื่นมื่น
คอยงานกลางคืน ตื่นตาตื่นใจ
รอเพื่อนกลุ่มเก่า กลัวเหงาเผลอไผล
เป๋อเหรอเออไป เหมือนในวันวาน
.......
     สิบนิ้วน้อมนบ จบที่หว่างคิ้ว
ก่อนเดินตัวปลิว แยกจากอาจารย์
เสียงดนตรีอึ้ง น้ำผึ้งแว่วหวาน
ลงนั่งไม่นาน เยื้องผ่านสู่ฟลอร์

     จังหวะเริ่มต้น คนแน่นจริงหนอ
นับเท้าก้าวคลอ ไปตามคลื่นเพลง
บีกินหนึ่งสอง ยังไม่คล่องเป๋ง
สามสี่เปลี่ยนเพลงความเก่งจึงมา

     บีกิน ชะชะช่า รุมบ้าปิดท้าย
โอ้ยเหนื่อยแทบตายไม่ไหวแล้วเรา
หยาดเหงื่อเปื้อนยิ้ม เอมอิ่มคลายเหงา
รื่นเริงผองเราเลือดน้ำเงิน-ทอง				
18 ธันวาคม 2551 22:57 น.

อารมณ์รัก

ฟา

     แม้ไม่ได้เป็นที่หนึ่งเธอซึ้งค่า
อาจอยู่ไกลเกินสายตาจะแลถึง
ไม่มีน้อยในเสี้ยวคิดคำนึง
ความหวังหนึ่งยังคงมีอยู่ภายใน

     ณ วันที่เวลานี้ไม่มีฉัน
ไม่แบ่งปันทอดไมตรีที่ดีให้
มองผ่านแล้วก็เลยผ่านพ้นไป
จะติดตาตรึงใจอย่าใคร่มี

     หากพรุ่งนี้เช้าเย็นได้เห็นหน้า
ยังคงไม่คุ้นตาหน้าคนนี้
แต่สัมผัสส่งผ่านรู้สึกดี
จากคนนี้คอยถึงเธอสักวัน

     ด้วยใจนี้ใจหนึ่งลึกซึ้งเกิด
สุขบรรเจิดยามเห็นให้ไหวหวั่น
เพียงได้พบเดินผ่านสบตากัน
เป็นอย่างนี้ในทุกวันฉันอิ่มใจ				
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
Lovers  0 คน เลิฟฟา
Lovings  ฟา เลิฟ 0 คน
  ฟา
ไม่มีข้อความส่งถึงฟา