20 มีนาคม 2548 13:50 น.

เลียบชม ลมเอื่อย

ภาวิดา


เอื่อยเอื่อยลมห่มฟ้าพาพัด                 ลมจรเจ้าระบัดมาจากไหน
เรื่อยเรื่อยโรยร่อนร้อนร้อนใจ            กิ่งใบบ่มพื้นระรื่นปลิว

รำไรแสงอ่อนอ่อนซ่อนใบเหลือง        โลมไล้เรืองเรืองเป็นริ้วริ้ว
ลำต้นตั้งแนวเป็นแถวทิว                   ลมกิ่วลอดไล้ลงบนลาน

ล่วงผ่านลีลาระย้าระยับ                   ลมเยื้องย่างขยับย้ายสถาน
ลิ่วลิ่วพลิ้วพัดร่มสราญ                    โลมลมพัดผ่านพ้นพื้นไป

ร่างหนึ่งล่วงล้ำโรยโรยล้า                ร้อนแสงแดดจ้ารอนรอนไหล
โลมล้ำสายลมใต้ร่มไพร                  ลืมแล้วล้างใจใต้ร่มเย็น

ไล้เลียบข้างหูให้หันหา                   เรียงเรียงผ่านสายตาให้ห่อนเห็น
โลดแล่นข้างกายาให้รู้เย็น               โลมลงลู่เล่นเร้าอารมณ์

ลมกร่างโกรธกริ้วปลิววะว่อน          มวลลมไอร้อนเข้าประสม
หมุนพัดรอบข้างพร่างพื้นพรม        โหมคลื่นคืนคมความขมคาม

ปะทะกิ่งก่ายระวิงวิ่งไปทั่ว            กระทบเทียบกายตัวให้วับหวาม
ถึงสิ่งสรรพสับสนในความงาม       ยังถาโถมโหมห่ามในความจริง

ครืนครืนผ่านพื้นพสุธา                  ครวญคร่ำค้ำฟ้าทั่วทุกสิ่ง
ลมไล้ใบร่วงให้ช่วงชิง                   ลมทิ้งใบหน้าให้อาลัย

ลมรื้อลมรัดลมพัดผ่อน                  ลมไล้ลมอ่อนอ่อนลมร้อนไหล
ลมเอื่อยเอื่อยลมเลื้อยล้างใจ            ลมกล้ำลมไกลผ่านไอดิน

ลาแล้วลมเอ๋ยชมเชยเจ้า                 หยิกหลอกหยอกเย้าอารมณ์ศิลป์
ระรื่นระรัวให้ยั่วยิน                      ระลอกโรยรินล้างสิ้นคม
				
6 มีนาคม 2548 08:59 น.

กาพย์ขับไม้ : ปลุกฟื้นคืนคม

ภาวิดา


ลีลาสุดเลิศล้ำ                คำครู
เพียงพิศก็ล่วงรู้            ท่วงถ้า
ลีลาเด่นท่านภู่               กำหนด
สัมผัสเกิดล่วงหน้า        จิตรู้จับคำ

ลีลาสุดเลิศ                แพรวพริ้งพริงเพริด
เตลิดอารมณ์             เพียงพิศท่วงท่า
รู้ทางข้างหน้า             สนุกสุขสม
ควรพิศชิดชม           ท่านภู่ขีดคม
ดีเด่นเป็นครู

จดจำโดยไม่รู้               ตัวกาย
จัดวรรควางตัวตาย       ตัดเว้น
จับให้อยู่เรียงราย         โรยกลีบ
คู่สระมิห่างเว้น             หว่างข้างเคียงเคย

จำจดจดจำ                   ลำน้ำลำนำ
คำพรั่งคำพรู                จัดวรรควางตาย
เรียงเรียงรายราย        แลเลิศแลหรู
โรยสระเป็นคู่               หว่างข้างเคียงคู
พิศดูสวยงาม

จำเลยจำรู้ชอบ              ชมนา
ไพจิตรยามอักษรา        ร่างเร้น
สัมผัสข่มกายา               ย้อยหยาด
กลายหลักเพียงการเน้น แต่งแต้มต่อเติม

จำเลยรู้ชอบ                 จำจดรู้รอบ
ใจชอบชมตาม              อักษรร่างเร้น
สัมผัสสวยเด่น              ข่มเค้นพยายาม
คมค้ำคมความ              ดูไม่เกรงขาม
เพียงงามต่อเติม

ความเดิมความนั้นเล่า    รอเรียง
ขาดคู่คำความเคียง          เคลื่อนย้าย
คิดคำคู่ออกเสียง             สมสิทธิ์ ศักดิ์ฤๅ
คมความท่วงทีท้าย          ถ่ายถ้อยถอยความ

ความนั้นความนี้            รอเรียงถ้อยที
เนื้อความเนื้อเดิม          ขาดคู่คำขาด
เคลื่อนข่ายย้ายบาท        สัมผัสส่งเสริม
ความคู่คำเคลิ้ม               ดำริริเริ่ม
เผดิมถ้อยคำ

ยามอ่านองค์เอ่ยเอื้อน    อำนวย
เสียงโสตแสนสระสวย    สิ่งสร้าง
ภาษาคู่คำรวย                เรียงหล่น
แปรเปลี่ยนกลบทบ้าง    บ่เพี้ยนเพียรพยาม

ยามอ่านเอื้อนเอ่ย         เคียงคิดคุ้นเคย
คุ้นการกระทำ               เมื่อเริ่มลิขิต
จิตใจนิมิต                     นิเวศน์ลำนำ
กลบทเดิมซ้ำ                 เปลี่ยนปางร่ายรำ
บ่เพี้ยนพยาม

แอร่มอร่ามเรื้อง             เรืองรัตน์
ลิขิตตามความถนัด         หน่อเนื้อ
ดาลโดดเด่นกำดัด          โดยดุษ
อิทธิพลย่างหยุดเยื้อ        อยู่ยั้งอย่างความ

อร่ามแอร่ม                    แม่ชื่นพ่อแช่ม
ถนัดจิตตาม                   ใจนั้นกำหนด
ขึ้นบาทขึ้นบท                 คลายขดข้อความ
ระบือลือนาม                   ระบบรบราม
อยู่ความคำนึง
                     
				
21 กุมภาพันธ์ 2548 14:34 น.

ฉบัง๑๖ เดือนจันทร์ตะวันดาว

ภาวิดา

ฉบัง 16

เย็นย่ำมืดค่ำลงแล้ว              บอกลาพี่แก้ว                พี่เกื้อกูลหนุนแสงส่อง
ประกายลายฉายแผ่นทอง     นาบเนื้อนวลน้อง           อุ่นนี้อุ่นใดเสมอเหมือน

อุ่นอาบวาบหวามยามเยือน    อกนี้สะเทือน                สะท้านสุดทานสุดทน
สุดฟ้าสุดตาครายล                คล้อยเคลื่อนเลื่อนหล่น หลุดฟ้าหลุดหล้าลาลับ

ถึงคราน้องนาประทับ            แววแวววับวับ                 ประดับประดาคืนนี้
ประดิษฐ์ทิวาราตรี                จำรัสรัศมี                       แจ่มแจ้งจันทร์เจิดเพริดพริ้ง
 
พี่นางงามขำเสียจริง             นบแนบแอบอิง               น้องชมโฉมฉายรายล้อม
นวลแสงแพงพี่พยอม           พำนักพักพร้อม                พาพื้นพสุธาพาฝัน

นุ่งน้องรายเรียงเคียงกัน       บรรเจิดเฉิดฉัน                บังเกิดเพริดจินตนาการ
เรียบรูปรอยจุดดุจดาล         เรียงหมากลากผ่าน          กำเนิดสิบสองราศี

สรรพสัตว์จัดประจำปี           เวียนว่ายฟ้านี้                   เวียนวกตกฟากฝากฟ้า
เวียนวนเกลื่อนกล่นทิวา      ระยิบระยับตา                   ประดับฟ้ายามค่ำคืน

พี่แก้วแผดแสงแรงกลืน       ผ่องแผ้วแผ่วพื้น              วนเวียนเปลี่ยนที่ประทับ
พี่นางลงฟ้าลาลับ                 นุ่งน้องรองรับ                  รอค่ำคืนนี้อีกครา
				
15 กุมภาพันธ์ 2548 00:27 น.

ทั่วน้ำเป็นพยาน

ภาวิดา

โคลง ๒


ตะวันอยู่คู่ฟ้า          ฟากฝั่งสะท้านท้า
สะท้อนนที

ปรี่ปราดสาดส่องลี้    ลอยล่องแผ่นทองนี้
คู่น้ำทะเล

โอ้ละเห่ค่ำแย้ม        เลื่อมแผ่นเงินแฉล้ม
เรียบล้อดวงเดือน

เกลื่อนกล่นดาเรศล้อม  ระยิบแย้มพรายน้อม
ส่องให้นภา

นาวาดังยุดยื้อ          ยังรักแลสัตย์สื้อ
แก่ทั้งสองดวง

ปวงมัจฉาว่ายพร้อม    พรายพบพาโอบอ้อม
ทั่วน้ำเป็นพยาน
				
7 กุมภาพันธ์ 2548 18:37 น.

วันที่ 6 กุมภา

ภาวิดา

กลอนหัวเดียว 

อันว่าประชาธิปไตยที่สร้างสรรค์	วันนี้ก็ถึงวันที่ 6 กุมภา
พวกสื่อมวลชนคนรุมรายล้อม	เดินวนเดิมอ้อมสัมภาษณ์ไปมา
ตัวแทนพรรคการเมืองของแต่ละพรรค	เรียงรายทายทักพี่น้องชาวประชา
ออกมาประกาศตัวนอบน้อมพร้อมช่วย	พร้อมแนบมาด้วยนโยบายต่างต่างนานา
จะอาสาบ้านเมืองรับเรื่องรับใช้ 	เพื่อให้คนไทยมีกิน4ปีข้างหน้า

นโยบายพร่ำบอกออกดอกออกผล 	ทำให้ผู้คนที่ทำไร่ไถนา
ไม่ถูกพ่อค้าหน้าเลือดกดเกรด	ให้ผลิตภัณฑ์เกษตรสิ้นไร้ราคา
เด็กน้อยเด็กซนเยาวชนรุ่นใหม่  	ให้เป็นเด็กไทยที่มีการศึกษา
วัยรุ่นวัยเรียนต้องห่างต้องไกล	ไม่มั่วสุมเสพย์ติดพิษสุรา
ยามเจ็บยามไข้ได้เป็นคนป่วย	รัฐบาลช่วยแบ่งเบาค่ายา
อุทกภัยภาคใต้ขมขื่น		ให้ช่วยฟื้นฟูเร่งรัดพัฒนา
อีกทั้งปัญหาความไม่สงบ		อย่าได้ประสบอีกครั้งอีกครา

ประชาชนชาวไทยคอยเฝ้าคอยหวัง 	ว่ากลุ่มพลังที่พวกเขาเลือกกา 
เป็นการให้โอกาสคนดีมีไฟ		ให้เขาเข้าไปออกเสียงในสภา
ไปสร้างชาติไทยให้เข้มแข็งแกร่ง	ดังคำกล่าวบนแผงป้ายโฆษณา
ตั้งแต่นี้ต่อไปขอเชื่อใจอีกหน	จะถือค่าของคนคือผลงานที่ออกมา
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภาวิดา