19 กรกฎาคม 2551 22:20 น.

_/|_ * เส้นขนานของสองเรานั้น แท้จริงบรรจบกันอยู่เสมอ ! *

รัมณีย์


(กลอนบทนี้ ถ้าอ่านทันทีอาจจะรู้สึกฝืน ๆ
โดยเฉพาะบทแรก  ลองปรับใจ
ลืมเสียงสูงต่ำในกลอนที่เคยอ่าน
แล้วฟังเสียงของคำแทน
คิดว่ากำลังอ่านฉันท์ หรือกาพย์ยานี  ก็ได้
แล้วจะพบว่าอ่านง่ายขึ้น และอาจจะ
พบกับความไพเราะเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่) 
----------------------
 
แม้เราจะมีความคิดที่แตกต่าง
เป็นขอบคั่นกั้นกลางเราสองคน
แม้ทุกอย่างจะอำพรางและสับสน 
เชื่อเถิดดวงกมลเชื่อใจฉัน
 
บนหนทางที่ชื่อว่าเส้นขนาน 
ที่ไม่อาจพบพานได้สักวัน
แต่ฉันขอเป็นคนหนึ่งที่เชื่อมั่น 
ว่าเราอาจพบกันได้เสมอ

เพราะว่าเส้นขนานบนฝั่งฉัน 
แท้คือเส้นเดียวกันกับฝั่งเธอ
ตลอดเวลาต่างบรรจบและพบเจอ 
ฟังดูอาจดังเพ้อเกินเหตุผล

แท้ทุกสิ่งในโลกล้วนหมุนเวียน
เดี๋ยวแปรเปลี่ยนแปรผันกันวกวน
ดำเนินตามจักรวัฎฎ์ทุกแห่งหน
เราสองคนก็มิพ้นจากวิถี

ความคิดเราต่างกันเพียงครึ่งรอบ
อยู่ใต้กรอบโลกทัศน์ที่ตนมี
เพียงเธอก้าวเดินอีกหน่อยนะคนดี
จะพบฉันตรงนี้ดังที่เผย

วงริบบิ้นบิดปลายไวัครึ่งรอบ
คือคำตอบเส้นขนานที่ขานเปรย
กลับมารักกันดังเก่าอย่าเมินเฉย
รักดังเคยเป็นมา นะจอมขวัญ
----------------------

ดูรูปอาจจะไม่ค่อยชัดเจน 
ลองทำเองดีกว่าครับ
หาริบบิ้นหรือตัดกระดาษมาสักเส้นหนึ่ง
แล้วบิดปลายครึ่งรอบ เอาปลายมาต่อกัน
เราจะได้วงริบบินรูปคล้าย ๆ หัวใจ
(จะบิด n+1/2 รอบก็ได้ โดย n=0,1,2,....)

คราวนี้ลองลากเส้นตามขอบด้านหนึ่ง
ของริบบิ้น ไปเรื่อย ๆ  
จะพบกว่าจุดที่เราลากจะมาอยู่อีกด้านหนึ่ง
ที่ขนานกันกับแนวเดิมที่เราลากก่อนหน้า..
 ลองดูนะครับ
----------------------

ขอให้กลอนบทนี้เป็นกำลังใจให้ทุกคน
ที่พบกับความรัก และความแตกต่าง
ความแตกแยก แตกร้าว
ด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม ให้เป็นดังเส้นขนาน 
บางทีเส้นขนานก็อาจจะมีบรรจบกันก็ได้ 
หรือถ้าเรามองดี ๆ ก็จะพบมุมมองดี ๆ 
ที่ทำให้เรายิ้มได้

เราจะมองวงริบบิ้น 
เป็นทางเดินชีวิตของเรา
วันนี้เรามองคนอื่นที่อยู่อีกข้างหนึ่ง 
และคิดเห็นต่อเขาอย่างหนึ่ง
แต่ในวันหนึ่ง เราก็ไปยืนอยู่ตรงนั้น
แล้วมีคนอื่นมามองเราแล้วปฏิบัติ
เช่นเดียวกับที่เราเคยปฏิบัติต่อผู้อื่น
ในช่วงที่เรายังอ่อนประสบการณ์

อีกแง่มุมหนึ่งอาจจะมอง
ในรูปของกฎแห่งกรรม 
ที่เราก่อกรรม สุดท้ายก็จะได้รับวิบาก 
วนเวียนเช่นนี้ 
ประเดี๋ยวได้เสวยสุข (อยู่ขอบด้านหนึ่ง) 
ประเดี๋ยวได้เสวยทุกข์ (อยู่ขอบอีกด้านหนึ่ง)
จนกว่าจะมีปัญญาพัฒนาตน
จนพ้นกฏแห่งกรรมดังกล่าวนี้ได้

ขอมอบรูปวงริบบิ้นรูปหัวใจ 
แทนความรัก ที่มอบให้แก่ผู้อ่านทุกท่าน

( ตอบคำถามบางท่านที่ถามมา
ว่าเหตุใดเสียงจัตวาอยู่วรรคสี่?
....เพราะอยากให้เสียงความรักยาวทวี
ดังวจีนี้พร่ำ กล่าวคำเฉลย... )

				
17 กรกฎาคม 2551 01:52 น.

_/|_ * รักเราอบอุ่น ทำบุญกันนะ *

รัมณีย์

พรุ่งนี้วันดี       วันอาสาฬหะ
รีบนอนน้องพี่   ฝันดีนะจ๊ะ
................................
ตื่นเช้าตีสี่          ฟ้ามืดอยู่น่ะ
หุงข้าวต้มแตง   แกงจืดมะระ
น้องเก็บบัวงาม   ที่ตามขอบสระ
จัดไว้งามหรู      เพื่อบูชาพระ
กุหลาบ มะลิ       จำปี อีกนะ
โอ้ น้องคนดี       สวยดีจริงจ้ะ
ดอกเจ้าจัดแซม   ตูมแย้มบานคละ
ขอบใจคนดี       ขอหอมทีนะจ๊ะ
................................
ฟ้าเริ่มรางราง      สว่างแล้วล่ะ
เราไปแต่งตัว     เดินทางกันนะ
ใส่ชุดอย่างไร    ผ้าไหมได้ป่ะ
พี่ว่าชุดนี้            สวยดีนะจ๊ะ
ชุดนี้ดีไหม        น้องเตรียมให้ค่ะ
เออดูเข้าที         พี่หล่อขึ้นมะ
................................
เดินเคียงคู่ไป      หน้าใสสวยสะ
ถึงยังศาลา          พากันไหว้พระ
ถวายภัตตาหาร   ทั้งบริวารด้วยล่ะ
รับศีลรับรับพร   พระทั้งคณะ
................................
พระสงฆ์เทศน์สอน   วันอาสาฬหะ
เป็นวันสำคัญ           ครบไตรรัตนะ
การดับความทุกข์     ต้องพอดีจ้ะ
เดินตามสายกลาง     กิเลสวางละ
.................................
กรวดน้ำร่วมกัน    บุญจงพบปะ
ถึงญาติทั้งผอง     ของสองเรานะ
.................................
พี่ขอสัญญา          ต่อหน้าองค์พระ
ขอรักคนดี            ชั่วชีวีเลยล่ะ
น้องก็ขอรักพี่        เช่นนี้ด้วยค่ะ
เราสองจะรักกัน    ชั่วชีวันนะจ๊ะ				
12 กรกฎาคม 2551 23:32 น.

_/|_เพลงครวญ ถึงนวลนภา

รัมณีย์


ฟังเพลงที่
http://ramaniyo.webs.com/nam_tao2.mp3


เสียงเพลงบทนี้  น้องพี่เอ๋ย
เปรียบใจพี่เผย เอ่ยรักทรามชื่น ท่ามคืนแรมจันทร์
สีซอคลอครวญ  ถึงนวลลาวัณย์
ฝากเพลง  ผ่านดวงดาวร้อยพัน
กี่ราตรีทิวาลาผ่าน แม้นเนิ่นนานเป็นกัลป์ 
ใจฉันยังรักมั่น..นวลใจ

เสียงกลอนกล่อมดาว ราวสวรรค์
ปลอบนวลเนตรขวัญ อย่าทุกข์ทรวงเศร้า เหงาครวญอาลัย
แม้ไกลกายา หาใจจางไกล
ชื่นทรวง  เจ้าคือดวงฤทัย
หลับตาลงน้องจงเห็นพี่ เรียงร้อยวจีความนัย
กระซิบคำรักใคร่..นวลสุดา

เสียงใจสื่อใจ นวลน้อง
ส่งใจพี่คล้อง ผูกสองใจมั่น ทุกวันเวลา
ฟ้าเป็นพยาน รักเพียงกานดา
ชวดชม พี่คงจมน้ำตา
โอ้ความดีสองเราทำร่วม จงหลอมรวมวิญญาณ์
ครองรักจนชาติหน้า..นวลลออ				
27 มิถุนายน 2551 22:41 น.

บันไดขึ้นคาน..สะพานเชื่อมใจ

รัมณีย์

ปีนบันไดไต่ขึ้น......บนคาน
อยู่ข้างล่างยืนนาน...เมื่อยเท้า
ข้างบนอาจเบิกบาน...ยิ่งกว่า เพื่อนยา
ว่าแล้วเพื่อนอย่าช้า..เร่งขึ้น คานหนอ
 

อายุลุล่วงวาร
ก็เนิ่นนานมามากพอ
ฝืนข่มระทมท้อ
รอพธูคู่เคียงขวัญ
 

รอไปให้เหนื่อยเปล่า
มีแต่เหงาเศร้าชีวัน
ปีนไต่บันไดพลัน
ผันสู่คานสราญรมย์
 

อยู่คานสบายดี
ไกลวิถีที่ทุกข์ตรม
ห่างเขตเหตุรักขม
พ้นระทมทุกข์ดวงมาน
 

บันไดที่ไต่มา
ยกขึ้นฟ้าวางเคียงขนาน
หากจะลงคงอีกนาน
ขอมาใช้ตามใจฉัน
 

บันไดพาดสู่คาน
สาวเพื่อนบ้านเยี่ยมเยียนกัน
ร่วมคุยร่วมสังสรรค์
ร่วมแบ่งปันความสดใส
 

ยามสุขยินดีสุข
ยามมีทุกข์ร่วมต้านภัย
ยามเหงามีเราใกล้
ซึ้งน้ำใจมิตรไมตรี
 

บันไดไต่ถึงดาว
ร้อยสร้อยพราวฝากโฉมศรี
เส้นนี้สร้อยวารี
เพชรมณีน้ำค้างใส
 

บันไดไต่ถึงจันทร์
พาจอมขวัญท่องเที่ยวไป
จันทร์เจ้าจงช่วยให้
ลูกได้สมภิรมย์ฝัน
 

ไม่ขอข้าวหรือแกง
แหวนทองแดงสักสิ่งอัน
ขอเพียงได้มีวัน
ดื่มน้ำผึ้งใต้นวลแสง
 

บันไดไต่รุ้งงาม
เดินกันตามเส้นแสดแดง
เอาสีมาวาดแต่ง
เติมรุ้งฟ้าอีกห้าสี
 

บันไดไต่วิมาน
พานงคราญข้ามนที
สีทันดรอยู่ตรงนี้
เจ้าคนดีอย่าหวันไหว
 

เสียงเพลงลาวม่านแก้ว
คล้ายดังแว่วอยู่ไกลไกล
ไม่ว่าชาติภพไหน
ใจคงรักสมัครสมาน
 

บันไดไต่ไปมา
เชื่อมวิญญาณ์และดวงมาน
จะรักพักบนคาน
ต่อหรือไม่ตามใจสรร
 

ความรักจะถักทอ
อย่างเพียงพอทุกคืนวัน
ใจเธอและใจฉัน
หลอมรวมกันงามสดใส
 

บันไดไต่ขึ้นคาน
คือสะพานเชื่อมดวงใจ
บันดาลความรักได้
โดยบังเอิญเกินคิดฝัน
 

ปีนบันไดไต่ก้าว.....ลงคาน
ใจสองสื่อใจสาน....สอดคล้อง
ตาสองสบตาหวาน..ตาตอบตรึงตรา
จูงมือก้าวช้าช้า.....ชื่นรักเราสอง				
24 มิถุนายน 2551 23:12 น.

อินทนิล

รัมณีย์

อินทนิลกลิ่นอ่อนเย็น 
ช่อดอกเด่นสีม่วงหวาน 
ต้นโตสูงใหญ่ปาน 
จะเย้ยฟ้าท้าองค์อินทร์ 

อินทนิลกลิ่นอ่อนต้อง   นาสา 
หอมชื่นรื่นอุรา           เช่นนี้ 
หอมกลิ่นคือศีลา         หอมอยู่ ภายใน 
เผยกลิ่นให้รู้ได้          แต่ผู้ รู้ถนอม 

งามพร้อมสะพรั่งช่อ    ชวนชม 
ดอกม่วงเกี่ยวเกลียวกลม   กอดล้อม 
เตือนจิตให้นิยม         รัก สามัคคี 
ตายเกิดร่วมภพนี้       อย่าร้างสมัครสมาน 

ต้นใหญ่สูงบอกสูง       มโนคุณ 
เติมต่อก่อการบุญ       ทุกด้าน 
มีความเกื้อการุณย์     แด่ทุก หมู่ชน 
สงบด้วยขันติสมาธิผล เช่นนี้ นิรันดร์สมัย 

อินทนิลกลิ่นอ่อนเย็น 
ดอกม่วงเด่นสีสวยใส 
ได้เห็นเป็นสุขใจ 
ใคร่ชวนเพื่อนมาเยือนยล				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรัมณีย์
Lovings  รัมณีย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรัมณีย์
Lovings  รัมณีย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรัมณีย์
Lovings  รัมณีย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงรัมณีย์