5 กุมภาพันธ์ 2553 15:43 น.

"ล้ำเส้น"

ลูกหว้า

"ล้ำเส้นไม่เป็นไร ถ้ารู้จักการถอยออกมา 
ความสนิทกัน นำเรื่องดีๆมาสู่ชีวิตเราหลายเรื่อง 
ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์แบบใด เมื่อสนิทก็เกิดความไว้ใจความเชื่อใจ 
และความสบายใจที่จะไปไหนมาไหนด้วยกันและแชร์หลายๆอย่างร่วมกัน 

แต่ก็เป็นเพราะ ความสนิทเดียวกันนี้แหละ 
ที่เหรียญอีกด้านหนึ่งคือ...สามารถทำร้ายกันได้ง่ายขึ้น... 
เหมือนลิ้นกับฟัน เหมือนช้อนกับส้อม 
ที่พอใกล้ก็ง่ายที่จะกระทบ 

เปรียบเช่นวงกลมสองวง 
เป็นไปได้เสมอที่จะเคลื่อนมาล้ำเส้นกันเอง 
ด้วยบางทีต่างคนก็ต่างลืมว่าในความสนิทนั้น 
ไม่ได้หมายความว่าเราควรก้าวก่ายทุกเรื่องในชีวิต 

ถามไถ่ ต่างจาก การสอบปากคำ 
โทรหาต่างจากโทรจิกโทรตาม 
และเมื่อเหตุการณ์ ล้ำเส้นเกิดขึ้น 

ก็จะเกิดความอึดอัด ความรู้สึกที่ไม่เหมือนเดิม ความไม่เข้าใจ 
และบางทีก็ก่อให้เกิดรอยร้าวในความสัมพันธ์นั้นๆ 

แต่ถ้าถามว่า...นี่คือเรื่องร้ายแรงที่สุดไหม? 
คำตอบคือไม่ 
ซ้ำยังถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ช้อนกับส้อมย่อมเผลอกระทบกระทั่งกันได้ 
แม้เราจะระมัดระวังเพียงใดก็ตาม 

ประเด็นที่สำคัญคือทันทีที่ฝ่ายหนึ่งล้ำเส้น 
ต้องรู้จักการขยับก้าวถอยออกมา รู้จักที่จะขอโทษและพร้อมจะคืนพื้นที่ให้ 
ส่วนตัวอย่างเคารพ ไม่ใช่ดึงดันที่จะล้ำเส้นยิ่งขึ้นไปอีก 
ด้วยไม่ว่าจะเป็นความรักแบบใด ความรักที่แท้จริงย่อมไม่ใช่การยึดครองโลกทั้งใบของอีกคน				
3 กุมภาพันธ์ 2553 17:19 น.

โรคคิดถึง

ลูกหว้า

โรคนี้จะเกิดกับคนที่อ่อนแอทางจิตใจขั้นรุนแรง
อาการเบื้องต้นของโรคนี้เริ่มจากเชื้อพาหะจะเข้ามาใกล้
สร้างความสนิทสนมกันตามประสาคนรู้จัก
แต่จะส่งผลถึงคลื่นไฟฟ้าในสมอง
ซื่งจะแปรเปลี่ยนคลื่นความถึ่จากความรู้สึกธรรมดาฉันท์เพื่อน พี่ น้อง
ให้เป็นตามที่ใจตนเองต้องการ
ต่อจากนั้น เมื่อเชื้อโรคได้เข้าสู้ร่างกายแล้ว
จะกระจายตัวอย่างรวดเร็วด้วยระยะเวลาอันสั้น
ซึ่งจะแปรตามความสัมพันธ์ที่มีมากหรือน้อยระหว่างผู้รับเชื้อกับผู้แพร่เชื้อ
ยิ่งมีมาก เชื้อก็จะยิ่งแพร่กระจายได้ไกล
โดยที่สภาพอากาศมีส่วนช่วยกระตุ้นให้เชื้อโรคแพร่กระจายได้ด้วย
ฤดูฝน มีคนโทรมาห่วงว่ากลัวจะเป็นหวัด : เชื้อโรคแพร่ไวขี้น 30%
ฤดูหนาว มีคนสัมผัสมือแก้หนาว : เชื้อโรคแพร่ไวขี้น 70%
ฤดูร้อน มีคนชวนไปเที่ยวทะเล : เชื้อโรคแพร่ไวขึ้น 25%
อาการของโรคนี้ โดยมากแล้วจะเริ่มจากการคิดเข้าข้างตัวเอง
จากนั้นก็จะเริ่มมีอาการอ่อนแอทางจิตใจมากขี้นเรื่อยๆ
จะส่งผลกระทบต่อไปถึงชีวิตประจำวัน เช่น ตื่นสายเพราะมัวคุย
ทางองค์การอนามัยโลก
จัดให้เป็นโรคที่อันตรายอีกโรคหนึ่ง
เพราะได้มีผลกระทบต่อทั้งตัวผู้ติดเชื้อเอง
ทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผลการวิจัยของสถาบันการแพทย์ชั้นนำ
ได้ข้อสรุปตรงกันว่า โรคแพ้ความใกล้ชิดนั้น
อาการจะรุนแรงมากหรือน้อยต่างกันขี้นอยู่กับตัวผู้รับเชื้อเอง
หากเกิดอาการอ่อนแอทางจิตใจยิ่งมีมากเท่าไหร่
อาการของโรคนี้ก็จะน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
ผลกระทบจากโรคนี้คือ
เมื่อเชื้อโรคได้แพร่เข้าสู่หัวใจโดยทางเส้นเลือดนั้น
จะทำให้เกิดอาการท้อแท้ หมดหวัง สิ้นหวัง โทษตัวเอง น้อยใจชีวิต
ปัจจุบันนี้ ทางการแพทย์ยังไม่สามารถที่จะหาวัคซีนป้องกันได้
เพราะเนื่องจากเชื้อนี้เป็นไวรัส ไม่สามารถฆ่าให้ตายได้
ทำให้โรคนี้เมื่อเกิดขี้นแล้ว จะเป็นๆ หายๆ
ไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นอีกเมื่อไหร่ และจะหายเมื่อไหร่
ขี้นอยู่กับผลกระทบที่เกิดขี้นว่ารุนแรงมากน้อยเพียงใด
แพทย์หลายท่านระบุว่า เวลา
จะเป็นยารักษาโรคนี้ได้ดีที่สุด
____________________________________
ไม่มีเอกสารอ้างอิง แต่ ที่กล่าวมา เป็น จริง เกือบทั้งหมดเลย				
3 กุมภาพันธ์ 2553 17:04 น.

ชวนชาวบ้านกลอนต่อกลอนในวันแห่งความรัก

ลูกหว้า

หากความรักคือความทุกข์
แล้วความสุขคืออะไร
หากความรักคือความเสียใจ
แล้วทำไมใยใจยังต้องการ				
29 มกราคม 2553 18:10 น.

จุดเล็กเล็ก

ลูกหว้า

จุดเล็กเล็กของชีวิตคือปัญหา
เป็นเศษผงที่ผ่านตาก็เท่านั้น
มองให้เป็นจุดเล็กเล็กก็แล้วกัน
ในชีวิตเรานั้นยังอีกไกล				
29 มกราคม 2553 16:46 น.

เ ปิ ด ห น้ า ต่ า ง(หั ว ใ จ)

ลูกหว้า

ไม่ว่าสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างนั้น
จะงดงามมีความสำคัญมากแค่ไหน
แต่ถ้าเรา"ปิดหน้าต่าง"อยู่ร่ำไป
งดงามเพียงใด ก็คล้ายไม่มี

และไม่ว่าสิ่งที่อยู่นอกหัวใจเรานั้น
จะมีความหมายร้อยพันต่อชีวิตนี้
แต่ถ้าเรา"ปิดหัวใจ"ไม่เปิดซะที
คนดี-ดีก็อาจผ่านพ้นเรา

ก่อนจะรอโอกาสจากสิ่งอื่น
เราควรหยิบยื่นโอกาสข้ามความเหงา
หยุดเสียใจกับสิ่งที่เคยแตกร้าว
ลบความคิดเศร้า-เศร้าที่คนบางคนทิ้งเราไป

ถ้าอยากเห็นความงดงามนอกหน้าต่าง
อยากให้ความรักอีกครั้งเบ่งบานขึ้นใหม่
อาจต้องเริ่มต้นที่จะ"เปิดใจ"
อย่างมีความหวังว่าจะพบใคร..ที่รักจริง				
ไม่มีข้อความส่งถึงลูกหว้า