11 พฤศจิกายน 2552 23:18 น.

เรื่องราวของฉัน... (๒)

วงศ์ตะวัน



เขียนกลอนเศร้า...จนใครเขาเข้าใจผิด
ว่าในชีวิตคงจะมีแต่เรื่องร้าย  ร้าย
จริง  จริงแล้ว ก็ไม่ได้ทุกข์โศกมากมาย
เพราะบทสรุปสุดท้าย...ก็เลือกที่จะรักตัวเอง

เจอเรื่องดี  ร้ายมามาก จนใจเข้มแข็ง
แต่ก็ไม่ชอบเสแสร้งหรือแสดงว่าเป็นคนเก่ง
ดูเหมือนจะอ่อนไหว...แต่หัวใจน่ะ...นักเลง
เรื่องอกหักไม่เคยกลัวเกรง...ด้วยความเคยชิน

บ่อยครั้งที่เสียใจ แต่น้ำตาก็ไม่ไหลออก
คงเป็นเพราะมันย้อนยอกอยู่ข้างในจนหมดสิ้น
โธ่เอ๋ย...ฉันก็เป็นเพียงมนุษย์เดินดิน
ต้องนอน...ต้องกิน...เหมือนคนอื่นทั่ว  ทั่วไป

บางครั้งที่ความรู้สึกมันทรยศ
ก็เลยนั่งนิ่งจับจดอยู่กับอารมณ์อ่อนไหว
พร่ำเพ้อพรรณนาอักษรออกมาเป็นภาษาไทย
เพราะชอบที่จะเขียนอะไร  อะไร...
.......มากกว่าการพูดจา

แท้ที่จริง...ก็เป็นคนสนุกสนาน
คำพูดไม่อ่อนหวาน  แต่กลับเข้าขั้น...ปากหมา
ชอบชีวิตไร้สาระ...เรื่อยเปื่อย..หัวเราะเฮฮา
หรืออาจแฝงจริตมายา...บ้าง...ก็บางที

สิ่งสำคัญที่ชีวิต...คิดว่า...คงขาดไม่ได้
นั่นคือเพื่อนที่รู้ใจคอยอยู่ใกล้  ใกล้ไม่หลบหนี
พร้อมนั่งรับฟังเรื่องราวทุกอย่างในชีวิตที่ฉันมี
และไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี...ร้อยเปอร์เซ็นต์

ฉันอยู่ได้ด้วยความเข้าใจในชีวิต
ถึงไม่อยากยึดติด...แต่ก็ไม่ชอบการล้อเล่น
ทุกอย่างที่เธอรู้...ที่ฉันอยู่...ที่ฉันเป็น
นั่นเป็นแค่การเปิดประเด็น...
ให้ใคร  ใครได้เห็น..กับบางช่วง..ของอารมณ์



				
10 พฤศจิกายน 2552 22:27 น.

เป็น...บทเรียน

วงศ์ตะวัน


     เป็นอักษร  กลอนกานท์  ผ่านข้อเขียน
ที่วนเวียน  วกวน  จนหวั่นไหว
ร้อยลำนำ  คำเพ้อ  ละเมอไป
ที่มีแรง  บันดาลใจ  จากความจำ

     เป็นเรื่องราว  ความรัก  ในห้วงลึก
จากกล่องเก็บ  ความรู้สึก  อันดื่มด่ำ
มาถ่ายทอด  ถอดถ้อย  ร้อยเรียงคำ
เพียงเพ้อพร่ำ  พรรณนา  ว่าใจครวญ

 

     เป็นความหลัง  ฝังใจ  ไม่เคยลบ
เมื่อประสบ  หม่นไหม้  จนไห้หวน
กลัวซ้ำรอย  แผลเดิม  เริ่มเรรวน
ใจคิดควร  ครวญใคร่  ใช่เรื่องดี

     เป็นความจริง  ของใจ  ในมุมอับ
ซ่อนความลับ  หลืบซอก  เร้นหลอกหนี
กล้ากล้ากลัว  กลัวกลัวกล้า  ตามราวี
ถามหัวใจ  ทุกที  ที่เงียบงัน



     เป็นคำย้ำ  ซ้ำซาก  จากก้นบึ้ง
อย่าถามถึง  หนทาง  สร้างความฝัน
หากวันนี้  ยังเวียนวน  จนจำนรรจ์
ชีวิตฉัน  คงเหี่ยวเฉา  และเศร้าทรวง

     เป็นคำวอน  กลอนกล่าว  คราวหมองหม่น
เพราะขาดคน  เคียงใกล้  ให้ใจห่วง
เดินโดดเดี่ยว  เดียวดาย  ไร้คู่ควง
เพราะคนลวง  คำเล่น  เป็นบทเรียน


				
9 พฤศจิกายน 2552 18:20 น.

ลบรอยร้าว ค(ร)าวค่ำคืน

วงศ์ตะวัน


...คือคืนค่ำ...รอคอย...อันหงอยเหงา

พระจันทร์เศร้า...สาดส่อง...อย่างหมองศรี

สายลมเอื่อย...ออดอ้อน...ค่อนคืนนี้

ทิ้งคนที่...เฝ้าคอย...แอบน้อยใจ


...อยู่หนใด...ใจเอย...อีกครึ่งหนึ่ง

แว่วคำซึ้ง...เว้าวอน...วันอ่อนไหว

หลงละเมอ...เพ้อผิด...คิดพลาดไป

เมื่อถูกทิ้ง...หัวใจ...จึงรู้ตัว



...คนโง่เง่า...เราหรือ...คือผู้ผิด

มิเคยคิด...แคลงใจ...ในคำชั่ว

เชื่อหมดใจ...จนระกำ...ชอกช้ำตัว

ติดอยู่ใน...ความเมามัว...แสนโสมม


...คือคืนวัน...ฉันทน...อย่งทุกข์หนัก

ลบรอยรัก...รายทาง...อย่างขื่นขม

ลืมอดีต...กรีดใจ...ให้ระบม

เลือนความเศร้า...เจ็บจม...ของหัวใจ



...เหลือเพียงครึ่ง...ชีวิต...หยุดคิดฝัน

แหงนมองจันทร์...ส่องสว่าง...อย่างหวั่นไหว

พอกันที...ความเจ็บ...เก็บคืนไป

ขอเริ่มต้น...เป็นคนใหม่...อีกสักครา


...จะอยู่อย่าง...หยิ่งรัก...ในศักดิ์ศรี

ไม่ต้องมี...หัวใจ...ไห้โหยหา

ตัดรากรัก...ฝังไว้...ไกลสุดตา

ถึงเวลา...ต้องเลิกเศร้า...เลิกเหงาใจ

				
8 พฤศจิกายน 2552 11:38 น.

เรื่องราวของฉัน...(๑)

วงศ์ตะวัน



มีเรื่องราวมากมายอยากจะบอก
แต่บางครั้งก็พูดไม่ออก...ซะอย่างนั้น
สิ่งที่ได้เห็นเลยกลายเป็นความเงียบงัน
ที่สื่อออกมาหากัน...ให้อึดอัดใจ


มีเรื่องราวมากมายอยากจะถาม
ที่เก็บจนเกิดเป็นความสงสัย
อยากรู้ความชัดเจน...คืออะไร
สิ่งที่อัดอั้นในใจ...มานานแสนนาน


มีเรื่องราวมากมายอยากให้เธอบอก
แม้จะป็นการลวงหลอกหรือแค่ลมผ่าน
ก็คงดีกว่าการอยู่ด้วยกันอย่างทรมาน
เพราะต่างฝ่ายที่ไม่รู้ความต้องการ...ของอีกคน


มีเรื่องราวมากมายในชีวิตฉัน
ที่บางครั้งนั้น...ก็ไม่รู้จุดเริ่มต้น
เพียงการก้าวเข้ามาของใครหนึ่งคน
นั่นแหละคือความสับสนของหัวใจ


มีเรื่องราวมากมายอยากให้เธอรับรู้
เธอจะยังรับฟังฉันอยู่...ช่วยบอกได้ไหม
อย่าคิดว่า...คงไม่สามารถจะช่วยอะไร
เอาแค่...นั่งอยู่เป็นเพื่อนใกล้-ใกล้
ไม่จำเป็นต้องปลอบใจ.......แค่นั้นก็พอ
				
6 พฤศจิกายน 2552 20:12 น.

แด่...คืนค่ำ...ที่ใจไหวอ่อน

วงศ์ตะวัน



...ใจสะท้อน  รอนร้าว  คราวคืนค่ำ
ความชอกช้ำ  เชือดเฉือน  ยากเลือนหาย
เมื่อผิดพลาด  เผลอพลั้ง  ยับยั้งกาย
ความรู้สึก  วุ่นวาย  ทำร้ายตัว

ไม่ได้ง่าย  ไม่ได้โง่  เพราะโตแล้ว
ยินเสียงแว่ว  เตือนตน  เพื่อพ้นชั่ว
เฝ้าครุ่นคิด  จิตเวียนวน  จนหวาดกลัว
เมื่อเมามัว  หลงไป  ในอารมณ์

ควรหรือไม่  ใจตาม  ถามหลอกหลอน
ถึงเรื่องราว  บางตอน  ซ่อนขื่นขม
หากห้วงแห่ง  ใจเรา  เฝ้าจ่อมจม
กับคืนค่ำ  ช้ำระบม  ของหัวใจ

เป็นเพราะใจ  ไหวอ่อน  กระนั้นหรือ
สิ่งควรถือ  ยึดครอง  ต้องหวั่นไหว
หลงละเมอ  เพ้อพร่ำ  คำของใคร
จนเกินกว่า  จะแก้ไข  และเยียวยา

คำคนลวง  หรือบ่วงกรรม  ทำไว้ก่อน
กลับยอกย้อน  หยิบยื่น  คืนมาหา
เล่นหลอกหลอน  ซ้อนซับ  จับวิญญาณ์
ให้ปวดปร่า  กลืนกล้ำ...ช้ำเกินทน



				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟวงศ์ตะวัน
Lovings  วงศ์ตะวัน เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวงศ์ตะวัน
Lovings  วงศ์ตะวัน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวงศ์ตะวัน
Lovings  วงศ์ตะวัน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวงศ์ตะวัน