23 พฤษภาคม 2552 15:27 น.

โฮ่ง โฮ่ง ใครก็ว่าผมหมาเพี้ยน ตอนที่ 2 อาหารมื้อพิเศษของผม

ศรรกรา

dog.jpg..... แกร๊ก  เสียงไขประตูดังขึ้น  ไอ้ทิชชูไม่พูดพร่ำทำเพลง  มันส่งเสียงเห่าตามสัญชาติญาณหมาบ้าอำนาจ  โฮ่งๆๆ....  ผั๊วะ!!!  เอ๋ง  สิ้นเสียงเห่าก็ตามด้วยเสียงโขลกกระโหลกชุดใหญ่  จิ๊กซอร์นายของมันนั่นเอง แกเห็นว่าเป็นข้า  แล้วจะเห่าทำซากอะไรนักว่ะ  มันวิ่งไปตั้งหลักอยู่มุมห้อง  แล้วส่งเสียงเห่าอีกครั้ง  เหมือนกับเถียง  ถ้าตูพูดได้จะฟ้องสมาคมพิทักษ์สัตว์คอยดู  มันคิดในใจ  พลันสายตาแลไปเห็นหมูปิ้งนอนอยู่บนโซฟา  และกำลังจ้องมันอยู่เช่นกัน  เยาะเย้ยตูเหรอ   เดี๋ยวตูก็งับจมเขี้ยวเลยเนี้ย  นั่นพาลอีก  นายทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ทำให้หมูปิ้งผงกหัวขึ้นเพราะโซฟาเด้งจากน้ำหนักตัวของเขา  ก่อนจะนอนต่อ เขาวางถุงอะไรบางอย่างลงบนโต๊ะรับแขก  ฟุด...ฟิด   กลิ่นที่อยู่ในถุง มันชวนให้น้ำลายไหล  สุนัขสองตัวเหลียวมองไปที่ถุงโดยไม่ได้นัดหมายแต่อย่างใด  ก่อนจะกรูเข้ามารวมตัวกันที่ถุงด้วยความสนใจ

	..... เอ้ย!! ใจเย็นๆพวก  ข้ายังไม่ได้กินเลย   เขาร้องห้าม  เมื่อเห็นว่าไอ้สองตัวทำท่าจะตะกายของกินที่อยู่ในถุง   ไก่ทอดแสนอร่อย   ไอ้ทิชชูรู้ได้เลยว่าของในถุงก็คือไก่ทอดจากร้านชื่อดัง  มันพรำในใจ  และกระดี๊กระด๊าดีใจออกนอกหน้า   ก่อนจะเห่าเหมือนจะบอกกับนายว่า กินเร็วๆ สิ   ส่วนเจ้าหมูปิ้งก็ได้แต่นอนมองของในถุงแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่  รอเวลาให้นายกินเสร็จก่อน   เขาเทไก่ใส่จาน  ไอ้ทิชชูเห็นไก่ชิ้นโตๆอยู่ประมาณ 2-3 ชิ้น กับนัตเก็ตอีกประมาณสิบกว่าชิ้น  ยิ่งชวนทำให้น้ำลายไหล ไอ้ทิชชูรบเร้าให้นายกินเสร็จไวๆ เพื่อหวังว่าของที่เหลือจะตกถึงมันบ้าง   แต่ก็เหมือนกับว่ายิ่งรบเร้าเขาก็ยิ่งแกล้งกินช้าๆ  มันมองไก่ในมือของนายหมดไปแล้วชิ้นที่ 1  และตามด้วยชิ้นที่ 2  ยังมีไก่ชิ้นใหญ่อีกชิ้น กับนัตเก็ตอีกหลายชิ้น  มันยังมีความหวังอยู่
ldee7120877457914680.jpg.....ไก่ชิ้นที่ 2 หมดไปแล้ว และดูเหมือนว่าเขากำลังจะหยิบไก่ชิ้นใหญ่ชิ้นสุดท้าย  ไอ้ทิชชูกับเจ้าหมูปิ้งดูจะหมดหวังแล้ว  หากนายกินไก่ชิ้นสุดท้ายในมือหมด  ก็เหลือเพียงนัตเก็ตเพียงไม่กี่ชิ้น กับสุนัข 2 ตัว คาดคะเนจากสายตาสุนัขขี้ตะกละของไอ้ทิชชูดูไม่เพียงพอ   ถ้านายแบ่งไก่ชิ้นเล็กๆที่เหลือ  ข้าก็จะแย่งเจ้าหมูปิ้ง  ไอ้ทิชชูคิดแผนชั่วร้ายไว้ล่วงหน้า  ถ้าหากนายกินไก่ชิ้นใหญ่ในมือหมดไปจริงๆ  เสียงเรอของจิ๊กซอร์จุดประกายความหวังของไอ้ทิชชูทันที  เขาวางชิ้นไก่ที่ยังกินไม่หมดไว้ในจาน  และเหมือนกับว่าไอ้สองตัวจะรู้ว่าถึงคิวของมันแล้วที่จะได้ลิ้มรสไก่แสนอร่อยบ้าง  ไอ้ทิชชู ข้าให้สิทธิ์แกเลือกไก่ก่อนว่าจะกินชิ้นไหน  จิ๊กซอร์ยื่นจานไก่ตรงหน้ามัน  ไอ้ทิชชูไม่ลังเล  มันเลือกไก่ที่ชิ้นใหญ่สุด  แล้วคาบไปไว้ที่จานของมันเหมือนกลัวว่านายจะเปลี่ยนใจ  มันค่อยๆลิ้มรสชาติไก่พร้อมกับเหลือบตาด้วยความหวาดระแวง  เกรงว่าจะมีใครอาจหาญแย่งไก่ไปจากมัน  ส่วนไก่ที่เหลือนายก็จัดแจงเทลงในจานของเจ้าหมูปิ้งที่อยู่คนละมุมกับไอ้ทิชชู

	.....เจ้าหมูปิ้งกระโดดลงจากโซฟา  เมื่อเห็นว่าเขาเทนัตเก็ตไก่ลงใส่ในจานมันแล้ว  มันค่อยเดินไปช้าๆ และนั่งกินอย่างสงบ (ก็มันเป็นสุนัขเรียบร้อยนี่หน่า)  พลันไฟริษยาของไอ้ทิชชูก็ลุกพรึบขึ้น  เมื่อเห็นว่าความจริงแล้วไก่ในจานของเจ้าหมูปิ้งมิได้น้อยกว่าไก่ของมันเลย  มิหนำซ้ำจะดูมากกว่าด้วยซ้ำไป  ไก่ในจานของมันมีแค่กระดูกไก่ที่มีเนื้อเหลืออยู่บ้าง  แต่ของเจ้าหมูปิ้งถึงจะเป็นไก่ชิ้นเล็กๆ แต่มีปริมาณมากจนพูนจาน   อะไรว่ะ  ทำไมเจ้าหมูปิ้งมันได้เยอะกว่าล่ะ  มันคิดในใจ  ว่าแล้วก็ค่อยๆย่องเดินเพื่อจะแย่งไก่ในจานเจ้าหมูปิ้ง  แต่ยังไม่ทันจะถึงก็มีมือใหญ่ๆ หนาๆ หนักๆ ตีผั๊วะที่หัวมัน    เอ้ย..จะทำอะไร  ข้าให้เอ็งเลือกก่อน  ยังจะหน้าด้านแย่งเจ้าหมูปิ้งเหรอ  ไอ้หมาโรคจิต   เขาเท้าเอวต่อว่ามัน  ข้ารู้สันดานดีว่าแกเป็นหมาตะกละ  ข้าเลยให้แกเลือกก่อน  และเดาได้เลยว่าแกต้องเลือกไก่ชิ้นใหญ่  เขาพูดเสร็จก็หัวเราะสะใจมัน  แกนั่งแทะกระดูกไก่นั่นแหละดี  ฟันจะได้แข็งแรง จะได้แทะรองเท้าข้าได้อีกนานๆ   ประโยคหลังเหมือนว่านายจะประชดที่มันชอบขโมยรองเท้าเขาไปแทะประจำ  อ๊ะๆๆ  อย่าคิดจะไปแย่งเจ้าหมูปิ้งอีกน่ะ  เพราะข้าจะนั่งเฝ้าพวกเอ็งกินใก่จนกว่าจะหมด  ว่าแล้วเขาหัวเราะอย่างสะใจ  ก่อนจะนั่งดูเจ้าสองตัวกินไก่

	.....อาหารมื้อนี้ถือว่าเป็นมื้อที่พิเศษสำหรับเจ้าหมูปิ้ง เพราะมันแทบไม่ต้องทำอะไรเลย  มันก็อิ่มได้ด้วยกินไก่ที่แสนอร่อย  ตรงข้ามกับไอ้ทิชชูที่นั่งแทะกระดูกไก่โดยไม่มีทีท่าว่าจะช่วยให้มันหายหิวได้เลยแม้แต่น้อย

	.....เรื่องราวซนๆ ของไอ้ทิชชูจะเป็นไงต่อไป ติดตามตอนต่อไปนะคะ

1223619836161.gif				
22 พฤษภาคม 2552 17:30 น.

โฮ่ง โฮ่ง ใครก็ว่าผมหมาเพี้ยน ตอนที่ 1 เปิดตัว

ศรรกรา

20090311_80772cbbe7f677aa592dJpyQFiGRW9xไอ้ทิชชูเป็นสุนัขสีขาวพันธุ์ชิสุที่เกิดในบ้านผู้มีอันจะกิน  โดยพ่อแม่ของมันก็เป็นสุนัขของบ้านนี้เช่นกัน  จิ๊กซอร์นายของมันชอบเรียกมันว่า  ไอ้หมาโรคจิต  เพราะอะไรหรือ??  เพราะมันชอบวิ่งไล่งับหางตัวเอง  ซึ่งจริงๆแล้วมันก็ไม่แปลกหรอก  เพราะก็มีสุนัขอีกมากที่ชอบไล่งับหางตัวเองเช่นมัน  แต่สิ่งที่แปลกกว่านั้นก็คือ  เวลากินอาหารเจ้าทิชชูจะหวงกินมาก  แล้วมันจะขู่คำรามทุกครั้งที่เห็นอะไรอยู่ใกล้รัศมีมันขณะที่มันกินอยู่  มันหวงกินขนาดไหนหรือ???   ก็หวงถึงขนาดอะไรที่อยู่ใกล้รัศมีที่สายตามันมองเห็น  มันจะขู่และพร้อมจะกัดทันทีไม่เว้นแม้แต่หางหรือขาของมันเอง  ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะได้ยินไอ้ทิชชูร้องเอ๋งทุกครั้งในเวลากิน  เพราะนั่นแสดงว่ามันเผลอกัดขาหรือหางของมันเข้าแล้ว  
อาหารโปรดที่ไอ้ทิชชูหวงหนักหวงหนา  ถ้าอ่านแล้วก็คงเข้าใจว่าคงจะเป็นอาหารสุนัขสำเร็จรูปที่ราคาสูง รสชาติแสนอร่อย  แต่ไม่ใช่เลยมันก็แค่ข้าวคลุกกับตับต้มธรรมดา  แต่สิ่งที่พิเศษกว่านั้นก็คือ  มันเป็นอาหารเพียงมื้อเดียวของแต่ละวัน
ทิชชูมีเพื่อนสนิทอยู่ตัวหนึ่งชื่อ หมูปิ้ง  เป็นสุนัขพันธุ์เดียวกัน  และไอ้ทิชชูก็ชอบเล่นกับมันอยู่เสมอ  แต่ดูจากอากัปกิริยาของหมูปิ้งแล้วไม่ค่อยเต็มใจจะเป็นเพื่อนกับทิชชูเท่าไหร่  เพราะเวลาเล่นกับทิชชูทุกครั้ง  เจ้าหมูปิ้งก็ต้องเป็นฝ่ายเจ็บตัวอยู่เป็นประจำ  หมูปิ้งจะเป็นสุนัขที่เรียบร้อยมาก  เรียบร้อยถึงขนาดนายของมันเจ็บมันนั่งตรงไหนมันก็จะอยู่ตรงนั้น ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน  หนำซ้ำมันยังเป็นสุนัขสงบหมาสงบคำ ซึ่งต่างจากไอ้ทิชชูโดยสิ้นเชิง   ความเรียบร้อยของเจ้าหมูปิ้งทำให้นายของมันตั้งฉายาว่า  เซรามิค  เพราะอะไรน่ะหรือ ??  ตามมาสิ เราจะเล่าให้ฟัง 
131044_pgd.jpgสาเหตุที่จิ๊กซอร์นายของมันตั้งฉายาเจ้าหมูปิ้งว่า  เซรามิค   เกิดจากวันหนึ่งมีคนกดกริ๊งประตูบ้าน  ซึ่งในขณะนั้นจิ๊กซอร์กำลังนั่งดูทีวี  โดยมีเจ้าหมูปิ้งนอนอยู่บนตัก  และไอ้ทิชชูกำลังนั่งแทะรองเท้าของนายอยู่ข้างๆ   อ่ะน่ะ...คงสงสัยว่าทำไมนายถึงไม่ดุไอ้ทิชชูที่แทะรองเท้าน่ะหรือ  ซึ่งความจริงแล้วนายไม่ได้ดุมันเพียงอย่างเดียว  เขายังเคยตีมันด้วยรองเท้าเพื่อให้มันรู้ว่าสิ่งที่มันทำอยู่ผิด  แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะมันก็ยังขโมยรองเท้าเขามาแทะเล่นอยู่นั่นเอง จนเขาอ่อนใจต้องปล่อยมันแทะ   มาพูดถึงเจ้าหมูปิ้งกันต่อ  เมื่อจิ๊กซอร์ได้ยินเสียงกริ๊งจึงจับเจ้าหมูปิ้งวางไว้บนชั้นที่เป็นตู้โชว์รับแขกเพื่อเดินไปดูว่าใครมา  ซึ่งผู้ที่มีเยือนก็คือเพื่อนของเขานั่นเอง  เขาเชิญแขกเข้ามานั่งบนโซฟาหน้าทีวี ก่อนที่จะเดินหายออกไปในครัวสักพัก  แล้วเดินเข้ามาพร้อมน้ำและของวางมาเลี้ยงต้อนรับ  ไอ้ทิชชูก็ดูจะเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยชอบรับแขกเท่าไหร่  มันแสดงอำนาจโดยการเห่ากรรโชกและความเป็นเจ้าถิ่นของมัน   จนนายของมันทนไม่ไหวกับเสียง  จำต้องกึ่งจูงกึ่งลากมันไว้หน้าบ้านโดยไม่ลืมที่จะเก็บรองเท้าของแขกไว้ในบ้าน  เขาและเพื่อนพูดคุยกันหลายเรื่องตามประสาคนไม่ได้พบเจอกันมานาน  จนลืมไปว่ายังมีเจ้าหมูปิ้งสุนัขอีกตัวนั่งอยู่บนชั้นที่เป็นตู้โชว์  ซึ่งมันนั่งอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เขาจับมันนั่งก่อนลุกไปเปิดประตูนั่นเอง   และดูเหมือนว่าเขาจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำ  หากไม่มีเสียงทักขึ้นมา  เออ..ไอ้ซอร์  เซรามิคตัวนี้นายซื้อมาจากไหนว่ะ โคตรเหมือนจริงฉิบ..เลยว่ะ   สิ้นเสียงดูเหมือนว่าเขาสงสัย  เพราะเขาจำได้ว่าบ้านของเขาไม่มีซรามิคสักชิ้น   จนกระทั่งมองตามสายตาของเพื่อนจึงรุ้ว่า  เซรามิคที่เพื่อนกล่าวถึงก็คือเจ้าหมูปิ้งนี่เอง  นับตั้งแต่นั่นมาเจ้าหมูปิ้งจึงมีฉายาว่าเซรามิคแต่นั้นเป็นต้นมา  และอาจเป็นเพราะเจ้าหมูปิ้งเป็นสุนัขที่เรียบร้อยกว่าไอ้ทิชชู  จึงไม่แปลกที่จิ๊กซอร์จะลำเอียงชอบหมูปิ้งมากกว่ามัน  ทำให้ไอ้ทิชชูนอกจากจะเป็น ไอ้หมาโรคจิต ในสายตานายแล้ว  ยังเป็น หมาขี้อิจฉา อีกด้วย
เรื่องราวของไอ้ทิชชู  เจ้าหมูปิ้งและจิ๊กซอร์นายของมันจะเป็นยังไงต่อไปน้อ  เอาไว้คอยติดตามตอนต่อไปนะคะ
154171.jpg				
16 ตุลาคม 2550 09:48 น.

ข้าวปั้นกะหมาแก่

ศรรกรา

29178.jpgข้าวปั้น...สุนัขเชื้อสายพันธุ์ผู้ดีกำลังเพ่งมองสุนัขอีกตัวที่อยู่นอกรั้วด้วยความสนใจ   มันนั่งมองสุนัขตัวนั้นนานแล้วโดยสังเกตว่า  สุนัขตัวนั้นก็มองเข้าไปในบ้านของตนมานานพอสมควร

             เอ...ลุงนั้นมองเข้ามาที่บ้านเราทำไมน้อ  
              ข้าวปั้นคิดในใจ พลันเหลียวซ้ายแลขวาเห็นว่าไม่มีใคร  มันก็เดินตรงไปหาสุนัขตัวนั้น

               ลุงครับ  ผมเห็นลุงมองเข้าไปในบ้านผมนานแล้ว  มีอะไรหรือเปล่าครับ ข้าวปั้นเอ่ยทักสุนัขแปลกหน้า 


5484946.jpg
สุนัขเฒ่า...ละสายตามองไปยังเจ้าของเสียง  สุนัขสีขาวแต้มน้ำตาลดูสะอ้านสะอาด  จากการเอาใจใส่ของเจ้าของเป็นอย่างดีกำลังมองตนเองอย่างสนใจ

               ลุงครับ....มีอะไรหรือเปล่า   เสียงนั้นดังอีกครั้ง  ปลุกภวังค์สุนัขเฒ่าให้รู้สึกตัวอีกครั้ง
               เปล่าหรอกไอ้หนู  พอดีข้าเห็นบ้านของเจ้าสวยงามดีเท่านั้นเอง ข้าเลยมองบ้านเจ้าเพลินไปหน่อย  สุนัขวัยชรากล่าวอ้าง
               แต่ผมเห็นลุงมองมาที่บ้านผมทุกวันเลยน่ะ  ข้าวปั้นกล่าว  เพราะเจ้านายจะให้คนดูแลจูงมันออกมาเดินเล่นในบริเวณสนามหญ้าภายในรั้วบ้านทุกเช้า  และทุกวันมันก็จะเห็นสุนัขสีน้ำตาลเนื้อตัวมอมแมมนั่งอยู่ข้างถังขยะมองเข้าไปในบ้านของตนเสมอ
              ลุงไม่มีเจ้านายเหรอครับ?  ข้าวปั้นถามตามประสาซื่อ  สุนัขวัยชรามองกลับไปยังตัวบ้าน  และมองไปที่ข้าวปั้นด้วยสายตาเศร้าสร้อย
              มี...  คำตอบสั้น ๆ ยิ่งทำให้ข้าวปั้นสงสัยสุนัขเฒ่าตัวนี้มากขึ้นา


200907180400.jpgนายของลุงอยู่ไหนครับ ทำไมเค้าถึงปล่อยให้ลุงนั่งอยู่ตรงนี้ทุกวันเลย  ข้าวปั้นถามต่อ

เจ้านายข้าก็อยู่แถว ๆ นี้แหละ  ตอบเสร็จสายตาเศร้าก็มองเข้าไปในรั้วบ้าน   
              ข้าวปั้นเหลียวหลังมองตามก็ไม่เห็นมีใคร  จึงขยับเข้าไปใกล้สุนัขเฒ่า  
             แล้วเจ้านายลุงไม่ห่วงลุงเหรอ  ผมเห็นลุงอยู่ข้างนอกทุกวันและทั้งวันเลยน่ะ   ข้าวปั้นซักต่อด้วยความสนใจ
            เฮ่อ.....   ข้าวปั้นได้ยินเสียงถอนหายใจแทนคำตอบ  
             ว่าไงฮะลุง....  ข้าวปั้นยังซักไม่เลิกเพื่อต้องการคำตอบ


482743829_1353658355.jpg?v=0เอ็งดูสภาพข้าตอนนี้สิไอ้หนู    สุนัขเฒ่าถามกลับ  ข้าวปั้นมองดู  ลักษณะของสุนัขชราตัวนี้บอกให้รู้ว่าเคยเป็นสุนัขพันธุ์ผู้ดีมาก่อน  เพียงแต่สภาพตอนนี้คือมันเป็นสุนัขแก่  และไม่น่ารักเหมือนตน  

                รอยแผลตามตัว  คงจะเกิดจากการถูกสุนัขเจ้าถิ่นทำร้ายจนเป็นแผลเหวอะแหวะ  บางจุดก็เป็นเรื้อนเพราะขาดความเอาใจใส่ รูปร่างผอมโซเหมือนไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้ว

                ข้ามันแก่แล้วไอ้หนู ไม่น่ารักเหมือนกับเจ้า  เจ้านายเค้าไม่ต้องการหมาแก่อย่างข้าหรอก 
                อ้าว...แล้วลุงรู้ได้ไงละว่าเจ้านายเค้าไม่ต้องการลุง  ข้าวปั้นยังซักไซ้ต่อด้วยความสนใจ
                 เหอๆๆ  ก็ข้าเคยเป็นแบบเจ้านี่ไงไอ้หนู  เสียงแหบโหยหัวเราะออกมา  แต่เสียงเหมือนกับเยาะเย้ยตัวเองมากกว่า

เหมือน....เหมือนยังไงครับ?  สุนัขตัวน้อยยังคงสงสัย   ตอนนี้เจ้ายังไม่รู้อะไร  อีกไม่นานเดี๋ยวเจ้าก็จะรู้เองไอ้หนู
                 เมื่อกล่าวจบ  สุนัขเฒ่าก็เดินจากไป โดยทิ้งปริศนาให้ข้าวปั้นได้คิดต่อไป 


hos_g376.jpg
*******วันทั้งวันคันคะเยอเจอแต่หมัด
กายสบัดสะเก็ดร่วงล้วนเห็บหมา
หนังย่นยู่ดูยังไงไม่โสภา
ทั้งกายาขนสักเส้นเป็นไม่มี

หมาพันธุ์ไหนก็ไม่รู้ดูไม่ออก
หนังถลอกเลือดไหลซิบจนน่ายี้
แถมผอมโซด้วยอดอยากมาทั้งปี
เพ็ดดีกรีไม่หวังลิ้มกินเศษทาน

ใครจะรู้ก่อนเป็นหมาราคาสูง
เคยเดินจูงวิ่งเล่นสนุกสนาน
พอโตหน่อยไม่น่ารักชักรำคาญ
เริ่มทิ้งห่างให้เฝ้าบ้านไม่สนใจ

มาวันหนึ่งเห็นนายอุ้มหมาตัวน้อย
เล็กกระจ้อยน่ารักเพิ่งซื้อใหม่
ส่วนตัวนี้ฉันเบื่อแล้วจะปล่อยไป
ทิ้งให้ไกลมันจะได้ไม่กลับมา

ข้าอยากบอกจริงจริงกับหมาน้อย
เค้าคงปล่อยเจ้าไปเหมือนอย่างข้า
คอยให้เจ้าโตอีกหน่อยไม่โสภา
เจ้าก็เป็นเช่นอย่างข้าที่ข้าเป็น
 


				
25 เมษายน 2550 14:59 น.

ดาวของแม่

ศรรกรา

ดาวเป็นเด็กสาววัยสะพรั่ง ก่อนหน้านี้ครอบครัวของดาวจัดว่าอยู่ในฐานะปานกลาง พ่อทำกิจการของตัวเอง และแม่ก็ดูแลดาว ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ดาวจะมีอุปนิสัยร่าเริงแจ่มใส เรียนเก่ง และช่างพูดช่างคุย เป็นที่รักของคนทั่วไป 

                แต่หลังจากที่กิจการพ่อของเธอประสบความสำเร็จ ท่านกลับไม่มีเวลาให้กับดาวเลย เพราะว่าพ่อต้องการกอบโกยโอกาสทองนี้ให้มากที่สุด ส่วนแม่ซึ่งเคยดูแลดาวอย่างใกล้ชิด ก็เริ่มออกงานสังคม สังสรรค์กับเพื่อนโดยเหตุผลว่า การที่แม่ออกงานสังคมมากเท่าไรก็อาจจะช่วยงานด้านกิจการของพ่อมากขึ้นเท่านั้น 

                หลายครั้งที่ดาวรู้สึกเหงา เธอจะพูดกับแม่ว่า "แม่ขาอยู่บ้านเป็นเพื่อนหนูหน่อย" แต่คำตอบของแม่ก็คือยิ้มและพูดว่า "ลูกโตแล้ว" บ้างครั้งดาวก็ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่จึงเห็นความสำคัญของคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง 

                 หลายเดือนผ่านไปแล้ว ดาวมีความรู้สึกว่าอยู่บ้านแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา  นอกจากความเหงาเท่านั้นที่เป็นเพื่อน   เธอเริ่มคบเพื่อนมากขึ้น เที่ยวเตร่บ่อยครั้ง ซึ่งแน่นอน พ่อแม่เธอก็ไม่เคยจับได้ บางครั้งเธอค้างบ้านเพื่อน  โดยอ้างว่าทำรายงาน แต่น่าแปลกคะแนนสอบที่เธอเคยทำได้ดี กลับตกฮวบฮาบ 

                 วันหนึ่งหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าว "ถล่มคลีนิกเถื่อน" ภาพที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ทำให้แม่ของดาวใจหาย ภาพของเด็กสาวที่หล่อนรู้จักดีนอนอยู่ที่เตียงในสภาพที่หว่างขาเต็มไปด้วยเลือด แน่นอนหล่อนย่อมรู้ว่าภาพเด็กสาวคนนั้นเป็นใคร   แต่จะให้หล่อนทำอย่างไรละ  ระหว่าง.... 

                 ให้หล่อนเปิดใจยอมรับว่าเด็กสาวที่ปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์คนนั้นคือ  ดาวเป็นลูกของตนเอง โดยไม่แคร์สังคมและยอมรับกับความอับอายในภายหลัง   และเริ่มต้นที่จะดูแลและรับผิดที่ตนเองไม่ดูแลลูก หรือ.... 

                ขอเก็บเป็นความลับเฉพาะครอบครัวเท่านั้น  ไม่บอกใคร เพราะต้องแคร์สังคมบ้าง แต่จะเอาใจใส่ลูกให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม

                แต่ถ้าเป็นคุณเป็นหล่อนล่ะจะทำอย่างไร?				
23 เมษายน 2550 10:26 น.

อยากคิดว่ามันเป็นเพียงฝันร้าย

ศรรกรา

กลางปี 37  ฉันทำงานพิเศษวันเสาร์อาทิตย์จากการชักชวนของเพื่อน จุดประสงค์คือความต้องการหารายได้ในการใช้จ่ายในการเรียน  เพื่อจะได้ไม่รบกวนพ่อแม่  โดยที่ฉันไม่คิดว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของความรักของเรา
                         ฉันเจอเขาคนนั้นในที่นั่นด้วย  เขาเข้ามาทำงานก่อนฉัน เรารู้จักกันเพราะเพื่อนแนะนำให้  แรก ๆ เราก็มีความรู้สึกที่เพื่อนกับเพื่อนทำงานทั่วไป  ไม่มีอะไรพิเศษ  แต่ความสนิทสนม  ทำให้ความรู้สึกนั้นแปรเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
                         1  ปีหลังจากที่เราพบกัน  ความรู้สึกของเราสองคนต่างเก็บซ่อนกันโดยต่างไม่รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่าย  จนกระทั่งวันที่  14  กุมภาพันธ์  2539  เขาโทรศัพท์มาที่บ้าน  ซึ่งมันก็เป็นปรกติที่เราโทรคุยกันประจำ  แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ๆ  ก่อนวางสายเขาทิ้งประโยคหนึ่งที่สามารถทำให้ใจเราสั่นได้  นั่นก็คือ  "เราชอบเธอนะ" และก็วางสายทันทีโดยที่ไม่รอรับคำตอบจากเรา
                         นับจากนั้นความสัมพันธ์ของเราก็ดำเนินดีขึ้นเรื่อย ๆ  เราคบกันอย่างเปิดเผยมากขึ้น  ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงต่างก็รับรู้ว่าเราเป็นแฟนกัน  จนกระทั่ง.......
                          ต้นปี  45  ความรักของเราก็ล่มสลายลง  ด้วยสาเหตุที่เราเองเป็นคนผิด  ทั้งที่ไม่อยากคิดจะทำ  เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เราเสียใจทั้งสองฝ่าย  คนที่เราสนิทต่างก็ไม่เชื่อว่าเราจะเลิกกันง่าย ๆ ทั้งที่คบกันมา 7 - 8 ปี  เรามีความรู้สึกผิด  และละอายที่เกินกว่าที่จะติดต่อพูดคุยกับเขา  ทั้งที่เราอยากจะทำอย่างยิ่ง  เราอาศัยเพื่อนถามไถ่ข่าวคราวเขาว่าเป็นยังไง  จนเวลายืดยาวถึง 5  ปี  ความรู้สึกที่มีต่อเขาก็ยังเหมือนเดิม   จนกระทั่ง.........
                        วันที่  21  เมษายน  มีเพื่อนโทรมาบอกข่าวของเขา  ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่ฉันจะเป็นฝ่ายถามถึง  "เขาตายแล้ว"  ฉันได้ยินคำนั้นโดยไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง  "อะไรนะ"  "เขาตายแล้ว"  ฉันยังคิดว่าตัวเองฝัน  มันใช่ความจริงเหรอ  ซึ่งตลอดเวลาที่ฉันถามถึงเขา  ก็มีแต่คนบอกว่าเขาสบายดี  แต่ทำไมถึงมีข่าวไม่ดีออกมาได้เหรอเพื่อนล้อเล่น  มันจะเป็นไปได้อย่างไร
                        ในคืนวันที่  22  ฉันไปงานศพ  กรอบรูปที่ตั้งอยู่ข้างโลงศพนั่นคือเขาจริง ๆ  เขาเป็นมะเร็งในตับแต่กลับไม่มีใครบอกความจริงให้ฉันรับรู้เลย  ฉันอยากบอกเขาว่า  "ฉันขอโทษ"  ในขณะที่เขามีลมหายใจ  ไม่ใช่บอกกับเขาในขณะที่ร่างเขานอนแน่นิ่งอยู่ในนั้น  "ฉันขอโทษนะ  ฉันยังรักเธออยู่นะ  จงนอนพักผ่อนให้สบาย  ฉันจะไม่ลืมเธออย่างแน่นอน"


เพลง  เธอไม่เคยตาย     (วงทู)
เหมือนฝันร้าย กลายเป็นจริง
เมื่อวันที่เสียเธอ
รักนี้ต้องเจอ การจากลา
ทิ้งไว้แค่ความทรงจำ ไม่มีทางย้อนมา
จำเธอติดตา ไม่อาจจะลืม

ครั้งนั้นที่มีเธออยู่ ต่างคนต่างรู้ใจ
ทุกข์ร้อนเท่าไหร่ ก้าวไปด้วยกัน
ครั้งนี้ไม่มีเธออยู่ ใจมันทรมาน
ยังคงต้องการเธออยู่เสมอ

*  เธอไม่เคยจะตายจากไปในใจ ฉันยังมีเธอ
เหมือนคนละเมอบ้าบอยังรอ แม้สายเกินไป
เคยรักเธอคนเดียว เกิดมาไม่เคยคิดรักใคร
ฟ้าดินทลาย แต่ใจยังคงรักเธอ  

อยากจะหมุนวันเวลา ให้กลับคืนไป
อยากจะย้อนไป เป็นเหมือนดังวันวาน
แต่สิ่งที่เป็นจริง เราต้องจากกันไกล
รับรู้ใจนี้เอาไว้ เธอยังไม่ตายไปจากใจฉัน

(ซ้ำ  *)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรรกรา
Lovings  ศรรกรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรรกรา
Lovings  ศรรกรา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรรกรา
Lovings  ศรรกรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรรกรา