10 กุมภาพันธ์ 2554 11:13 น.

เศษก้างล้างแค้น

ศรีสมภพ

เศษก้างล้างแค้น

เศษผ้า..แช่กาลามัง  ดูเกรอะกรังน่าชังนัก
ใช้งานผ่านมาหนัก  ต้องรีบซักหมักหมมจริง
ออกแรงแปรงถูปัด  ท่าถนัดปัดเศษทิ้ง
เจ็บแสบแทบนอนกลิ้ง  เจอของจริง..ก้างเจาะนิ้ว !
นิ้วกลางฝังในปวด   บ่นเหมือนสวดปวดหน้านิ่ว
หาหมอรอตามคิว  ร้องหน้ากิ่วฉิวบ่งให้
คีบก้างถ่างตาเห็น   ยาวเกือบเซ็นต์เป็นไปได้
บวมช้ำ..กรรมหรือไร ?  ต้องชดใช้ในทันที !
ปลงได้ในทางธรรม  ต้องรับกรรมตามวิถี
กินปลาฆ่าชีวี   ต้องใช้หนี้ที่ทำมา
รำพึงถึงชีวิต   ไม่คาดคิด..ปริศนา
มองข้ามของใกล้ตา  แค่เศษผ้าน่าเจ็บใจ
ประมาทต้องพลาดพลั้ง  ดูถูกก้างยังเกิดได้
จดจำนำใส่ใจ   ครั้งต่อไปคงไม่ทำ
ปลงเถิด..เกิดกันได้  ปลงที่ใจไม่ถลำ
เจาะจงคงเป็นกรรม  มาตอกย้ำ..ให้ทำดี
พรุ่งนี้ไม่มีรู้   ตายหรืออยู่..รู้ไหมนี่ ?
รู้กันแค่วันนี้    ชั่วหรือดีอยู่ที่ใจ
พุทธองค์..ทรงสั่งสอน  อย่าเร่าร้อนผ่อนปรนได้
สวรรค์นรกตกที่ใจ  ต้องทำได้..เข้าใจธรรม !

            อุทิศให้.. เจ้ากรรมนายเวร !
               ( ..นี่คือเรื่องจริงไม่อิงนิยาย )				
8 กุมภาพันธ์ 2554 09:52 น.

สุนทรภู่ ครูกวี

ศรีสมภพ

ยอดนักกลอน  สุนทรภู่ 

รำลึกคุณ.. สุนทรภู่ ครูกวี
สองร้อยกว่าปี มีที่เกิด กำเนิดแห่ง
รัตนโกสินทร์ ถิ่นต้น คนเมืองแกลง
ครองตำแหน่ง นักกลอน สุนทรโวหาร

อัจฉริยะ กวีเอก อเนกค่า
ร้อยอักษรา มาบังคับ กล่าวขับขาน
กล่อมโลกสวย ด้วยปัญญา มาช้านาน
กลอนกาพย์ฉันท์ สนั่นเสนาะ เพราะพริ้งพราย

ศิลป์สร้างศาสตร์ ปราชญ์สุดเปรื่อง เรืองจรัส
ร้อยเรียงรัด จัดแจง แต่งฝากไว้
ชนรุ่นหลัง ยังเทิดคุณ หนุนสืบไป
เป็นมรดก ตกทอดไว้ ..ไปนิรันดร์

คาราวะ ณ ยามนี้  .. ศรีสมภพ
ขอน้อมนบ กวีครู สุนทรภู่ท่าน
ตัวข้าน้อย ร้อยอักษรา มาขับขาน
หวังแค่ขอ ต่อสาน  ...ตำนานกวี

ขอเชิญชวนแต่งบทกลอน ย้อนรำลึกนักกลอน  วันสุนทรภู่  
  ๒๖ มิ.ย.๕๔				
8 กุมภาพันธ์ 2554 09:36 น.

มาฆบูชา

ศรีสมภพ

 มาฆบุรณมี                        

            
เพ็ญเดือนสาม.. ยามนี้ มีอดีต
หลายพันชีวิต ไม่คิดหมาย ได้มาพบ
ล้วนอรหันต์ นั้นมี ขีณาสพ
รู้แจ้งจบ พบนิพพาน ผ่านพุทธองค์

เหล่าสาวก ทุกองค์ ทรงบวชให้
ก่อนกระจาย ไปสอนสั่ง ดังพุทธประสงค์
เก้าเดือนหลัง หยั่งตรัสรู้ ยังอยู่คง
ย้อนเดินดง ตรงสู่.. หมู่เพื่อนธรรม !

ดงไผ่บาน ลานทำเล ..เวฬุวันวิหาร
ดุจสวรรค์ จันทร์สว่าง ช่างงามล้ำ
ทรงแสดง แห่งโอวาท.. สัจจธรรม
ปาฏิโมกข์ ประโยคสาม นำใส่ใจ

หนึ่งละเว้น เห็นชั่ว มั่วในบาป
ไม่จ้วงจาบ หยาบต่ำ ถลำไถล
สองทำดี จะมีสุข ไม่ทุกข์ใจ
สามจิตต้อง ผุดผ่องใส ไร้ราคี

   ครบองค์   จาตุรงคสันนิบาต 
ร่วมประกาศ อัศจรรย์ ในวันนี้
เพ็ญมาฆะ ณ เดือนสาม บุรณมี
  เป็นวิถี ที่บริสุทธิ์ แห่งพุทธธรรม !				
8 กุมภาพันธ์ 2554 09:24 น.

แม่ชีชี้ทางธรรม

ศรีสมภพ

แม่ชี..ชี้ทางธรรม      

เกิดเป็นหญิง..แท้จริงยิ่งลำบาก
ฝืนใจยากกระดากอายไม่เปิดเผย
ด้วยจารีตประเพณีที่คุ้นเคย
ยากจะเอ่ย เผยใจไขออกมา

ต้องอดทนรนสู้ อยู่เบื้องต่ำ
สู่ทางธรรม ถูกหยามเหยียดเบียดกังขา
บรรลุธรรมไม่ได้ดังชายว่า
มากมายาสาไถย ไม่ถึงธรรม

ศันสนีย์ แม่ชี.. ชี้ให้เห็น
หญิงเฉกเช่น ชาติชายได้ดื่มด่ำ
เพศใช่วัดตัดหนทางหวังถึงธรรม
หนทางนำ กรรมดีที่สำคัญ !

เสถียรธรรมสถาน..บ้านของแม่
อ้อมอกแผ่ ให้แก่ลูกปลุกจากฝัน
สู่ความจริง ปฏิบัติจริงทุกสิ่งอัน
เส้นทางนั้นต้องปั้นแต่งด้วยแรงตน

ทั้งหญิงชาย.. เข้าไปให้แม่สอน
ดับความร้อน กิเลสด้วยเหตุผล
บวชชีน้อย..ค่อยๆฝึกสำนึกตน
เติบโตจนเป็นคนดี มีคุณธรรม

เกิดเป็นหญิง..แท้จริง ยิ่งชายชาติ
หากฝึกหัด ดัดใจไม่ถลำ
ได้ดวงตา..แม่ชีชี้ทางธรรม !
ก็งดงาม ในเบื้องปลาย..เกินชายชาญ				
8 กุมภาพันธ์ 2554 09:09 น.

เส้นฝ้ายยิ่งใหญ่นัก

ศรีสมภพ

เส้นฝ้าย ยิ่งใหญ่นัก !


   ปุยขาว.. บนราวฟ้า    ประกายจ้า อ่าอำไพ
 ลอยเด่น เป็นเมฆใหญ่  เหมือนปุยฝ้าย ดูคล้ายฝัน
 ปุยเมฆ ก้อนเล็กใหญ่    เลื่อนลอยไป ในฟ้านั้น
 ลับหาย อีกไม่นาน       คงผ่านผัน พ้นผ่านไป

  ปุยฝ้าย..ในไร่กว้าง   ขาวสะพรั่ง กลางป่าใหญ่
ปุยขาว  ของชาวไร่      ให้ชีวา  เลี้ยงชีวัน
ต้นกล้า กว่าเติบใหญ่     ผลิดอกใบให้ผลนั้น
ชูช่อ รอตะวัน       อวดดอกบานก้านกิ่งงาม

สาวใย ฝั้นฝ้ายเกลียว  มือชาญเชี่ยว เกี่ยวเกาะกำ
ถักทอ  ต่อเติมซ้ำ        เป็นผ้างาม ..อร่ามตา
ผลพวงยวงใยฝ้าย   จากดินกลาย เกาะก่ายฟ้า
ดอกขาว ในราวป่า      กลับเป็นผ้า ..เลิศค่าล้ำ

เส้นใย ไหวบางตา  เกาะเกลียวหนา น่าเกรงขาม
ร้อยรัด มัดแก่นกล้าม  เป็นเชือกล่าม น่าคร้ามกลัว
อยากเป็น เช่นฝ้ายเหนียว ปั่นเป็นเกลียว เกี่ยวพันพัว
ร้อยรัด มัดถ้วนทั่ว  ไม่ขลาดกลัว  ..ไม่ขาดกลาง

  ยิ่งใหญ่ จากฝ้ายนิด !  ถักทอติด  คิดสรรค์สร้าง
ทอทบสบใจหวัง       เป็นผ้าบาง ช่างงามตา
 ปุยขาว ราวฟ้าไกล   ค่อยลับหาย ไปจากฟ้า
อ่อนแรง ไม่แกร่งกล้า    ทอดทิ้งฟ้า อยู่อาจินต์

เส้นใย จากฝ้ายนั้น      คุณอนันต์ ทุกฐานถิ่น
ห่อกาย หนาวหายสิ้น    ห่มชีวิน ..สิ้นชั่วกาล 
เส้นฝ้าย ที่ไหวบาง     ปั่นเปลี่ยนร่างอย่างสร้างสรรค์
เพชรแท้แห่งแพรพรรณ    จะผลิบาน..นิรันดร

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรีสมภพ