18 กันยายน 2554 21:58 น.

คาร์ฟรีเดย์ เท่ห์ทั่วไทย

ศรีสมภพ

แปดร้อยหกล้านคัน !
ใช้น้ำมันบั่นถนน
รถราบ่าท่วมล้น
สนองคน.. จนโลกร้อน

ขุดแร่ใต้รากโลก
ความโลภงกสะทกสะท้อน
ผิวพื้นก็กัดกร่อน
ปรับแนวนอนเป็นถนน

รถยนต์พ่นก๊าซพิษ
ผลประดิษฐ์การคิดค้น
โรคร้ายก่ายกินคน
มหาชน..มหาซวย !

 คาร์ฟรีเดย์ .. เท่หนึ่งวัน
หนึ่งปีนั้นบั่นชีพม้วย
ขยายวันร่วมกันช่วย
รักโลกด้วย..  คาร์ฟรีเยียร์ 
   
ปลอดรถไปหมดแล้ว
ยังลุยแกร่วน้ำเน่าเสีย
รถทิ้งไป กายใส่เกียร์
ลุยจนเพลียละเหี่ยใจ

ถนนกลายเป็นน้ำ
สุดชอกช้ำน้ำท่วมใหญ่
จักรยานปั่นไม่ได้
ใช้เรือพาย ก็ไม่พอ

คาร์ฟรีเดย์เท่ห์เหลือหลาย
รถเลิกใช้พายเรือถ่อ
ปลอดรถหมดควันท่อ
เยี่ยมจริงหนอ ..ขอบอกมา !

สุพรรณหงส์ทรงภู่ห้อย (ชะ)
พายเรือน้อยลอยฟันฝ่า
น้ำท่วมใหญ่ไปถ้วนหน้า
ยังจะบ้า ..คาร์ฟรีเดย์ !

เอ้า ! เห้ เฮ  เฮ เฮ้ เห่ เฮเฮ เฮๆๆ  ชะ 

@@@@@@@@@@@@@


      วันคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day) ตรงกับ
วันที่ 22 กันยายน ของทุกปี โดย วันคาร์ฟรีเดย์
 Car Free Day จัดขึ้นในหลาย ๆ แห่งทั่วโลก
เป็นครั้งแรกในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ.2537
โดยมีประชาชนใน 848 เมือง จาก 25 ประเทศ
ทั่วโลกได้ออกมาร่วมกันรณรงค์ภายใต้โครงการ
Car Free Day เพื่อปลุกให้คนตื่นตัว หันมาใช้ระบบ
ขนส่งมวลชน ปั่นจักรยาน หรือการเดินแทนการนั่ง
รถยนต์ส่วนตัว และคิดวางแผนในการเดินทางมากขึ้น				
17 กันยายน 2554 12:31 น.

น้ำตาหน้าโลงศพ

ศรีสมภพ

เห็นโลงศพ บนศาลา
คนต่างมานั่งท่าไหว้
มือพนมก้มน้อมกาย
พึมพำไปใครไม่รู้

พระสวดจบ ตลบหลัง
หลายมุมฝั่งนั่งล้อมหมู่
ทั้งนั่งยืน ยื่นหน้าดู
เสียงดังอู้ ..สู้ไฮโล !

ดื่มและเล่นนั้นเป็นบาป
แต่เจ้าภาพกลับแกล้งโง่
พระประธานนั่งทนโท่
ยังฉาวโฉ่ โชว์รายเรียง

ดอกไม้สด งดงามชื่น
ไม่กลมกลืนฝืนความเที่ยง
มรณาคู่คาเคียง
กล่อมด้วยเสียง มโหรี..
 
ก่อนจะเผาเข้าเตาจุด
ต่างมุงมุดมองร่างผี
ปิดจมูกกันทุกที
เบือนหน้าหนีเหม็นผีตาย

ลงจากเมรุ เห็นเจ้าภาพ
ยืนลำดับรับซองไหว้
ของชำร่วยช่วยรับไป
แล้วแยกหาย ไปเร็วพลัน

โลงศพใหม่ในศาลา
วนเข้ามา ณ ที่นั้น
กลบเกลื่อนไป คงคล้ายกัน
สำนึกนั้น ..มันยังไร้

จะกี่โลง คงไม่หวัง
น้ำตายังไม่หลั่งไหล
รอถึงตัว คงกลัวตาย
มันคงไหล..ไม่รู้ตัว !				
16 กันยายน 2554 10:27 น.

สวัสดี / น้ำท่วมไหม ?

ศรีสมภพ

 น้ำท่วมไหม ? คำทักทายในวันนี้
ทั่วทุกที่มีปัญหาสาหัสหนัก
 สวัสดี  ไม่มีใครใช้ทายทัก
ต่างจมปลัก อุทกภัยสุดใหญ่หลวง

 ขึ้นมากไหม?  ในทุกเช้าที่เฝ้าถาม
ระดับน้ำ สูงขึ้นตามด้วยความห่วง
นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ให้คืนล่วง
น้ำไม่หลับ ขยับช่วงล่วงหน้าคน

นึกก่อนนั้น กั้นที่นาคิดว่าไหว
ถูกท่วมหายในวันรุ่งมุ่งถนน
กระสอบทรายทบหลายชั้นมันยังล้น
โถมบ้านคน อลหม่านบานตะไท

เร่งก่ออิฐฉาบปูน หนุนของขึ้น
ขยับยื่น พื้นบ้านเพิ่มชั้นใหม่
ฝนเจ้ากรรมพรำทั้งวันมันช้ำใจ
น้ำเจิ่งนองนั่งร้องไห้ ใต้ฟ้าดำ

คำทำนายน้ำท่วมโลก..อกเริ่มสั่น
หรือถึงวันอันตรายภัยกระหน่ำ
เครียดคิดหนักอยากปลง คงสิ้นกรรม
ฟ้ามืดดำฝนพรำต่อ..อยู่รอใคร

 จะรอดไหม?  ถามใจในคืนนี้
หลังคามิดปิดทางหนีไปที่ไหน
เหลือเพียงเราเท่านี้หรือ ? ยื้อความตาย
คำสุดท้าย..ที่เฝ้าถามก่อนน้ำกลืน !

ฟ้าทะมึน ผีนน้ำเรีบบเป็นแนวราบ
ทุกสิ่งดับลับหายนอนใต้พื้น
คำทำนายที่ยิ่งใหญ่ใจยังตื่น
มันหยิบยื่นความตาย ใช่ไหมหนอ ?

" น้ำท่วมไหม? " ทายทักไม่อยากเทียบ
กับคำเรียบ  " สวัสดี "  ทีเคยจ้อ
ไม่อยากฟังคำใหม่ใจมันท้อ
 สวัสดี  ! ที่อยากขอจ้อคำเดิม...				
14 กันยายน 2554 11:50 น.

มหากาพย์น้ำท่วม

ศรีสมภพ

น้ำฟ้า.. เป็นห่าฝน
ถล่มล้นบนแผ่นพื้น
เจิ่งนองต้องกล้ำกลืน
ทั่วทั้งผืนแผ่นดินไทย

๒๕ ลุ่มสายน้ำ
คือที่ต่ำน้ำหลากไหล
โถมถั่งตามทางไป
สุดขวางไว้ไร้ต้านทาน

ทั่วทิศวิกฤติกล้า
ท่วมทั่วหน้าหลังคาบ้าน
ล้มหายเจ็บตายกัน
ภัยมหันต์.. มันโถมมา

ครวญคร่ำ น้ำตาหมด
ใส้ก็หด สลดล้า
เห็นหนี้ท่วมที่นา
หมดน้ำตา ..หมดน้ำทน

น้ำปาด ..ปาดน้ำตา
กระแทกป่าปะทะล้น
ถมหมู่บ้าน ผลาญหมู่คน
หายบัดดล..จนบัดนี้ !

น้ำปิง..นิ่งน้ำเหนือ
ท่วมทุกเมื่อไม่เหลือที่
น้ำวัง ..คลั่งเหลือดี
โถมท่วมปรี่ รี่ไหลล่อง

น้ำยม ..ขย่มไม่ยั้ง
ท่วมทุกครั้งทั้งฝั่งสอง
น้ำน่าน ..ถลันนอง
ท่วมถิ่นผองร้องครางครวญ..

เจ้าพระยา.. อ้าอกกว้าง
สี่สายหลั่ง คลั่งกำสรวล
นครสวรรค์ สุดปั่นป่วน
รับน้ำมวลเมืองจวนพัง

เมืองอุทัยและชัยนาท
ก็ท่วมกวาดสุดปัดยั้ง
สิงห์บุรี มิดหมดหลัง
ลึกสุดหยั่ง เมืองอ่างทอง

บางบาล.. ท่วมนานมาก
ก่อนไหลหลากหนักขาล่อง
อยุธยา น้ำตานอง
ล้มคันป้องเก็บของวุ่น

ประทุมฯ เมืองลุ่มสุด
อุตลุดสุดหัวหมุน
กรุงเทพ เซฟอย่าสูญ
ทะเลหนุน..ยากจุนเจือ

เหนือ อีสาน ตก ตะวันออก
ใต้ข่าวบอกไม่มีเหลือ
ทิ้งรถมาถ่อเรือ
หมดข้าวเกลือไม่เหลือกิน

ในทีวี..ก็มีท่วม
สองฝ่ายร่วมสวมบทหิน
กัดกันน้ำลายริน
เรื่องทักษิณ ลิ้นลื่นไหล

เมืองถล่ม จมน้ำอ่วม
น้ำลายท่วมร่วมสาดใส่
ราษฎร์หนอ..รอวันตาย
จมน้ำลาย ..ไล่ฟัดกัน !

เธอสุขสันต์ ..ฉันสุดทน ! 
ท่านสุขสันต์ แต่ชาวบ้านนั้นสุดทน ! (ขอบอก)				
13 กันยายน 2554 12:37 น.

นักเรียนตีกัน ( ๒ )

ศรีสมภพ

บทกลอนสอนให้ได้คิด
เรื่องศิษย์กับครูคู่นี้
ว่าครูคือใครกันนี่ ?
ใคร่ชี้ครูศิษย์ผิดด้วย

แม่พิมพ์บิดเบี้ยวเกลียวผิด
ปั๊มศิษย์ผิดแบบแสบห่วย
จมปลักนักเลงนักมวย
ร่วมด้วยช่วยเสริมเติมกัน

ตำรวจ,ปกครอง หมองหวัง
เกียร์ว่าง ต่างผลักลักลั่น
แพ้เด็ก เกกเกเพพาล
วันวัน ผ่านไปไม่จริงจัง

วิชาหน้าที่-ศีลธรรม
เคยพร่ำคำสอนก่อนหวัง
ล้มเลิกแบบเรียนเปลี่ยนมั่ง
เด็กพัง ต่างเตลิดเปิดเสรี

แก้เหตุเปรตน้อย อย่าถอยท้อ
แก้พ่อแก้แม่ อย่าแชหนี
แก้ครูแก้ไข ในวันนี้
เด็กดี มีแบบอย่างวางโมเดล !

ไม่สาย.. ใคร่ชี้ มีแบบผิด
ก้มมองตรองคิด ผิดที่เห็น
แก้แบบแก้ที่ตัว ทั่วประเด็น
ให้เขาเห็นให้เขาเป็น..เช่นแบบดี

แบบเลว เด็กเลว มันเกี่ยวกัน..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟศรีสมภพ
Lovings  ศรีสมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงศรีสมภพ