14 พฤศจิกายน 2555 13:43 น.

เดียวดาย

สุนทรวิทย์

สายลมเย็น  ยะเยือก  เกลือกทิวสณฑ์
				นิศาชล  ประพรม  ห่มพฤกษา
				ยามสงัด  รัตติ  อันธิกา
				ท้องนภา  มัวหม่น  อนธการ

					วาริธร  เกาะกุม  ห่อหุ้มแข
				ข้างแรมแผ่  ความเงียบ  เชียบกระสานติ์
				ฉันโดดเดี่ยว  เปลี่ยวทรวง  ช้ำดวงมาน
				หนาวสะท้าน  รำพึง  ถึงกานดา

					หัวอกชาว  ปุลินท์  ไร้สินทรัพย์
				จมอยู่กับ  วิบาก  หลากปัญหา
				คู่ชีวิต  แตกร้าว  กล่าวอำลา
				ทิ้งบ้านป่า  คลาไคล  ไปสู่กรุง

					เมินสามี  ที่เคย  พร่ำเอ่ยรัก
				เบื่อพืชผัก  ไร่นา  หน่ายผ้าถุง
				อยากเป็นสาว  เพราเพริศ  เดินเปิดพุง
				หลงน้ำปรุง  ฟุ้งเฟ้อ  เห่อสังคม

					หน้ากระท่อม  คร่ำคร่า  หลังคาจาก
				ฉันยืนตาก  น้ำค้าง  อย่างขื่นขม
				เหลียวรอบกาย  มืดมิด  จิตระทม
				ร้างคู่ชม  ห่อเหี่ยว  อยู่เดียวดาย				
11 พฤศจิกายน 2555 11:29 น.

บทเรียน บทรัก

สุนทรวิทย์

รำพึง  รำพัน  กระสันกระเส่า
					ยะเย้า  ยะยิก  ระริกระรี่
					อ้อยส้อย  อ้อยอิ่ง  พะพิงพจี
					กระดี้  กระเดียม  เสงี่ยมสกนธ์

					รักแรก  รักล้ำ  ฉะฉ่ำฉะนี้
					ตาลี  ตาเหลือก  เถลือกถลน
					งงงวย  งงงัน  อนันต์อนนต์
					กมล  กระหาย  กระจายกระเจิง

					กึ่งกล้า  กึ่งกลัว  ระรัวระทึก
					พิลึก  พิเรนทร์  ทะเล้นเถลิง
					อยากเชย  อยากชื่น  ระรื่นระเริง
					หยั่งเชิง  หยั่งชั้น  ประหวั่นประลอง

					ค่อยเลื้อย  ค่อยเจื้อย  ฉะเฉื่อยเฉลียว
					ออกเกี้ยว  ออกกริ่ม  กระหยิ่มกระย่อง
					เขยื้อน  ขยับ  ประคับประคอง
					เธอข้อง  เธอหน่าย  ระคายระอา

					ตัดคำ  ตัดบท  ระทดระทอด
					เบื่อออด  เบื่อเพ้อ  กะเร่อกะร่า
					ดักดาน  ดักดน  ประกลประดา
					เย็นชา  เย็นชืด  พะอืดพะอม				
9 พฤศจิกายน 2555 17:36 น.

จิตรกรไร้แขน

สุนทรวิทย์

สตรีหนึ่ง  บกพร่อง  สองแขนขาด
				น่าอนาถ  ย่ำแย่  แต่กำเนิด
				เธอกลับมี  เจตนา  น่าทูนเทิด
				จิตประเสริฐ  เลิศล้ำ  มุ่งทำกิน

					ใช้เท้าคีบ  พู่กัน  บรรจงวาด
				เปี่ยมสามารถ  เนรมิต  วิจิตรศิลป์
				ระบายภาพ  ล้นหลาม  งามโศภิน
				ทุ่มชีวิน  ฝึกฝน  จนชำนาญ

					ไม่น้อยอก  น้อยใจ  ในข้อด้อย
				ไม่สำออย  คอยให้  ใครสงสาร
				รู้เตือนตน  พึ่งตน  ดลบันดาล
				แม้พิการ  มิพ้อ  ต่อลำเค็ญ

					จิตรกร  วิบาก  พึ่งปากเท้า
				นั้นเป็นเงา  สะท้อน  ย้อนให้เห็น
				กายพร้อมพรัก  อย่างไร  ใช่ประเด็น
				หากบำเพ็ญ  หน้าที่  มิดีพอ

					คนมือเท้า  ครบถ้วน  เที่ยวครวญคร่ำ
				งานไม่ทำ  ขี้คร้าน  หาญแต่ขอ
				หนักมิเอา  เบามิสู้  อยู่เพื่อรอ
				อับอายบ้าง  ไม่หนอ  แขนก็มี

ขอขอบคุณภาพจากinterne				
4 พฤศจิกายน 2555 17:49 น.

ฝันค้าง

สุนทรวิทย์

คร่ำเคร่ง  เกรงจนยาก
				มือกร้านสาก  ทนลากถู
				แข็งขัน  ใฝ่พันตู
				หมายเฟื่องฟู  เทียมหมู่ชน
		
			เหงื่อริน  กรำกลิ่นสาบ
				เร่งฉวยฉาบ  เล็งลาภผล
				มานะ  สาละวน
				ยามขัดสน  หวั่นลนลาน
			
 	หนาวร้อน  เมินผ่อนพัก
				อุปสรรค  ลามหักหาญ
				เหนื่อยท้อ  ทรมาน
				โทรมดักดาน  มานานนม
				
	ล่วงกาล  ผ่านเคี่ยวขับ
				คงตกอับ  ทุกข์ทับถม
				ฝันค้าง  ห่างอุดม
				สุมหมักหมม  ด้วยตรมตรอม
			
		อ่อนล้า  เจียนราข้อ
				หัวใจฝ่อ  เกินหล่อหลอม
				หลายปี  ที่อดออม
				ยังจมจ่อม  งอมพระราม
				
	หันมอง  ผองเศรษฐี
				ต่างเปรมปรีดิ์  มีล้นหลาม
				เราสิ  มิได้ความ
				มิงอกงาม  ตามเขาไป
				
	ขาดเชาว์  เขลาสนิท
					แม้มีจิต  คิดคว้าไขว่
				ก็ดี  เพียงที่ใจ
				ปวงพริบไหว  กลับไม่มี
				
	ปัญญา  ความสามารถ
				ดลโอกาส  วาดวิถี
				คนเขลา  ไม่เข้าที
				ยากสุขศรี  ดีเท่าเทียม				
2 พฤศจิกายน 2555 14:33 น.

ความพยายามอยู่ที่ไหน ภรรยาอยู่ที่นั่น

สุนทรวิทย์

แอบหลงรัก  พี่เลี้ยง  มิเกี่ยงรุ่น
				หล่อนละมุน  ละไม  วัยสิบห้า
				ผมหกขวบ  มันเขี้ยว  หัดเกี้ยวพา
				เสียดายว่า  เธอไม่  คิดไยดี

					เปลี่ยนใจหัน  รักครู  ดูเหมาะกว่า
				เสน่หา  จดจ่อ  ตอนป.สี่
				แต่ครูดุ  เอะอะ  ก็จะตี
				ช่างไม่มี  เยื่อใย  ให้เห็นเลย

					เบนเข็มไป  หมายปอง  น้าของเพื่อน
				ผ่านหลายเดือน  เคลื่อนคลา  มิกล้าเผย
				จนรู้ตัว  เชื่อคง  ยากลงเอย
				ทั้งทรามเชย  เฉยชา  ขาดอาทร

					พยายาม  ดันทุรัง  กระทั่งหนุ่ม
				มานะทุ่ม  สัมพันธ์  มิผันผ่อน
				จีบสาวนี้  ตอดนางนั้น  หมั่นเว้าวอน
				ตามขั้นตอน  อุตริ  ปณิธาน

					บัดนี้แรง  บากบั่น บันดาลผล
				ได้พบคน  ที่รัก  สมัครสมาน
				ถึงเธออาจ  ดูแก่  แต่รู้งาน
				เป็นนักการ  ภารโรง  ของโรงเรียน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์