22 พฤศจิกายน 2554 10:07 น.

คนจนกับเศรษฐี

สุนทรวิทย์

บุรุษหนึ่ง  ดักดน  จนทรัพย์สิน		
 แต่หากิน บากบั่น ขยันอยู่
	เลี้ยงภรรยา บุตรสอง ปองเอ็นดู			
 ขายเต้าหู้ ทอดมัน ทุกวันไป
	
     	ถึงยามเย็น โพล้เพล้ เวลาว่าง			
 นั่งไขว่ห้าง สีซอ พอเพลินได้
	เพียรอบรม  ลูกลูก ปลูกจิตใจ			
	กล่อมเกลาให้ เห็นค่า วิชาการ

    		กุมารเจียม จดจำ คำสอนพ่อ		
	มิย่อท้อ หมั่นเรียน เคร่งเขียนอ่าน
	ครั้นเติบโต ขวนขวาย ไต่เต้างาน			
        บริหาร ก้าวล้ำ เกิดร่ำรวย
	
     	แบบอย่างควร ชมเชย เอ่ยสรรเสริญ	
	ผู้ดำเนิน รู้สร้าง ทางสดสวย
	ชีวิตย่อม รุ่งโรจน์ โชตอำนวย				
        ด้วยฉลวย ฉลาด มุ่งมาดดี
	
    	จบเรื่องราว  สาธก ยกอีกเรื่อง			
 เล่าความเขื่อง ลำพอง ของเศรษฐี
	ครอบครัวซึ่ง เกรียวกราว คราวมั่งมี			
 เพราะขายที่ มรดก ตกทอดมา
	
     	เงินทองเมื่อ  มาง่าย จึงจ่ายคล่อง		
 ขาดไตร่ตรอง พุทธิ วิมังสา
	ต่างสุรุ่ย สุร่าย ไร้นำพา			
	ผลาญธนา ดังเบี้ย ไม่เสียดาย

     		ผลสุดท้าย ทรัพย์สิน ก็สิ้นหมด		
 เพิ่งสลด อาดูร ตอนสูญหาย
	เมื่อพ่อแม่ ม้วยมอด ดับวอดวาย                          
	ลูกกลับกลาย ยาจก ตกต่ำพลัน

       ใช่บุญกรรม โทษอ้าง ชาติปางก่อน 		
 ลองหันย้อน สำรวจ ตรวจตนนั่น
	พึงจำแนก ผิด,ถูก ก่อนผูกพัน 				
 จะสุขสันต์ โศกเศร้า เราเลือกเอง				
21 พฤศจิกายน 2554 15:08 น.

ขายนาไปซาอุฯ

สุนทรวิทย์

ราตรีนี้  ฉันเหว่ว้า  อุราเปลี่ยว
			        ตัวคนเดียว  ซึมเศร้า  เหงาดวงจิต
			    ไกลบ้านเรือน  นิราศ  ห่างญาติมิตร
			ขาดคู่คิด  เคียงข้าง  นอนอ้างว้าง
							
             ขายวัวควาย  ไร่นา  มาซาอุ
          ได้บรรจุ  ทำงาน  การก่อสร้าง
						  ใช้แรงกาย  ดิ้นรน  ทุกหนทาง
						เจียมอยู่อย่าง  มัธยัสถ์  ประหยัดตน
				
             ออมเงินเดือน  ส่งเสีย  เมียและลูก
			        หวังให้ปลูก  บ้านใหม่  คลายขัดสน
			    เหนื่อยเพียงไหน  ทรหด  เพียรอดทน
			 มิเคยบ่น  ยอมแพ้  แม้สักคำ
				
         			วันนี้รับ  ข่าวสลด  ทางจดหมาย
					     ลูกบรรยาย  ถี่ถ้วน  ทุกข์ครวญคร่ำ
					  เมียฉันถูก  ความเขลา  เข้าครอบงำ
					หลงใฝ่ต่ำ  หนีไป  กับชายชู้

            มาซาอุฯ  ลำเค็ญ  แทบเป็นบ้า
			      เพียงปีกว่า  เมียทิ้ง  ยิ่งอดสู
			    อนิจจา  ฟ้าดิน  สิ้นเอ็นดู
			นึกหดหู่  ระอา  น้ำตาคลอ
							
            ก่ายหน้าผาก  หลับไม่ลง  ปลงไม่ตก
					  นอนทุบอก  โทษเวรกรรม  ช้ำจริงหนอ
				 อยากหวนกลับ  เมืองไทย  เงินไม่พอ
			ท้อแสนท้อ  โศกา  อยู่ซาอุฯ				
21 พฤศจิกายน 2554 14:54 น.

เหนื่อยปานไหนไม่อาจพัก

สุนทรวิทย์

เหนื่อยกาย  ใช่เรื่องใหญ่			
  หากเหนื่อยใจ  สิใหญ่หลวง
		เหนื่อยหน่าย  กายทั้งปวง		
		มิหนักหน่วง  เท่าทรวงตรม

     			เหนื่อยใจ  พาให้ท้อ		
		ความเหี่ยวห่อ  ก็สะสม
		หงุดหงิด  จิตระทม				
 	ล้าเกินข่ม  อารมณ์ตัว
	
      		ภาระ  ในกระมล				
  ทำหลายคน  บ่นปวดหัว
		ขึ้งโกรธ  โทษครอบครัว				
  เถียงระรัว  ทั้งผัวเมีย
		
        	ลูกมาก  พลอยมากความ		
 	ต้องคอยห้าม  ปรามไกล่เกลี่ย
		งานสุม  รุมนัวเนีย  					
  จนอ่อนเปลี้ย  เพลียงุนงง
		
        	คู่ครอง  คล้องชีวิต			
 	ยามวิกฤต  ผิดประสงค์
		ฝ่ายใด  ไม่มั่นคง				
 	ความยืนยง  คงไม่มี
	
      		เหนื่อยปานไหน  ไม่อาจพัก	
		แม้โทรมหนัก  สำลักหนี้
		มุให้  ลูกได้ดี					
 	คือหน้าที่  วิถีชน				
21 พฤศจิกายน 2554 12:33 น.

สาธุชน

สุนทรวิทย์

สาธุชน  วิญญู  รู้หน้าที่
				สำนึกดี  ทำดี  มีเหตุผล
				มุทิตา  เอื้อเฟื้อ  เผื่อแผ่คน
				สร้างกุศล  บำเพ็ญ  เป็นอาจิณ

					ยังชีพโดย  สัมมา  อาชีวะ
				อุตสาหะ  ขันติ  มิเคยสิ้น
				รู้ฐานะ  รู้ประมาณ  การอยู่,กิน
				ไม่ติฉิน  กล่าวร้าย  ป้ายสีใคร
 
					 หนักแน่นต่อ  ปัญหา  ภารกิจ  
				ยามพลาดผิด  ยอมรับ  ปรับแก้ไข
				เสียสละ  เพื่อครอบครัว  ทั้งหัวใจ
				ยึดถือใน  จริย  คุณธรรม

					จิตสำนึก  กตัญญู  อยู่เนืองนิตย์
				สุจริต  ผ่องใส  มิใฝ่ต่ำ
				เชื่อกฎเกณฑ์  วัฏฏะ  ผลกรรม
				แม้ตรากตรำ  เพียงไหน  ใจมั่นคง

					คุณสมบัติ  เหล่านี้  ใครมีครบ
				ขอนอบนบ  วันทา  ว่าสูงส่ง
				คือเสน่ห์  วิลาวัณย์  งามบรรจง
				ซึ่งธำรง  บ่งค่า  สาธุชน				
20 พฤศจิกายน 2554 13:00 น.

ความดีไม่มีขาย

สุนทรวิทย์

ความดี  ไม่มีขาย			
   อย่างมงาย  หมายซื้อหา
			ใช่เห็น  เป็นสินค้า			
  	หรือเปรียบว่า  ดังอาภรณ์
		
       		ความดี  ที่แท้จริง	
 		นั้นใหญ่ยิ่ง  เกินสิงขร
			ลึกกว่า  ใต้สาคร		
 		สถาวร  เหนือพรใด
	
     			ความดี  มีไม่ยาก	
 		มิลำบาก  แม้นอยากได้
			เพียงสร้าง  อย่างตั้งใจ				
   ทำดีไว้  ย่อมได้ดี
			
       	ทำดี  ไม่มีสูญ				
   ยิ่งเพิ่มพูน  จรูญศรี
			คนรัก  จักทวี				
  	บารมี  อยู่ที่ตน
		
       		ทำดี  แต่นี้เถิด			
  	ทางประเสริฐ  เกิดกุศล
			ยามใด  ใกล้อับจน			
  	จะผ่านพ้น  เพราะผลบุญ
		
      		ศีลธรรม  ทางสัมมา		
  	จงรักษา  ตัดว้าวุ่น
			มานะ  สะสมคุณ				
  ไว้เป็นทุน  หนุนชีวัน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนทรวิทย์
Lovings  สุนทรวิทย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนทรวิทย์