14 ธันวาคม 2552 18:50 น.

รักนิรันดร์

สุนิพนธ์

รักนิรันดร์

ดาวที่เคลื่อนเดือนคล้อยลอยจากฟ้า
ยังย้อนมาเรืองรองส่องแสงใส
ดวงฤดีพี่ลับดับสิ้นใจ
ทิ้งเยื่อใยให้หวนครวญคำนึง

หริ่งเรไรร่ำร้องทำนองเศร้า
ช่างเงียบเหงาเปล่าจิตชวนคิดถึง
อดีตรักสลักใจให้ตราตรึง
เฝ้ารำพึงซึ้งค่าน้ำตานอง

ลมรำเพยเชยพัดสะบัดพลิ้ว
แลละลิ่วหวิวว้างช่างเศร้าหมอง
เป็นหนุ่มหม้ายชายหม่นคนลำพอง
เพียงพร่ำร้องเพรียกหาเพราะอาลัย

มิวาดหวังตั้งตาคอยท่าอยู่
เกินจะกู่คืนกลับนับสมัย
เหลือเพียงซากฝากห้วงดวงหทัย
ช่วยนำชัยชาติหน้ามาพบกัน

กุศลสวดกรวดน้ำบำเพ็ญจิต
แผ่อุทิศส่งไปได้ดังฝัน
พนมมือสื่อนำคนสำคัญ
รินน้ำขันมั่นคงรักยงยืน

ดาวยังเคลื่อนเดือนคล้อยลอยเช่นเก่า
แต่นางเจ้าจากเลยไม่เคยขืน
ขอวิญญาณเป็นสุขทุกวันคืน
พี่ยังรื่นรักมั่นนิรันดร				
12 ธันวาคม 2552 06:23 น.

นานามาลี

สุนิพนธ์

นานามาลี

สร้อยระย้า สารภี มะลิซ้อน
ม่วงนีออน สายหยุด พุทธรักษา
แก้วกาหลง เล็บมือนาง กระดังงา
เจ็ดทิวา ราตรี จำปีลาว


		รสสุคนธ์ กุหลาบหิน กระถินเทศ
		การะเกด หน้าวัว ดอกบัวขาว
		มะลิลา ผกากรอง ช่อทองกวาว
		แต้วคัดเค้า สัตตบรรณ หิรัญญิการ์


กุหลาบหิน ดินเป็ดทราย สายน้ำผึ้ง
พฤกษ์พลับพลึง ชมนาด วาสนา
ชะลูดช้าง มังดาน สบันงา
สร้อยสุมา มหาหงส์ ทรงบาดาล


		ตะลุมพุก พะยอม หอมหมื่นลี้
		ราชาวดี ชวนชม นมสวรรค์
		พุทธชาด กรรณิการ์ ลดาวัลย์
		เขล็งอัญชัญ ปันหยี ศรีตรัง


มะลิฉัตร อโศก โมกเดหลี
สร้อยมาลี สัตตบุษย์ พุดฝรั่ง
อินทนิล กระดุมทอง เข็มช้องนาง
ชะลูดช้าง สลัดได หีบไม้งาม


		หางนกยูง ยี่โถ โสนแก้ว 
		ปีบนมแมว พวงทอง พลองหมากหนาม
		เบญจมาศ ช่อชะมวง งิ้วพวงคราม
		ทั่วสยาม นามไม้ดอก มาบอกกัน..				
10 ธันวาคม 2552 20:19 น.

คบเพื่อน

สุนิพนธ์

คบเพื่อน

หากจะคบคนใดให้ดูหน้า
เหมือนซื้อผ้าดูเนื้อเพื่อใช้สอย
ต่อหน้าไหว้หลังหลอกกลับกลอกลอย
จงรีบถอยหนีห่างเลิกร้างรา


		คดในข้องอไว้ในกระดูก
		ปาไม่ถูกมะกอกงามสามตะกร้า
		เหมือนน้ำกลิ้งวิ่งวนบนบอนพา
		เจรจาปราศรัยใจเชือดคอ


หน้าเนียนเนื้อเสือในซ่อนใส่เล็บ
เผลอกัดเจ็บเหน็บหนาวร้าวทรวงศอ
พวกปากหวานก้นเปรี้ยวเกรี้ยวด่าทอ
จำใจขอกรวดน้ำคว่ำขันลง


		คบคนพาลพานพาหาสิ่งผิด
		คบบัณฑิตคิดดีที่ประสงค์
		หลบเป็นปีกหลีกหางเข้าทางตรง
		อย่าเจาะจงพิมเสนเว้นแลกเกลือ


คบไม่ได้ไปวัดตัดหางปล่อย
ให้ล่องลอยเลือนรางไร้หางเสือ
ไมตรีต้องมองซึ้งน้ำพึ่งเรือ
ถ้อยทีเอื้อถ้อยวาจาอาศัยกัน


		เพื่อนกินง่ายหลายหลากมากเหลือล้น
		เข้าตาจนจากไกลไม่เหหัน
		เพื่อนตายแทนแสนยากฝากชีวัน
		ควรยิ่งนั้นหมั่นฝึกฝนพึ่งตนเอง				
8 ธันวาคม 2552 14:54 น.

ความสงบ

สุนิพนธ์

ความสงบ

บึงกว้างใหญ่ไร้คลื่นทะมึนนิ่ง
สรรพสิ่งเงียบงันจนหวั่นไหว
เหม่อมองปลาโผล่มุดผุดแต่ไกล
ริ้วน้ำไล่แลเห็นเป็นวงกลม
						มวลแมกไม้ต่างหงอยพลอยสงบ
	อากาศอบอ้าวร้อนซ้อนผสม
	ยินสำเนียงเพลงแว่วแผ่วลอยลม
	ทุกข์ระทมรุมเร้าแผดเผาทรวง
				
ฟ้าสลัวมัวหม่นเหมือนคนเศร้า
เปลี่ยวใจเหงาอ้างว้างกลางดงหลวง
ละล่องลอยเคว้งคว้างตามทางดวง
สุดจะห่วงหัวใจของใครกัน
						อนิจจาความคิดจิตมนุษย์
	ยากยิ่งสุดหยั่งลึกเกินนึกฝัน
	น้ำทะเลคะเนดูรู้เทียบทัน
	ใจคนนั้นเดาได้ไม่มีทาง
				
ปล่อยอารมณ์ฝากไม้พงศ์ไพรพฤกษ์
นั่งตรองตรึกหวนย้อนตอนหม่นหมาง
ใช้อดีตกรีดกร่อนแล้วผ่อนวาง
ชำระล้างแผลใจให้ลืมเลือน
						อาศัยความเงียบสงบสยบสู้
	ผิดเป็นครูส่องสาดคมบาดเฉือน
	รู้เหตุผลเป็นไปไว้คอยเตือน
	เปรียบเสมือนสติมาปัญญามี				
7 ธันวาคม 2552 20:29 น.

รำพึงถึงท้องทุ่ง

สุนิพนธ์

รำพึงถึงท้องทุ่ง

เคียวถูกเก็บเหน็บฝาคราก่อนนั้น
เนิ่นนานวันจนเห็นเป็นสนิม
ไร้รอยเกี่ยวเหนี่ยวคมมาชมชิม
เหมือนถูกทิ่มแทงใจให้ร้าวราน

		ควายเคยเลาะเล็มหญ้าคันนานอก
		โคลนกระฉอกปลักดินกลิ่นผสาน
		ช่วยคลายร้อนผ่อนล้าทิวาวาร
		เหลือเพียงม่านหมอกเมืองชำเลืองแล

ต้นข้าวครึ้มสดเขียวใบเรียวลู่
หอยปลาปูว่ายแหวกทำแถกแถ
ผักปุ่มปลาผักแว่นเป็นแผ่นแพ
มองชะแง้ไม่มีเหมือนที่เคย

		คันไถแขวนข้างเสาแทบเก่ากรอบ
		ไซดักลอบกุ้งปลาชาเมินเฉย
		ถูกทอดทิ้งเดียวดายคล้ายละเลย
		สุดเอื้อนเอ่ยออกไปให้ใครฟัง

สิ้นสูญแล้วรวงทองเรืองรองรุ่ง
ทั่วท้องทุ่งจรุงรินกลิ่นมนต์ขลัง
ไร้ฟ่อนฟางเหลืองลออของตอซัง
เหลือแต่หลังคาเรือนให้เยือนยล

		บ้านจัดสรรแทนที่มีหลายหลาก
		ไม่เหลือซากรอยอดีตผลิตผล
		ทุ่งนากว้างกลับเห็นเป็นชุมชน
		ล้วนผู้คนแตกต่างอ้างว้างใจ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนิพนธ์
Lovings  สุนิพนธ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนิพนธ์
Lovings  สุนิพนธ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุนิพนธ์
Lovings  สุนิพนธ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุนิพนธ์