8 ธันวาคม 2553 22:02 น.

บันไดนาคราช (โคลงสี่สุภาพ)

สุริยันต์ จันทราทิตย์


     ๏ กางขนดแผ่แม่เบี้ย.....พังพาน

มาเนิ่นนับกัปป์กาล.............แช่มช้า

ลุอดีตวันวาร.......................เรืองโรจน์

เข้าสู่ช่วงโรยล้า...................แห่งห้วงปัจจุบัน

     ๏ ในฝันหากเจิดจ้า........แจ่มฝัน

หวนกลับค่ำคืนอัน...............อะเครื้อ

ม่านสายแต่ปางบรรพ์..........รวยรุ่ม

จุดชนวนฉากเชื้อ................จิตให้จินตนา

     ๏ นคราอันอ่าโอ้..............เกรียงไกร

ยืนยิ่งยศวิไล.......................ยิ่งฟ้า

เพชรน้ำหนึ่งเนาว์ใน...........แผ่นภพ

งามจับงามจบหล้า.................ภาคพื้นนครทอง

     ๏ แดดส่องอาบเอิบไล้......ทาบทา

นาคราชศิลา.........................เปลี่ยวร้าง

เหนือท่ามกาลเวลา................ตระหง่าน

ใครช่างปูนแปงสร้าง.............เสกให้ใจหลง๚๛

				
18 พฤศจิกายน 2553 19:30 น.

อนุทินเดือน ๑๒ - วันขึ้น ๑๕ ค่ำ

สุริยันต์ จันทราทิตย์


     ๏ เดือน ๑๒ น้ำทรงคงเต็มฝั่ง
					
ยังล้นหลั่งคุ้งแควกระแสสินธุ์

ยังไหลล้นชลธารละลานริน
						
ดั่งจะกลืนผืนดินธรณี

     ๏ จับเจียนจีบใบตองทดลองเย็บ
					
แล้วกลัดเหน็บมุ่งหมายเป็นบายศรี

ประดับด้วยบุปผาร้อยมาลี
						
เป็นกระทงลงพลีแม่คงคา

     ๏ เพราะพระแม่ทรงคุณการุณย์ยิ่ง
					
ลูกได้อิงอาศัยใช้ถ้วนหน้า

ด้วยจิตน้อมกตัญญูจึงบูชา
						
ขอขมาบวงสรวงหากล่วงเกิน

     ๏ พร้อมลอยทุกข์ขุกเข็ญเข่นใจเศร้า
					
ที่เร่งเร้ารุมรัดจนขัดเขิน

ลอยหัวใจพ่ายแพ้แย่ยับเยิน
						
ที่เขาเมินหมองหมางอย่างห่างไกล

     ๏ ลอยทุกข์โศกโรคภัยความไข้เจ็บ
					
ที่กลืนเก็บเกินทนจนหม่นไหม้

สิ่งไม่ดีทั้งหลายจงหายไป
						
ขอปล่อยในกระทงลอยคงคา

	๏ จุดธูปเทียนส่องใจส่องไฟฝัน
					
ตั้งจิตมั่นมุ่งมาดปรารถนา

ก่อนกระทงลอยล่องท่องธารา	

เหลือบประสานสายตาดวงหน้านวล๚๛


				
9 พฤศจิกายน 2553 18:47 น.

ฆาตกรที่รัก

สุริยันต์ จันทราทิตย์


     ๏ ให้หมดลมหายใจไปช้าช้า
					
ไม่ต้องเวทนามาสงสาร

ยอมทนแบกรับกรรมช้ำกับการ
						
ทรมานอกหักรักข้างเดียว

     ๏ ให้หมดลมหายใจไปช้าช้า
					
ไม่ต้องเวทนามาแลเหลียว

ตายไปพร้อมอดีตอันซีดเซียว
						
ที่กุมเกี่ยวคืนวันฝันหมดไฟ

     ๏ ดับลมหายใจนี้ทีละน้อย
					
ที่ขัดค่อยย่อยยับกับวันใหม่

ที่แผ่วเบาเปล่าเชื้อรักเจือใจ
						
จนร้างไร้กำลังสิ้นวังชา

     ๏ ดับลมหายใจนี้ทีละน้อย
					
ที่ขัดค่อยย่อยยับลงกับหน้า

เมื่อสูญสิ้นความหมายในสายตา
						
คงไร้ค่าความหมายในสายใย

     ๏ ฆาตกรที่รักจักเซ่นสรวง
					
ด้วยใจที่ถูกลวงจนกลวงไหม้

กับฮึดเฮือกสุดท้ายลมหายใจ
						
พร้อมน้ำรินท้นไหลเอ่อนัยน์ตา๚๛

				
28 ตุลาคม 2553 22:23 น.

รอดาวดวงริ้วร่วงฟ้า (กลบทหงส์สะบัดปีก)

สุริยันต์ จันทราทิตย์


     ๏ พราวลมพัดลมพราวจนหนาวสั่น
					
คืนค่ำอันค่ำคืนดาวดื่นใส

วาววับวิบวับวาวสกาวใจ
						
อาบเอิบไล้เอิบอาบซาบซึ้งทรวง

     ๏ กล้าแสงโชนแสงกล้าพร่าพรายพร่าง
					
สุกส่องช่างส่องสุกลุกโชติช่วง

สานสอดแซมสอดสานแสนล้านดวง
						
เห่กล่อมห้วงกล่อมเห่ทะเลดาว

     ๏ ใจที่ล้าที่ใจได้แช่มชื่น
					
ค่ำคราคืนคราค่ำร่ำลมหนาว

เอื้ออุ่นไออุ่นเอื้อเรื่อแสงพราว
						
คลายขวัญร้าวขวัญคลายหายทุกข์ทน

     ๏ หวังสักวันสักหวังในครั้งหนึ่ง
					
ดวงดาวถึงดาวดวงริ้วร่วงหล่น

ในกุมมือกุมในใจของตน
						
ให้หนึ่งฅนหนึ่งให้ได้ชิดเชย

     ๏ แต่ได้เอื้อมได้แต่แค่คว้าไขว่
					
ห่างอีกไกลอีกห่างอย่างเหลือเอ่ย

ดวงดาวไร้ดาวดวงริ้วร่วงเลย
						
ฝันเหมือนเคยเหมือนฝันไร้วันจริง๚๛

				
27 ตุลาคม 2553 20:58 น.

ไข้

สุริยันต์ จันทราทิตย์


     ๏ เหมือนจะเป็นไข้
					
หัวใจมันสั่น

ยามนึกถึงกัน
						
คราฝันถึงเธอ
	
     ๏ ได้แต่เพ้อพก
					
อก ฤ ก็เก้อ

เฝ้าใฝ่ละเมอ
						
เผลอลืมหายใจ
	
     ๏ ฟุ้งซ่านเพราะฤทธิ์
					
จิตสะท้านไหว

ป่วนมนใน
						
ให้ทุกข์ระทม
	
     ๏ สุขและก็เศร้า
					
เคล้า ฤ ผสม

หวานซ่านอารมณ์
						
ขมฤดิดวง
	
     ๏ จะเวลาไหน
					
ใจก็นึกห่วง

ล้นระดะทรวง
						
ตกบ่วงความรัก๚๛

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุริยันต์ จันทราทิตย์
Lovings  สุริยันต์ จันทราทิตย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุริยันต์ จันทราทิตย์
Lovings  สุริยันต์ จันทราทิตย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสุริยันต์ จันทราทิตย์
Lovings  สุริยันต์ จันทราทิตย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสุริยันต์ จันทราทิตย์