24 พฤศจิกายน 2547 08:58 น.

ไอ้ลูกหมา

หมอกจาง

เช้านี้ลมหนาวพัดมาแต่เช้า..
พ่อเฒ่าตื่นตั้งแต่ยังไม่รุ่ง ง่วงงุนอยู่บ้างเล็กน้อย เมื่อคืนแกนอนไม่ค่อยจะหลับนัก พลิกไปพลิกมาตลอดทั้งคืน  แกนึกๆอยู่ว่าแกคงจะแก่เกินกว่าที่จะนอนนานๆได้ เหมือนคำโบราณที่เขาว่าคนแก่นั้นมักจะนอนน้อย เพราะรู้ตัวว่าเหลือเวลาใช้ชีวิตอีกไม่มากนัก 
ปีนี้แกก็ย่างเข้าหกสิบแล้ว..
ตั้งแต่แกตื่นมา แกก็หุงหาข้าวไว้กินตามประสา เมียแกตายไปเมื่อห้าปีก่อน ไอ้ลูกหมา ลูกชายคนเดียวของแกก็ทำงานอยู่กรุงเทพ บ้านหลังนี้จึงเงียบ แรกๆแกก็เหงาอยู่ ด้วยเคยพร้อมหน้าทั้งลูกทั้งเมีย แต่พอนานเข้าแกก็ชิน แม้ว่าวันๆนึงจะผ่านไปเหมือนกับวันก่อนๆ แกก็ไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร ความสุขของแกอยู่กับวันวานและวันพรุ่งต่างหาก..
แกใช้เวลาหมดไปวันๆกับการจักสาน สานเข่ง สานตะกร้า กระบุง ได้พอสมควรก็เอาขึ้นรถประจำทางเข้าไปส่งร้านในเมืองเสียทีหนึ่ง บางทีก็มีเพื่อนบ้านมาขอให้สานโน่นสานนี่ให้ แกก็มักทำให้เขาเปล่าๆไม่คิดเงิน ยามที่ลูกชายแกรู้และทักท้วงแกก็มักเตือนลูกยิ้มๆ
เอ็งก็อย่าตีอะไรเป็นเงินเป็นทองไปเสียหมดสิ คนกันเองทั้งนั้น
จริงๆแกก็รู้ ว่าไอ้ลูกหมาของแกไม่ใช่คนเห็นแก่เงินหรอก มันห่วงพ่อมันต่างหากว่าจะโดนเขาเอาเปรียบ

วันนี้แกก็ลงมาสานตะกร้าอยู่ใต้ถุนบ้านเช่นทุกวัน แม่ไก่พาลูกไก่สี่ห้าตัวคุ้ยหาโน่นนี่กินอยู่ตามโคนเสาเรือน ไอ้บิ๊กหมาสีกระดำกระด่างโดดลงมาจากแคร่ ส่งเสียงงื้ดง๊าดดีใจ
ไอ้บิ๊กนี่ลูกชายแกเอามาเลี้ยงไว้ตั้งแต่กลับจากเกณฑ์ทหารนั่นแหละ  ตอนนั้นไอ้บิ๊กยังเป็นลูกหมาอยู่เลย
หมาที่กองพันมันออกลูกน่ะพ่อ ผมเลยเอามาตัวนึง เผื่อเอาไว้เฝ้าบ้าน
ลูกของแกห่วงบ้าน ห่วงพ่อ ห่วงแม่มันเสมอ

ตั้งแต่มันยังเล็กๆครั้งแกกับเมียยังรับจ้างเขาทำไร่อยู่ เวลาวันไหนงานยุ่งๆ แกกลับเย็นกลับค่ำ ไอ้ลูกหมามันจะไปนั่งรอแกที่ไร่ จนเพื่อนคนงานด้วยกันแซว
อ้าว รีบเข้าน้าลอง ลูกมารอแล้ว
หิวข้าวหรือยังลูก ถ้าเมียแกตระโกนถามอย่างนี้ไอ้ลูกหมามันมักส่ายหัวว่าไม่หิว บอกให้มันกลับบ้านไปกินก่อน มันก็ยืนกรานว่า
ไม่หิว
แกรู้ว่ามันหิว เพราะทุกครั้งที่กลับถึงบ้านมันแทบจะกระโจนเข้าใส่ชามข้าว แต่มันจะต้องรอกินข้าวกับพ่อกับแม่มัน ทุกครั้ง ทุกมื้อ
ครั้งแรกๆที่มันไปรอแกกับเมียทำงาน พอเมียแกถามว่าหิวข้าวไหม ไอ้ลูกหมามันบอกว่าหิว แกกับเมียก็เร่งมือ จนเกิดพลั้ง มีดตัดอ้อยบาดมือแกเป็นแผลยาว
.. ตั้งแต่วันนั้น ไอ้ลูกหมามันไม่เคยหิวอีกเลย..

มือแกสานตะกร้าไป ใจแกก็คิดถึงลูกแกไป เรื่องโน้น เรื่องนี้ เป็นอย่างนี้ทุกวัน..

ไอ้ลูกหมามันไม่ใช่เด็กเรียนเก่งหรอก หัวมันค่อนข้างทึบ ชอบที่จะออกไปหาปูหาปลาตามประสาของมันเสียมากกว่า ถึงมันจะเรียนไม่เก่ง แต่ครูและเพื่อนๆก็รักมันกันทุกคน มันเป็นเด็กมีน้ำใจ ใครใช้ใครวานอะไรไม่เคยเกี่ยง ถ้าจะมีคนนึงที่ไม่ชอบใจไอ้ลูกหมาของแกนัก ก็คงจะเป็นครูใหญ่นั่นแหละ ครูใหญ่ชอบเด็กเรียนเก่ง เขียนหนังสือสวย ไอ้ลูกหมามันเรียนไม่เก่ง เขียนหนังสือไม่สวย เวลาครูใหญ่ให้คัดลายมือไปส่ง ไอ้ลูกหมาจะโดนตีประจำ
เอ็งจะได้เรียนเก่งๆ เขียนหนังสือสวยๆไง แกจะปลอบลูกอย่างนี้เสมอ เวลาที่รู้ว่าลูกถูกครูตีมา
แกเคยแวะไปหาลูกที่โรงเรียนหนหนึ่ง เพราะไอ้ลูกหมามันลืมกล่องข้าวกลางวัน แกไปเห็นตอนที่ครูใหญ่ตีลูกแกพอดี เงื้อไม้เหมือนจะตีให้ตาย เสียงไม้กระทบเนื้อลูกสะท้อนในอก แกไม่เคยนึกเลยว่าการคัดลายมือไม่สวยจะเป็นความผิดร้ายแรงถึงเพียงนี้
.. แกกลับมานั่งร้องไห้สงสารลูกอยู่ที่บ้านพักใหญ่

ไอ้ลูกหมามันเรียนแค่ ป.6 มันก็เลิก ด้วยคงเข็ดไม้เรียวและเห็นว่าเอาดีทางนี้ไม่ได้ ออกจากโรงเรียนมา มันก็ช่วยแกรับจ้างทำไร่ ได้เงินมาเท่าไรมันก็ให้แกกับเมียหมด แกบอกให้มันเก็บไว้มั่ง ไอ้ลูกหมามักจะบอกว่า
เดี๋ยวค่อยขอเวลาจะใช้ 
แต่มันก็ไม่เคยขอ จนรุ่นหนุ่มนั่นแหละ ที่มันไปชอบพอกับลูกสาวข้างบ้าน มันถึงกระมิดกระเมี้ยนมา
แม่ขอตังค์สักหน่อย
เอาสิ เอาไปทำไมล่ะลูก เมียแกถาม
ไปเที่ยวงานวัด
ไปกับใครหรือ เมียแกถามเรื่อยๆไปอย่างนั้นเอง มือก็หยิบเงินส่งให้ลูก
มาลัย เสียงงุบงิบตอบ
ใครนะ 
มาลัย คราวนี้ดังขึ้นมานิด หน้าแดงจรดต้นคอ แกเลยรู้ว่าไอ้ลูกหมามันมีความรัก

ถึงวัยเกณฑ์ทหาร ไอ้ลูกหมามันจับได้ใบแดง มันต้องไปเป็นทหารอยู่สองปี นั่นเป็นครั้งแรกที่แกต้องห่างลูก แกรู้สึกใจหาย แต่ไม่ได้พูด เมียแกก็คงเหมือนกัน ทุกครั้งที่ไอ้ลูกหมากลับมาบ้าน ข้าวปลาอาหารจะพร้อมสรรพ์กว่าทุกวัน เวลาถามว่าอยากกินอะไร ไอ้ลูกหมาในชุดทหารมันมักจะขอให้แม่ตำน้ำพริกให้กิน
คิดถึง มันมักพูดตอนตักข้าวคลุกน้ำพริกเข้าปาก
.. แกรู้ว่ามันไม่ได้คิดถึงน้ำพริกแม่มันหรอก แต่มันคงเก้อที่จะบอกว่า มันคิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อคิดถึงแม่..
ทุกครั้งที่แกเห็นลูกในชุดทหารแกจะรู้สึกว่ามันโก้เต็มประดา ทั้งที่ความจริงลูกแกเป็นแค่พลทหารเท่านั้นเอง

ออกจากทหาร ไอ้ลูกหมามันบอกจะเข้ากรุงเทพ
ไม่กลับมาอยู่บ้านล่ะลูก ช่วยกันทำมาหากินนี่แหละ ไปทำไมกรุงเทพ แกถาม
ไอ้ลูกหมาบอกว่าจ่าทหารที่สนิทกับมันจะลาออกไปอยู่บริษัทยาม ชวนมันไปทำด้วย ได้เงินดี มันบอกจำนวนเงินมา แม้จะไม่เยอะนัก แต่ก็มากโขอยู่สำหรับครอบครัวแก
อือ ตามใจ แกบอกสั้นๆ จริงๆแกอยากให้ลูกอยู่ใกล้ๆมากกว่า

ไอ้ลูกหมามันส่งเงินมาให้แกกับเมียใช้ทุกเดือน แกรู้ว่ามันส่งมาเกินครึ่งของเงินเดือนมัน แกบอกให้มันเก็บไว้บ้าง แต่มันยืนยันว่าพอใช้
กินข้าวที่บริษัท นอนที่บริษัท ไม่ต้องใช้เงินหรอก ไอ้ลูกหมามันว่า
มันทำงานสักพัก เมียแกก็ตาย ไอ้ลูกหมามันร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร  มันว่ามันยังไม่ได้บวชให้แม่เลย

หลังจากนั้น ไอ้ลูกหมามันขอให้แกเลิกทำงานรับจ้าง อยู่กับบ้านเฉยๆ เดี๋ยวมันจะเลี้ยงเอง  เงินที่มันส่งให้ แกอยู่ได้สบายๆไม่ขัดสน แต่ว่างนักแกก็เบื่อ เลยสานโน่นสานนี่ไปตามเรื่องตามราว

ปีๆนึง ไอ้ลูกหมามันได้กลับบ้านไม่กี่ครั้ง ปีใหม่ สงกรานต์มันก็ไม่ได้กลับ มันบอกว่าช่วงนั้นคนทำงานมีน้อย ใครทำช่วงนั้นได้เงินดี มันมักกลับต้นๆธันวาแทนปีใหม่ของทุกปี แรกๆแกก็ไม่ได้สังเกต ตอนหลังแกเพิ่งเอะใจ ว่าไอ้ลูกหมามันกลับมาทุกวันพ่อ

เมื่อไรเอ็งจะเอาเมีย แกเคยถามลูกชาย
ไว้เก็บเงินเก็บทอง ให้แน่ใจว่าพ่ออยู่สบายก่อนค่อยคิด มันว่าอย่างนั้น แกก็ได้แต่ลูบหัวลูก
เอ็งไม่ต้องห่วงพ่อหรอก แกพูดไปทั้งรู้ว่ามันคงไม่ฟัง..

นี่ย่างเข้าปลายพฤศจิกาแล้ว อีกสักสองอาทิตย์ไอ้ลูกหมาคงกลับมาบ้าน แกสานตะกร้าไป ยิ้มไป
ลุงลอง ลุงลอง เสียงเรียก ระคนเสียงเห่าของไอ้บิ๊ก ยายไหมคนข้างบ้านวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามา
ไอ้ดำลูกลุงมันชื่ออะไร ไอ้ดำเป็นชื่อเล่นที่ใครๆเรียกไอ้ลูกหมาของแก
พอแกบอกชื่อจริงไป ยายไหมทำท่าเหมือนจะเป็นลม
หนังสือพิมพ์บอกมันโดนยิงตายเมื่อคืน 
..ทุกอย่างเหมือนหยุดลงฉับพลัน แกไม่รู้สึกอะไร ทุกอย่างกลับกลายเป็นความว่างเปล่า ความว่างที่เย็นเยียบ หนาวในลมหนาวเหมือนจะแทรกวาบเข้าไปในไขสันหลัง
แกรับหนังสือมาด้วยมือสั่นเทา  แกพยายาม แต่แกมองหาข่าวนั้นไม่เจอ อะไรต่อมิอะไรดูเบลอไปหมด ยายไหมต้องชี้ให้ดู นั่นรูปไอ้ลูกหมาบนหนังสือพิมพ์ ยายไหมแกชี้ไปพลางเล่า..

..แกจับความได้ว่า ไอ้ลูกหมาของแกไปเป็นยามอยู่ที่หมู่บ้านหรู แล้วเกิดไปมีเรื่องกับลูกคนใหญ่คนโตเข้า ด้วยว่ามันขอตรวจค้นรถเขาตามระเบียบของทางหมู่บ้านที่ต้องตรวจค้นรถแปลกปลอมทุกคันที่เข้าออก มันก็แค่ทำตามระเบียบของมัน แค่นั้นเอง แต่ลูกชายผู้กว้างขวางไม่พอใจ หาว่าไม่ให้เกียรติ เลยวนรถกลับแล้วชักปืนออกมายิงไอ้ลูกหมาของแกตาย..

ลุงๆ เป็นอะไรหรือเปล่า ยายไหมเพื่อบ้านสะกิดเรียกเมื่อเห็นแกนั่งนิ่ง ไม่ร้องไห้ ไม่ฟูมฟาย
แกเบือนหน้าหลบไปอีกทาง เงยขึ้นมองฟ้า เม้มปากกลั้นเสียงอะไรก็ตามที่จะลอดออกมา แกส่ายหัวไปมาน้อยๆ น้ำตาไหลลงเป็นทาง
    ..ทำไมถึงกับต้องฆ่าต้องแกงกันด้วยนะ.. 
     แกได้แต่คิด ได้แต่ไม่เข้าใจ

คนที่สำคัญที่สุดที่เหลืออยู่ในชีวิตของแก มีค่าเพียงแค่นั้นเองหรือในสายตาคนอื่น ค่าน้อยจนพร้อมจะถูกยิงทิ้งได้ทุกเมื่อด้วยสาเหตุเล็กๆเพียงเท่านั้น..

.. แกคิดถึงไอ้ลูกหมาของแก วันพ่อนี้แกคงได้แค่กอดกระดูกมัน..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมอกจาง
Lovings  หมอกจาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมอกจาง
Lovings  หมอกจาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมอกจาง
Lovings  หมอกจาง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหมอกจาง