27 สิงหาคม 2549 20:18 น.

ความฝัน ( Dream ) ภาคที่ 1 – ความฝัน

หมอกจาง

  

บนรถประจำทางที่ค่อนข้างโล่ง ฟ้าด้านนอกครึ้มหม่นด้วยยามเย็น เมฆเทาหนาทึบคลุมฟ้าจนทั่ว 

ผมนั่งฟังบทเพลงของวง Rolling Stones มองเมืองผ่านกระจกหน้าต่างรถประจำทาง

เหมือนกับว่าผมกำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า โดยมีเมืองวิ่งผ่านไปที่ด้านนอก แต่ถ้ามองกันจริงๆแล้ว  ผมไม่ได้เคลื่อนไปไหนเลย

ผมยังคงอยู่บนเบาะนั่งตัวเดิม ห่างจากคนขับราวๆ 3 เมตรเช่นเดิม

อยู่บนลูกล้อสี่ล้อ ที่หมุนวนเป็นวง ซ้ำๆรอยเดิม..



ในยามเย็นที่ความมืดค่อยๆเคลื่อนคลุม บ่อยครั้งที่ผมหลอกตัวเองว่านี่คือยามเช้าที่กำลังรอคอยดวงตะวัน..

แม้จะรู้ว่าเป็นการหลอกตัวเอง ให้มีความสุขได้แค่ชั่วครึ่งชั่วค่อนชั่วโมง แต่ก็ยังดี ที่ยังมีได้ความสุขบ้าง

ผมเกลียดกลางคืน กลางคืนทำให้ผมฝัน

ผมเกลียดความฝัน 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง.. ความฝันที่ค้างคา


.......................................................

มีปัญหาความรักนะ สลัดเค้าเท่าไหร่ก็ไม่หลุด แม่หมอยิปซีบนหมู่บ้านเยอรมันที่อยู่บนยอดเขาทักหลังจากเปิดไพ่ หมู่บ้านนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเมือง ผมมักขึ้นมาเที่ยวในยามที่เหนื่อยหน่ายกับชีวิต และเบื่อหน่ายที่จะไปทะเล

เรื่องการเรียนล่ะ ผมย้ำถามเรื่องเรียน เพราะไม่ได้อยากรู้..เรื่องที่รู้อยู่แก่ใจ

เรียนไม่มีอะไร เรื่อยๆ เรื่องความรัก เด่น ไพ่ขึ้นแต่เรื่องนี้ แกงึมงำ ไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง

ฝันถึงเขา แต่กระทั่งในฝันก็ไม่ยอมเห็นหน้าเขา ไม่ยอมให้ตัวเองพบเขา ใช่มั๊ย ?

สะดุ้งเฮือกเพราะถูกจี้ใจดำ..


ผมนอนไม่หลับมากี่คืนแล้วล่ะ ?

เป็นเดือนแล้วมั้ง ?

ผมไม่กล้าหลับ ทุกครั้งที่เผลอหลับ จะฝันถึงใครคนหนึ่งเสมอ คนที่อยากเจอแทบขาดใจ

แต่กระทั่งในฝันทุกครั้ง ก็เฉียดไปเฉียดมา ไม่เคยได้เจอ

แล้วก็ตื่นขึ้นมา พร้อมกับควา่มรู้สึกโหยหาอย่างรุนแรงทุกทีไป
.
.
.
ดูดวงเสร็จ จ่ายเงินเสร็จ แม่หมอแกคว้ามือผมไว้ ยื่นขวดยาเล็กๆมาให้

ในนั้นมียาลูกกลอนเม็ดเท่าหัวแม่มือเม็ดนึง

เอาไป

ยาอะไรยาย

ยาควบคุมฝัน เสียงดูลี้ลับประหลาดจนผมรู้สึกเย็นวาบ 

กินก่อนนอน ฝันอยู่จะรู้ตัว คุมมันได้ อยากให้เป็นยังไงก็ได้

ฝันมันควบคุมกันได้ด้วยเหรอ ผมไม่เชื่อ ไม่เคยได้ยินมาก่อน

ได้สิ แกผงกหัวช้าๆ ในฝันเธอ จริงๆแล้วทุกคนในนั้นมันถูกสร้างมาจากความคิดของเธอเองทั้งนั้นแหละ

ถ้าเธอรู้ตัว เธอก็ควบคุมมันได้


...........................................

ผมได้ยานั้นมาอาทิตย์นึงแล้ว

ผมไม่กล้าลองกินมัน

สามสี่คืนที่ผ่านมา ผมฝันถึงเธอคนนั้นตลอดสามสี่คืน

ไม่เห็นหน้าเธอเหมือนเดิม

ยิ่งมากคืน ความโหยหายิ่งรุนแรง

ผมอยากเจอเธอสักครั้ง แม้แต่ในฝันก็ตามที

ผมแบ่งยาออกครึ่งเม็ด กินก่อนนอน

.........................................

ในฝัน 


ผมเจอเพื่อนเธอ

ถามไถ่ข่าวคราวเธอเหมือนทุกครั้งที่เคยฝัน

เพื่อนเธอบ่ายเบี่ยงว่าเธอไม่อยู่ เดี๋ยวถ้าเธอกลับมาจะบอกให้เธอติดต่อหาผมเอง

ถ้าเป็นทุกครั้ง ผมจะยอมจากมาอย่างโดยดี อย่างผิดหวัง

แต่ครั้งนี้ อะไรบางอย่างบอกผมว่า ไม่ใช่ ผมต้องเจอเธอได้ ผมควบคุมเรื่องราวได้

พี่จะรอเจอเอม นิด จะนานก็ช่าง พี่จะรอ เพื่อนเธอมีสีหน้าไม่สบายใจ หงุดหงิดรำคาญ

แต่ผมก็ดื้อดึงที่จะยืนอยู่ตรงนั้น

ลมเย็นของยามดึก ดอกไม้สีขาวทิ้งกลีบหล่นจากต้น อากาศเจือกลิ่นหอม

ผมคุ้นเคยกับฉากแบบนี้จัง..
.
.
.

เธอมาแล้ว

ผมเห็นเธอเดินมาไกลๆ

ผมรอด้วยใจที่เต้นแรง รอให้เธอเดินมาถึง แต่เธอก็เดินมาไม่ถึงเสียที..

ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหา

แต่ไม่ว่าเดินสักเท่าไหร่ ระยะห่างระหว่างเราก็เท่าเดิม..

นี่ผมไม่มีทางได้เจอเธอจริงๆรึ ? แม้กระทั่งในฝัน ?


ผมสะดุ้งตื่น

ควานหยิบยาอีกครึ่งเม็ดกลืนลงไปทันที แล้วบังคับตัวเองให้นอนต่อ
.
.
.
ผมเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่ง

เหมือนเธอเห็นผม พยายามจะหันหลังวิ่งหนี

แต่ในที่สุดผมก็วิ่งจนทันเธอ คว้าแขนเอาไว้ได้..


เอม หนีพี่ทำไม เสียงนั้นปวดร้าวจนผมแปลกใจตัวเอง

พี่จะเจอเอมอีกทำไมล่ะ เรื่องของเราจบแล้วไม่ใช่รึ?

นั่นสิ.. ผมจะเจอเค้าทำไมนะ ผมเปลี่ยนแปลงอะไรได้หรือ

ผมมองหน้าเอม หน้านั้นเปื้อนน้ำตา ตานั้นหวั่นไหว หวั่นไหวเหมือนครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ผมเคยเห็น

พี่ไม่รู้ว่าจะเจอทำไม แต่พี่อยากเจอ พี่ดีใจที่ได้เจอ.. แปลกนะ ถึงเวลา ผมกลับพูดอะไรไม่ออก

น้ำตาบนหน้าสวยร่วง..

เอมก็อยากเจอพี่

ชื่นใจแล้ว

.
.
.
.
ในฝัน

ผมคุยกับเอมอยู่นาน

เอมมีคนใหม่แล้ว ผมไม่แปลกใจ แต่เจ็บแปลบในอก

ผู้หญิงสวยขนาดเอม นิสัยน่ารักอย่างเอม ไม่มีใครเข้ามาในชีวิตสิถึงจะแปลก

และเค้าก็ไม่หลงเหลืออะไรให้รอผมแล้วด้วย


จะแต่งงานปลายปีนี้ เอมพึมพำบอก

อื้อ ผมพยักหน้ารับรู้ พี่คงไม่ไป ขอให้มีความสุขนะ สุขตลอดไป..

พูดพลางน้ำตาซึมพลาง

เอมเองก็น้ำตาร่วงอีกหน

ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ผมพูดคำนี้กับเธอ

แต่ครั้งนี้.. คงเป็นครั้งสุดท้าย

......................................


เช้าวันนั้น ผมตื่นขึ้นมากับความเศร้า

เป็นความเศร้าที่สงบ เย็น ไม่ฟูมฟาย ไม่โหยหา

ทั้งๆที่มันเป็นแค่ความฝัน แต่เหมืิอนอะไรบางอย่างระหว่างผมกับเอมมันได้จบไปแล้ว

อะไรที่เคยค้างคานั้น ไม่อยู่ที่เดิมอีกต่อไป..


ผมพร้อมแล้ว ที่จะเดินไปข้างหน้า

พร้อมที่จะยอมรับกับบางอย่าง 

ทิ้งความน่าจะเป็นทั้งหมด 

..ให้กลับกลายเป็นเพียงความเศร้าที่เยือกเย็น



				
4 สิงหาคม 2549 22:27 น.

สัญญา..

หมอกจาง

ในโลก มีเรื่องราวอยู่มากหลาย

ทั้งเรื่องที่ถูกเล่า และเรื่องที่ไม่ได้ถูกเล่า

บางครั้งบางครา เรื่องที่เคยถูกเล่า ก็อาจถูกหลงลืมไปกับกาลเวลา 

หลงลืมอยู่ตรงนั้น อยู่ตรงนี้..

เรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่เคยถูกเล่าและอาจเคยถูกหลงลืมไป

อย่าเพิ่งสนใจเลยว่าใครเป็นคนเคยเล่า และเล่าไว้ที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร..

คำพูดอาจหยาบกระด้าง อาจเพราะคนเล่าเป็นคนหยาบ หรืออาจเพราะผู้เล่าเขาเล่าให้กับเพื่อนที่สนิทชิดเชื้อฟัง น้ำเสียงน้ำคำจึงมิได้ระวังนัก

แต่ไม่ว่าจะเพราะเหตุใด..ก็ยังอยากที่จะเก็บมาฝาก..

เปิดโอกาส..ให้เรื่องมันได้เล่าตัวเองซ้ำอีกสักหน..



............................................


ตอนเด็กๆ กูเคยอยากได้ของเล่นชิ้นนึง เก็บเงินอยู่พักใหญ่เพื่อที่จะไปซื้อ ยอมอดขนม..

แม่กูรู้ว่ากูเก็บเงิน แต่ไม่รู้ว่ากูเก็บเพื่ออะไร กูยังไม่บอกแม่

พอวันที่จะไปซื้อ กูบอกแม่ว่ากูจะไปซื้อของอันนี้ๆนะ อยากได้มานาน แม่มีท่าทีไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ว่าอะไรเพราะเห็นว่ากูอุตส่าห์เก็บเงินเอง..

พอกูไปถึงร้านของเล่น กูนึกถึงแม่ คิดตามประสาเด็ก ว่าแม่คงไม่อยากให้กูเสียตังค์ที่เก็บมาไปกับของเล่น..

แล้วกูก็เหลือบไปเห็นที่จับสลากเป็นแผงๆ (มึงเคยเห็นกันใช่ป่ะ?) ที่จ่าย 1 บาท เลือกได้ 1 เบอร์ แล้วมีรางวัลเป็นของเล่น เป็นไพ่ เหล้า แบงค์10 แบงค์20


ถ้า่กูจับสลากได้เงิน กูจะเอาเงินไปซื้อของเล่น เอาเงินที่เก็บกลับไปอวดแม่ แม่คงดีใจ..



แต่มึงเชื่อมั๊ยว่าเงินทั้งหมดที่กูเก็บมาเกือบอาทิตย์หายไปกับไอ้สลากเหี้ยๆนั่นภายในเวลาไม่นาน..

ของเล่นกูก็ไม่ได้ เงินก็หมด ที่เหลือในมือ มีเพียงไพ่กระดาษหนึ่งสำรับเป็นรางวัลปลอบใจ

กูกลับไปหาแม่ ตีสีหน้ารื่นเริง.. บอกกูไม่เอาของเล่นที่บอกไว้แล้ว กูเอาไพ่มาแทน ดีกว่า ถูกกว่าด้วย..

กูคงมีพิรุธ ไม่เนียน อีกอย่างแม่ก็รู้จักกูดี ถามไปถามมาสุดท้ายกูก็ยอมรับ ว่ากูเอาเงินไปเล่นสลากจนหมด



แม่กูไม่พูด ไม่ด่า ไม่ตี

จำได้ว่าวันนั้นอากาศร้อนอบอ้าว

กูเห็นน้ำใสๆหยดลงมาข้างตาแม่ ไม่รู้ว่าเหงื่อ หรือน้ำตา

แม่พูดออกมาแค่คำเดียว

"ทำไมต้องโกหกแม่.."

กูเจ็บยิ่งกว่าแม่จะมาด่ามาตีกูเสียอีก..



กูจำได้ว่าวันนั้นกูสัญญากับแม่ ว่ากูจะไม่โกหกแม่อีกต่อไป

ตราบจนแม่ตาย กุไม่เคยผิดสัญญาแม้สักครั้ง..

กูสัญญากับตัวเองตั้งแต่วันนั้น ว่ากูจะไม่เล่นการพนันอีกเด็ดขาด

มันทำให้แม่กูร้องไห้..



จนถึงวันนี้.. กูก็ยังไม่เคยผิดสัญญา

--------------------- 				
3 สิงหาคม 2549 20:24 น.

ใบไม้ใบแรก

หมอกจาง


ต้นไม้แห้ง

มีแต่กิ่งก้าน ไม่มีใบ

เมื่อฤดูใบไม้ร่วงผ่านไป ฤดูหนาวจะตามมาเสมอ

ใบไม้ของเธอ..ร่วงไปนานแล้ว

และตอนนี้ เธออยู่ในฤดูหนาว..
.
.
.
.
กี่วันแล้วนะ

71 วันแล้วที่เธอไม่เจอเขา

71 วันแล้วที่ผู้ชายคนหนึ่ง ที่เธอรักมากที่สุด ได้เดินออกจากชีวิตของเธอไป

วันนั้นเป็นวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วง

วันนี้ เธอหนาว..
.
.
.
.
ฤดูหนาวที่นี่ บางวันฟ้าจะเต็มไปด้วยเมฆครึ้ม

ลมหนาวพัดแรง

บางปีจะมีฝน แต่ปีนี้ฝนน้อย

เธอซึมเศร้า เธอหดหู่

เธอโทษว่าทั้งหมดมันเป็นเพราะฤดูหนาว

บางที.. ถ้าแค่เพียงอากาศสดใสกว่านี้

มีใบไม้ผลิใบ มีดอกไม้

มีนกร้องเพลงอยู่ริมหน้าต่าง

เธอคงลืม เขา ได้ในไม่ช้า

เธอคงพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่และก้าวไปข้างหน้า

ถ้าเพียงแต่ฤดูหนาวนี้ผ่านพ้นไป
.
.
.
.
เธอรอคอย

ทุกๆวันที่เธอนับวัน เธอจะมองออกไปนอกหน้าต่าง

มองดูต้นไม้ต้นเล็กๆในสวนหลังบ้าน ที่เหลือแต่กิ่งก้าน

สักวัน..เมื่อมันผลิใบแรก

แทนสัญญาณแห่งฤดูใบไม้ผลิ

เมื่อนั้นเธอจะลืมเขาได้เสียที

เธอบอกกับตัวเอง
.
.
.
.
เธอเฝ้านับวัน

รอคอยการเริ่มต้นใหม่อย่างใจจดใจจ่อ

แต่เช้าจรดเย็น เฝ้ารอคอยใบไม้ใบแรก

ลมหนาวพัดเบาลง

อากาศอุ่นขึ้นทีละน้อย

แต่ใบไม้ใบแรกก็ยังไม่ผลิ

เธอยังคงจมอยู่กับความเศร้า
.
.
.
.
จนวันหนึ่ง ที่แดดจ้า อากาศอุ่นจนเกือบร้อน

เธอเหลือบดูปฏิทิน

น่าจะย่างเข้ากลางฤดูใบไม้ผลิแล้ว

ทำไม ใบไม้ยังไม่ผลิใบ ?

ทำไม เธอยังไม่หายเศร้า ?
.
.
.
.
เธอลุกออกจากเก้าอี้ริมหน้าต่าง

เดินออกไปยังสวนหลังบ้าน

เธอได้ยินเสียงนกร้อง

เธอได้กลิ่นดอกไม้

และเมื่อเธอเอื้อมือไปสัมผัสต้นไม้ต้นนั้น

ต้นที่เธอเฝ้ามองดูอยู่ทุกวัน

เธอก็ได้รู้..ว่าทำไมใบไม้ใบแรกถึงยังไม่ผลิ
.
.
.
.
ต้นไม้ต้นนั้นตายแล้ว..
.
.
.
.
นับแต่วันที่เขาจากไป

เธอก็ไม่เคยก้าวย่างออกไปยังสวนหลังบ้าน

เธอไม่เคยรดน้ำ ไม่เคยพรวนดิน ใส่ปุ๋ย

เธอไม่เคยลุกขึ้นลงมือทำอะไร

เธอได้แต่รอคอย

รอคอยใบไม้ใบแรก

รอคอยให้การเริ่มต้นใหม่มาถึง
.
.
.
.
เธอเพิ่งจะรู้ตอนนั้นเอง

ว่าเพียงแค่การรอคอย

บางครั้ง มันก็ไม่เพียงพอ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมอกจาง
Lovings  หมอกจาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมอกจาง
Lovings  หมอกจาง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟหมอกจาง
Lovings  หมอกจาง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงหมอกจาง