22 ธันวาคม 2545 08:36 น.

เติมใจให้กัน

อัลมิตรา

                     ~ ไฟโหม ~

๏ กองฟอนกลับฟู่ฟ้า..............เฟื่องไฟ
จุดแจ่มเจิดด้วยใจ.................แจ่มเจ้า
หนักอกหน่วงหนักไหน...........หงุบหง่อย หทัยพี่
ก็รื่นก็เริงเร้า........................เร่งเชื้อไฟโหม๚

- อักขระ อักษรศรัทธ์

******
 
...ไฟโหมแรงรุ่มร้อน.............หัทยา
ไฟแห่งริษยา........................ยับถ้อย
ไฟลามพุ่งเพียงมา.................มอดดับ ใจฤๅ
ไฟอักขระอย่าคล้อย...............คู่ข้างวรรณศิลป์ ฯ


...เพียงเติมใจแบ่งปันกันวันนี้
รจน์วจีกล่าวเอื้อนอย่าเบือนหาย
วรรณศิลป์สถิตย์แน่นแฟ้นหทัย
คงยากไฟมอดเฃื้อด้วยเกื้อกูล

...คำใดกล่าวรับกระทบกระทั่งจิต
ก็จงปิดกั้นไปจนกลายศูนย์
หากสดับรับถ้อยทวีคูณ
ใจจะจูนแต่คำเหน็บให้เจ็บตรม

...ลุกขึ้นเถิดพี่ชายของไอซ์จ๋า
อย่าระอาคำเขียนด้วยเจียนขม
รับทราบถึงเรื่องราวที่ระทม
ขออย่าบ่มวอนลบและกลบเบือน

...ด้วยชื่นชอบผลงานที่จารจรด
ช่างงามงดอักขระประดิษฐ์เหมือน
ดั่งแผ่นฟ้ายามราตรีมิมีเลือน
สถิตย์เดือนเคียงดารานภาพราว.. 

				
22 ธันวาคม 2545 08:02 น.

๏ ๏ ๏ทิพย์กวี๏ ๏ ๏

อัลมิตรา



โคลงสี่สุภาพ 

๏ ทิพย์กวีดั่งน้ำทิพย์......................รังสรรค์ 
ไพเราะสุดบรรเจิดฝัน....................เพริศแพร้ว 
ดาวเดือนพร่างพราวประชัน...........ดั่งนิร- มิตแล 
นิรมิตบทกวีแก้ว...........................สลักถ้อยร้อยสนอง ๚ 

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ 

๏ เรียงร่างเชลงวจนคิด..................มุประดิษฐ์ประจงกรอง 
ร้อยร่ำเชลงวจนลอง.......................ก็ประเทืองหทัยเพลิน 
๏ จวบจนสว่างสุริยะฉาย.................มิละหมายสิยากเกิน 
ขอมุ่งถนนกวิจะเดิน.......................ลุ ณ ทางกวีกานท์ ๚ 

กาพย์ยานี ๑๑ 

๏ แสงทองผ่องทั่วฟ้า......................ลุเวลาสุรีย์ฉาน 
เสียงแว่วแผ่วกังวาน.......................วิหคขานดนตรีไพร 
๏ หอมรินกลิ่นพยอม.......................รื่นกลิ่นหอมประโลมใจ 
สงบเกินสงบใด...............................ชวนร้อยร่ำคิดคำคม 

กลอนสุภาพ กลบทถอยหลังเข้าคลอง 

๏ ประสมร่างร้อยคำประดิษฐ์ถ้อย 
ถ้อยประดิษฐ์คำร้อยร่างประสม 
เรียงร้อยเพียงชมชื่นมิตรจิตภิรมย์ 
ภิรมย์จิตมิตรชื่นชมเพียงร้อยเรียง 
๏ เสียงหวานแผ่วเสนาะความคำไพเราะ 
ไพเราะคำความเสนาะแผ่วหวานเสียง 
กวีทิพย์เพียงแว่วแจ้วสำเนียง 
สำเนียงแจ้วแว่วเพียงทิพย์กวี ๚๛ 

  

...ชาววรรณศิลป์..อย่าสิ้นไฟฝัน......ทิพย์กวี...
				
21 ธันวาคม 2545 20:58 น.

...เจ้าชายจันทร์รำพัน

อัลมิตรา


.....ร่ายรจน์บทกาพย์.........ซาบซึ้งตรึงตราบ............หวังทราบขนาบใจ 
.....รำพันรำพึง.................ผู้ซึ่งอยู่ไกล....................จิตคิดห่วงใย 
.....หมายให้รื่นรมย์ 
.....จักเคียงเยี่ยงเคย........คืนวันผ่านเลย.................ยังเปรยเปรียบชม 
.....ก่อนเก่าเย้ากัน...........ร่วมฝันพลันรมย์...............อิงแอบแนบสม 
.....ขื่นขมตรมคลาย 
.....เอื้อนคำจำนรรค์...........เพ่งมองผ่องพรรณ.........พระจันทร์แพรวพราย 
.....แจ่มจ้าฟ้าเปิด.............พราวเพริศเฉิดฉาย.........คืนวันจันทร์หงาย 
.....ดั่งคล้ายใจเรา 
.....สุขนักยากร้าง............เอื้อนพจน์บทอ้าง.............เคียงข้างนงเยาว์ 
.....จักมั่นไมตรี...............คงที่โฉมเฉลา...................กล่อมฝันจันทร์เจ้า 
.....ตราบเท่าชีพวาย ฯ  

.....นั่นดาวพราวแสง..........มิย้ายหน่ายแหนง.............ยังแจ้งเรียงราย 
.....เคียงคลอล้อจันทร์.......มาตรมั่นมิ่งหมาย.............มิเดี่ยวเปลี่ยวดาย 
.....แยกย้ายไกลเดือน 
.....เพ่งดูพธูน้อง..............ผิวพรรณเรืองรอง..........คงผ่องมองเหมือน 
.....เราเคียงเยี่ยงเคย.......มิเคยลางเลือน.................ดุจดาวเย้าเดือน 
.....มิเคลื่อนคลาดกัน 
.....แม้นเมฆาหมาย...........ปกคลุมแสงสาย..............กล้ำกรายฉวีวรรณ 
.....หากเพียงครู่เดียว........เพียงเสี้ยวกีดกัน.............มิอาจปิดกั้น 
.....สมานฉันท์มั่นคง 
.....จักย้ำคำขอ.................พรอดพร่ำคำง้อ..............หยอกล้อจำนงค์ 
.....ขอช้างพลังมาก..........เพียงอยากนั่งลง.............เคียงน้องประสงค์ 
.....ชมพงพฤกษ์ไพร ฯ  

.....ขอม้าชาโดว์ *...............แฟ๊กตัวโตโต..................มาโชว์ว่องไว 
.....เหาะข้ามเขาเขิน............ภูเนินพนาไกล.................ข้ามไม้สูงใหญ่ 
.....เคียงใกล้พนิดา 
.....ขอเตียงเยี่ยงเคย.........จักนั่งชิดเชย................เอื้อนเอ่ยวาจา 
.....เป็นคำกาพย์ฉันท์..........มิพรั่นอุรา...................จักร่ายพรรณา 
.....ภาษากวี 
.....ขอแหวนวงงาม............สีทองผ่องอร่าม...........คงงามล้ำศรี 
.....เอ่ยที่โฟรโด*...............มาโอ๋คนดี.....................เกี่ยวนิ้วนางนี้ 
.....เพี้ยงพี่อาวรณ์ 
.....ขอสร้อยสังวาลย์..........คล้องใจให้สราญ............ชื่นบานเอมอร 
.....มากค่าประพาฬ............เยาวมาลย์งามงอน..........ควรคู่สมสมร 
.....ดุจอ้อนเปรียบคำ ฯ  

.....ขอข้าวขอแกง..............ผัดไก่และแพนง.............อีกแกงต้มยำ 
.....ไก่ทอดห้าดาว..............อีกข้าวยังจำ...................กลิ่นกรุ่นอร่อยล้ำ 
.....ป้อนคำย้ำนวล 
.....ขอซอขอซึง.................ไพเราะเพราะตรึง...........ซาบซึ้งเชิญชวน 
.....ขอขลุ่ยเพียงออ............เป่าคลอใคร่ควร.............หวานแว่วโสตสรวล 
.....สำนวนเปรมปรีดิ์ 
.....ขอเดือนดารา..............คงคู่ใจข้า ฯ...................เจิดจ้าราตรี 
.....คราวเคียงนวลน้อง.......ชมผ่องรัศมี.................จักรื่นฤดี 
.....มิมิเสื่อมคลาย 
.....ขอนุชนงเยาว์............หวานคำยามเย้า..................จักเฝ้าเคียงกาย 
.....ไป่ร้างห่างหัน.............นิรันดร์ตราบตาย..............ดุจจันทร์พรรณราย 
......มิ่งหมายดารา ฯ  


				
20 ธันวาคม 2545 08:21 น.

เพ็ญพรรณฉันท์-นวล (วังสัฏฐฉันท์)

อัลมิตรา


.....วังสัฏฐฉันท์.....   

  
.....ศศีฉวีพราว.............................และสกาววะวาวนภา 
พิไลชม้ายตา................................อุระร่าระเริงภิรมย์ 
สุลักษณ์ประจักษ์ใจ.......................ศิวิไลสล้างวิกรม 
พินิจพิจิตรชม...............................นภจมจรัสประภา ฯ 

....พระจันทร์สิพลันเปรียบ..............ดุจเทียบวรางคณา 
สคราญสราญวาจ์..........................กิริยาสุภาพสตรี 
สง่าและกล้าแกร่ง..........................พลแห่งหทัยสินี 
พิลาสจรัสศรี................................กวินี้สิปลอบอนงค์ ฯ 


				
18 ธันวาคม 2545 12:14 น.

..พรปีใหม่.. แด่สมาชิกบ้านกลอนไทย..

อัลมิตรา

  
(๑)
ด้วยเดชานุภาพสรรพสิทธิ์
อันเรืองฤทธิ์ในสกลทุกหนห้วง 
สรรพมิ่งสิ่งมงคลล้นทั้งปวง
คงโชติช่วงชัชวาลมั่นอำไพ 

(๒)
วอนองค์พระศาสดาผู้ประเสริฐ
พระคุณเลิศช่วยอำนวยอวยพรให้ 
มิให้ทุกข์รุกเร้าเคล้าฤทัย
มีกายใจเกษมสันต์นิรันดร  

(๓)
ครั้นอับจนหนทางพลั้งชีวิต
ศาสน์ประสิทธ์ดลใจคล้ายภัสสร 
ส่องมรรคาให้สว่างพร่างอำพร
ช่วยปัดร้อนผ่อนหนาวคลายเศร้าตรม 

(๔)
อีกมั่งมีศรีทรัพย์ลาภมากล้น
ให้ช่วยตนพ้นจากทุกข์ยากขม 
อาจช่วยเหลือเผื่อแผ่แด่สังคม
อภิรมย์เริงร่าใต้ฟ้าไทย   

(๕)
ขอยศถาบรรดาศักดิ์อันตรรกตรึก
ครั้งคิดนึกไม่พ้นดลวิสัย 
จงบังเกิดเพริศแพร้วแน่วทันใด
เพื่อช่วยให้พ้นจากทุกข์ยากเกิน 

(๖)
ปรากฏกายในภูดลทุกหนแห่ง
เปรียบดั่งแสงแห่งสูรย์คุณสรรเสริญ 
มากผู้คนชื่นชมพรมคำเชิญ
แต่อย่าเพลินในคำเกินงามใจ  

(๗)
อีกโรคาพยาธิมิเบียดเบียน
กาลแปลงเปลี่ยนศักราชปราศหมองไข้ 
มีใจกายไม่หวั่นพรั่นสิ่งใด
กิจการไหนใหญ่น้อยพลอยเสร็จการ 

(๘)
เป็นกำลังแห่งชาติและศาสนา
พร้อมนำพาวัฒนามาสู่ท่าน 
เปี่ยมปัญญาค้นคว้าหน้าที่งาน
สรรพการสิริสวัสดิ์พิพัฒน์เทอญ ฯ 



				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา