16 กุมภาพันธ์ 2546 11:57 น.

อารยชน..

อัลมิตรา

อา.รา.ยา...ชน

ใจต่อใจให้กันด้วยมั่นมิตร
จิตต้องจิตมาตรมั่นไม่หวั่นไหว
มือจูงมือมั่นคงพงศ์ผองไทย
ยิ้มส่งยิ้มจริงใจด้วยไมตรี

ไม่แค้นหนัก เคืองเบา เรื่องเก่าก่อน
ไม่ยอกย้อน ย่นย่อก่อความที่...
ไม่แบ่งเธอ แบ่งฉัน นั้นชั่วดี
สามัคคี มีเพียงเรา เหล่าชื่นบาน

เริ่มต้นนี้มีมิตรจิตรประทับ
อดีตลับเลือนไปไม่ขับขาน
ก้าวมั่นสู่วันใหม่ใจสำราญ
จงห้าวหาญ สร้างสรรค์ มั่นมิคลาย

***** ขอปีใหม่ในใจชนปนความรัก
***** ยิ้มเปื้อนพักตร์รักใคร่ทุกใจหมาย
***** สร้างความดีส่งแสงแปร่งประกาย
***** สร้างความหมาย สมคุณค่าอารยะชน 
~  
 จาก : -เงา-				
16 กุมภาพันธ์ 2546 11:52 น.

รู้..ธรรม

อัลมิตรา

ธรรมนำบุญเกื้อกูลพูนทวี 
ธรรมบ่งชี้สี่งที่ควรล้วนเหมาะสม 
ธรรมปฏิบัติใช่เพียงเพ้อกล่าวเพียงลม 
ธรรมสั่งสมส่งเสริมให้เพิ่มตาม 

ธรรมจงรักษาไว้ให้ดียิ่ง 
ธรรมชนะทุกสิ่งอย่าหมิ่นข้าม 
ธรรมชำระจิตใจให้งดงาม 
ธรรมสืบตามศาสนาค่าคู่ควร 

ธรรมปกปักษ์พิทักษ์และศักดิ์สิทธิ์ 
ธรรมแสงส่องทางชีวิตเมื่อคิดหวน 
ธรรมล้ำค้ากว่าทุกสิ่งจึงใฝ่ควร 
ธรรมต่างล้วนควรคู่ให้รู้..ธรรม				
13 กุมภาพันธ์ 2546 16:13 น.

ต้มถั่วด้วยฟืนถั่ว

อัลมิตรา

...ติดไฟต้มถั่วด้วย....................เถามัน 
เสียงคร่ำครวญโศกศัลย์.............หม่นเศร้า 
ถั่วไหม้เพราะถั่วอัน...................เป็นเทือก ถั่วนา 
ล้วนจากหนึ่งรากเหง้า...............โกรธแค้นฤๅไฉน ฯ 

...โหมซากจากถั่วให้.................ไฟลุก-  โพลงเฮย
เพียงเพื่อหุงเมล็ดสุก.................แสบร้อน
ไฉนจึ่งนึกสนุก.........................เผาเผ่า-  พันธุ์นอ
วงศ์อาจสาบสูญกล้อน................หากมล้างสกุลพงศ์ ฯ 

...นำรากซากถั่วต้ม....................เมล็ดพันธุ์
น้ำเดือดพล่านอัศจรรย์...............ถั่วร้อง
 เราอุบัติสหชาติกัน...................จากเทือก-  เถานา
ไยโกรธหมายเพ่งจ้อง-...............ฆ่าให้มลายวงศ์ ฯ 


**กาพย์ห่อโคลง**

.....เถาถั่วต้มถั่วตั้ง.....................ปานไฟ
ดาลเดือดธารเดือดไอ..................แผดห้าม
 ถามความเคียดความไย..............ฟัดเฟียด
ตามฆ่า...เพียงข้าฯ คร้าม.............เพลี่ยงพล้ำพงศ์สูญ-  สิ้นนา  ฯ

.....เถาถั่วต้มถั่วตั้งปาน-.............ไฟดาลเดือดธาร
เดือดไอแผดห้ามถามความ
เคียดความไยฟัดเฟียดตาม.........ฆ่าเพียงข้าคร้าม
เพลี่ยงพล้ำพงศ์สูญสิ้นนา ฯ				
12 กุมภาพันธ์ 2546 15:51 น.

.....กล้าแกร่งดุจแสงสูรย์.....( โคลงกลอน...กลอนโคลง...)

อัลมิตรา


  
.....รุ่งระวีเหลื่อมหล้า............รัศมี-  พราวแล 
สีผ่องเพริศพรรณี................ที่ฟ้า 
สายยิ่งงดงามสี....................พราวพร่าง- 
อัจจิมาพุ่งแสงจ้า..................จรัสด้วยฉลวยเลือง ฯ 

.....ดุจมนุษย์ต้องมุ่ง.............ผดุงกิจ-  การแล 
คิดหมั่นงานสุจริต................เนื่องให้ 
ธรรมกิตติ์เชิดชีวิต...............สัมฤทธิ์ 
เรืองรุ่งฟูเฟื่องไร้-.................เรื่องร้อนเคืองระคาย ฯ 

.....จงยืนหยัดกาจกล้า...........สง่าสม 
ศักดิ์วิกรมวโรดม..................ข่มล้า 
หายทุกข์โศกปรารมภ์.............ขมขื่น 
คลายดุจดังสายจ้า.................เหลื่อมหล้าสุรีย์ฉาน ฯ 

.....ดำรงชีพมั่นเพี้ยง.............ระวีวาม 
งามยิ่งยามปริณาม................อร่ามจ้าน 
ชีวิตพินิศตาม......................ความเชี่ยว- 
ชาญคิดสร้างงานมิคร้าน........หมั่นหั้นจำเริญ ฯ 


  
รุ่งระวีเหลื่อมหล้ารัศมี
พราวแลสีผ่องเพริศพรรณีที่ฟ้า 
สายยิ่งงดงามสีพราวพร่างอัจจิมา 
พุ่งแสงจ้าจรัสด้วยฉลวยเลือง 

ดุจมนุษย์ต้องมุ่งผดุงกิจ
การแลคิดหมั่นงานสุจริตเนื่อง 
ให้ธรรมกิตติ์เชิดชีวิตสัมฤทธิ์เรือง
รุ่งฟูเฟื่องไร้เรื่องร้อนเคืองระคาย  

จงยืนหยัดกาจกล้าสง่าสม
ศักดิ์วิกรมวโรดมข่มล้าหาย 
ทุกข์โศกปรารมภ์ขมขื่นคลาย
ดุจดังสายจ้าเหลื่อมหล้าสุรีย์ฉาน 

ดำรงชีพมั่นเพี้ยงระวีวาม
งามยิ่งยามปริณามอร่ามจ้าน 
ชีวิตพินิศตามความเชี่ยวชาญ
คิดสร้างงานมิคร้านหมั่นหั้นจำเริญ ฯ 



				
11 กุมภาพันธ์ 2546 09:13 น.

@..หัวโขน

อัลมิตรา


ครั้นแต่งองค์ทรงเครื่องดุจเรื่องโขน
แล้วโลดโผนดลความตามบทอ้าง 
เป็นพระรามย่ำป่าตามหากวาง
พระบาทย่างเยือนยลสณฑ์พฤกษ์ไพร 

ฤาให้เป็นเช่นยักษ์มากฤทธิ์เดช
วรเชษฐ์เก่งกล้าตาวาวใหญ่ 
อยู่ครองเมืองเดื่องฟ้าลงกาไกร
เป็นเช่นใดล้วนผองให้มองเป็น  

ขอเป็นฉันมั่นมากอยากกล่าวบอก
มิปอกลอกกลอกความตามหลีกเร้น 
มิกล้ำกรายทำร้ายให้ลำเค็ญ
เพียงเนื้อเย็นชื่นสุขสนุกพอ 

จักร่ายเรียงเสียงส่งประสงค์กล่อม
และถนอมเคียงเจ้าคราวที่ท้อ 
ครั้งสรวลสุขสนุกย้ำตามเคียงคลอ
ปราศจิตฉ้อฉลแฝงแสดงกล ฯ				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา