20 กันยายน 2547 22:16 น.

..๏ ชื่นชม - เวสสเทวีฉันท์ (๑๒)

อัลมิตรา

เวสสเทวีฉันท์ ( ๑๒ )

..๏ กากากากากา..............กากะกากากะกากา
กากากากากา....................กากะกากากะกากา ฯ



..๏ คำชมจักชื่นใจ.................ยังอุราให้เกษมสันต์
ดุจฝนเบื้องบนอัน-................เย็นเสมอพลันสราญรมย์ 
คราวล้าคราอ่อนแรง..............เพิ่มพลังแห่งหทัยสม-
ควรเอ่ยเปรยชื่นชม................ด้วยพลังลมวจีเทอญ ฯ

..๏ แม้นใครใคร่เบียดเบียน....ยังนิสัยเปลี่ยนบ่ขัดเขิน
ด้วยคำนำเพลิดเพลิน..............แม้นสิล่วงเกินมิขุ่นเคือง 
ผูกจิตให้ชิดเชื้อ....................สบสมัยเอื้อสิชำเลือง
อุ้มชูอยู่เนืองเนือง...................สารพันเรื่องจะเกื้อกูล ฯ

 ..๏ คำชมดุจตัวยา....................ยามฤทัยล้าสิค้ำคูณ
เหนื่อยหน่ายไม่เพิ่มพูน...........ยังกุศลมูลประสิทธิ์หมาย  
ศัตรูหมู่ชนพาล........................คงบ่อาจหาญและย่างกราย
อาวุธสุดมากมาย.......................ฤๅสิเทียบร่ายวจีงาม ฯ

..๏ คำสัตย์อาจเดียวกัน..............แสนเสนาะครั้นสดับความ
พบสุขทุกโมงยาม.....................พจน์และโคตรนามจะมั่นคง
ยามสิ้นชีพอินทรีย์.....................คุณและความดีสิดำรง
เกื้อกูลหนุนนำส่ง-......................ผู้วจีตรงฤทัยงาม  ๚ะ๛				
16 กันยายน 2547 23:27 น.

..๏ คือความจริง

อัลมิตรา



..๏ ฉันมิใช่จักรวาลอันกว้างใหญ่
หรือท้องฟ้าอำไพให้เธอเห็น
ใช่เมฆขาวลอยอยู่คู่จันทร์เพ็ญ
หากฉันเป็นฉันคนนี้ที่เธอมอง ฯ

..๏ เธอมิใช่มหาสมุทรลึกสุดหยั่ง
หรือชายฝั่งทะเลใจไร้เจ้าของ
ใช่พื้นทรายรายรอบยากครอบครอง
หากเธอเป็นละอองของไอรัก ฯ

..๏ ฉันมิใช่พายุโหมโรมคิดร้าย
หรือพระพายโอบปลอบลอบสมัคร
ใช่ธุลีคละคลุ้งลอยฟุ้งนัก
หากฉันเป็นคนรักที่ภักดิ์พร้อม ฯ

..๏ เธอมิใช่หิมพานต์สราญสวรรค์
หรือไพรวัลย์ดาษดื่นไม้ชื่นหอม
ใช่ผกาเลอค่าน่าเด็ดดอม
หากเธอเป็นเจ้าจอมกระหม่อมใจ ฯ

..๏ ฉันมิใช่ภูผาที่กล้าแกร่ง
หรือกำแพงปราการตระการไหน
ใช่เขตคามงามสง่าโอ่อ่าใด
หากฉันมีหัวใจให้พักพิง ฯ

..๏ เธอมิใช่ตะวันอันแกร่งกล้า
หรือจันทรายวนใจให้ใฝ่ยิ่ง
ใช่ดารากระพริบหยอกหลอกเย้าอิง
หากเธอคือความจริงมิ่งขวัญเอย  ๚ะ๛
				
16 กันยายน 2547 10:46 น.

..๏ หุ่นละครเล็ก

อัลมิตรา


..๏ ตัวหุ่นปราศจากวิญญาณ..............พลันเผ่นเต้นทะยาน
หน่วยก้านแกล้วกล้าท่าที
หุ่นรามลักษณ์มล้างไพรี-...................พลพรรคยักษี
มวลกระบี่ร่วมรบครบครัน
เปลี่ยนแปลงลีลาพัลวัน......................โยกย้ายคล้ายกัน
มุ่งมั่นเชี่ยวชาญการแสดง
หลายคนหมุนเวียนเปลี่ยนแปลง........ร่ายรำสำแดง
หุ่นราวกร้าวแกร่งสมจริง ฯ

..๏ สวมบททศพักตร์ยักษ์ลิง................วิญญาณพลันสิง
จากนิ่งจึ่งนวยนาดมา
ยักย้ายย่างขยับกายา..........................โมโหโกรธา
ท่วงท่ามุทะลุดุดัน
ล้วนต่างวางมาดกาจฉกรรจ์.................รุกรับโรมรัน
หมายมั่นห้ำหั่นราวี
หนุมาณชาญสมรเสนีย์......................ว่องไวในที
หลบลี้อย่างมีปฏิภาณ ฯ

..๏ เชิดหุ่นนารายณ์อวตาร..................ดูช่างอลังการ
มุ่งผลาญหมู่มารทันใด
แผลงศรศักดิ์สิทธิ์ฤทธิไกร...................ทั่วทั้งภพไตร
หวั่นไหวลือลั่นสั่นคลอน
เชิดท้าวทศพักตร์ดัสกร........................ปวดแปลบแสบร้อน
คราศรมเหสักข์ปักตน
เชิดให้กายขยับอับจน..........................เสนาสาละวน
ต่างโกลาหลอลเวง ฯ

..๏  เชิดไท้ทศกัณฐ์หวั่นเกรง-.............องค์รามกล้าเก่ง
จึ่งเพ่งสำรวจตรวจตรา
จวบจนแจ้งพักตร์ลักขณา....................นารายณ์อุบัติมา
เพื่อฆ่าผลาญเราเศร้าจริง
ด่วนดับชีวาเพราะหญิง........................อีกยังค่างลิง
นอนนิ่งเห็นจริงสัจจธรรม
ท่วงท่าพญายักษ์ชักนำ........................บ่งบอกชอกช้ำ
เพรียกพร่ำร่ำลามณโฑ ฯ

..๏ สิบปากทศพักตร์ร้องโฮ...................บางปากโมโห
ว่าโอ้เราเขลาเสียที
เสร็จสิ้นคำลาพาที...............................จึ่งสิ้นชีวี
หุ่นยักษ์ปราศจากลีลา
จบเรื่องเชิดหุ่นคุ้นตา...........................คงความปริศนา
บอกว่าอย่าทะนงหลงตน
บทบาทที่เห็นเป็นคน...........................ยศศักดิ์มากล้น
คงพ้นสิ้นจากศักดิ์ศรี ฯ

..๏ หุ่นใดคือตัวชั่วดี...........................ตรึกตรองถ่องที
เรานี้นั่นหรือคือใคร
หน้าที่มากมีเพียงใด............................อย่ารักปักใจ
หลงใหลสับสนตนเอง
จนเป็นตัวยักษ์นักเลง..........................โอ้อวดข่มเหง
กร้าวเก่งปิดตาฝ้าฟาง
ฤษีชีไพรพระนาง...............................เป็นลิงฤๅค่าง
ทุกอย่างสมมุติดุจกัน ๚ะ๛

				
15 กันยายน 2547 08:58 น.

..๏ เอกเจ็ดโทสี่ วางที่หัวใจ

อัลมิตรา



..๏ เขียนโคลงจรรโลงศิลป์.......ตราบแผ่นดินจะสิ้นสูญ
ร่ายคำนำเกื้อกูล.....................อาจเพิ่มพูนจินตนาการ
คงมั่นฉันทลักษณ์..................แจ้งประจักษ์รักษ์จดจาร
เรียงร้อยถ้อยชำนาญ...............อิงโบราณเหล่าเมธี ๚ะ๛  


..๏ เขียนโคลงคงฝากชั้น-..........เชิงกวี
เลียนแบบมวลเมธี....................เก่งกล้า
บังเกิดจิตสุนทรีย์.....................เกษมสุข
ตราบภพกลบกายข้า ฯ..............จึ่งสิ้นพิศมัย ๚

..๏ ฉันทลักษณ์ประจักษ์แจ้ง.......ปฏิภาณ
หลายหลากพจน์จดจาร..............เพริศแพร้ว
เรียงคำร่ายโคลงผสาน...............รังสฤษดิ์
อิงท่านบรมครูแก้ว....................ชาติเชื้อวรรณศิลป์ ๚

..๏ เขียน..กฎบังคับให้...............เดินตาม
โคลง..เลิศจึงงดงาม..................เช่นนั้น
จรรโลง..ซึ่งบทความ.................สื่อเหมาะ -   สมแฮ
ศิลป์..บ่อาจขวางกั้น..................จิตได้นำเสนอ ๚

..๏ ตราบ..มวลปราชญ์บ่งชี้........วิทยา-  การเฮย
ดิน..อาจเช่นดารา.....................เพริศแพร้ว
สิ้น..เขลาสร่างขลาดพา..............ปราดเปรื่อง
สูญ..ซึ่งความโง่แล้ว...................เนื่องด้วยคำเธียร ๚ะ๛  				
14 กันยายน 2547 13:20 น.

..๏ แม่ปู - ลูกปู

อัลมิตรา


..๏ แม่ดูหนูย่างทางคด
เหลืออดจึงเอื้อนเตือนให้
 อย่าย่างโย้เย้เฉไป
ลูกไฉนผิดเหง้าเหล่าปู

ลิงนั่งบังไพรในพฤกษ์
หนอนึกเห็นใจไอ้หนู
แม่คอยเคี่ยวเข็นเป็นครู
ยิ่งดูสมเพชเวทนา

แม่ปูยิ่งเปรยเอ่ยเอื้อน
ยิ่งเหมือนเปล่าไปไร้ค่า
แยบยลกลมีลีลา
 ลูกจ๋าจงแลแม่นำ

แบบอย่างย่างไปให้เห็น
กลับเป็นเพียงแค่แง่ขำ
ทางคดลดเลี้ยวเกลียวกรรม
ตอกย้ำธาตุแท้แม่ปู ๚ะ๛  				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา