10 พฤษภาคม 2548 14:09 น.

..๏ แสบสะท้าน

อัลมิตรา

อัลมิตรา

   
..๏ ฝนตกชะมูลหมู
ลวกลวกถูรีบรีบไถ
ล้างคอกทั้งนอกใน
ด้ามไม้ฝาดจึ่งฟาดโครม

เมื่อก้านมะพร้าวหัก
จึงเสียบปักฝ่าเท้าโยม
มามะโอสถชโลม
มิให้บาดทะยักลาม

หยิบกล่องสำลีแกะ
ทิงเจอร์แปะกึ่งคุกคาม
จะบ่งเสี้ยนบ่งหนาม
นั่งนิ่งนิ่งอย่าส่ายหัว

เท้าชักเข้าชักออก
สูอย่าบอกนะว่ากลัว
ไอ้แสบนะแสบชัวร์
แม้มิสาดเลือดกระเซ็น ๚ะ๛  


จอมมาร ณ หมู่บ้านหมื่นอักษร ...


กลิ่นอาจจะหมดจริง
เหลือแต่สิ่งปฏิกูล
ต่อเมื่อไม่มีมูล
หมูจึงรอดและปลอดภัย

เมื่อก้านไม้ฝาดเก่า
ทิ่มฝ่าเข้าฝ่าเท้าใคร
บ่งออกยากอะไร
เจ็บแปลบแปลบแค่แปล๊บเดียว

เหลือกากสำลีเกลื่อน
เปรอะคราบเปื้อนเป็นปื้นเชียว
แค่ถลอกยังซีดเซียว
หากเลือดสาดคงขาดใจ

หัวส่ายเพราะแผลแถก
พี่ปอดแหกเจ้ารู้ไหม
น้ำหนักจากมือใคร
ฤๅจักนุ่มเท่ามือนาง

เท้าชักออกชักเข้า
ปอดกระเส่าร้องครวญคราง
ขนาดโยนหินถามทาง
พี่ยังโยนทับเท้าเธอ ฯ


รอยช้ำเป็นจ้ำอวด..........แผลฉกาจ
แผลเก่าเทกระจาด.........กระแด่วดิ้น
อุแหม่แค่ไม้ฝาด............แทงถลอก
ร้องลั่นเหมือนตราบสิ้น....สุดแล้วอสงไขย ฯ				
9 พฤษภาคม 2548 18:25 น.

..๏ มูลเหตุ

อัลมิตรา


..๏ เรื่องที่เห็นอาจมิใช่อย่างใจคิด
สิ่งถูก-ผิดแค่คำพูดพิสูจน์หรือ
น้ำมันที่เขาราดไปไฟโหมฮือ
คว้าไต้ถือมิระวังจะพลั้งตน

อันคำลวงเล่ห์ใครหากใคร่รู้
จิตพิศดูเถอะนะอย่าสับสน
ใช้ปัญญาปกป้องใจไม่วกวน
หลีกให้พ้นสิ่งอุบาทว์ขยาดไกล

รักษ์ใจเถิดคนดีที่อยากสอน
หากแง่งอนจนจิตคิดเผลอไผล
อาจสูญเสียคนรักอกหักไป
คุ้มกันไหมกับเรื่องราวข่าวมิจริง

ความรักที่บาดหมางยามห่างเหิน
คงยากเกริ่นปลอบใจในบางสิ่ง
ด้วยไมตรีเรามีให้ใคร่ท้วงติง
จงทำใจให้เฉยนิ่งอย่ายิ่งลาม ๚ะ๛

				
9 พฤษภาคม 2548 15:39 น.

..๏ เดียวดายใต้ผืนดาว

อัลมิตรา


..๏ ในคืนที่ท้องฟ้าดารดาษดาว
แ ต่ฉันกลับเหน็บหนาวรวดร้าวแสน
ดั่งเร่ร่อนแรมไกลในต่างแดน
อ้างว้างแม้นผู้คนมากค้นเจอ

แ ห ง น ม อ ง ดู ด ว ง ด า ว ที่ พ ร า ว ฟ้ า
แ ส ง ร ะ ยิ บ แ จ่ ม น ภ า ค ร า เ ส น อ
ไ ย ตั ว เ ร า ช อ ก ช้ำ พ ร่ำ ล ะ เ ม อ
เ ศ ร้ า กั บ ค ว า ม รั ก เ ก้ อ เ พ้ อ ลำ พั ง
 
โ อ้  !  ค่ำ คื น ดื่ น ด า ว เ ร า ห น า ว เ ห น็ บ
จำ กั ก เ ก็ บ น้ำ ต า ไ ว้ มิ ใ ห้ ห ลั่ ง
ณ   ที่ ซึ่ ง ค ลั บ ค ล้ า ย ห ล า ย ค น ชั ง
เ พี ย ง ห นึ่ ง ห วั ง ค น รั ก จ ะ ภั ก ดี

ห วั ง ข อ ง ค น ต่ำ ต้ อ ย ด้ อ ย ว า ส น า
เ ห ลื อ เ พี ย ง ค ร า บ น้ำ ต า ม า แ ท น ที่
เ ห ลี ย ว ห า ใ ค ร ไ ห น ห น อ พ อ ป ร า นี
ม อ บ อุ่ น ไ อ ชุ บ ชี วี ที่ มื ด ม น ๚ะ๛


.. คื น นี้ ถ้ า ฉั น ห น า ว ..
.. ผู้ ใ ดร่ ว ม ผิ ง ด า ว บ น ฟ้ า .. 				
8 พฤษภาคม 2548 12:21 น.

..๏ กลอักษร

อัลมิตรา


..๏ มองให้ลึกลงไปในทุกวรรค
ให้ตระหนักเนื้อในใช่ผิวเผิน
ยังมิทันประมวลด่วนประเมิน
อาจหลงเพลินเพียงภาพฉาบมารยา

ให้เห็นความสอดรับเหตุกับผล
ดูแยบยลถ้วนถี่ทุกทีท่า
ก่อนเคลิบเคลิ้มคำหวานเขาหว่านมา
ต้องรู้ว่าลมปากหรือจากใจ

บนเวทีที่สานผลงานศิลป์
อย่าเคลิ้มจินต์จนละเมอคิดเผลอไผล
สิ่งที่เห็นอาจแตกต่างอย่างลิบไกล
หากหลงใหลจิตจะช้ำเพราะคำกลอน

ตราบเบื้องลึกเบื้องหลังยังมิแจ้ง
เล่ห์ร้ายแฝงมากนักเราจักสอน
ยิ่งพื้นเพมืดมนคนละคร
หน้าใสตอนแปลงเป็นเสือล่าเหยื่อกิน ๚ะ๛

				
5 พฤษภาคม 2548 01:05 น.

..๏ คนล่าฝัน

อัลมิตรา


..๏ เคล้าความฝันอันกระจ่างสว่างไสว	
จากจิตใจรื่นรมย์ผสมผสาน
หลากวิธีที่ตระหนักวิจักขณ์วิจารณ์
บังเกิดกานท์เสริมศัพท์ประดับประดา

สวมวิญญาณพรานไพรไล่ล่าฝัน	
เข้าเขตขัณฑ์พฤกษ์ไพรไต่ภูผา
พกลายแทงจินตนาการอันโสภา
เพื่อเสาะหาขุมทรัพย์เมืองลับแล

ยามราตรีมีดาวสกาวพร่าง
แสงส่องทางจรัสศรีมีดวงแข
ไร้เดือนดาวคืนใดใช่ตัวแปร
ความพ่ายแพ้ใช่อุปสรรคปักแทงใจ

ออกเดินทางสร้างสรรค์ประพันธ์พจน์
แม้นกำหนดกฎเกณฑ์เช่นเขาใหญ่
จักก้าวข้ามมุ่งมั่นไปทันใด
ด้วยหัวใจเสรีมิรีรอ

ลบอ่อนแอแพ้พ่ายหายหมดสิ้น
นอนกลางดินกินกลางทรายหายย่อท้อ
สัมภาระคือฝันเท่านั้นพอ
ไม่อ่อนข้อต่อชะตาขอท้าทาย

แม้นไร้ดาวพราวพร่างทางมืดมิด
แต่ดวงจิตแจ่มกระจ่างช่างเฉิดฉาย
จินตนาการความฝันพร่างพรรณราย
แม้นเดียวดายไม่ขยาดหรือหวาดระแวง

หากผู้ใดใครมีไมตรีจิต
ร่วมลิขิตวรรณกรรมล้ำกล้าแกร่ง
อุดมการณ์ความสามารถอาจพลิกแพลง 
มาร่วมแปลงอรรถรสเป็นบทกวี 

สัญชาตญาณนักล่าตามหาฝัน
เสกอักษรสร้างสรรค์บรรณวิถี
ไร้กฏเกณฑ์คุมขังดั่งเคยมี
อิสระเสรีที่หัวใจ ๚ะ๛
				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา