28 มีนาคม 2556 16:16 น.

บทส่งท้าย

อัลมิตรา

  บทกวีที่มากมายได้ปรากฏ
หลั่งรินรดจากใจข้างในนี้
  อักษรสรรค์ปั้นแต่งแสดงมี
บ้างสุนทรี/สุข/เศร้า.. คละเคล้ากัน
จากวันวานจวบวันนี้หลายปีแล้ว
หลากเพื่อนแก้วพี่น้องพ้องสุขสันต์
  ต่างอาศัยนัยกวีคลี่สัมพันธ์
สร้างสวนสวรรค์วงศ์กวีที่หัวใจ
หากวันหนึ่งซึ่งอาจถึงวันนั้น
วันที่ฉันมิอาจคาดหมายได้
  วันที่ฉันเดินทางหว่างฟ้าไกล
มิรับรู้ใดใดในวันคืน
หากต้องนับเวลาคราถอยหลัง
น้ำตาหลั่งยั้งคิดดวงจิตฝืน
สองแขนล้าสองขามิหยัดยืน
คงล้มครืนเหมือนลับดับชีวา
คงฝากไว้เพียงอักษรหากย้อนอ่าน
ความเคยหวานและสนุกสุขหรรษา
ขอให้รับประทับไว้ในอุรา
เผื่อวันหน้าจะมิเลือน...ว่าเพื่อนเคย  ..
26 มีนาคม 2556 21:22 น.

กระต่ายหมายจันทร์

อัลมิตรา


...สายลมแผ่วพลิ้ว..ยังให้ใบไม้ไหวสั่นคลอน... ...ราตรีที่เงียบงันคล้ายถูกทักทายด้วยสายลมแห่งวสันตฤดู... ...พลันบังเกิดเสียงกิ่งไม้และใบไม้ลู่ไปตามสายลม... ...กระต่ายน้อยตัวหนึ่ง ชะเง้อชะแง้มองจันทร์... ...ไม่เพียงแต่กระต่ายน้อยเท่านั้น... ...ที่ยังมีความเพ้อฝันและเพรียกหา... ...มันคอยจ้องความตระการแห่งจันทรา... ...แล้วหวังใจว่า...จันทราจะปรานี... ...กระต่ายน้อย...มันไม่รู้เลยว่า... ...อีกหนึ่งมนุษย์ผู้น่าเวทนาอุรานี้... ...มิต่างกันกับเจ้ากระต่ายน้อยในพงพี... ...วิงวอนให้จันทราปรานีและเห็นใจ... ...จันทร์เจ้าเอย... ...โปรดมอบความรักความห่วงใยและอาทร... ...แม้นยามเหนื่อยอ่อนครั้งคราไหน... ...คราต้องทุกข์ระทมตรอมตรมใจ... ...จันทราอันสว่างกระจ่างใส... ...โปรดเถิด โปรดได้ปลอบขวัญ... ...กระต่ายน้อยตัวหนึ่ง... ...กับมนุษย์ผู้ซึ่งโศกเศร้าร้าวรำพัน... ...รอคอยค่ำคืนอันตระการตามา..นิจนิรันดร์... ...โอ้ดวงจันทรานั้น จักเห็นใจหรือไม่เอย ? ..๏ ครั้นรัตติกาลเยือน.......ศศิเคลื่อนนภาพราว พลันให้หทัยหนาว............อุระร้าวมิเสื่อมคลาย ..๏ ครุ่นคิดคะนึงหา..........ฤ ยุพาสิกลับกลาย เชยชิดสนิทชาย-.............นระอื่นและชื่นชม ๚ ..๏ ครั้นแสงพระจันทร์ส่อง..สิริผ่องประภาสม ฤๅน้องมโนรม.................ฤ สิชมเสมือนกัน ..๏ เพรียกเพ้อละเมอถึง....และคะนึงมิเว้นวัน ข่มใจมิใฝ่ฝัน..................รตินั้นก็ลุกลาม ๚ ..๏ แผ่วผ่าวพระพายพัด.....และอุธัจประชิดตาม ครั้นจิตพินิจความ.............มิสงบและบรรเทา ..๏ เหยียบย่ำกระหน่ำจิต...วิปริต ฤ หนอเรา หม่นหมองมิบางเบา..........ขณะเศร้าและอาลัย ๚ ..๏ ยามเมื่ออดีตนั้น..........ปริพันธ์กวีให้ กล่อมเจ้าระรื่นใจ.............อภิรมย์และสมปอง ..๏ ร้อยคำประพันธ์พจน์....นยะบทกวีผอง เอื้อนอรรถรสพ้อง............สรพันและเย้ายวน ๚ ..๏ เชยชิดสนิทเจ้า..........ผิว์กระเซ้าสิเสสรวล ตรึงในฤทัยชวน-.............อนุจินต์ถวิลหา ..๏ ดาวเดือนสิเคลื่อนคล้อย....ดุจลอยและร้างลา ตราบเมื่อสุรีย์จ้า..............ลลนา ฤ เช่นกัน ๚ ..๏ สิ้นรักประจักษ์จิต........บ่สนิทสนมพลัน ลืมเลือนอดีตนั้น..............มิตระหนักและภักดี ..๏ คืนนี้นภาพราว.............ศศิวาวสกาวศรี แต่ข้าพเจ้ามี-...................ปริเทวนาการ ๚ ..๏ คร่ำครวญคะนึงหา- .....วนิดาบ่เว้นวาร เจ้าลืมเกษมศานต์............ณ อดีตกาลฤๅ ? ๚ะ๛
26 มีนาคม 2556 21:09 น.

เดียวดาย

อัลมิตรา

เดียวดายใต้ฟ้ามืด .......เดือนดับ
หายห่าง ฤๅ ฟ้าหับ........ห่มไว้
อกเคยชื่นกลายกลับ......หดหู่
ยืนอยู่เดียวเปลี่ยวให้......หักสะอื้นคืนเหงา
ลำพังท่ามฟ้าพร่ำ..........คืนแรม
หายลับกับเมฆแซม.......ซ่อนเร้น
เพรงกาลพร่างพราวแวม...วับร่าง
หมองหม่นไยเดือนเว้น.....เลื่อมหล้านภาสลัว
โดดเดี่ยวประดุจไร้........มิตรสหาย
โอ้อกคงเปล่าดาย.........อยู่บ้าง
ลมแผ่วผ่านผิวกาย........ยิ่งสะทด
อกอุ่นมาแรมร้าง.........โลกรู้คืนเหงา
แรมเดือนมีเคลื่อนด้วย.....ธรรมดา
ดับย่อมยอยาตรา...........สว่างแต้ม
แรมใจหนักอกหนา.........ดับนิ่ง
เพ็ญส่องพันเพ็ญแย้ม......ไม่รู้เรืองไหม  
13 มีนาคม 2556 14:44 น.

..๏ ล า น ( ล อ อ )

อัลมิตรา

 

..๏ ด า ร ด า ษ แ ด ง ป ร ะ ทั บ ป ร ะ ดั บ ช่ อ

ล า น ล อ อ ช ม พู พ ร า ว แ ล ะ ข า ว ส ด

เ ลื่ อ ม ล ด า ค่ า พ อ ช ะ ล อ พ จ น์ 

พ เ ยี ย ย ศ ยั่ ว พ ย า ง ค์ ใ ห้ ว า ง ม า 



ร้ อ น รุ่ ม สุ ม ไ ล่ หั ว ใ จ จี้

อ า จ ดั บ ด้ ว ย ม า ลี อั น มี ค่ า

เ พื่ อ เ ยื อ ก เ ย็ น เ ห ย า ะ ล ง ต ร ง อุ ร า

ธ ร ร ม ช า ติ ส ร ร ค์ ผ ก า ม า เ กื้ อ กู ล



ช บ า ไ พ ร ไ ร้ ก ร ะ ถ า ง ข้ า ง ก ร ะ ท่ อ ม

อ า จ มิ ห อ ม เ ช่ น กุ ห ล า บ ใ ช่ ส า บ สู ญ

ค่ า แ จ กั น กุ ก่ อ ง อ า จ ก อ ง กู ณ ฑ์

ห า ก จ รู ญ ก ลั บ จ ร า ย หั ว ใ จ เ ร า



ก ลิ่ น จ รุ ง ฟุ้ ง ห อ ม ด อ ม ด้ ว ย จิ ต

ห า ก แ ค่ พิ ศ เ พี ย ง ผ า ด ป ร ะ ก า ศ เ ข ล า

ด้ ว ย คุ ณ ค่ า น้ อ ย ใ ห ญ่ ใ ช่ ยิ่ ง - เ ย า ว์

ม า ก แ ง่ เ ง า ง ด ง า ม ค ว ร ต า ม ดู  



ด า ร ด า ษ แ ด ง ป ร ะ ทั บ ป ร ะ ดั บ ช่ อ

ถ้ อ ย เ ยิ น ย อ บ ริ บ ท พ จ น์ เ ลิ ศ ห รู

บ ร ร ณ า ก า ร พ ฤ ก ษ์ ไ พ ร ห ม า ย เ ชิ ด ชู

เ ถิ ด วิ ญ ญู พิ จ า ร ณ า คุ ณ ค่ า มั น ๚ะ๛



    				
11 มีนาคม 2556 09:54 น.

..๏ ซ่อน (ฝัน)

อัลมิตรา


๏ เมียงมองผองสิ่งโพ้น.............เกินหมาย
ยังมุ่งมั่นเหยียดกาย...................ไขว่คว้า
ถึงแรงย่อมคลอนคลาย...............เคยพรั่น  พรึงเฮย
คงแต่ใจแกร่งกล้า.......................พรั่งพร้อมเพียงตน ๚
 
๏ ครองฝันฝันอยู่ด้วย..................ในตัว
ถึงพร่าหรือหมองมัว...................อยู่บ้าง
เคยฝันเมื่อตื่นกลัว.....................ฝันสร่าง
ไหนจึ่งควรโอ่อ้าง......................ว่าได้เห็นจริง ๚
 
๏ ฝันใดจงมุ่งคว้า.......................มาครอง
ฝันย่อมเปี่ยมพลังผอง................มากพ้น
เพียงใจใฝ่ดังปอง......................สรรพสิ่ง  นั่นนา
เห็นซึ่งมวลลหากล้น..................ต่างล้วนคอยเรา ๚
 
 ๏ พอตื่นพลันกอดด้วย..............ความจริง
ฝันเมื่อก่อนยังอิง.......................แอบเจ้า
ฝันใดใคร่ช่วงชิง........................คงอยู่
ฝันอื่นหมื่นแสนเฝ้า...................ต่างล้วนจริงพลัน ๚
 
๏ ถึงเกินใจไขว่คว้า....................มาครอง
คงคู่ควรเราปอง...........................ยิ่งแท้
หาใช่ใฝ่เมียงมอง.......................โดยเปล่า
ใจหนึ่งคงสุขแล้...........................อย่าได้โรยรา ๚
 
๏ ค้นเอยค้นฟากฟ้า.................... หาดาว
ยังพร่างพรายนภาพราว...............ใหญ่น้อย
ค้นหาหนึ่งจันทร์สกาว.................งามเด่น นั่นแฮ
ค้นเถิดค้นอย่าด้อย.......................ด่วนสิ้นอุดมการณ์ ๚ะ๛
 				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
มาอีกรอบนะ พยายามจะเขียนกลอนที่นี่ แต่ยังใช้ไม่เป็น เห็นกลอนขุดบ่อล่อปลาแล้วคิดถึงอิม คิดถึงเรื่องเก่า ๆ จะสิบปีแล้วสินะที่เริ่มเขียนกลอนได้ เหมือนกลอนที่เคยอ่านหรือเขียนขึ้นใหม่นะ
คิดถึงจังอิม สบายดีหรือเปล่า