28 มีนาคม 2556 16:38 น.

การเปลี่ยนแปลง

อัลมิตรา

 
<< ย้ายบ้าน 3 หน >> 
ทุกครั้งที่ย้ายบ้าน ฉันมักจะกังวลใจมาก  กลัวไม่มีเพื่อน กลัวหลงทาง กลัวการเดินทาง กลัวนั่นนี่ จิปาถะ จนนอนไม่หลับหลายคืน แน่ล่ะ  ฉันเกิดมาในแวดวงศาคณาญาติ  สมาชิกในขอบรั้วราว ๆ 50 คน แล้วจู่ ๆ วันหนึ่ง วันที่ฉันไปโรงเรียนตามปกติ ผิดแต่ว่า แม่มารับกลับบ้าน ทว่า ไม่ได้กลับบ้านเส้นทางเดิม แม่พาเดินไปไกล ต้องข้ามถนน ต้องเข้าซอยลึก วกวน บ้านไม้สองชั้น ไม่ได้สร้างความคุ้นเคยให้กับฉันเลย แต่เพื่อนบ้านวัยเดียวกันมีเยอะ ฉันเองก็เด็กเกินกว่าจะรู้เหตุผลว่า ทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ ไม่ค่อยสุขสบายนักเลย
ถึงแม้ว่าอีกสองปีถัดมาจะต้องย้ายบ้านอีกครั้ง คราวนี้เป็นตึกแถวสามชั้น ซึ่งอยู่คนละฟากทิศจากเดิม แต่อยู่ใกล้กับโรงเรียนกว่า เพื่อนบ้านเชื้อสายจีนกันทั้งนั้น คืนแรก ฉันฝันว่าที่นี่มียักษ์ ยักษ์ยืนอยู่หน้าบ้านแล้วส่งสายตามายังฉัน ยิ้มแยกเขี้ยวด้วย ที่นี่ เช่าเขาอีกเหมือนกัน ความเป็นอยู่ ก็ไม่ค่อยสุขสบาย.. เหมือนเดิม
ตอนนี้ ฉันมีบ้านของตัวเองแล้ว มีทั้งบ้าน และคอนโด ไม่ลำบากดั่งแต่ก่อน ฉันเลือกอยู่คอนโด เพราะใกล้ที่ทำงาน เอาไว้แก่กว่านี้ เกษียณก่อน ค่อยไปอยู่บ้าน อยู่คอนโดนี่ก็ดีไปอย่าง เล็ก กระทัดรัด สะดวกสบาย   ทว่าก็เหงานะ เพื่อนบ้านแยะ แต่ต่างคนต่างอยู่ ขนาดเจอกันที่ลิฟท์ ยังอัตคัตรอยยิ้มเลย ทำไปทำมา เหงือกฉันก็แห้งไปโดยปริยาย
เปรียบเทียบกับบ้านหลังแรก ความสุขช่างแตกต่างกันลิบลับ แต่ฉันก็ไม่อยากที่จะโหยหาอดีตให้มันกัดกร่อนใจไปมากกว่านี้
<< ย้ายโรงเรียน 3 ครา >> 
โรงเรียนอยู่แถวบ้าน เป็นโรงเรียนคาทอลิก ฉันเรียนที่นั่นตั้งแต่ชั้นเตรียม จนถึง ม.3  พี่ ๆ ของฉันก็เรียนที่โรงเรียนนี้ เขาแยกฟากเรียก ฝั่งหญิง/ฝั่งชาย มีกำแพงกั้น เรียกได้ว่าทุกซอกมุม ไม่มีพื้นที่ใดในโรงเรียนที่ฉันไม่เคยเข้าถึง ต้นไม้ใหญ่ทุกต้น ฉันเคยปีนป่ายเล่น  เรือใบไม้แล่นฉิวในคลองเล็ก ๆ  แปลงเกษตรที่ปลูกพืชสวนครัว ตะไคร้ ข้าวโพด ผักคะน้า ฉันยังคงจดจำได้ดี
แต่ทำไงได้ ตอนนั้นที่โรงเรียนยังไม่เปิดชั้นมัธยมปลาย  ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อ เพื่อนบางคนเรียนต่อสายสามัญ ส่วนฉันเลือกสายพาณิชย์ เพื่อนบางคนไม่มีโอกาสที่จะเรียนต่อด้วยซ้ำไป
ฉันสอบเข้าวิทยาลัยของรัฐได้ ไกลมาก ใช้เวลาเดินทางเกือบ 2 ชั่วโมง สำหรับคนเมารถอย่างฉัน เรียกได้ว่า ลำบากเหลือเกิน แต่ด้วยความที่อยากเอาชนะตัวเอง ให้มันรู้ไป เมารถตาย จะได้ลือลั่นโลก
ที่วิทยาลัย ฉันไปไม่ค่อยจะทันเวลาเคารพธงชาติ ที่เสมอต้นเสมอปลายคือทันคาบสอง  ยังดีนะ ที่หัวสมองลิง การเรียนจึงไม่ตก ถึงตอนนี้ ฉันรู้วิธีสร้างรายได้เพื่อจุนเจือการเรียน ฉันทำ sheet ขาย ให้เช่าสมุดบัญชีเพื่อลอกการบ้าน ไหมล่ะ หัวใสมั๊ย
ตลอดช่วงการเรียนสามปีที่นี่ ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับวิทยาลัยเลย ทั้งที่เวลาเรียนต้องไปหาห้องเรียน  วิทยาลัยนี้กว้างขวางเกินไปสำหรับฉันมั๊ง แต่ เอ.. ไม่สิ โรงเรียนเก่ากว้างกว่าตั้งเยอะ คงเพราะฉันไม่ได้วิ่งเล่นสำรวจพื้นที่  ฉันไม่ค่อยสนใจกับการทำความรู้จักวิทยาลัยนี้สักเท่าไหร่ แหมมม อยากจะบอกว่า ไม่ค่อยผูกพันด้วยซ้ำไป
แล้วฉันก็ทำงาน ทำงานสักพัก อกหัก ก็เลยคิดเรียนหนังสือ ทำงานไปเรียนไป ด้วยความงก เพราะต้องจ่ายค่าเทอมเองกระมัง ทำให้ฉันมีผลการเรียนดีเยี่ยม พูดแล้วจะหาว่าคุย ในระดับอนุปริญญา 4 เทอมของฉัน เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.9 มีอยู่เทอมหนึ่ง ที่ได้เกรดเฉลี่ย 4.00  ได้รับใบประกาศเกียรติคุณด้วยนะ  พ่อดีใจปลาบปลื้มมาก ทันทีที่ได้ใบประกาศมา พ่อรีบเอาไปร้านใส่กรอบซะหรู ส่วนฉันน่ะเหรอ ฉันคิดว่า ฉันน่าจะได้ทุนการศึกษามากกว่านะ โธ่ บอกแล้วไง ฉันงก น่ะ 
ที่นี่ ฉันเรียนภาคค่ำ ไปถึงโรงเรียนตอนเย็น  เรียนเสร็จไปทำงานเข้าเวรดึก เช้ากลับบ้านนอน แล้วก็ตื่นมาเย็นไปเรียน กิจวัตรประจำวันของฉันมีเท่านี้
อาจารย์บอกฉันว่า .. อย่าหยุดเรียนนะเธอ ผลการเรียนของเธอดีมาก เธอมีโอกาสที่จะก้าวหน้า ให้มุ่งมหาวิทยาลัย
คงเพราะฉันสายตาสั้น ฉันจึงไม่ได้มองอะไรที่ยาวไกล ที่มาเรียนต่อ ก็เพราะต้องการทำตัวไม่ว่าง  อกหักไง แล้วเรื่องอะไรที่อกหักแล้วจะต้องเศร้า จริงป่ะ
แต่ในที่สุด ฉันก็เรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่อนเป็นคนสมัครให้ ฉันมีหน้าที่จ่ายตังค์ซื้อเอกสารสมัคร และส่งเอกสารยื่นให้ นอกนั้นเพื่อนกรอก โห ... เล่มหนาปึ๊ก แค่กรอกสมัครเรียน ฉันยังรู้สึกว่ามันยุ่งยากมากเลย ตกลงว่า ฉันต้องเรียนในคณะที่เพื่อนสมัครให้  ฮา ..  เรียนก็เรียน
มหาวิทยาลัยอยู่ไกลนะ ฉันเคยไปตอนใกล้จบ ต้องไปเก็บวิชาสุดท้าย ตลกดีเหมือนกัน เพิ่งรู้เองเนี่ยว่ามหาวิทยาลัยอยู่นี่ กินอยู่หลับนอนหลายวัน แต่ก็ยังไม่รู้อะไรให้คืบหน้าเลย เถอะน่า เขากำหนดไว้  "ไม่มาก็ไม่จบ" 
....
ทั้งหมดที่บอกเล่าเรื่องราวในบล็อก ก็เพียงเพื่อให้รู้ว่า
ที่จริงแล้ว การหยุดนิ่งในชีวิตของคนเรา มันไม่มีเลย
ดังนั้น อย่ากลัวที่จะเปลี่ยนแปลง อย่าเพิ่งคิดว่ามันเป็นสิ่งยุ่งยาก
ถ้าบรรพบุรุษของเราไม่เปลี่ยนแปลง
ป่านนี้ พวกเราคงอยู่ถ้ำ นุ่งหุ่มใบไม้กันล่ะ จริงมั๊ย  
26 มีนาคม 2556 21:19 น.

ตรงเส้นขอบฟ้า

อัลมิตรา

...เส้นขอบฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...เสียงแผ่วของหัวใจถามไปนั่น
...เฉกน้ำ-ฟ้าเมื่อเห็นคงเช่นกัน
...คล้ายบางสิ่งขวางกั้นทางสัญจร
...เส้นขอบฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...ระหว่างไพรสิงคลิ้ง*ท่ามสิงขร
...คราฟากฟ้ารับขวัญตะวันรอน
...ทอแสงอ่อนลาลับอ้อมเหลี่ยมผา
...เส้นขอบ.ฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...ขอถามไถ่อีกครั้งเพราะกังขา
...ยามราตรีเด่นเดือนดาษดารา
...สลับเลื่อมม่านฟ้าหลากอารมณ์
...เส้นขอบฟ้าสิ้นสุด ณ จุดไหน
...แม้นบางใครวิสัชนาอุราสม
...คงปลาบปลื้มดื่มด่ำคำภิรมย์
...ด้วยชื่นชมกวีพร่ำลำนำเพลิน
25 ธันวาคม 2555 20:52 น.

ของขวัญสำหรับตัวเอง

อัลมิตรา

นานมาก... เคยคิดที่จะซื้อหนังสือชุดเพชรพระอุมาให้กับตัวเอง ทยอยซื้อทีละเล่มสองเล่มก็ได้ ปลอบใจตัวเองไปเรื่อยตามประสาคนไม่มีตังค์ แต่จนแล้วจนรอดก็ได้แต่ฝัน เพราะมีเหตุจำเป็นอื่นที่สำคัญกว่าการเป็นเจ้าของหนังสือชุดเพชรพระอุมา

นั่น .. เป็นคนเขียนผสมบ่นเล็กน้อย ราว 12 ปีที่ผ่านมา และก็เหมือนฝัน มีคนใจดีให้หนังสือชุดเพชรพระอุมาครบ 48 เล่ม .. ช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์อะไรเช่นนี้ สิ่งดี ๆ ก็เกิดขึ้นได้อย่างไม่คาดฝัน

...........................


บางที ก็ลืมไปว่า ลืมดูแลเอาใจใส่ตัวเอง มัวแต่นึกถึงสิ่งที่อยู่รอบข้างมากเกินไป ราวกับว่า มีชีวิตเพื่อผู้อื่นซะงั้น

ถ้างั้น ลองตั้งต้นปรับความคิดใหม่ ปีใหม่นี้จะมอบของขวัญสำหรับตัวเอง เป็นอะไรดีนะ นึกก่อน ... อันดับแรกเลย หม้อหุงข้าวอุ่นทิพย์รุ่นโบราณ  เหตุที่เป็นหม้อหุงข้าวก็เพราะว่า ทนกินข้าวไม่อร่อยมาสองสัปดาห์แล้ว หม้อหุงข้าวอุ่นทิพย์ใบเก่ายังไม่เสีย แต่มันเก่า ตัดใจทิ้งไป แล้วก็ซื้อแบบรุ่นใหม่ ทรงสวย ทว่า อย่างที่บอก .. ข้าวสวยมันไม่ยักจะสวย ข้าวกล้องกลายเป็นข้าวที่ไม่อยากมอง

แล้วเพื่อน ๆ ล่ะ คิดหาของขวัญสำหรับตัวเองเป็นอะไรกันบ้าง ไหน ลองแชร์ความคิดกันหน่อยสิ				
3 ตุลาคม 2555 19:39 น.

14 ตุลา .. มีนัดกับอัลมิตรากันดีไหม ?

อัลมิตรา

วันที่ 14 ตค. วันที่บางใครไประลึกถึงความหลังครั้งยังเป็นนิสิต บางใครฟังเรื่องราวที่เล่าแล้วฉวยหนังสืออ่านหน้าประวัติศาสตร์ซ้ำอีก ..

ช่างเหอะ บางใคร ก็ บางใคร 

แต่ก็มีการรวมตัวบางใครหลายคน เพื่อไปปฏิบัติการ แชะ แชะ แชะ แล้วก็เตรียม แฉะ แฉะ แฉะ เออแน่ะ มันไม่รอดหรอก ฝนจะรั่วหรือเปล่าก็ไม่รู้ 
...
งานนี้เพื่อนร้อยฝันลงทุนเดินทางมาจากชัยภูมิ ไปดักรอที่พัทยากลาง ดีไม่ดีสาวน้ำตาลหวานร่อนลงมาจากพิษณุโลกมาสมทบ แม่มดใจร้ายขี่ไม้กวาดดักรอกลางทาง กุ้งหนามแดงกระดิกหนวดไหว ๆ รอให้ไปรับแถววัดศรีเอี่ยม ยังมีหนุ่มอวบขาว หนุ่มเดียวในบรรดากลุ่มสาว (เกือบแก่) อ้อ ! ลืมไม่ได้เลยคนนี้ สาวแก้มป่อง เพราะถ้าไม่มีเธอ นัดนี้คงบอดสนิท ...

ใครบ้างอยู่ชลบุรี เจอกันหน่อยประไร 
ใครว่างบ้าง ไปร่วมสังสรรค์เฮฮากันหน่อยดีไหม

เป้าหมายแรก พิพิธภัณฑ์ภาพ 3 มิติ เป้าหมายที่สอง เล่นน้ำทะเล เป้าหมายที่สาม ฮ่า แหะ แหะ .. ยังไม่รู้เลย				
24 กรกฎาคม 2555 08:23 น.

พาเธอมาประท้วง

อัลมิตรา

อ้างถึง : http://203.150.0.182/forever/ipage/poem145087.html  


ความคิดเห็นที่ 35 : หมายเลข 1271983  
ขอประท้วงท่านผู้ดูแลระบบเล่นผิดกติกา
ไม่ล้อกอินสามารถแสดงความเห็นได้
บางคนใช้อักษรย่อก็ได้ ไม่ให้มีการสืบหาว่าเป็นใคร
แต่ไฉนท่านอยากให้ลงชื่อแสดงความจริงใจ
กลอนที่ท่านแต่งก็ไม่ได้ลงชื่อว่าเอ่ยถึงใครนอกจากพี่คนสนิทกัน การที่ท่านเก่งไอทีสามารถรู้ว่าเป็นใคร
ให้เผยตัว ไม่ควรเลือกปฏิบัติเพราะมีมากมายที่ไม่
ล้อกอิน ถ้าอยากให้จริงใจทุกคนต้องล้อกอินเหมือนกันหมด อย่าเลือกที่รักมักที่ชัง 
สมาชิกคนหนึ่ง 23 ก.ค. 55 - 22:25 IP 166.137.88.168  


 ค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ พิจารณา ใครคิดเป็นทนาย ใครคิดเป็นลูกขุน ใครคิดเป็นตุลาการ .. เชิญเต็มที่  นาน ๆ จะลงมาเล่นแบบนี้สักที เวทีนี้ไม่มีพี่เลี้ยงนะจ๊ะขอบอก 				
Calendar
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอัลมิตรา
Lovings  อัลมิตรา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอัลมิตรา