30 กรกฎาคม 2547 05:53 น.

..รำเพยรัก...

อาภาภัส




                                           รื่นรำเพยกลิ่นกรุ่นละมุนหวาน
                                          จิตผสานนึกถ้อยมาแถลง
                                          นานหนักหนากว่าได้คำแจกแจง
                                          มิจะแจ้งทบทวนจนเหนื่อยใจ

                                           แก้วละออหอมหวนทวนความหลัง
                                           เมื่อครั้งยังวัยอยู่สวยสดใส
                                           หยิบดอกแก้วเสียบผมพรมลมไพร
                                           หอมชื่นไซร้กลิ่นกล้ายังตราตรึง

                                           ชมพูพวงพาดพันลอดรายเรียง
                                           กระจายเคียงริมรั้วดังกางขึง
                                           นานหนักหนาข้าคงครวญคำนึง
                                           หวังรักซึ่งพึ่งจิตสนิทนาน

                                           จะอิงแอบแนบข้างมิร้างเร่
                                           ราตรีเห่ขับกล่อมรักสมาน
                                           ใจจับใจโอบไว้ป้องภัยพาล
                                            ทิพาผ่านคล้อยเคลื่อนยังอุ่นไอ

                                            เชลงพจน์พิจิตรสถิตฟ้า
                                           รอนแรมหาองค์เอกหทัยใส
                                           ได้แต่วอนคำขานระบัดใบ
                                           มิเห็นในใครหนอคือคนเคียง

                                            พิกุลร่วงลานพ้อรอจะเห็น
                                            ดนูเป็นเช่นดังได้ยินเสียง
                                            ละมุนถ้อยร้อยหทัยให้อ่อนเอียง
                                            จักหมายเมียงมอบไว้ใจนงราม

                                            อรุณเรื่อเบิกหล้านภาพร่าง
                                            คงมิห่างพิงเพลินและคอยถาม
                                            จะห่มจิตสิทธิ์มอบตอบคำความ
                                            รักจะตามสามหล้าจ้าเจิดจินต์

                                            ใช่ลวงคำนำมากล่าวเสแสร้ง
                                            มิกลายแกล้งเอ่ยเอื้อนฝากฟ้าสินธุ์
                                            สมุทรลึกหยั่งรากล้นลานดิน
                                            รักมิสิ้นสลักซึ้งหนึ่งดวงใจ

                                     
                                    อรุโณทัย อาภาภัส
           
                                   ๓๐  กรกฎาคม ๒๕๔๗      
                              


				
29 กรกฎาคม 2547 01:44 น.

นำวิญญาฯ..ผ่านวิญญา.. (หน้าส่วนตัว)

อาภาภัส


                ด้วยเดชะวราฤทธิ์สิทธิ์สวรรค์
                อัญเชิญฝันแห่งองค์ท่านบันดาลผล
                ให้ครวญคิดผสานภาษายล
                จับกมลลูกหลานกานท์กวี

มาเถิดเหวยผองชนล้วนรักชาติ
จงประกาศเกริกกล้าภาษาศรี
ไทยประหนึ่งยิ่งฟ้ายิ่งชีวี
คุณความดีบรรพชนยังล้นใจ

               จงพากเพียรเขียนงานอ่านสื่อสิ่ง
               อย่าเกรงกริ่งใจแกร่งแรงไฉน
               เฉือนให้ขาดฟาดคำให้คึกไกล
               ร่างจากไปเหลืออยู่คู่ธาตรี

อันแดนไทยใหญ่ยอดเยี่ยมสถิตย์
พระทรงสิทธิ์ผู้มีบารมีศรี
จงร่วมรบร่วมต้านมารกวี
ปรับเป็นดีผูกใจไว้ด้วยกัน
   
              คนเรานั้นจากวันวาดเป็นปี
              ดวงฤดีหวังใดให้ได้ฝัน
              ตัวหนังสือมอบไปเป็นรางวัล
             ชึพจะสั้นใจสฤษดิ์พิชิตงาน

ถอดดวงมาลย์กรานฟ้านภาพิสุทธิ์
หวังสลุดลานกวีทวีประสาน
ร่วมรำลึกตรึกตรองร้อยกลอนกานต์
ดวงวิญญานมิลับดับคาลอย

              บนหนทางสร้างคนบนความคิด
              จะถูกผิดมิแปลกมิแยกสอย
              ค่าของใจเจิดจรัสที่เรียงร้อย
              เหนือเพชรพลอยพราวหนึ่งตรึงปฐพี

ณ  เวลาคราเยี่ยมพาราสรวง
เจ้าจงล่วงลุสายปลายศักดิ์ศรี
จงกำเนิดเชิดหน้าผดุงวจี
ดั่งอินทรีย์ผยองฟ้ากล้าตำนาน
               




ด้วยรำลึกจากองค์ท่าน            ร่วมเรียงร้อยสิ่งในฝัน
มามอบเป็นเกียรติกำนัล         ทุกผองท่านทั่วถิ่นไทย
     
                 อรุโณทัย   อาภาภัส
                ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๗

				
28 กรกฎาคม 2547 06:07 น.

นำวิญญาน ..ผ่านวิญญา...

อาภาภัส



                ด้วยเดชะวราฤทธิ์สิทธิ์สวรรค์
                อัญเชิญฝันแห่งองค์ท่านบันดาลผล
                ให้ครวญคิดผสานภาษายล
                จับกมลลูกหลานกานท์กวี

มาเถิดเหวยผองชนล้วนรักชาติ
จงประกาศเกริกกล้าภาษาศรี
ไทยประหนึ่งยิ่งฟ้ายิ่งชีวี
คุณความดีบรรพชนยังล้นใจ

               จงพากเพียรเขียนงานอ่านสื่อสิ่ง
               อย่าเกรงกริ่งใจแกร่งแรงไฉน
               เฉือนให้ขาดฟาดคำให้คึกไกล
               ร่างจากไปเหลืออยู่คู่ธาตรี

อันแดนไทยใหญ่ยอดเยี่ยมสถิตย์
พระทรงสิทธิ์ผู้มีบารมีศรี
จงร่วมรบร่วมต้านมารกวี
ปรับเป็นดีผูกใจไว้ด้วยกัน
   
              คนเรานั้นจากวันวาดเป็นปี
              ดวงฤดีหวังใดให้ได้ฝัน
              ตัวหนังสือมอบไปเป็นรางวัล
             ชึพจะสั้นใจสฤษดิ์พิชิตงาน

ถอดดวงมาลย์กรานฟ้านภาพิสุทธิ์
หวังสลุดลานกวีทวีประสาน
ร่วมรำลึกตรึกตรองร้อยกลอนกานต์
ดวงวิญญานมิลับดับคาลอย

              บนหนทางสร้างคนบนความคิด
              จะถูกผิดมิแปลกมิแยกสอย
              ค่าของใจเจิดจรัสที่เรียงร้อย
              เหนือเพชรพลอยพราวหนึ่งตรึงปฐพี

ณ  เวลาคราเยี่ยมพาราสรวง
เจ้าจงล่วงลุสายปลายศักดิ์ศรี
จงกำเนิดเชิดหน้าผดุงวจี
ดั่งอินทรีย์ผยองฟ้ากล้าตำนาน
               




ด้วยรำลึกจากองค์ท่าน            ร่วมเรียงร้อยสิ่งในฝัน
มามอบเป็นเกียรติกำนัล         ทุกผองท่านทั่วถิ่นไทย
     
                 อรุโณทัย   อาภาภัส
                ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๗










				
21 กรกฎาคม 2547 17:42 น.

แลกใจ..ใบไม้

อาภาภัส



         เหตุบังเอิญเปิดสาสน์อ่านหน้าจอ 
         พบคำขอแลกใจของใบไม้
         ไม้หอมไหมแลกใบคงได้ใจ
          แต่เพียงใบใจบิดชิดจึงจาง

          ใจเจ้าเอยเคยจำคำว่ารัก
          ใจเจ้าภักดร์ถักกอมิเมินหมาง
          ใจเจ้าเอื้อเคยเกื้อแต่กลับวาง
          ใจเจ้าห่างร้างใจใยจะเจอ

          ครวญคำมาว่าใจต้องแลกใจ
          ครวญคุในร้อนไฟหวั่นเสมอ
          ครวญร้องหาอุรารู้รักเธอ
          ครวญแล้วเก้อเกิดทุกข์สุขราโรย

          หากว่ารักรักกันมั่นในจิต
          หากพึงคิดนิยมใช่หน่ายโหย
          หากซึ้งค่าวาจาใช่มาโปรย
          หากบินโบยรักตรงจงรีบจอง

           จะเกี่ยวก้อยร้อยใจไปฟากฟ้า
           จะกล่าวอ้างเทวามาคู่สอง
           จะมิพรั่นพร้อมสมัครเป็นคู่ครอง
           จะยอมมองจ้องปลูกผูกไมตรี

           ลอยตามลมพรมพร่างร่างใบไม้
           ลอยตามใครตามใจหทัยฉวี
           ลอยคำรักทักมาฝากวจี
            รอยคำนี้มีค่าใจแลกใจ
       
           ฝากลำนำมอบให้ใบไม้พลิ้ว
           เจ้าจงลิ่วมามอบปลอบรักใส
           รักกันอยู่คู่หล้าคู่โดมไทย
           รักกันไว้คงมั่นลั่นไทยโพม


                        อาภาภัส
        เห็นสาสน์โดยบังเอิญ..ปลิวมาไงไม่รู้ขอท่านผู้ชมอย่าคิดมากนะเจ้าคะ
        อิฉันมิรู้จักใครๆในชีวิตจริงงบนโลกกลอนนี้ นอกจาก ..คุณ.คนเก่งสาว    
        สวยคนดังไทยโพมสองสามคนเล่นทางเน็ตน่ะค่ะ
          





				
21 กรกฎาคม 2547 13:58 น.

...ชื่นรัก.

อาภาภัส



(ช)            เสียงลมครวญหวีดหวิวพลิ้ววู่วู้
                  เหมือนใครกู่พรำเพรียกเรียกตามหา
                  เจ้าอยู่ไหนไกลหนอฤาใกล้ตา
                  ฝากชีวาคำวอนอ้อนสัมพันธ์

                  เจ้าน่าชมน่าชิดพิสวาท
                  ยามนวยนาดอรชรชวนใฝ่ฝัน
                 ช่างยั่วยิ้มพริ้มเพราเกินจำนรรจ์
                 งามตะวันรัญจวนเย้ายวนใจ

                 นวลน้องหวานปานอรุณระเรืองเรื่อ
                 อุ่นโอบเอื้อภิรมย์พรมสดใส
                 มิหาญหักพักตร์อิ่มยิ้มละไม
                 มอบมาให้ไมตรีพี่เอ่ยคำ

    (ญ)        ลมพัดแรงเริงลมพรหมลิขิต
                 นฤมิตรฝันก่อต่อคมขำ
                 นุ๙นวลน้องกู่ร้องตอบลำนำ
                 จงพึงจำรักนี้มีเพื่อเธอ

                 รูปมิสวยมิสาวพราวเสน่ห์
                 มีเกเรล้อเลียนเว้าเสมอ
                 พูดจริงหนักความรักใช่ละเมอ
                 ขออย่าเก้อหากรักต้องพักพิง

                 ชื่นชมกันเชื่อมั่นในนิสัย
                 ยามอยู่ใกล้เย้ายิ้มใช่มาดสิงห์
                 ฤารัวคำมิจำในความจริง
                 ผลักรักทิ้งทุกข์ท้อทรมา

   (ช,ญ)     พรหมบันดาลรักหวานให้หวานเพิ่ม
                เข้าใจเสริมสานกอก่อรักหนา
                อยู่ร่วมกันตราบจนสิ้นชีวา
                ทุกเวลาร่วมเคียงหล่อเลี้ยงใจ
                
                 






				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส