12 เมษายน 2548 11:30 น.

รางวัลหวัง

อาภาภัส

รางวัลหวัง
                     ไอ้หวังเอ๊ยเอ็งเห็นผู้คนไหม
                     เขารอใครอยู่กันกระนั้นหรือ
                    สิ่งเขาคิดคงเป็นเงินทองฤา
                    ไม่ก็คือคุณธรรมประจำใจ
                    คงอยากให้สงกรานต์นี้เย็นฉ่ำ
                     ฝนพรมพรำน้ำคำล้วนผ่องใส
                     จงรวยเงินเหินฟ้าหุ้นโตไว
                     อ้อต้องให้คนจนอิ่มทั่วกัน
                     เสียงพ่อหวังดังแทรกมาเฉียบขาด 
                     เฮ่ยอย่าวาดสิ่งหรูเกินสุขสันต์
                     ชีวิตนี้เกิดมาหาคุ้มพลัน
                     คือแบ่งปันปลดทุกข์สุขพอกิน
                    สองมือเราคว้าใดใจตั้งมั่น
                    มุ่งบากบั่นอดทนสร้างทรัพย์สิน
                   ในยุคนี้นับรวมหวยบนดิน
                    ทางไม่สิ้นหรือสุดกุดตามดวง
                    แบ่งไว้เสี่ยงเพลี่ยงพล้ำแค่น้อยนิด
                   เพราะรัฐคิดช่วยไม่ตะขิดตะขวง
                   หวังเพลิดเพลินออมสินไม่โบ๋กลวง
                   เงินเป็นยวงก็หยิบลงหุ้นทอง
                   ฟ้าครางครึนตกใจในคนหวัง
                   น้ำฝนยังจะแย่เหลือแค่หนอง
                   สงสารจริงสิ่งสมคือลมล่อง
                   เอาละวามาร้องย่องแย่งเพลง

                   สนุกกับหวังวันสงกรานต์นะจ๊ะ          อาภาภัส 12  เมษายน 2548				
9 เมษายน 2548 22:35 น.

สงกรานต์...สานใจ

อาภาภัส



                           กรุงเทพ...ฟ้าอมร     
                 ลอยตามลมหน้าร้อนแรง                ฝ่าสายปลายแสง	
             ระอุคุผ่าวตะวัน
                 มองเห็นดินแดนสวรรค์                 สุดสรรค์ลาวัลย์         
                 เมืองเทพมายาฟ้าอมร
                 นาคาเสด็จมาพ่นศร                       วารีอรชร
                พลิ้วพล่านกระจายฉ่ำเย็น
                เทพธิดามณฑาเล็งเห็น                    ทรงขี่ลาเป็น
                แห่เศียรกรายสุเมรุทอง
                ภาพจรดจำรัสน่ามอง                      ราชดำเนินปอง
               งานตรุษมหาสงกรานต์
               สิบสามลุวาระสมาน                        สุขชนประสาน
               สืบประเพณีนิยม
               เคารพพบญาติสั่งสม                         รินหลั่งธารพรม
               กตัญญุตาบุพการี
               กราบพระขอพรสุขศรี                       บันดาลมากมี
               พัชรเงินตราแพรพรรณ
               ตรองตรึกสลักสายฝัน                      สงกรานต์สัมพันธ์
              กรุงเทพเมืองอมรวัฒนา
               กระแสน้ำไหลรวมหล้า                   ผนึกสามัคคีกล้า
              กระฉ่อนร่อนฟ้าโลกชม

             อาภาภัส   9  เมษายน  2548
             





				
9 เมษายน 2548 18:17 น.

เสียง..แห่งสุข

อาภาภัส

เสียง..แห่งสุข
              เพลงหรรษาพาร้อนไปผ่อนพัก       แล้วรีบตักสุขเติมเพิ่มสีสัน
            กลบเหล่าทุกข์ปิดผนึกสักหลายวัน   มาแบ่งปันสายใยไมตรีงาม
            ตรุษสงกรานต์ตระการสกาวก่อง      มวลพี่น้องภาคใดทั่วเขตขาม
           ร่วมระลึกตรึงตราพาสุขตาม              เยี่ยมสยามน้ำโปรยโรยละออง
           หว่านสิ่งดีทวีทรัพย์รับปีใหม่             แบบแผนไทยเดิมรั้งทั่วทั้งผอง
           จงอยู่ร่วมรวมรักปลูกปรองดอง         สิ่งมัวหมองสูญสลายมลายลง
           พร้อมใจกันกตัญญูญาติผู้ใหญ่         กรานกราบไหว้ขอพรเหล่าพระสงฆ์
           รื่นเถลิงศกใหม่ให้ไทยยง                  สง่าคงสถิตฟ้าใต้บารมี
            ณ วันนี้ขอมีแต่อาบสุข                      เริงสนุกแบ่งปันวันสุขศรี
           จรดเหนือใต้ตกออกตรอกต่างที่        เหล่าน้องพี่เย็นจ้ามหาสงกรานต์    
           เทพทุกทิศมิแบ่งแหล่งศาสนา           ต่างปรารถนาผองชนสมสนาน
           ชาติกว้างไกลด้วยไทยไร้ภัยพาล      ใจสว่างนานสราญสุขสนุกเทอญ

อาภาภัส   9 เมษายน 2548				
2 เมษายน 2548 18:56 น.

กระจกรัก

อาภาภัส









        นานมาแล้วในดินแดนแคว้นกระจก      กระทกลกไต่ยอดลอดลายเถา
        ผ่านอ่อนไหวข้างหน้าแลเห็นเงา              ของตัวเจ้าสีม่วงคล้ายพวงคราม
       สำนึกอยู่เราสู่เพียงดินดาน                     ไร้วิมานกระถางชนจึงหยาม
      หลงชื่นชมนิยมฟ้าสวยงาม                       ซึ้งตรึงตามเสียงแว่วแก้วเรไร
       จั๊กจั่นเจื้อยเรื่อยกรีดหวีดดังเรียก              ใจสำเหนียกนึกเอาเคล้าเฉไฉ
       คงเป็นรักที่กลั่นออกจากใจ                       ดื่มด่ำไฟถวิลหาอนาทร
       มองเขม้นเห็นสุขมิมีเหงา                          เสียงรัวเร้าคล้ายดังพรหมเล็งศร
        จับใจหนึ่งขึงใจผูกเพลงพร                      แต่เดี๋ยวก่อนกระจกตกแตกลาย
         เศษร่วงริ้วปลิวฝันกระแทกไล่                เช้าวันใหม่เรไรใช่ดงหมาย
        เงียบยังคงลมโบกบาดลงลาย                   รักกลับกลายโดดเดี่ยวดงลืมวัน
        ณ  ตราบนั้นคำมั่นจึงลอยล่วง              ไปติดบ่วงเบ้าหลอมบนสวรรค์
         คราใดที่ใครรักปักใจนั้น                          กระจกฝันล้อมรั้วขั้วใจเคียง
        หากมิใช่รักหายคล้ายคันฉ่อง                    ยามจ้องมองเห็นไร้ราวสุดเสียง
        ลางรักเลื่อนเตือนไว้คงเป็นเพียง              ไฟตะเกียงก่อเก็บไว้ในนิทรา

         อาภาภัส  2 เมษายน 2548          

				
2 เมษายน 2548 17:57 น.

ฮัลโหล

อาภาภัส


  ทำไมไม่รับสาย...
   ผมไม่สบาย..คอมันเจ็บ
   แล้วแถมมีเห็บตามตัว
  ทั้งแก้มหัวก็ตกเต็ม
  ที่จีนหนาวงั่กงั่ก
  พิษไข้รักยิ่งกว่าเข็ม
  เพราะคิดถึงคุณเค็ม
  เลยยืนเล็มลูกเห็บพลาง
 ทำไมไม่โทรกลับ......
 โธ่จะรับก็เห็นสาง
 คุณสั่งว่ากลางทาง
 ประหยัดสตางค์ไว้จะรวย
 อย่าคิดมากคนดี
 ในชาตินี้ใครจะสวย
 หน้ายังกับกระบวย
 ต่อให้หมวยก็ไม่มอง
ทำไมไม่ฝันถึง....
ผมนั่งซึ้งเพียงเราสอง
เห็นไม้เท้ากะพลอง
เสียงตีกลอง ใจโอดครวญ
หมื่นแสนใดในหล้า
ใจผมกล้าชื่นใจหวน
คุณคนเดียวเนื้อนวล
มิเรรวนตราบฟ้ายัง
     ...........นะ คนดี  ....

สนุกๆ  วันเสาร์  2 เมษายน  2548    อาภาภัส







				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส