23 มกราคม 2552 09:42 น.

รักคงไม่ทำร้าย

อินทรีน้อย

หากสิ้นสายใยรักจนร้างไร้
คงสิ้นศัพท์สำเนียงใดให้ยิ้มกริ่ม
คงจืดชืดไร้ชีวาเหล่าภาพพิมพ์
คงกาพย์กลอนกร่อนสนิมสนิทเนื้อ

หากสิ้นไร้สายใยรักระรินรื่น
คงดาษดื่นประดาความน่าเบื่อ
ปรางนารีคงไร้กลิ่นประทินเจือ
มนุษย์เราคงไม่เหลือเป็นเผ่าพงศ์

ปลูกต้นรักต้นใหม่เอาไว้บ้าง
ทำเครื่องหมายรายทางกันลืมหลง
เครื่องหมายคือ "ไม่แน่นอน" คู่ยืนยง
ความรักคงไม่ทำร้ายใครได้เลย
				
21 มกราคม 2552 06:50 น.

ก็เท่านั้น

อินทรีน้อย

ท่ามกลางความวุ่นวายข้าคล้ายเหงา
มีอณูความเศร้าเคล้าความฝัน
ท่ามดนตรีครื้นเครงข้าเงียบงัน
ท่ามผู้คนร้อยพันข้าเดียวดาย

ท่ามรอยยิ้มเสียงหัวเราะเสนาะนั้น
ข้าก็พลันเห็นร่ำไห้ชวนใจหาย
ในสำนึกตรึกตรองเรื่องมากมาย
แต่สุดท้ายข้าสรุปเพียงผ่านไป

ยามยลฟ้าสดใสไปทั้งฟ้า
อนิจจาข้ากลับมองไม่สดใส
ในสำนึกเห็นเงามืดไกลแสนไกล
ไร้ที่สุด, หลังม่านใสม่านสีฟ้า

เห็นผู้คนเดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้
ข้าไม่คล้ายแต่ใคร ๆ เรียกข้า "บ้า"
ด้วยที่เห็นล้วนเป็นเรื่องธรรมดา
ปรากฏมีทุกเวลาไม่เปลี่ยนแปลง

ยามยลแสงสุริยาบนฟ้าโพ้น
ข้ากลับเห็นไปโน่นยามลับแสง
ยามข้ามองดอกไม้งามระเรื่อแดง
ข้ากลับเห็นความเหี่ยวแห้งแฝงไม้งาม

หมอก็หายาดีให้ข้าดื่ม
ข้าก็ลืมจะเอื้อนเอ่ยออกไปถาม
ข้าเป็นปกติดีทุกโมงยาม
ใยคุณหมอคนงามให้กินยา

หมอไม่ตอบมีแต่ส่งยาให้
กินเข้าไปเถิดนี่เป็นการรักษา
ให้ข้ากลับคืนเป็นคนธรรมดา
ข้าก็บอก "ไม่ได้บ้า" ข้ายืนยัน

หมอส่ายหน้าไปมาว่าอย่าเถียง
คุณก็เพียงกินยาก็เท่านั้น
ไม่มีโทษเชื่อหมอรับประกัน
ไม่กี่วันคุณก็คืนเป็นคนเดิม

"เอ๊ะ! ก็บอกไม่ได้บ้านะคุณหมอ"
ยังไม่พอหมอก็เรียกคนมาเพิ่ม
"คงต้องใช้ยากระตุ้นมากกว่าเดิม"
แล้วก็เริ่มสั่งคนลากข้าไปนอน

ท่ามกลางเมืองวุ่นวายข้าคล้ายเหงา
มีอณูความเศร้าเฝ้าหลอกหลอน
"ไม่ได้บ้า" จับกินยา จับมานอน
แค่เห็นโลกต่างจาก "ก่อน" ก็เท่านั้น
				
15 มกราคม 2552 05:17 น.

มวลดอกไม้ รายเรียง

อินทรีน้อย

มวลดอกไม้ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า
ช่างสีสันงามตาตรึงใจยิ่ง
จึงภู่ผึ้งหลายหลากมักแอบอิง
สามัญชายชอบฝากหญิงสิสมควร

อีกริ้วลายรุ้งริ้วที่ลอยล่อง
บนฟายฟองน้ำสบู่ดูชวนสรวล
ยามพลิ้วลอยลมลู่อย่างนิ่มนวล
ช่างเชื้อชวนจับต้องเล่นฟองน้ำ

เด็กหญิงน้อยบรรจงเป่าฟองสบู่
เพ่งพิจดูมวลหมู่ไม้คล้ายขำขำ
แต่ในอกสะทกสะท้อนเป็นประจำ
จิตจมดิ่งสู่เถื่อนถ้ำสีทองทา

เห็นความเหมือนในแตกต่างอย่างวางว่าง
วันวัยคล้ายช่อกลีบบางมวลบุบผา
คลับคล้ายฟายฟองสบู่ดูชื่นตา
เพียงผ่านหนึ่งช่วงเวลาก็ร่วงลับ

จะดีใจเสียใจในวัน..ผ่าน
ทุกอย่างล่วงตามกาลเกินหยิบจับ
อกสะท้อนมิอาจไม่ยอมรับ
เหมือนพลุงามระยิบระยับยังลับลา

เหลือไว้เพียงความคิดคำนึงถึง
ที่ตราตรึงอยู่ในห้วงสิเหน่หา 
เป็นความรักความอบอุ่นกรุ่นอุรา
เป็นยาใจยามอ่อนล้าไม่สิ้นแรง

เพราะยังต้องมีชีวิตแม้นิดน้อย
มิอาจปล่อยวันเวลาให้ล้าแล้ง
ทราบแล้วว่าทุก ๆ อย่างล้วนเปลี่ยนแปลง
ปลุกปลอบใจท้อให้แกร่งก่อนกร่อนกรวง

ให้ชีวิตได้งดงามแม้เพียงครู่
ก่อนจะถึงฤดูดอกไม้ร่วง
ให้ชั่วคราวประทับใจใจทั้งดวง
ถึงคราวร่วงก็ให้ร่วงอย่างภาคภูมิ.
				
24 กันยายน 2551 17:38 น.

หนึ่งดาว

อินทรีน้อย



หนึ่งดาวดวงน้อย..
ทอประกายกระจ้อยร่อยเพียงน้อยหน่อย
จักรราศีเปลี่ยนแปลงไปใช่เลื่อนลอย
ยังประดับฟ้าเฝ้าคอยส่องแสงงาม

ฟากฟ้ากว้าง..
แสงสว่างยังใสใสชวนไหวหวาม
ยังส่งยิ้มทายทักท่ามโมงยาม
ที่เคลื่อนไหวไปตามโลกหมุนไป

อยู่ในมุมอับแสง
จึงแสงดาวได้แสดงแสงใสใส
หากอยู่ท่ามแสงสุรีย์สาดกล้าไกล
คงแสงดาวมิสดใสได้อย่างนั้น

หนึ่งดาวน้อยกลางทุ่ง..
ยังส่องแสงตราบรุ่งตะวันผัน
เชื้อชาติใด.. สัญชาติใด..ไม่ต่างกัน
เกิดแล้วดับ ก็เท่านั้น ทุกชาติชน

หนึ่งดาวดวงน้อย..
ยังส่งแย้มยิ้มรอยทุกแห่งหน
ยังเฝ้าส่งความรักสู่ทุกผู้คน
แสงนิดน้อยท่ามนพดลยังนิรันดร์..

สองดาวเด่นนัยนาคู่น่ารัก
เคยประจักษ์แสงงามท่ามแดนฝัน
ยังคงความงดงามอยู่คู่คีนวัน
หรือโศกซึ่งหรือสุขสรรค์ อยู่เช่นใด

ถามด้วยความเป็นห่วง
กลัวสะเก็ดดาวหล่นร่วงมิสดใส
หากยุ่มย่ามมิถูกต้องมิถูกใจ
ขอได้โปรดแสงดาวใสอย่าได้ค้อน../font>				
6 มิถุนายน 2551 15:46 น.

แมลงปอ บทที่ ๓

อินทรีน้อย

      วันนี้พบหนึ่งเจ้า     	     แมลงปอ
บินว่อนลงเคลียคลอ  	      แผ่นน้ำ
ใคร่อยากจับมาขอ		          ถามข่าว มิตรใจ
เกรงปีกบางเจ็บช้ำ		          จึ่งได้แค่มอง

	      แต่ก็ลองเลียบร้อง	     ไถ่ถาม
เจ้าหยุดปีกเกาะตาม	        ยอดหญ้า
นิ่งฟังดั่งรู้ความ		               ในอก ข้านา
ฟังจบบินสู่ฟ้า		                  มืดครึ้มเงาฝน

	       วุ่นวนคำตอบเจ้า	     เงียบงัน
นั่งตรึกจนผ่านวัน		          ล่วงเช้า
คำแนบปีกบางมัน		          ว่างเปล่า
ฝนตกจึงหลบเข้า		            กระท่อมน้อยทำใจ

	        ห่วงใยก็แต่เจ้า	         บินจร
ฝนสาดซัดเปียกปอน	         แน่แล้ว
วอนฝนโปรดอาทร		           มิตรมิ่ง
ปล่อยเพื่อนข้าคลาดแคล้ว	 อย่าต้องอันตราย

	       สายน้ำพลันเอ่อล้น	     หลากมา
กระท่อมโผล่หลังคา		            นิดน้อย
คงเหลือที่เพียงขา		              ยืนเหยียบ
กับหนึ่งผู้ติดต้อย		               โผล่น้ำตามมา

	       นัยน์ตาดูตื่นเต้น	     หวาดกลัว
ทั้งร่างยังสั่นรัว		               ร่ำร้อง
จึงโอบกอด หาง หัว		         ลูบปลอบ
ร่างสั่นเสียงสั่นฟ้อง		        ชื่อน้ำแมวกลัว

	       มัวหลับเพลินไม่รู้	    เรื่องราว
ใครแห่ประท้วงกันกราว	  ช่างป้า
ฝนตกอีกความหนาว	       จับจิต
น้ำท่วมก็แทบบ้า		            โทษฟ้าก็กระไร

ยิ้มหน่อยนะ					

				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอินทรีน้อย