2 มิถุนายน 2553 01:04 น.

ชมไม้

อินทรีน้อย

     เมฆขาวพราวท่ามฟ้า          สดใส
ลมลู่พัดกิ่งใบ                           แมกไม้
กระรอกกระแตไกว                 ก้านกิ่ง  ไม้งาม
ความงดงามฉาบไล้                  ใช่เร้นเลือกมอง


     ลองสดับเสียงนกร้อง           ไกลไกล
ไม้ดอกงามแต้มไพร                เด่นล้ำ
ฟ้าสวยสื่อหัวใจ                        สวยสด
ฟ้าโศกก็จิตช้ำ                         ใช่ฟ้าโศกเอง


      เพลงรักในแรกเช้า           ชื่นฝัน
อวลอบท่ามคืนวัน                    เปลี่ยวร้าง
อบอุ่นกรุ่นสัมพันธ์                  ไม่ห่าง
ก่อนปล่อยให้ล่องคว้าง             ผ่านห้วงมหรรณพ

				
16 กุมภาพันธ์ 2553 16:23 น.

กรุ่นไอดิน

อินทรีน้อย

กรุ่นไอดินกลิ่นทุ่งยามรุ่งสาง
มิจืดจางจากใจไปซักหน่อย
ด้วยกำหนดในใจว่าใครคอย
ถึงอยู่ไกลจะย้อนรอยบินคืนรัง

จากมาไกลกลิ่นโคลนสาบทุยทุ่ง
ภาพฝุ่นฟุ้ง กองฟางข้าว คือมนต์ขลัง
ยินเสียงขลุ่ย ขับเพลง แว่วแว่วดัง
คือฉากหลังเลี้ยงมาเมื่อข้าเยาว์

ปี่ซังข้าวเป่าเพลินจนผลอยหลับ
น้องก็จับยอดหญ้ามาหยอกเย้า
ค่อยค่อยเขี่ยปลายจมูกจนจามเอา
แล้วพวกเจ้าตัวน้อยน้อยพลอยฮาครืน

ดอกจานสีแสดแดงประดับทุ่ง
น้ำหวานเจ้ายิ่งจรุงนกดาษดื่น
ให้มาชิมทิพยรสระรื่นกลืน
ข้าเคยยื่นมือสอยอร่อยชิม

ไอ้ทุยเคี้ยวเอื้องนอนอย่างเหนื่อยหน่าย
ฝูงแมลงรอบรอบกายกวนจนอิ่ม
ยามเล่นโคลนมันจึงคล้ายหลับตาพริ้ม
แมงไม่กวนก็ยิ้มกริ่มโคลนก็เย็น

นกกระยางขายาวค่อยย่องย่าง
พรานก็วางบ่วงรอขอให้เห็น
เจ้าได้กลายเป็นผัดเผ็ดในมื้อเย็น
แล้วก็เป็นกับแกล้มสุราพราน

ธรรมชาติกับวิถีชีวิตทุ่ง
พอใกล้รุ่งก็รีบตื่นกันทุกบ้าน
ควันหม้อข้าวก็ฟุ้งลอยทุกเรือนชาน
เสียงเรียกขานลูกจากหลับก็ระงม

สักประเดี๋ยวพระคุณเจ้าเราก็มา
เป็นทิวแถวงามสง่าดูเหมาะสม
แม่ก็บอกลูกน้อยนั่งประนม
พ่อก็ก้มลงไหว้ใส่บาตรกัน

แล้วค่อยไปเผชิญชีวิตทุ่ง
ตั้งแต่รุ่งจนพลบค่ำย้ำขยัน
ทำไปตามกำลังตนแต่ละวัน
ชีวิตผันให้จากไกลให้อาวรณ์
				
8 กุมภาพันธ์ 2553 05:34 น.

แมลงปอ บทที่ ๕

อินทรีน้อย

      แมลงปอบินว่อนฟ้า, 	  ระหว่างฝน
หยาดหยดบางเบาระคน 		    ฉ่ำชื้น,
หยัดปีกท่องเวหน             เป็นสุข
ยิ้มอย่างระรื่นรื้น               ลู่ล้อเล่นลม
	
	     ฝนพรมและหยุดแล้ว 	   โรยริน
ฟ้าเปิดแมลงโบยบิน         ว่อนฟ้า
แมลงปอยิ่งโผผิน		            ไม่ต่าง
พบหนึ่งไม้หยุดคว้า		          หยอกเจ้ามาลี

	     มิมีธุระดอกเจ้า		          เยี่ยมเยียน
บินผ่านก็แวะเวียน		          เท่านั้น
คิดถึงจึ่งขีดเขียน			            ถามข่าว
แวะทักสักครู่ครั้น		            ก่อนคล้อยหลังเลือน

	     เยือนกลีบบางช่อช้อย	  บุษบา
ชูช่อช่างวิจิตรา			               มิ่งไม้
เถิดโน้มช่อลงมา			            ให้ชื่น
ขอฝากจุมพิตไว้			              กลีบแก้วมาลา

				
27 มกราคม 2553 15:33 น.

ให้จาง

อินทรีน้อย

     ความผูกพันเริ่มต้น     ที่ใจ
เก็บซ่อนไว้ภายใน           เช่นนั้น
ภาพลวงหลอกหลงใหล      นานเนิ่น
ใยรักขาดสะบั้น                กลัดกลุ้มกินใจ

    สิ่งใดก่อพิษไข้              ในทรวง
สมมุติทำหลงลวง               แทบบ้า
วางเถิดอย่ามัวหวง            มัวห่วง 
เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้า   โศกเศร้าเกินพอ

     แมลงปอบินเยี่ยมเจ้า    บ้านกลอน
ด้วยห่วงด้วยอาทร              ยิ่งแล้ว
สาส์นสื่อผ่านอักษร              ถามข่าว
หมองหม่นให้ผ่องแผ้ว         เจ็บนั้นให้จาง/font>				
24 มกราคม 2553 13:57 น.

แมลงปอ บทที่ ๔

อินทรีน้อย

    ณ ปลายฟ้าฟากโพ้น       รุ้งทอ
ยลกรุ่นคำคนรอ                 ผ่านรุ้ง
รักไกลห่างยังขอ                  กระซิบส่ง
จุมพิศผ่านโค้งคุ้ง                ฝากรุ้งอาทร

    แมลงปอจรผ่านห้วง         คำคะนึง
อบอุ่นคำนั้นจึง                     หยุดยั้ง
สัมผัสซ่านไปถึง                   ในอก
คำห่วงใครเหนี่ยวรั้ง            ไม่ให้บินจร

    เสียงวอนอ้อนผ่านฟ้า       ฝนโปรย
ฟากหนึ่งอาทิตย์โชย             ส่องหล้า
แสงผ่านม่านฝนโรย            ระรินรื่น
รุ้งเด่นจึงประดับฟ้า              พาดโค้งงดงาม

     นิยามความรักล้น           คณนา
รักส่งผ่านรุ้งพา                   เคลิบเคลิ้ม
คำห่วงซ่อนปรารถนา           รักยิ่ง
แวะเยี่ยมรักหยาดเยิ้ม        ผ่านถ้อยปรางทิพย์

      ที่กระซิบทิพย์ถ้อย         งามตระการ
เอื้อนเอ่ยผ่านสะพาน          รุ่งรุ้ง
แมลงปอชื่นชมงาน             เงียบเงียบ
แล้วเผ่นสู่ฟ้าฟุ้ง                 ผ่านรุ้งฝนโรย
/font>				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอินทรีน้อย
Lovings  อินทรีน้อย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอินทรีน้อย