23 เมษายน 2547 10:22 น.

เหือดแห้ง

เจือจันทร์


@แรงแดดที่แผดแสง  
ความแห้งแล้งก็ลุกลาม
เหือดหายทั้งสายน้ำ   
ความงดงาม บ่ งอกเงย

@คนข้นต้องทนทุกข์   
คนเสพสุขกลับทำเฉย
สายน้ำใจเคยคุ้นเคย  
กลับระเหยเหือดจากใจ

@ระอุร้อนแสนอ่อนล้า
อีกเวลาก็เปื่อยไหล
หลอมเหลวกลายเป็นไอ
ความสดใสก็เสื่อมโทรม

@ฟากฟ้าเพลาหลับ
ดาราลับอับแสงโสม
สายลมเศร้าเฝ้าประโลม
กลับยิ่งโหมกระอายแรง

@ต้นไม้ก็ตายหมด
ดินรันทดแตกระแหง
พรุ่งนี้เราคงสิ้นแรง
นอนตายแห้งให้แร้งรุม

   				
24 มีนาคม 2547 11:10 น.

มหาสินธุมาลี : นี่หรือคือแทนคุณ

เจือจันทร์

๑ สินธุมาลีร้อย            เรียงคำ
ตั้งมั่นจิตน้อมนำ          ต่างแก้ว
ค่าน้ำนมลูกจำ             ใจจด
คุณมารดายิ่งแล้ว        เยี่ยงพรหม

๒ เก้าเดือนแม่อุ้มท้อง  ทุกข์ทน
ฟูมฟักให้ลูกตน            เติบใหญ่
หวังคลอดเจ้าได้ยล       ใจชื่น
ยามย่างยามเคลื่อนไหว หวั่นเจ้าสะเทือน

๓ คราถึงกำหนดคลอด  ครบเดือน
แม่ทรมานเหมือน         ชีพสิ้น
สติเริ่มรางเลือน           ราวดับ
ครั้นเห็นลูกร้องดิ้น       กลับยิ้มพริ้มพราย

๔ หนึ่งแม่เลี้ยงลูกน้อย กลอยใจ
เหนื่อยยากสักเพียงใด  ไป่บ่น
จักเลี้ยงลูกเยี่ยงไร       แม่ทราบ
อุ่นเลือดในอกข้น         แม่พร้อมยอมพลี

๕ สิบลูกผู้เติบใหญ่     ขึ้นมา
กลับไร้ซึ่งปัญญา         เลี้ยงแม่
ส่งบ้านพักคนชรา        คิดได้
ไม่มีให้แม่แม้             น้ำใจจางจาง

๖ นี่หรือคือหนทาง       แทนคุณ
แด่แม่ผู้เกื้อหนุน        ชีวิต
ฤ แม่ผู้อุ้มบุญ             ได้บาป
ควรจักคิดสักนิด         โดยจิตกตัญญู				
23 มีนาคม 2547 14:09 น.

กาพย์ดอกแคร่วง : แด่ผองเพื่อนผู้โผบิน

เจือจันทร์


๑ แสนเศร้ากมล
จำจากบ้านตน        แรมไกล

๒ เหตุที่จากไป
เข้ามหาลัย           ร่ำเรียน
 
๓ ไปด้วยใจเพียร
จักอ่านจักเขียน      ฝึกปรือ

๔ หวังรู้หนังสือ
เป็นปีกกระพือ       โบยบิน

๕ จึงจำร้างถิ่น
น้ำตาไหลริน          ร่ำลา

๖ พ่อจ๋าแม่จ๋า
รับเถิดลูกยา         กราบกราน

๗ เด็กน้อยวันวาน
วันนี้ห่างท่าน         แล้วหนอ

๘ น้ำตาไหลคลอ
ยามจากแม่พ่อ      อาวรณ์

๙ เสียงแม่ให้พร
เสียงคำพ่อสอน     แว่วดัง

๑0 นกเจ้าคืนรัง
เรากลับหันหลัง     สวนทาง

๑๑ ขึ้นรถไฟราง
แลกวิญญาณร่าง  เดิมพัน

๑๒ จักปั้นความฝัน
หอบเอารางวัล      หวลคืนฯ (บ้านเรา)    				
22 มีนาคม 2547 02:34 น.

กาพย์ฉบัง 16 ลำนำรักจากลมร้อน

เจือจันทร์

๑ มิ้งมิ้งหรีดหริ่งร่ำร้อง  เป็นท่วงทำนอง
ของหน้าร้อนแดดแรง

๒ หลากหลายสีสันแมลง  ตัวสีแดงแดง
ดำดำร่ำร้องระงม

๓ ไอร้อนระอุล้อลม  เคล้ากลิ่นลั่นทม
สูดดมกลิ่มหอมจางจาง

๔ กลีบเจ้านั้นแสนบอบบาง  คล้ายผิวเนื้อนาง
นิ่มน้องเคยเกี้ยวรำพัน

๕ เสียงเจ้าเคยเฝ้าจำนรรจ์  ยามย่ำสายัญ
คู่กันสวรรค์สรรมา

๖ เปรียบดั่งน้ำคู่มัจฉา  วิหคคู่ฟ้า
บุปผาเคียงคู่ภมร

๗ นึกแล้วให้แสนอาวรณ์  ยามตื่นยามนอน
ใจหายไม่วายอาลัย

๘ ยิ่งยามลมพัดกิ่งไกว  สุดแสนหวั่นไหว
ยามไกลสุดคิดถึงนวล

๙ นกน้อยร้องไกลในสวน  คล้ายจักยั่วยวน
ให้แสนรัญจวนป่วนทรวง

๑ เหลียวมองลั่นทมช่อรวง  เห็นลั่นทมร่วง
ยิ่งห่วงจนทรวงระทมฯ				
20 มีนาคม 2547 20:01 น.

จักจั่น

เจือจันทร์


@แว่วจักจั่นสั่นเสียงจำเรียงแจ้ว
จากพุ่มแนวแถวพงดงพฤกษา
เคล้าไอแรงแสงจันทร์รัญจวนตา
สิเน่หามายาแห่งราตรี

เสียงเรไรเริ่มร้องจนก้องป่า
แทรกขึ้นมาจังหรีดเริ่มดีดสี
ราวบรรเลงโหมโรงมโหรี
ซิมโฟนี่ออเครสต้าแห่งป่าดง

ลมสีไผ่ร่วมวงบรรจงขับ
ให้เดือนหลับดาวใหลฤทัยหลง
กล่อมน้องเจ้าเฝ้าสดับให้หลับลง
เพลงจักส่งสร้างสรรค์ให้ฝันงาม

วอนอำนาจศักดิ์สิทธิ์ทั่วทิศา
อันสัมมาประสงค์ซึ่งองค์สาม
ขอปกป้องน้องพี่นี้ทุกยาม
กลีความกามต่ำอย่ากล้ำกลาย

แว่วจักจั่นสั่นเสียงจำเรียงแจ้ว
พี่ฟังแล้วหวั่นไหวให้ใจหาย
หากคืนหนึ่งซึ่งจักจั่นพลันสิ้นตาย
แล้วจักหมายใครเล่ากล่อมเจ้านอนฯ    				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจือจันทร์
Lovings  เจือจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจือจันทร์
Lovings  เจือจันทร์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเจือจันทร์
Lovings  เจือจันทร์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเจือจันทร์