หลง..&..รัก 2 (ตอนจบ)

ปลา

วันใหม่   ติ๊ง.ต่อง... เสียงออดหน้าบ้านรินดังขึ้น
     นทีมารับรินตอนสายๆ มาก่อนที่นัดกับรินเอาไว้  แต่รินเองเพิ่งจะตื่นได้ไม่นาน พอนทีมาถึง  รินก็เลยยังอยู่ในชุดนอนพร้อมกับความงัวเงีย
พอรินเปิดประตูก็เห็นหน้านทีก็ทำอะไรไม่ถูกเพราะนึกว่านาฬิกาบ้านตัวเองเสีย ก็เลยพูดไม่ฟังเสียงนที " โอ้ยทำไมนาฬิกาเสียหมดทั้งบ้านเลยเหรอเนี่ย  น้ำท่าก็ยังไม่ได้อาบ  แป๊บนึงนะคะขอเวลาอาบน้ำแต่งตัว 5 นาที"
พอพูดจบรินก็วิ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องนอน   ปล่อยให้นทีอ้าปากค้างยังไม่ได้พูดอะไรซักคำ  จนรินเงียบไปนทีถึงพูดออกมาได้ว่า "พี่มารับเร็วไปหน่อย จะพาไปกินข้าวก่อนน่ะ"  แต่รินไม่ได้ยินหรอก เพราะตอนนี้เธอ
สนใจกับการอาบน้ำแต่งตัวให้เร็วที่สุด   ขณะที่รินอาบน้ำอยู่นั้น นทีก็หาอะไรดูไปพลางๆจนไปเจอ Album รูป ก็ได้เห็นรูปรินตอนเด็กๆ เขาดูไปก็ยิ้มไป  5 นาทีต่อมา รินออกมาเห็นนทีดูรูปเธออยุ่ จึงดึงออกจากมือเขาด้วยความอาย
แล้วก็ถามนทีว่ารอนานไหม นทีก็บอกไม่นานเร็วเหมือนไม่ได้อาบน้ำเลย รินก็เลยบอกว่า "อาบค่ะไม่เชื่อสำรวจได้  ว่าแต่ว่าจะไปกันหรือยังคะ"  อืมริน พี่มีอะไรจะบอกนะ คือว่า พี่น่ะมารับรินก่อนนัดน่ะ กะว่าจะมารับไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปบ้านพี่น่ะ
นาฬิกาบ้านรินไม่ได้เสียหรอกนะ  ริน : เหรอ น่าอายจัง ทำอะไรโก๊ะๆอีกละ       นที : ไปกันเหอะ พี่หิวแล้วกินอะไรดีล่ะ  ข้าวมันไก่ซอย5ไม๊         ริน : ก็ดีค่ะ ของโปรดเลยล่ะ      จากนั้นทั้งคู่ก็ออกไปกับรถคู่ใจของนที   คล้อยหลังที่ทั้งคู่ออกไปเอก ก็กลับมา 
พอกลับมาไม่เห็นน้องสาวก็ร้อนใจว่ารินไปไหน  เลยรีบโทรไปหาขวัญที่บ้าน แต่ขวัญบอกว่าเมื่อคืนนทีไปส่งรินที่บ้านคงไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวจะโทรหานทีให้แล้วจะโทรกลับไปหาเอก      จากนั้นขวัญก็รีบโทรหานที  แต่ไม่มีคนรับ   
ขวัญโทรกลับหาเอกแล้วก็บอกว่าบ้านนทีไม่มีคนรับสาย  เอกก็ยิ่งร้อนใจรีบบอกให้ขวัญพาไปบ้านนทีเดี๋ยวจะไปรับ  แล้วตลอดทางเอกพูดกับขวัญว่าถ้านทีทำอะไรน้องสาวเขาจะเล่นงานนทีให้อ่วมเลย แต่ขวัญบอกว่านทีไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก 
เอกหมั่นไส้จึงว่า "ไม่ต้องออกรับแทนเลย รู้จักมันแค่ไหนกันเชียว" แต่พอไปถึงบ้านนที ก็ไม่มีใครอยู่  เอกก็ยิ่งโมโหก็เลยลงที่ขวัญว่าทำไมปล่อยให้รินมากับนทีสองต่อสอง  ขวัญรู้ว่าเอกกำลังร้อน  ก็เลยไม่โต้ตอบอะไร  เอกจะไปแจ้งตำรวจ  แต่ขวัญบอกว่า
ให้รออีกหน่อยถ้าซักทุ่ม 2ทุ่มยังไม่กลับมาค่อยแจ้งก็ได้อีกอย่างรินหายไปจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ไม่แน่อาจไปทำธุระที่ไหนก็ได้กลับบ้านก่อนดีกว่า  พอกลับบ้านขวัญก็อยู่เป็นเพื่อนเอกตลอดเวลา
ณ ร้านข้าวมันไก่   ทั้งคู่นั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อยโดยเฉพาะรินเพราะหล่อนได้นั่งกินข้าวกันสองต่อสองกับชายในฝัน  ขณะกินข้าวอยู่นั้นรินก็แอบลอบมองนทีอยู่หลายครั้ง จนนทีรู้ตัว เขาจึงถามเธอว่าหน้าพี่มีอะไรผิดปกติเหรอ
รินรู้สึกอายที่โดนจับได้ว่าแอบลอบมอง  แต่ทันใดนั้นเองก็เหมือนมีอะไรมาช่วยเธอไว้ทันเวลาเพราะบังเอิญที่ปากของนทีมีข้าวติดอยู่  เธอจึงบอกกับเขาว่ามีข้าวติดอยู่ที่ปาก  เขาก็เลยรีบเช็ดปากอย่างรวดเร็ว แล้วถามว่า "พี่หล่อหรือยัง"
ริน : หล่อน่ะหล่อค่ะ แต่หล่อแบบเลอะๆนะคะ ข้าวยังติดอยุ่เลยค่ะ      นที : อยู่ตรงไหนเหรอ      ริน : มาเดี๋ยวรินเช็ดออกให้ (ได้โอกาสเลย)      แล้วรินก็เช็ดปากให้นที   ริน : อ่ะ หล่อแล้วล่ะค่ะ      นที : ขอบคุณคร้าบ....
ริน : ยินดีเสมอค่ะ        พอกินอิ่มทั้งคู่ก็ตรงดิ่งไปยังบ้านของนที    พอรินเห็นสภาพบ้านของนทีครั้งแรกก็ตลึง เพราะว่าบ้านนทีรกมากๆ  รินก็เลยพรึมพรำว่า ไม่น่าล่ะเสื้อผ้าถึงได้เหม็นอับขนาดนั้น    นที : ว่าอะไรนะ       ริน : ไม่มีอะไรค่ะ
นที : เราจะเริ่มตรงไหนกันก่อนดีล่ะ       ริน : ก็เริ่มจากในบ้านก่อนแล้วกัน หน้าบ้านเอาไว้ทีหลัง   จากนั้นทั้งคู่ก็จัดบ้านกันอย่างสนุกสนานจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาที่จะต้องไปทำงานแล้ว  นทีขอตัวไปอาบน้ำก่อนแล้วจะไปส่งรินที่บ้านแล้วรอรับไปทำงานพร้อมกัน
ขณะที่นทีอาบน้ำอยู่รินเองก็จัดบ้านไปเรื่อยๆ  แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเอกกลับมาวันนี้  แต่เธอไม่ได้โน้ตอะไรไว้ให้เอกเลย ก็เลยโทรไปที่บ้าน พอโทรศัพท์ดังแค่กริ๊งเดียวเอกก็รีบรับ พอได้ยินเสียงรินเอกก็รีบถามว่าอยู่ที่ไหน  ริน : อยู่บ้านพี่นทีค่ะ
เอก : แล้วไปทำอะไรบ้านมันล่ะ       ริน : มาช่วยจัดบ้านให้พี่เขาน่ะค่ะ        เอก : แล้วไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไปยังไง มีใครไปด้วยหรือเปล่า และคำถามอีกเป็นชุด         ริน : พี่เอกคะเดี๋ยวรินก็จะกลับแล้วพอถึงบ้านค่อยคุยกันนะคะ   พูดจบรินก็วางสาย
นทีแต่งตัวยังไม่เสร็จแต่รินเร่งให้นทีรีบพากลับบ้านเพราะเอกเป็นห่วง   นทีก็รีบสุดชีวิต  พอเสร็จก็พากันไปบ้านรินทันที
บ้านริน   เอกยืนทำหน้าเครียดโดยมีขวัญยืนอยู่ข้างๆ พอรินกับนทีเข้ามาเอกก็ถามนทีว่า "พารินไปไหนมา"       นที : ต้องขอโทษด้วยครับพอดีมารับรินไปจัดบ้านเมื่อตอนสายๆแล้วก็จัดเพลินไปหน่อย      เอก : แล้วน้องรินเป็นคนใช้แกหรือไง
ริน : พี่เอกคะ คือว่ารินอาสาเองน่ะค่ะ รินผิดเองที่ไม่ได้โน้ตไว้บอกพี่เอกน่ะค่ะ     ขวัญก็รีบเสริม "เอกก็อย่าไปว่าน้องเขาเลย เขาโตแล้วทำงานทำการแล้วมีสิทธิที่จะคิดเองมั่งสิจะไปไหนมาไหนต้องบอกต้องรายงานเธอทุกวินาทีเลยเหรอ"
เอกก็เถียงไม่ออกเหมือนกัน  ขวัญก็เลยตัดบทว่าให้รินไปอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานได้แล้ว และก็บอกให้นทีไปส่งเธอที่บ้านด้วยจะอาบน้ำแล้วไปทำงานเหมือนกัน    จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไป เหลือทิ้งไว้แต่เอกนั่งอยู่คนเดียว  พอรินอาบน้ำเสร็จเห็นเอกนั่งอยู่ก็เลย
เข้าไปเอาใจแล้วก็ขอโทษเอกที่ไม่ได้บอก  แต่เอกรู้สึกแปลกใจมากกว่าว่าทำไมรินถึงไปสนิทสนมกับนทีได้   รินก็เลยเล่าเรื่องเมื่อคืนและเรื่องวันนี้ให้เอกฟังอย่างคร่าวๆ พอเอกทำท่าจะถามต่อรินก็เลยโพล่งออกมาว่า  "ตายแล้วสายมากแล้วเดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน ไปเหอะพี่"
รินฉุดแขนเอกให้รีบไปส่งเธอ   พอไปส่งรินแล้วเอกก็ยังไม่กลับ มองหาขวัญเพราะอยากจะขอโทษที่วันนี้พูดกับขวัญรุนแรงไปหน่อย  แต่ไม่เจอก็เลยกลับ   พอรินเจอหน้านทีก็เลยขอโทษนทีแทนเอก   นที : ไม่เป็นไรหรอกพี่เข้าใจน่ะว่าพี่ชายเราน่ะเขาห่วงเรามาก
ริน : ค่ะ แต่ยังไงก็ขอโทษด้วยนะคะ  แล้วที่บ้านส่วนที่ยังไม่ได้จัดน่ะค่ะพรุ่งนี้รินจะให้พี่เอกไปส่งที่บ้านพี่นทีนะจะได้ช่วยจัดให้เสร็จ       นที : จะดีเหรอรินพี่เกรงใจพี่เอกเขาน่ะ เดี๋ยวพี่จัดเองก็ได้นะ        ริน : ไม่เป็นไรหรอกค่ะรินรับปากแล้วต้องทำให้เสร็จค่ะพี่เอกไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ
นที : งั้นก็ขอบใจนะจีะ...สาวน้อย        ขวัญเข้ามาขัดจังหวะพอดี   ขวัญ : รินว่าไงมั่งเคลียร์กันเรียบร้อยหรือยังแล้วเอกเย็นลงหรือยังล่ะฝากบอกด้วยนะว่า  แก่แล้วยังทำเป็นวัยรุ่นใจร้อนไปได้   แล้วทุกคนก็หัวเราะกัน 
พองานเลิกเอกมารับรินตามปกติ  แต่พอรินขึ้นรถเอกก็ยังไม่กลับ แต่ลงจากรถแทนลงไปหาขวัญแล้วก็ไม่เจออีกตามเคย  ก็เลยจำใจต้องกลับ  ตอนนั่งรถกลับบ้านรินบอกเอกว่า "พรุ่งนี้จะไปบ้านพี่นทีอีก เพราะยังจัดบ้านไม่เสร็จพี่เอกต้องไปส่งด้วย"  เอกถึงแม้จะไม่พอใจเท่าไหร่
แต่เพื่อความสุขของน้องก็เลยไม่ได้ขัดอะไร  แต่ก็อดที่จะกัดไม่ได้  เอก : ไม่รู้ว่างานที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันเหนื่อยไม่พอรึไงก็ไม่รู้     รินเองก็ได้แต่ขำในคำพูดของพี่ชายตัวเอง
วันรุ่งขึ้น    ติ๊งต่อง....เสียงออดหน้าบ้านนทีดังขึ้น
      นทีออกมาเปิดประตูให้ริน  นทีชวนเอกเข้าบ้านก่อนแต่เอกไม่เข้าเพราะจะรีบไปหาขวัญที่บ้าน  นทีบอกเอกว่าไม่ต้องมารับรินก็ได้เดี๋ยวจะไปส่งเอง พอเอกกลับรินจึงเข้าไปจัดบ้านกับนที  ความเป็นกันเองของนทีทำให้รินยิ่งคิดเข้าข้างตัวเองไปใหญ่ว่านทีคงมีใจให้กับเธอบ้าง
แต่ความจริงแล้วไม่เป็นอย่างที่เธอคิดเลย  นทีเห็นเธอเป็นเพียงแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้นเพราะความสดใสและความน่ารักของเธอจึงทำให้เขาอยากมีน้องสาวแบบนี้บ้างก็เลยเอ็นดูเธอเป็นพิเศษ       พอจัดบ้านนทีเสร็จ  นทีก็พารินไปเลี้ยงข้าว  แล้วค่อยไปส่งรินที่บ้าน
รินกับนทีเริ่มสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ สนิทถึงขั้นพาไปซ้อมดนตรีด้วยกัน รินเองไม่เคยปิดบังเรื่องนทีกับเอกเลยมีอะไรก็จะเล่าให้ฟังประจำ   แต่เอกรู้ว่านทีไม่ได้ชอบน้องสาวตัวเองแบบชู้สาวเลยก็เลยเตือนน้องให้ระวังความผิดหวังเอาไว้บ้าง  รินก็ได้แต่ฟังไม่ได้เก็บไปคิดอะไร
เวลาผ่านไป 3 เดือน  เอกทนไม่ไหวที่จะเห็นรินถลำลึกลงไปมากกว่านี้  จึงตัดสินใจไปปรึกษากับขวัญ  ขวัญเลยเสนอความคิดว่าให้ไปบอกกับนทีตามตรงเลย  แล้วถามนทีว่าคิดยังไงกับริน   ว่าแล้วทั้งคู่ก็ไปหานทีทันที
ณ   บ้านของนที
เอก : นทีฉันขอถามนายตรงๆเลยนะนายคิดยังไงกับรินขอให้นายตอบมาตรงๆเลยไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก                 นที : ผมก็เห็นรินเป็นน้องสาวน่ะพี่ รินเองก็น่ารักดีสดใสเห็นแล้วก็น่าเอ็นดู                เอก : นี่นายแน่ใจนะว่าไม่ได้คิดอย่างอื่นกับรินนอกจากความเป็นพี่น้อง
นที : ครับ ผมเอาหัวเป็นประกันเลยพี่  ผมเองก็อยากมีน้องสาวน่ารักน่ารักมานานแล้วพอรู้จักรินก็เลยอยากมีน้องสาวกับเขามั่ง               เอก : นายไม่ได้คิดอะไรกับริน  แต่รินคิดนะ            
นที : หะ  ว่าไงนะพี่  ล้อเล่นน่า  ทำไมรินถึงคิดกับผมแบบนั้นล่ะ  ผมไม่เคยรู้เลยจริงๆ รินก็ไม่เคยแสดงอะไรให้เห็นว่าชอบผมแบบนั้น            เอก : ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนายหรอก  เพียงแต่อยากให้นายหาโอกาสพูดกับรินในเรื่องนี้น่ะฉันไม่อยากเห็นน้องต้องเจ็บปวดทีหลัง
ขวัญ : ยังไงเธอก็ควรจะหาโอกาสพูดกับรินนะ เรื่องนี้น่ะเพราะถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปคนที่จะเจ็บปวดก็คือริน ถ้าเธอยังเห็นรินเป็นน้องสาวอย่างที่เธอว่าน่ะ หาโอกาสพูดให้เร็วที่สุดนะ        ริน : ไม่ต้องหรอกค่ะรินได้ยินหมดแล้ว  ขอบคุณนะคะที่ทุกๆคนเป็นห่วงริน  แล้วรินก็วิ่งออกไป
ทุกคนตลึงไม่นึกว่ารินจะมาได้ยิน  นทีพอตั้งสติได้ก็รีบตามรินออกไป    ขวัญ : ก็ดีนะเอก รินมาได้ยินแบบนี้แล้วนทีจะได้ไม่ต้องลำบากใจที่จะพูดกับริน           เอก : ก็ว่างั้นแหล่ะ  หวังว่ารินคงไม่เป็นอะไรมากนะ
ณ ริมถนน 
นที : ริน            ริน : พี่นทีไม่ต้องพูดอะไรหรอกค่ะรินเข้าใจดีว่ารินเป็นได้แค่น้องสาว  รินก็ไม่ได้หวังอะไรมาก  ไม่ได้หวังที่จะได้เป็นเกินกว่านี้  ได้แค่นี้รินเองก็ดีใจมากแล้วค่ะ  ( พูดทั้งน้ำตา )        นที : ถ้ารินไม่เป็นไรพี่ก็ดีใจนะ แต่เมื่อเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เราจะเหมือนเดิมกันได้ไหมพี่ยังอยากเป็นพี่ชายของรินเสมอนะ
ริน : ค่ะ   เราอาจจะเหมือนเดิมได้  แต่คงไม่มีเวลาที่จะเป็นพี่ชายน้องสาวกันแล้วล่ะค่ะ  เพราะรินตัดสินใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อ  รินจะไปทำงานเป็นวันสุดท้ายแล้วล่ะค่ะวันนี้ เราคงจะมีเวลาเหลือที่จะเป็นพี่น้องกันได้วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วล่ะค่ะ           
นที : แต่ตอนรินไปเรียนต่อ หรือ จะเรียนจบแล้วก็ตาม เราก็เป็นพี่น้องกันได้นี่   สัญญากับพี่นะว่าเราจะเป็นพี่น้องกัน           ริน : รินจะไม่สัญญาค่ะ เพราะรินก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน  บอกตามตรงนะคะ ถ้าเทียบกับการที่พี่รู้กับพี่ไม่รู้ว่ารินคิดยังไงกับพี่ รินขอเลือกให้พี่ไม่รู้ซะดีกว่า
นที : แต่ไม่ว่ารินจะอยู่ที่ไหน ยังไง พี่สัญญานะว่าพี่ก็ยังเป็นพี่ของรินอีกคนนะ  จำไว้ล่ะ พี่คนนี้จะคอยต้อนรับน้องสาวที่น่ารักตลอดเวลา              ริน : ค่ะแล้วรินจะจำไว้              นที : กลับเข้าบ้านพี่ก่อนเถอะ ทั้งพี่เอก กับขวัญ เขาเป็นห่วงเรามากนะ               ริน : ไปค่ะ   (พร้อมกับเช็ดน้ำตา)
เมื่อกลับเข้ามาในบ้านแล้วรินบอกเอกว่าจะไปเรียนต่อ  ทั้งเอกและขวัญพูดพร้อมกันว่า "คิดดีแล้วเหรอ"     ขวัญ : อย่าเอาอารมณ์ชั่ววูบมาตัดสินนะริน             ริน : รินคิดไว้นานแล้วล่ะค่ะ แต่ติดอยู่ที่ว่าอยากจะใกล้ชิดพี่นทีก็เลยยังไม่ไป  นี่ก็น่าจะเป็นโอกาสที่รินจะกลับไปทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น
เอก : จะไปพรุ่งนี้เลยเหรอ ถ้างั้นคืนนี้พี่ขอเลี้ยงส่งน้องสาวก็แล้วกัน เอาเป็นที่ผับแล้วกันนะ เดี๋ยวพี่เป็นเจ้ามือเอง  ขวัญกับนทีด้วยนะ          คืนนั้นในงานเลี้ยงส่งริน  รินเต็มไปด้วยความสับสน  ว้าวุ่นใจมาก   แต่งานก็จบลงไปด้วยดี
บ้านริน         รินเก็บเสื้อผ้าและของใช้อยู่ในห้อง  เอกก็เข้ามาถามน้องว่า  "แน่ใจเหรอที่จะไป  ยังไงก็ยังมีพี่อยู่นะถ้าคิดจะทำอะไรก็อย่าให้วู่วามมากนักล่ะ"          
รุ่งเช้า        รินกับเอกเอาข้าวของใส่ในรถเพื่อเตรียมตัวเดินทาง   ขณะนั้น ขวัญกับนทีก็มารอส่งรินด้วย  แล้วก็ร่ำลากันพอสมควร  จึงออกเดินทาง
รินมาเรียนอยู่ที่นี่ได้ซักพัก ก็ได้คิด ได้ทบทวนกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามา   เธอคิดเท่าไหร่ก็ยังไม่เจอคำตอบ  จนกระทั่งเธอได้มาเจอกับภูคนที่ดีสำหรับเธอ แต่เธอเองก็พยายามปิดกั้นตัวเองไม่ยอมให้เขาคนนั้นเข้ามา  แต่ภูเองก็พยายามที่จะทำให้เธอเปิดใจรับเขาให้ได้
ภูเองก็รู้มาบ้างว่าที่รินมาเรียนอยู่ที่นี่เพราะอะไร  เมื่อรินยังปิดกั้นตัวเองอยู่อย่างนี้ภูก็เลยทนไม่ไหวที่เห็นรินเป็นอย่างนี้  จึงพูดกับรินให้รินได้เลิกปิดกั้นตัวเองซักที    ภู : ริน  เราไม่รู้นะว่าเมื่อก่อนนี้รินเคยรักใคร  แล้วใครทำให้รินต้องเจ็บช้ำมาก่อน  แต่ในเมื่อตอนนี้ มีเราซึ่งเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรารู้ ว่าเราอาจไม่ดีพอ หรือดีไม่เท่าผู้ชายคนนั้นแต่เราอยากให้รินรู้ไว้นะ ว่าเราน่ะจริงใจ  และเราก็คิดว่าเรารักริน
ถึงแม้รินเองจะไม่ได้รักเรา แต่เราก็อยากเห็นรินร่าเริงสดใส อย่าปิดกั้นตัวเองอยู่เลยนะ  ถึงแม้รินจะไม่เลือกเราเราก็จะไม่เสียใจ  ไม่ใช่เพราะเรารักรินไม่พอหรอกนะ  แต่เป็นเพราะเรารักรินมากต่างหาก  เราก็หวังว่าสักวันรินคงจะเลิกปิดกั้นตัวเองซักทีไม่ใช่เพื่อตัวเราหรอกนะ  แต่เป็นเพื่อตัวรินเอง  
รินกลับมาคิดทบทวนในสิ่งที่ภูพูด   จนในที่สุด รินยอมเลิกปิดกั้นตัวเอง  อาจจะเป็นเพราะความรักที่ภูมีให้เธอก็ได้   แต่รินเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอรักเขาหรือเปล่า แต่ที่ผ่านมาเธอก็ไม่ได้กระวนกระวายใจที่อยากจะเจอภู  ไม่ได้ฝันถึงทุกคืน เหมือนตอนที่เธอรู้สึกกับนที   แต่เธอก็หวั่นไหวบ้างกับความใกล้ชิด
เวลาผ่านมาหลายเดือน รินกับภูตกลงที่จะดูใจกันไปก่อน  และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ  จนเกิดเป็นความรักที่รินเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันเธอรู้เพียงแต่ว่าเธอเป็นห่วงเป็นใยเขา  ถ้าวันไหนท้อแท้ขึ้นมาก็จะนึกถึงเขาเป็นคนแรก  มีความรู้สึกที่ดีๆให้  ถ้าไม่มีเขาวันไหนจะรู้สึกไม่อุ่นใจ เพียงเท่านี้ที่เธอรู้สึกได้ 
จนกระทั่งเธอได้มาค้นพบด้วยตัวเอง ว่าภูคือคนที่เธอรัก และเขาก็รักเธอด้วยเช่นกัน   เธอจึงรับภูเข้ามาอยู่ในหัวใจแบบเต็มๆ  เธอจึงรู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา  เธอไม่ได้รักนทีเลยแม้แต่น้อย มันป็นเพียงความหลงในความเพอร์เฟกของผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น
วันปิดเทอม   รินกลับมาบ้านพร้อมกับชวนภูมาเที่ยวบ้านด้วย   เมื่อมาถึง  ก็พบขวัญอยู่ที่บ้านกับเอกในฐานะพี่สะใภ้ของเธอ   เธอดีใจมากเมื่อรู้ว่าพี่ชายของเธอแต่งงานกับขวัญ  แต่เธอก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ไม่ยอมส่งข่าวคราวบอกเธอให้รู้บ้างจึงต่อว่าเอกเล็กน้อย  แล้วค่อยแสดงความยินดีด้วย
แล้วก็ไม่ลืมที่จะแนะนำภูให้เอกรู้จักในฐานะแฟนของเธอ  เอกก็ดีใจด้วยที่น้องลืมน้องลืมนทีได้แล้ว     ริน : รินยังไม่ลืมพี่นทีหรอกค่ะ เพราะตอนนี้รินรู้แล้วว่ารินไม่เคยรักพี่นทีเลยสักนิด  มันเป็นแค่เพียงอารมณ์ชั่ววูบ เท่านั้นแหล่ะค่ะ  แต่ตอนนี้รินจะมาทวงสัญญาจากพี่นที             เอก : ไปสัญญาอะไรกันเหรอ
ริน : ก็พี่นทีสัญญาว่าจะเป็นพี่ชายรินอีกคนไงคะ       ขวัญ : นั่นไงพูดถึงปุ๊บก็มาปั๊บเลยตายยากจริงๆเลยเธอเนี่ย             นที : ริน .. เป็นไงมั่ง กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะ             ริน : เพิ่งมาถึงน่ะค่ะ เอ่อ พี่นทีคะ  นี่ภูแฟนรินค่ะ         นที : โธ่มีแฟนกันหมดแล้ว เหลือทิ้งให้เราเป็นไอ้เฒ่าอยู่คนเดียว  พี่ดีใจด้วยนะริน  นี่นายภูฉันฝากน้องสาวฉันด้วยนะ ห้ามทำให้น้องฉันเสียใจล่ะ
ภู : ครับ ผมจะไม่ทำให้รินเสียใจเหมือน...พี่เด็ดขาด         แล้วทุกคนก็หัวเราะพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย        ริน : ความจริงรินน่าจะไปเรียนต่อซะตั้งนานแล้วนะคะ จะได้เจอภูก่อนพี่นทีไงล่ะ         นที : อ้าว ไม่แน่นะถ้าไม่เจอพี่ก่อนก็อาจไม่เจอภูก็ได้           ริน : พี่เอกคะ แล้วเมื่อไหร่จะมีหลานให้รินอุ้มซักทีล่ะคะ
เอก : ก็อุ้มตาเวย์ เรือพ่วงของขวัญเขาไปก่อนแล้วกัน            นที : มีลูกทันใช้ดีนะ   
              แล้วก็จบลงด้วยภาพความอบอุ่น ของ พวกเขา
  
ปล.บางคนอาจคิดว่า ตอนนี้คือความรัก มันอาจจะไม่ใช่เสมอไป มันอาจเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบของความหลงในสิ่งนั้นของเรา แต่เมื่อเราโตขึ้น มีความคิดขึ้น   ถ้าเรากลับไปมอง ณ ตรงนั้น เราอาจจะขำในตัวเองก็ได้				
comments powered by Disqus
  • นาฬิกาทราย

    2 สิงหาคม 2545 12:23 น. - comment id 66046

    หง่ะ  ขนาดหัดน่ะเนี่ยะ  หัดแบบปลาเนี่ยะทำไงอ่ะ
  • โคลอน

    2 สิงหาคม 2545 22:28 น. - comment id 66062

    (o^___^o)
    
    รักกับหลงต่างกันแน่นอนจ๊ะ...รักคือการคิดถึงห่วงใยกันแม้ยามห่างไกล แต่หลง จะรู้สึกว่าต้องการก็แค่เพียงเวลาที่อยู่ใกล้กันเท่านั้นเอง

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน