มิติรัก...ใต้เงาจันทรา ฉบับปรับปรุง ตอนที่3

ส.ธนาศิษฏ์

ผึ้งและส้มหยิบของว่างและเดินมานั่งคุยกันบริเวณหน้าประตูเขตพระราชฐานชั้นกลาง
แม่หญิงเจ้าคะแม่หญิง!!!
	น้ำผึ้งแก้วหันมายิ้มแล้วก็ถือพานดอกไม้เดินเข้มาในเขตพระราชฐานชั้นใน  ในขณะที่คุณหลวงบดินทร์นฤนาถยืนมองหล่อนอยู่จนกระทั่งประตูเขตพระราชฐานฝ่ายในปิด
	คุณหลวงมองกระไรหรือขอรับ!!! ทหารคนสนิทตำแหน่งขุนซึ่งติดตามเอ่ยขึ้น
	ไม่ได้มองกระไรดอก  แล้วลอมพอกของข้าอยู่ไหนส่งมาเร็วข้าเข้าไปร่วมประชุมไม่ทันเดี๋ยวอ้ายฝรั่งมันก็หลอกเราอีกหรอก
	ประชุมเชียวหรือขอรับ  แหม...เดี๋ยวนี้ใช้ศัพท์ฝรั่งเสียด้วย
	เออ ๆ ข้าจักไปเข้าเฝ้า  คุณหลวงบดินทร์นฤนาถพูดแก้เขิน  พร้อมทั้งรีบสวมหมวกลอมพอกพร้อมกับเสื้อคลุมจากทหารคนสนิทแล้วเดินเข้าไปในท้องพระโรงสมเด็จฯ ท่านรับสั่งให้เขาไปอยู่ดูแลติดตามเจ้าพระยาวิชาเยนต์คุณหลวงรู้สึกไม่ค่อยพอใจเอาเสียเลยที่ต้องไปรับใช้ฝรั่งมังค่า  เขาเดินตามหลังเจ้าพระยาวิชาเยนต์ไป  จากนั้นก็ตะบันเคี้ยวหมากคำใหญ่ด้วยความโกรธ  จั่บ ๆ...เสียงหมากดังอยู่ตลอดจนทำให้ทหารคนสนิทรีบส่งกระโถนรับน้ำหมากให้ทันที
	อย่ามายุ่งกับข้า...! คุณหลวงบดินทร์ฯเอ่ย
	คุณหลวงบดินทร์นฤบาลต้องไปเรียนภาษาฝรั่งกับพวกสอนศาสนาเพื่อนให้รู้เท่าทันฝรั่ง  เขานั่งเรียนอย่างตั้งอกตั้งใจจนกระสั่งอ่านออกเขียนได้
	คุณหลวงคุณหลวงขอรับ
	มีอะไรรึอ้ายมิ่ง
	แม่หญิงน้ำผึ้งแก้วกำลังลงเล่นน้ำกับพระสนมและหม่อมห้ามที่ท่าน้ำหลังวังขอรับ
	เดี๋ยวก็หัวขาดหรอกถ้าใครรู้เข้าต้องแย่แน่ ๆ เลยเอ็งจะให้ข้าไปแอบมองอย่างนั้นรึ
	กระผมขออภัยขอรับ  กระผมเห็นว่าคุณหลวงชอบไปแอบมองแม่หญิงอยู่บ่อย ๆกระผมเห็นท่านมองมาตั้งแต่แม่หญิงยังไม่ตัดจุกเลยนะขอรับ
	อย่าทำเป็นสู่รู้ข้าจะเรียนเอ็งมีอะไรทำก็ไปไป๊!!!
	คุณหลวงบดินทร์นฤนาถดุนายมิ่งทหารคนสนิทเสียเสียงเขียว  จากนั้นก็ทำท่าอ่านตำราฝรั่งอย่างตั้งอกตั้งใจ  จนกระทั่งนายมิ่งเดินออกไปจากห้องนานพอควร  คุณหลวงจึงกระโดดออกจากหน้าต่างตึกบ้านหลวงรับราชทูตของเจ้าพระยาวิชาเยนต์แล้วก็เดินหลบออกไปยังท่าน้ำทันทีเพื่อขึ้นเรือเก๋งโดยพายไปชะลอใกล้ ๆ กับที่นางในเล่นน้ำกัน  เขาแอบมองเห็นสาว ๆ หลายคนลงเล่นน้ำ  สายตาของเขาสอดส่ายจ้องมองอยู่ตลอดเวลา
	น้ำผึ้งแก้วอยู่ไหนนะเขานึกอยู่ในใจจนกระทั่งเขาเห็นหล่อนกำลังถูกนางในสามคนขัดสีฉวีวรรณให้ด้วยขมิ้น  หลังขาว ๆ ของหล่อน  เนื้อนวลละมุมนละไมน่ากอดยิ่งนัก  รูปร่างบอบบางดูมีทรวดทรงองเอว  หล่อนไม่ต่างจากหม่อมห้ามเท่าไรนักเพราะผิวพรรณของหล่อนสมกับเป็นลูกผู้สืบเชื้อสายมาจากวังเดิม  หล่อนมีเชื้อสายสุโขทัยแห่งราชวงศ์พระร่วงเจ้า
	คุณหลวงบดินทร์นฤนาถแอบมองหล่อนอยู่นานจนหระทั่งเหลือบไปเห็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายใน  คุณท้าวจันทร์แก้ว  เขาพูดเสียงหลงในขณะที่คุณท้าวจันทร์แก้วยืนจ้องมองมายังเรือเก๋ง  เขาจึงรีบพายเรือกลับไปเก็บยังท่าทันที
	สาว ๆ นางในแตกตื่นเมื่อคุณท้าวจันทร์แก้วตะโกนว่ามีคนแอบมอง  เหล่าทหารมากมายรีบตามจับผู้ที่ล่วงละเมิดเขตหวงห้ามแต่ก็ไม่พบ  พวกเขาพบแต่เรือเก๋งที่จอดอยู่ที่ท่าน้ำของเจ้าพระยาวิชาเยนต์หลายลำก็เท่านั้น  เมื่อมีคนเข้ามายังตึกรับรองก็พบคุณหลวงบดินทร์นฤนาถนั่งอ่านหนังสืออยู่  ทุกคนจึงไม่กล้าไต่ถามการใด  แล้วก็กลับไปในที่สุด
	เฮ้อ!!!! โล่งอกไปทีโชคดีนะที่พายเรือกลับมาทันเวลาพอดีคุณหลวงนึก  ใจของเขาเต้นรัวอยู่ตลอดเวลาเพราะกลัวความผิด  เขาสงสัยอยู่ว่าคุณท้าวจันทร์แก้วรู้ได้อย่างไรว่าเขาแอบมองหรือว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนกระทำแบบนี้แล้ว
	คุณหลวงขอรับ 
เสียงของมิ่งทำให้เขาสะดุ้งขึ้น  ใจของเขาสั่นรัวเพราะเพิ่งจะหนีความผิดมา  ...โทษในครั้งนี้หากถูกจับได้ประหารเจ็ดชั่วโคตรเลยนะมึงอ้ายคนชั่วเอ๊ย!...เขานึก มีอะไร! เขาเอ่ยเสียงเขียว
ท่านให้มาตามไปเฝ้าฯเสด็จฯขอรับ มิ่งเอ่ย
เออ ๆ ข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ
	คุณหลวงถือตำราเดินขึ้นเสรี่ยงตามเจ้าพระยาวิชาเยนต์ไปยังพระราชวัง  เสรี่ยงของเขาใช้คนหามเพียงหกคน  แต่สำหรับเจ้าพระยาวิชาเยนต์นั้นมีคนหามถึงยี่สิบคน  เกือบเยบเท่ากับพระหมากษัตริย์หรือเจ้าฟ้าฝ่ายในเลยทีเดียว  ทำให้ข้าราชบริพาลหลายคนไม่ค่อยพอใจนัก  แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เพราะเขาเป็นคนสนิทของสมเด็จพระนารายณ์  
	กระหม่อมพาลูกศิษย์มาถวายงานพระพุทธเจ้าค่ะ เจ้าพระยาวิชาเยนต์เอ่ยพร้อมกับเดินมานั่งยังแท่นรับรอง  ในขณะที่ข้าราชบริพาลคนอื่น ๆ แสดงสีหน้าไม่พอใจ
	เออ ๆ เจ้านี่มันเก่งจริง ๆ สนองพระเดชพระคุณดีเสียจริง  หากเจ้านั่งเสมอพระองค์  ระวังเสียขี้กรากจะกินหัว พระโหราธิบดีเอ่ย  อีกทั้งพระมหาอุปราชก็เห็นด้วยที่ฝรั่งมังค่าจะบังอาจล่วงเกินนั่งเทียบเสมอกษัตริย์
	มึงไปเอานายของมึงมา พระมหาอุปราชเอ่ยพร้อมกับชี้ไปที่หารคนสนิทของเจ้าพระยาเยนต์  หนึ่งในนั้นคือคุณหลวงบดินร์ฯด้วย นายของมึงกำเริบนั่งเสมอกู  นั่งเสมอเสด็จ  ยศศักดิ์หรือก็แค่เจ้าพระยาหาญกล้านั่งเสมอ  เทียบคู่บารมี...จับมัน! เสียงตวาดดังลั่นทำให้ทหารหลายคนวิ่งกรูเข้าไปยื้อยุดฉุดกระชากลากแขน  บ้างก็อุ้มขาเพื่อให้เจ้าพระยาวิชาเยนต์ลงมานั่งกับพื้นเสมอกับข้าราชบริพาลคนอื่น ๆ
	ไม่ต้องดอก...มันเป็นฝรั่งหารู้ทำเนียมไม่  ปล่อยมันเถอะ  ถ้ามันอยากยืนจงให้ยืน  ถ้ามันอยากนั่งจงให้มันนั่ง เสียงของพระเนตรพระกรรณดังขึ้นจากเบื้องบนทำให้ทุกคนหมอบกราบตัวสั่น
	หาบังควรไม่แล้วพะย่ะค่ะ
	ไม่เป็นไรดอก  อย่าถือสามันเลย  มันมิรู้ธรรมเนียม  ท่านอุปราชก็อย่าถือโกรธนักสิ สมเด็จพระนารายณ์ตรัสพร้อมกับพระสรวญดังขึ้น เอ้าให้มันนั่งเถอะ ทรงตรัสย้ำอีกครั้งทำให้เจ้าพระยาวิชาเยนต์ยืนยืดตัวหันหน้ามายิ้มเยาะพร้อมกับเดินไปนั่งใกล้ ๆ พระมหาอุปราชทันที กูก็นั่งสูงกว่ามันดอก  ขี้กรากคงไม่กินหัวมันง่าย ๆ แน่แท้  พวกเจ้าก็ดูหัวมันเถอะขัดมันเสียขนาด ทรงตรัสและสรวญดังอีกครั้ง
	
	เจ็บใจนักอ้ายฝรั่ง  สักวันกูจักล้างอายมึง พระมหาอุปราชเอ่ย มึงก็สอนนายของมึงมั่งนะอย่าให้มันลามปาม ท่านหันมาพูดกับคุณหลวงพร้อมกับตบไหล่ กูรู้ว่ามึงไม่อยากอยู่กับมัน  แต่มึงก็ทนหน่อยเถอะ  หมดบารมีเสด็จเมื่อไหร่มันกับกูจักเห็นดีกัน...! ไปอ้ายยิ่งอ้ายคงกูจักกลับ เสียงของท่านมหาอุปราชฟังดูแล้วว่ากำลังโกรธจัดถึงที่สุด  คุณหลวงบดินทร์ก็ได้แต่ก้มหน้ารับฟังเสียนั้น  ใครเลยจะหาญกล้าสอนเจ้าพระยาวิชาเยนต์ได้ในเมื่อตำแหน่งของเขาเป็นเพียงหลวงผู้ต่ำต้อยกว่าเจ้าพระยาอย่างแน่แท้...
คุณหลวงเดินเลาะมาทางหอพระด้วยความเครียด  เขาเหลือบไปเห็นสาว ๆ นางในหลายคนตื่นเต้นดีใจกับน้ำพลุที่ผุดขึ้นจากสระน้ำ  เขาจึงเดินเข้าไปมองใกล้ ๆ เพราะตัวเขาเองก็ไม่เคยเห็นน้ำอะไรที่โผล่ขึ้นมาจากสระเหมือนกัน
	อุ๊ย!!!!
	น้ำผึ้งแก้ว!!!!
	คุณหลวงเดินชนน้ำผึ้งแก้ว  เขาเกือบจำหล่อนไม่ได้เพราะหล่อนดูเป็นสาวได้รวดเร็วเหลือเกิน  ผมยาวสยายถึงแผ่นหลัง  กลิ่นน้ำอบจันทร์หอมรัญจวนไปหมด  หล่อนคงปรุงน้ำหอมขึ้นมาใช้เองได้แล้วตามตำรับชาววัง
	ขออภัยเจ้าค่า  หล่อนก้มหน้าก้มตาขอโทษ  เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นคุณหลวงยืนยิ้มอยู่  หล่อนถึงกับเรียกชื่อด้วยความตกใจ คุณหลวงบดินทร์นฤนาถ!!!!	
ดูอะไรรึเจ้า
	ดูน้ำผุดจากสระเจ้าค่า
	ฝรั่งเขาเรียกว่าน้ำพลุเจ้าเคยได้ยินหรือไม่
	หล่อนส่ายหน้า  คุณหลวงจึงเล่าให้ฟังหลายเรื่อง  จนเจ้าพระยาวิชาเยนต์เดินเข้ามาอธิบายเรื่องน้ำพลุให้หล่อนฟัง  หล่อนทำท่าเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เจ้าพระยาวิชาเยนต์พูดมากกว่าที่คุณหลวงพูดให้ฟังเสียอีก
	พี่ต้องไปหอพระก่อนนะพรุ่งนี้เจ้าว่างรึไม่
	อิฉันต้องกลับบ้านเจ้าค่าพอมีเวลาว่างบ้างมีอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ
	เจอกันที่หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุนะเจ้าพี่จะพาเจ้าไปกราบพระ
	หล่อนยิ้มอย่างอาย ๆ แล้วก็เดินไปกับนางในที่มาด้วยกันในบรรดานางในทั้งหมดน้ำผึ้งแก้วเป็นคนที่มีกิริยามารยาทที่งดงาม  และเป็นคนที่งามที่สุดงามยิ่งกว่าหม่อมห้ามหลายองค์เสียด้วยซ้ำ จนทำให้คุณหลวงรู้สึกหวั่นใจกลัวว่าเจ้าของวังจะเห็นดอกไม้ในสวนเขาจึงพูดกับเจ้าพระยาวิชาเยนต์เรื่องการสู่ขอนาง
	เอาเถอะเราจะช่วยท่าน  แต่ท่านอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้ล่ะ
	คุณหลวงบดินทร์นฤนาถมารอน้ำผึ้งแก้วที่หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุแต่เช้า  เมื่อหล่อนมาถึง  คุณหลวงก็จับมือจูงหล่อนเข้าไปในวัดทันที  หล่อนสะบัดมือออกแล้วก็เดินนำหน้าคุณหลวงไป  เมื่อก้มลงกราบพระคุณหลวงก็อธิฐานให้หล่อนได้ยินทันที
	พี่สาบานว่าจะไม่รักใครนอกจากแม่ น้ำผึ้งแก้วขยับหลบเพราะกลัวว่าใครจะครหา  คุณหลวงก็ขยับตาม เจ้าจักเชื่อพี่หรือไม่
	อย่าพูดเยี่ยงนี้อีกไม่อย่างนั้นอิฉันจะฟ้องเจ้าคุณย่าว่าคุณหลวงพูดจาลวนลามอิฉัน
	พี่ไม่ได้ลวนลามเจ้าดอกพี่เพียงแต่พูดไปตามที่ใจปรารถนาเท่านั้นเองพี่จะไปสู่ขอเจ้าให้เป็นหน้าเป็นตา
	อย่าพูดเยี่ยงนี้อีกเลย  หากคุณหลวงยังเห็นว่าอิฉันเป็นหลานถ้าหากพูดอีกอิฉันจะไม่เกรงใจ  อิฉันจะทูลฟ้องเสด็จฯ ท่าน  พระองค์คงกริ้วถ้าหากรู้ว่าคุณหลวงพูดจาหยาบหยามกับนางห้ามตำหนักในที่วัดเยี่ยงนี้
	พี่ให้คำสัตย์จริงว่าพี่จะรักเจ้าทุกชาติ ๆ ไปนี่กำไลของพี่  พี่ไปขอหลวงพ่อมาเพื่อเจ้า  พี่นั่งถักร้อยกำไลด้วยตัวเองเชียวนะ  พี่ให้เจ้าไว้ป้องกันภัย หล่อนไหว้แล้วก็รับมา  คุณหลวงจึงใส่กำไลให้หล่อนทันที กำไลนี้มีอานุภาพยิ่ง  เขาว่ากันว่ากำไลนี้จะทำให้คนรักกันจำกันได้  ไม่ว่าจะอยู่ภพไหนชาติไหนก็จะตามไปพบเจอ
	กำไลสวยนะเจ้าคะแต่อิฉันคงรับไว้ไม่ได้ หล่อนตอบ
	ทำไมล่ะ
	เพราะคุณหลวงเป็นอาของอิฉันหาใช่อื่นไกล  อากับหลานจักคบหาดูใจกันคงเป็นเรื่องน่าบัดสี  อิฉันเป็นหลานนะเจ้าคะหาได้สายเลือดไกลไม่  ขอให้คุณหลวงระลึกไว้เสมอ หล่อนรีบกราบพระแล้วนำกำไลวงนั้นวางไว้กับพื้น อิฉันคืนเจ้าค่ะ หล่อนเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้น  เขายื้อแขนหล่อนไว้  ปล่อยเถอะค่ะคุณหลวงมันไม่งาม หล่อนติพร้อมกับพยายามสลัดข้อมือ
	เรามิใช่อาหลานกันโดยแท้เสียเมื่อไร  เจ้าคงลืมไปแล้วกระมังว่าพี่เป็นเพียงลูกของลูกบุญธรรมหาใช่ญาติมิตรสนิทกัน
	ถึงกระนั้นคุณหลวงยังเป็นอาของอิฉัน  อีกอย่างคุณหลวงก็แก่กว่าอิฉันตั้งรอบ หล่อนแย้ง
	พี่ไม่สนดอกเป็นตายอย่างไรพี่จักให้คุณพ่อมาสู่ขอเจ้า คุณหลวงบดินทร์นฤบาลยิ้มหน้าบานทันที  น้ำผึ้งแก้วสลัดมือทิ้งรีบวิ่งออกไป  เขารีบกราบพระและเดินตามหล่อนออกไปนอกโบสถ์  เขาพาหล่อนชมบริเวณวัดจนสายจากนั้นก็ให้บ่าวพายเรือไปส่งหล่อนถึงบ้าน  เขาเข้าไปคุยกับเจ้าคุณย่าอยู่หลายเรื่อง  จากนั้นก็ลากลับไป
ผึ้งผึ้งผึ้งมือขยับแล้ว!!!!
	เสียงผู้คนมากมายคุยกันจอกแจกหญิงคนหนึ่งเรียกชื่อของฉัน  ฉันรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนี้เหลือเกิน
	ฟื้นแล้วค่ะไปตามหมอมาเร็ว!!!! ส้มเอ่ยขึ้น
	ไม่ต้องหรอก... ผึ้งเอ่ย ...เรารู้สึกสะลึมสะลือ  มึนงงไปหมด  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่  เมื่อกี้ชั้นยังอยู่ที่วัดกำลังกราบพระอยู่เลยไม่ใช่เหรอแล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ได้หรือว่าเราฝันไปกันแน่ผึ้งนึกพร้อมกับมองไปรอบ ๆ อาคารไม้สีเขียวอ่อน
เป็นอย่างไรบ้างพวกเราตกใจแทบแย่จู่ ๆ เธอก็ฟุบล้มลงผู้หมวดสุเมธเป็นคนอุ้มเธอเข้ามาในอาคารนะ  นั่นไงตายยากจริง ๆ ส้มเอ่ยพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองผู้หมวดหนุ่มซึ่งถือกะละมังน้ำอุ่นพร้อมกับผ้าขนหนูผืนน้อย ๆ ส่งให้กับส้ม
ผมวุ่นคุณคงเป็นลมแดดน่ะ  วันนี้แดดแรงมากเลย  เออ...คุณทานข้าวเช้ามาหรือเปล่าครับ เขาเอ่ยขึ้นในขณะที่นายตำรวจอีกหลายคนซึ่งอยู่นอกอาคารแอบชะเง้อคอมอง
ตายจริง...เมื่อเช้าฉันลืมพาเธอไปกินข้าวเลยอ่ะ  ขอโทษทีนะ  ชั้นลืมไปว่าเธอเป็นโรคกระเพาะ ส้มเอ่ย
ไม่เป็นไรหรอกส้ม  เมื่อเช้าฉันกินส้มรองท้องมาแล้วไง ผึ้งเอ่ยพร้อมกับจ้องส้มเขียวหวานที่อยู่บนโต๊ะในห้องของเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้หมวดหนุ่มหันไปมองตาม
ส้มเขียวหวานลูกเดียวมันจะไปพอเลี้ยงสมองอะไรล่ะครับ  ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยพร้อมกับส่งลูกอมให้ ทานก่อนนะครับน้ำตาลจะช่วยให้ไม่มึน  เดี๋ยวผมไปหาอะไรให้ทาน
ไม่เป็นไรค่ะ...เอ่อ...คุณ...! ผึ้งพูดเสียงหลงพร้อมกับเรียกเขา  แต่นายตำรวจหนุ่มไม่ได้สนใจ  เขาเดินลงจากอาคารทันที
ฉันว่าตาตำรวจคนนี้เขาแอ็คเหมือนกันนะ  แต่ก็มีน้ำใจดีเนาะ  เธอว่ามั๊ยล่ะ ส้มเอ่ย
เธอชอบเขาละสิ
ได้ก็ดี  ส้มเอ่ยพร้อมกับหัวเราะ  ทำให้ผึ้งหัวเราะตาม  ผึ้งลุกขึ้นนั่งพร้อมกับหยิบเอกสารขึ้นมาอ่าน  ครู่หนึ่งนายตำรวจหนุ่มก็เดินมาพร้อมกับข้าวกล่องสามกล่อง  ซื้อมาทำไมเยอะแยะคะ ส้มเอ่ยขึ้น
เราทานกันสามคนไงครับ เขาเอ่ยพร้อมกับส่งข้าวกล่องให้พวกเธอ
นับตั้งแต่เราก้าวเข้ามาที่นี่  ตั้งแต่เจอบ้านหลังนั้น...  และมายืนตรงนี้  มันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเราอยู่ตลอดเวลา  ถ้าเราพูดออกไปส้มก็ต้องว่าเราบ้าแน่ ๆ เลย...  มันเกิดอะไรขึ้นนะ  ทำไมมันต้องเกิดกับเราคนเดียวด้วย...ผึ้งนึก
เรียกผมว่าเอกก็ได้นะครับ เขาเอ่ยพร้อมกับตักไข่ดาวในกล่องของเขาส่งให้กับผึ้ง ทานเยอะ ๆ นะครับจะได้ไม่เป็นลมไปอีก เขาเอ่ยพร้อมกับอมยิ้มในขณะที่ผึ้งเพียงแต่พยักหน้ารับและหันมามองส้มด้วยความรู้สึกแปลกใจ
......................................3.........................................				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน