ขอย้อนกลับไปเรื่องคำทำนายที่ถูกกล่าวขาน

ส.ธนาศิษฏ์

คำทำนายของแม่เฒ่า วานก้า ผู้ถูกขนานนามว่า นอสตราดามุสแห่งบัลแกเรีย
วานก้า หรือชื่อจริงคุณยาย วานเกเลีย ปานเดว่า กุชเตโรว่า เป็นชาวบัลแกเรีย ซึ่งตายไปเมื่อหลายปีก่อน เกิดเมื่อ 31 มกราคม 1911 ในครอบครัวชาวนายากจนที่หมู่บ้าน สตรูมิซ่า ที่ปัจจุบันอยู่ใน มาเซโดเนีย
คำทำนายครั้งแรกของคุณยาย มีขึ้นเมื่ออายุ 16 ปี คือการบอกถึงสถานที่ที่แพะของพ่อที่ถูกลักไป ถูกนำไปซ่อน คุณยายบอกว่า ท่านเห็นสิ่งนี้ในฝัน
ตัวอย่าง การทำนายของคุณยายวานก้าที่ว่าแม่นๆนั้น ก็อย่างเช่นเรื่องเรือดำน้ำคูร์สค์ ของรัสเซียที่ระเบิดเมื่อหลายปีก่อน ที่คุณยายทำนายไว้ตั้งแต่ปี 1980 คุณยายทำนายเรื่องนี้ว่า ในปี 1999 หรือ 2000 คูร์สค์ จะจมอยู่ใต้น้ำ ผู้คนทั้งโลกจะเศร้าใจกับมัน แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ เพราะเมืองคูร์สค์ อยู่ไกลจากทะเล หรือแม่น้ำ และไม่มีใครฉุกคิดว่าคุณยายทำนายถึงเรื่องดำน้ำคูร์สค์
นอกจากนั้น คุณยายวานก้า ก็ยังทำนายตั้งแต่ปี 1979 ถึงการที่สหภาพโซเวียต จะกลับคืนมาเป็นรัสเซียเหมือนเดิม เรื่องที่สหรัฐถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี ในเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ตั้งแต่ปี 1989 เรื่องการลงนามในสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างกอร์บาชอฟกับเรแกน การเข้ามาอยู่ในกลุ่ม จี 8 ของรัสเซีย การกลับมาเป็นมหาอำนาจอีกครั้งของรัสเซีย การขึ้นมายิ่งใหญ่ของคนชื่อ วลาดิมีร์ และเรื่องวันตายของคุณยายเอง
คุณยายตายเมื่อ 11 สิงหาคม 1996 เวลา 10:10 น. ตรงตามที่ทำนายเอาไว้ทั้งวันที่ และเวลา
คำทำนายถึงโลกในอนาคต
2008  ผู้นำ 4 ประเทศถูกลอบสังหาร กรณีพิพาทในอินโดสถาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3
2010  เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 ( พฤศจิกายน 2010  ตุลาคม 2014 ) ตอนแรกก็ใช้อาวุธธรรมดา ต่อมาก็ตามด้วยนิวเคลียร์และอาวุธเคมี การนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ ทำให้ซีกโลกเหนือ จะไม่เหลือทั้งพืชและสัตว์ จากนั้นพวกมุสลิม จะใช้อาวุธเคมีเข้าจัดการกับชาวยุโรปที่ยังหลงเหลืออยู่ ผู้คนจะป่วยเป็นฝีหนองและมะเร็งผิวหนังกันมากจากผลของอาวุธเคมี
2016  ยุโรปแทบจะร้างผู้คน
2018  จีนเป็นมหาอำนาจของโลกรายใหม่ ประเทศกำลังพัฒนา กลับกลายจากประเทศผู้ถูกกดขี่ มาเป็นผู้กดขี่เสียเอง
2023  วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
2028  เกิดแหล่งพลังงานใหม่ (คาดว่า น่าจะเป็น เทอร์โมนิวเคลียร์ รีแอ็คชั่น ) โลกเริ่มเอาชนะปัญหาความอดอยากได้ มนุษย์เริ่มเดินทางไปยังดาวศุกร์
2033  น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น
2043  เศรษฐกิจโลกรุ่งเรือง มุสลิมปกครองยุโรป
2046  มนุษย์ปลูกอวัยวะได้ทุกอย่าง การเปลี่ยนอวัยวะ เป็นวิธีการรักษาโรคที่ดีที่สุด
2066  สหรัฐโจมตีกรุงโรมของพวกมุสลิมด้วยอาวุธใหม่ คืออาวุธสภาพอากาศ ซึ่งทำให้อากาศหนาวเย็นลง
2076  สังคมไร้ชนชั้น (คอมมิวนิสต์)
2084  ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู
2088  เกิดโรคใหม่ โรคแก่ติดจรวด (แก่ในไม่กี่วินาที)
2097  เอาชนะโรคแก่ติดจรวดได้
2100  ดวงอาทิตย์เทียมให้แสงส่างกับโลกส่วนที่มืด
2111  มนุษย์ กลายเป็นมนุษย์ไซบอร์ก (หุ่นยนต์มีชีวิต)
2125  โลกได้รับสัญญาณจากอวกาศ
2130  โลกไปตั้งอาณานิคมใต้น้ำ (จากคำแนะนำของมนุษย์ต่างดาว)
2164  สัตว์ กลายเป็นสัตว์กึ่งมนุษย์
2167  เกิดศาสนาใหม่
2183  อาณานิคมบนดาวอังคารมีอาวุธนิวเคลียร์ และต้องการเป็นเอกราชจากโลก
2187  โลกหยุดยั้งการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ 2 ลูก
2195  อาณานิคมใต้น้ำ เลี้ยงตัวเองได้โดยสมบูรณ์ ทั้งอาหารและพลังงาน
2196  ชาวเอเชียผสมกับชาวยุโรปโดยสมบูรณ์
2221  ในการติดตามหาชีวิตนอกโลก มนุษย์ต้องเจอกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัว
2256  ยานอวกาศนำโรคร้ายกลับมายังโลก
2262  วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดาวหางเกือบชนดาวอังคาร
2273  การผสมปนเปกันของคนผิวขาว ผิวเหลือง และผิวดำ ก่อเกิดเป็นคนสีผิวใหม่
2279  พบพลังที่ไม่ได้มาจากอะไรเลย (คาดว่าอาจจะมาจากสภาพสูญญากาศ หรือไม่ก็หลุมดำ )
2288  มีการเดินทางไปกับกาลเวลา การติดต่อครั้งใหม่กับมนุษย์ต่างดาว
2291  ดวงอาทิตย์เริ่มเย็นลง มีความพยายามที่จะจุดมันขึ้นมาใหม่
2296  เกิดระเบิดครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ สถานีอวกาศและดาวเทียมเก่าเริ่มตก
2299  ในฝรั่งเศสเกิดการจลาจลต่อต้านมุสลิม
2302  เปิดกฏใหม่เรื่องความลับของจักรวาล
2304  พบความลับของดวงจันทร์
2354  เกิดความผิดพลาดกับดวงอาทิตย์เทียม ก่อให้เกิดความแห้งแล้ง
2371  เกิดปัญหาความอดอยากครั้งใหญ่
2480  ดวงอาทิตย์เทียม 2 ดวงชนกัน
3005  สงครามบนดาวอังคาร
3010  ดาวหางชนดวงจันทร์ เศษซากที่กระจาย พากันโคจรรอบโลก
3797  ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือบนโลก แต่มนุษย์ได้ไปวางสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตบนดาวดวงอื่นแล้ว
คำทำนายของนอสตราดามุสกับอนาคตของโลก
คำทำนายของนอสตราดามุสจำนวน 265 บท บรรยายถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก เป็นมหาสงครามที่ยังไม่ได้ทำการสู้รบกันในขณะนี้ การขัดแย้งกันครั้งนี้ประเทศที่จะมีส่วนในการสู้รบ จะมีประเทศสหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง และละตินอเมริกา  จะมีการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ อาวุธแบคทีเรียและไอพิษสังหารประชากรทีละประเทศ ๆ อำนาจการทำลายล้างครั้งนี้จะมีผลกว้างใหญ่ไพศาลกว่าครั้งใด ๆ เท่าที่โลกเคยประสบมา สงครามจะเริ่มก่อตัวอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่ทั่วโลกกำลังอยู่ในบรรยากาศแห่งสันติภาพ ในชั้นแรกจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในสหภาพโซเวียต ซึ่งผลจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้การปกครองแบบคอมมิวนิสต์ของสหภาพโซเวียตถูกเปลี่ยนมาเป็นระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย นอสตราดามุสพยากรณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายในของสหภาพโซเวียตจะมีผลกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของประเทศนี้ และจะนำไปสู่การฟื้นฟูมิตรภาพระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตในที่สุด นอสตราดามุสเรียกชาติมหาอำนาจทั้งสองนี้เป็นปริศนาว่า สองพี่น้องแห่งภาคเหนือไกล จะคมนาคมติดต่อกันทางมหาสมุทรอาร์ติก บรรยากาศทางการเมืองระหว่างประเทศที่มีทีท่าว่าจะสดใสนั้นจะกลับกลายไปในทางไม่ดีในทันที เพราะการเป็นพันธมิตรกันระหว่างสองอภิมหาอำนาจดังกล่าว จะมีผลกระทบกระเทือนต่อดุลอำนาจของโลกมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ สองอภิมหาอำนาจจะรวมแสนยานุภาพของตนเข้ากับแสนยานุภาพของฝ่ายยุโรปตะวันตก หลังจากนั้นไม่นานชาติต่างๆในตะวันออกไกลและตะวันออกกลางก็จะตอบโต้ด้วยการรวมตัวกันเพื่อเตรียมพร้อมทำสงครามกับฝ่ายตะวันตก โดยฝ่ายตะวันออกไกลและฝ่ายตะวันออกกลางได้รับการสนับสนุนทางด้านอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธแบคทีเรีย และอาวุธเคมีจากประเทศจีน ข้อบ่งชี้ที่อยู่ในคำทำนายของนอสตราดามุส ได้แก่ ประเทศคู่สงครามทั้งฝ่ายตะวันตกและฝ่ายตะวันออก นอกจากจะใช้อาวุธนิวเคลียร์และอาวุธแบคทีเรียทำลายล้างกันอย่างกว้างขวางแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังจะรุกและตั้งรับกันโดยใช้ยุทธวิธีปกติ กล่าวคือ ใช้กำลังรบทั้งทางบกและทางเรือกันอย่างกว้างขวางพร้อมๆ กันไปด้วย ตามปกติมักจะคิดกันว่ามหาสงครามครั้งต่อไปจะเริ่มด้วยการกดปุ่มของทหารที่ซ่อนอยู่ในอุโมงค์ลึกใต้ดินและสงครามจะยุติลงในเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โดยอาวุธนิวเคลียร์จะทำลายล้างอารยธรรมทั่วทั้งตะวันตกและตะวันออกเสียสิ้น แต่นักยุทธวิธีทางการทหารหาได้ยอมรับแนวความคิดเช่นนี้อีกต่อไปไม่ ในบรรดายุทธวิธีที่เป็นไปได้ว่าจะถูกนำมาใช้ในการสู้รบในสงครามโลกครั้งต่อไปนั้น ถึงแม้ว่านอสตราดามุสจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะซ่อนลำดับคำพยากรณ์เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 3 เอาไว้ในระหว่างคำพยากรณ์อื่น ๆ ที่มีความสำคัญน้อยกว่า แต่จากผลของการวิจัยและค้นคว้าอย่างละเอียดถี่ถ้วนนี่เอง ทำให้เราสามารถค้นหาคำโคลงพยากรณ์ทั้งหลายที่เกี่ยวกับสงครามครั้งนี้จนพบ เมื่ออ่านคำพยากรณ์นี้แล้วผู้อ่านก็คงจะเกิดความรู้สึกว่า แม้แต่นอสตราดามุสเองก็เกิดความวิตกกังวลอย่างใหญ่หลวง ในสถานการณ์ของมหาสงครามที่จะเกิดขึ้นครั้งนี้ ถึงแม้ว่าการสังหารและการสู้รบกันอย่างนองเลือดส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในดินแดนยุโรป แต่ส่วนอื่นๆ ของโลกก็หาได้รอดพ้นจากความหฤโหดของสงครามมหาประลัยนี้ไม่ อย่างไรก็ดีพวกเรายอมรับว่า จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียฝ่ายหนึ่งกับจีนแดงและกลุ่มประเทศตะวันออกไกลและตะวันออกกลางอีกฝ่ายหนึ่งนี้ เมื่อวิเคราะห์คำพยากรณ์ของนอสตราดามุสในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามครั้งใหม่อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว พอที่จะแบ่งคำพยากรณ์ออกเป็น หลายช่วงหลายตอน ซึ่งแต่ตอนได้บรรยายดังต่อไปนี้
-       ในช่วงแรกของสงคราม อิสราเอลจะเป็นประเทศแรกที่ตกเป็นเหยื่อของแผนพิชิตตะวันออกกลางของเหล่าประเทศอาหรับ ซึ่งฝ่ายอาหรับไม่เพียงแต่มีแผนที่จะพิชิตตะวันออกกลางเท่านั้น แต่ก็ยังมีแผนที่จะพิชิตทุกประเทศในทวีปยุโรปอีกต่อไปด้วย ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ประเทศกรีซกับประเทศตุรกีก็เกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนถึงกับใช้กำลังเข้าห้ำหั่นกัน กรีซเป็นฝ่ายแพ้สงครามและได้เปิดการเจรจาสันติภาพที่นครเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่การเจรจากันครั้งนี้ต้องประสบกับความล้มเหลว
-       สงครามช่วงที่ สอง อุบัติขึ้นทางด้านตะวันออกไกล เมื่อจีนใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีฝ่ายตะวันตกอย่างฉับพลัน และยิงระเบิดแบคทีเรียชนิดร้ายแรงไปที่รัฐอลาสก้าของสหรัฐอเมริกา เพื่อให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปตามกระแสลมและกระแสน้ำครอบคลุมถึงประเทศต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรของฝ่ายประเทศตะวันตก หลังจากนั้นจีนก็จะใช้กำลังทหารบุกทางภาคใต้ของรัสเซีย ส่วนฝ่ายกลุ่มประเทศอาหรับ ก็ไม่ต้องการน้อยหน้ามหาอำนาจทางตะวันออกไกลคือจีน ก็จะดำเนินแผนการรบของตนบ้าง โดยเคลื่อนกำลังไปทางประเทศตะวันตก ทำการโจมตีชาติต่างๆ ที่อยู่ในเขตอิทธิพลของตน ในที่สุดกรุงโรมประเทศอิตาลีก็จะถูกทำลายอย่างย่อยยับ และจะเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศอิตาลี กองกำลังของฝ่ายอาหรับได้เคลื่อนตัวมุ่งสู่พรมแดนของฝรั่งเศส เป็นเหตุให้ฝรั่งเศสกระโจนเข้าสู่ความขัดแย้งครั้งนี้เพราะสถานการณ์บีบบังคับ สงคราม
-       ในช่วงที่ สาม เริ่มขึ้นเมื่อกองทัพฝรั่งเศสเข้าไปตั้งรับฝ่ายอาหรับที่พรมแดนอิตาลี แล้วต้องประสบกับความพ่ายแพ้ ในขณะที่กองทัพฝรั่งเศสกำลังรวมพลหลังการแพ้สงครามอยู่นั้น ทางด้านประเทศอังกฤษก็จะเกิดอุทกภัยอย่างร้ายแรงทั่วประเทศ เมื่อหันไปดูอิตาลีสถานการณ์กลับเลวร้ายยิ่งขึ้น องค์สันตะปาปาจะถูกบังคับให้เสด็จหนีไปยังดินแดนแห่งใหม่ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเกือบจะพร้อมๆกับที่เจ้าชายอัลเบิร์ตแห่งประเทศโมนาโกถูกจับกุมตัว และเมืองเวนิชในประเทศอิตาลีถูกโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์
-       ในระหว่างช่วงที่ สี่ ของสงคราม ประเทศโมนาโกจะถูกถล่มจนราบคาบ กองทัพจีนจะบุกเข้าโจมตีฝรั่งเศส กองกำลังร่วมระหว่างจีนกับอาหรับจะยกทัพเข้าโจมตีประเทศสเปน และระดมทิ้งระเบิดจนทั่วยุโรป ฝ่ายพันธมิตรตะวันตกจะปราชัยอย่างราบคาบ เมื่อสูญเสียประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และที่มั่นสุดท้ายคือเมืองบลูเจสในประเทศเบลเยี่ยม และทั่วทั้งยุโรปก็จะตกอยู่ในความยึดครองของฝ่ายสัมพันธมิตรตะวันออกอยู่เป็นเวลานาน
-       จนกระทั่งถึงช่วงที่ ห้า ของสงครามโลกครั้งที่ 3 กระแสของสงครามจะเปลี่ยนไป โดยสหรัฐอเมริกาและรัสเซียจะเป็นฝ่ายรุกบ้าง แต่กว่าจะถึงช่วงนี้ฝ่ายพันธมิตรตะวันออกจะเคลื่อนกำลังเข้าไปในละตินอเมริกาเรียบร้อยแล้ว
-        ถึงแม้ว่านอสตราดามุสจะไม่ได้พยากรณ์ไว้อย่างแน่นอนว่าเมื่อใดสงครามในตะวันออกไกลจะยุติลง แต่เขาได้กล่าวไว้ว่าสงครามในแถบนั้นจะยุติลงเมื่อสองอภิมหาอำนาจ คือ สหรัฐอเมริกาและรัสเซียเริ่มใช้อาวุธเชื้อโรคกับชาวจีน และบุกโจมตีเข้าไปในดินแดนประเทศนี้ เมื่อฝ่ายพันธมิตรตะวันตกสามารถรวมกำลังพลและกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์มาทุ่มอยู่ทางด้านสมรภูมิทางยุโรป ก็จะสามารถช่วงชิงยุโรปคืนมาได้ในเวลาไม่นานนัก จะมีการใช้กองกำลังเรือดำน้ำเข้าโจมตีรวมทั้งใช้อาวุธเชื้อโรคและอาวุธนิวเคลียร์สนับสนุน กับจะมีการยุทธ์ทางเรือครั้งยิ่งใหญ่นอกฝั่งตะวันตกของประเทศสเปน และในที่สุดฝ่ายพันธมิตรตะวันตกก็จะสามารถช่วงชิงยุโรปกลับคืนมาได้ทั้งหมด เมื่อสงครามยุติลง องค์พระสันตะปาปาประมุขศาสนจักรโรมันคาทอลิกก็จะเสด็จกลับนครวาติกันดังเดิม แต่เมื่อถึงขณะนั้นนครวาติกันจะถูกฝ่ายตะวันออกทำลายจนหมดสิ้น เหลือไว้แต่ซากปรักหักพังเป็นอนุสรณ์เท่านั้น เมื่อพิจารณาในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้ว จะเห็นว่ามีประเด็นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งอยู่ประเด็นหนึ่ง คือที่นอสตราดามุสพยากรณ์ไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2043 ว่ากลุ่มประเทศตะวันออกกลางจะมีบทบาทสำคัญในการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 3
ภัยพิบัติจากเชื้อโรคและการจากไปของเจ้าหญิง
คำพยากรณ์เซ็นจูรี่ เล่มที่  4 : ภัยพิบัติจากเชื้อโรค 
ในบทนี้พูดถึง การเกิดภัยพิบัติรุนแรงไปทั่วโลก โดยปรากฏตามร่างกาย ไวรัส  เชื่อโรค ระบบภูมิคุ้มกัน  ความอดอยากปากแห้ง ขาดแคลนอาหาร ผูคนอยู่โดยไม่มีกฏหมาย ปราศจากการเมือง
ปรากฎการ์นี้ได้เกิดขึ้นแล้วในยุคปัจจุบัน ไข้หวัดนก  (Avian Influenza) เริ่มระบาดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2460-2461 มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกประมาณ 20-40 ล้านคน และระบาดอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน
คำพยากรณ์เซ็นจูรี่ เล่มที่  2 : ลูกชายคนสุดท้ายของชายที่มีชื่อเดียวกับพระผู้เป็นเจ้า จะนำเจ้าหญิงไปสู่วันพักผ่อนชั่วนิรันดร์ 
นอสตราดามุส ได้ทำนายการสิ้นพระชนม์ ของ
เจ้าหญิงไดอาน่า
เจ้าหญิงแห่งเวลล์ได้อย่างแม่นยำ
โดยพ่อของนายโดดี อัลฟาเยด ซึ่งเป็นเจ้าของ สรรพสินค้า แฮร์รอด ชื่อดังกลาง กรุงดอนลอน มีชื่อว่า
โมฮัมหมัด ซึ่งเป็นชื่อของพระเจ้าใน ศาสนาอิสลาม ทั้งนี้ นาย โด อัล ฟาเยด เป็นเพือนชาย คนสนิทของ
เจ้าหญิงไดอาน่า ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ด้วยกันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 31
สิงหาคม ที่ผ่านมา
ท้องฟ้าจะลูกเป็นไฟ เพลิงจะผลาญเข้าสู่เมืองใหม่ (New York)
คำพยากรณ์เซ็นจูรี่ เล่มที่  6 : ท้องฟ้าจะลูกเป็นไฟ เพลิงจะผลาญเข้าสู่เมืองใหม่
 ท้องฟ้าจะถูกเผาผลาญ ณ องศาที่ 45 เพลิงจะพุ่งเข้าสู่เมืองใหม่ในบัดดล ดวงไฟใหญ่จะแตกกระจายทะลวงพุ่งขึ้นมา
 มาบัส (MABUS ) จะตายในไม่ช้า จะมีการฆ่าหมู่คนและสัตว์อย่างสยดสยอง ทันใดนั้นการแก้แค้นจะปรากฎขึ้นจากร้อยแผ่นดิน ความกระหาย อดอยาก จะเกิดชึ้นเมื่อดาวหางโคจรผ่านมา..
 ศาสนาที่มีชื่อเหมือนทะเลจะมีชัย การต่อต้านนิกายของอะดาลูนกาทิฟผู้บุตรพวกหัวดื้อ พวกโศกเศร้าตำหนินิกายจะกลัวเกรง อาลิฟ กับ อาลิฟ ที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง.
นั่นคือโคลงที่ว่ากันว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะตีความไปในทางเดียวกัน เพราะนอสตราดามุสเขียนแบบไม่ค่อยจะติดต่อเป็นเรื่องเป็นราวเท่าใดนัก ที่สำคัญเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องของเวลาอย่างแน่ชัด แต่กระนั้นหลายคนตีความว่ายามที่นอสตราดามุสมองเห็นเครื่องบินพุ่งเข้าใส่ตึกเวิล์ดเทรดไม่แตกต่างไปจากหอกแหลมจากฟากฟ้าจะบินมาพร้อมกับลูกไฟ
เพราะหัวของเครื่องบินที่มีปีกนั้น ดูเผินๆก็ไม่แตกต่างกับหอกขนาดยักษ์เท่าใดนัก  เช่นเดียวกับการชนก็เกิดการระเบิดทันทีจนเป็นลูกไฟไปทั่วฟ้า ที่สำคัญเขาพูดถึงเมืองที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามว่าเป็น ดินแดนที่ 45 ตรงกับเส้นรุ้งที่ 45 อันเป็นที่ตั้งของมหานครนิวยอร์กเหมือนกัน
แต่สิ่งเหล่านั้นยังไม่น่ากลัวเท่ากับการที่นอสตราดามุสกล่าวต่อว่า จะเกิดสงคราม ผู้คนจะล้มตายเมื่อมาบัสถูกฆ่าในเวลาไม่นานนับจากนี้ เพราะมีการตีความต่อว่า Mabus นั้น มาจากการย้อนชื่อต้นของ USaMA Binladen(อุสมา บิน ลาเดน) ซึ่งเป็นคนที่สหรัฐมองว่าเป็นตัวการในการก่อวินาศกรรมครั้งนี้ ยิ่งถ้ามองตามคำทำนายต่อ หลายคนเชื่อว่า การตายของบินลาเดน จะเป็นจุดสิ้นสุดของยุคสันติภาพและจะเป็นสงครามที่ยิ่งใหญ่และยาวนานกว่าทุกครั้ง โดยการแก้แค้นของพวกร้อยแผ่นดิน (United State) ซึ่งก็คือ สหรัฐนั่นเอง
ส่วนอาวุธลับที่สหรัฐจะใช้จัดการกับขบวนการก่อการร้ายจนกระทั่งเกิดการตายอย่างมากมายนั้น นอสตราดามุสใช้คำว่า ดาวหางมาเยือน จะเป็นไปได้หรือไม่ว่า ดาวหางที่นอสตราดามุสเห็นจะเป็นระบบป้องกันภัยจากอวกาศที่สหรัฐภาคภูมิใจนักหนา เช่นเดียวกับเรื่องของความอดอยาก เพราะเมื่อสหรัฐทราบว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังมาตรการแซงชั่น ป้องกันไม่ให้นำอาหารเข้าสู่ประเทศนั้นๆจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ตีความและวิเคราะห์
ในขณะที่พื้นที่ในตะวันออกไกลกำลังประสบกับความหายนะ อันสืบเนื่องมาจากอุกกาบาตตกลงมา และจากความไม่แน่นอนทางด้านสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลมาจากการปฏิบัติการของพวกขยายดินแดนในตะวันออกไกล  ก็จะมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญเกิดขึ้นอีก  โดยนอสตราดามุสพยากรณ์ว่า จะมีผู้นำอาหรับผู้หนึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจ ผู้นำผู้นี้จะเสริมสร้างกำลังทางการเมืองของเขา  ด้วยการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามชาติอื่น ๆ โดยเริ่มแรกจะรุกรานประเทศซีเรีย อิรัก และจอร์แดน  (ดินแดนเดิมของเมโสโปเตเมียโบราณ) จากนั้นจะใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่งล้านคนบุกโจมตีอิหร่าน ตุรกี และอียิปต์  ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง จอมเผด็จการอาหรับผู้นี้จะใช้กำลังทางเรือโจมตีนักบวชในนิกายโรมันคาทอลิก นอสตราดามุสไม่ได้ปิดบังอำพรางเกี่ยวกับวันเดือนปีของการโจมตีนักบวชคริสต์ครั้งนี้ เขาได้คำนวณโดยวิธีการทางดาราศาสตร์ว่า จะเกิดขึ้นในวันที่ 2 สิงหาคม อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการโจมตีนักบวชคริสต์ดังกล่าว
จากเว็ป  http://www.thainostradamus.com/				
comments powered by Disqus
  • ส.ธนาศิษฏ์

    24 ตุลาคม 2553 12:44 น. - comment id 119556

    จอมเผด็จการครอบงำตะวันออกกลาง
    คำพยากรณ์เซ็นจูรี่ เล่มที่ที่ 9  10 : จอมเผด็จการครอบงำตะวันออกกลาง
    
    II entera vilain, mechant, infame,
    
    Tyrannisant la Mesopotamie :
    
    Tous amis fait dadulterine dame,
    
    Terre horrible noir de physionomie.  (VIII,70)
    
    Le Prince Arabe Mars, Sol, Venus, Lion,
    
    Renge dEglise par mer succombera :
    
    Devers la Perse bien pres dun million,
    
    Bisance, Egypte, ver serp invadera. (V,25)
    
    คำแปล
    
    จะมีบุรุษผู้น่าเกลียดชั่วร้ายเลวทรามผู้หนึ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจ
    
    เขาจะปฏิบัติการก่อกรรมทำเข็ญประเทศทั้งหลายในลุ่มแม่น้ำเมโสโปเตเมีย
    
    เขาจะสร้างมิตรโดยวิธีการหลอกลวง
    
    ดินแดนทั้งหลายจะถูกทำลายล้างจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
    
    และต่อมาจอมเผด็จการผู้นี้จะได้เป็นผู้นำของชาติ
    
    เมื่อดาวอังคาร ดาวอาทิตย์และดาวศุกร์โคจรมาอยู่ในราศีสิงห์
    
    จอมเผด็จการผู้นี้จะโจมตีนักบวชนิกายโรมันคาทอลิกในทะเล
    
    นอกจากนั้นก็จะใช้กำลังทหารจำนวนหนึ่งล้านคนบุกโจมตีประเทศอิหร่าน   ตุรกีและอียิปต์
  • ส.ธนาศิษฏ์

    24 ตุลาคม 2553 12:45 น. - comment id 119557

    มหากากบาท ( GRAND CROSS)
    ดาวเคราห์ ในระบบสุริยจักรวาล เรียงตัวเป็นรูปกากบาท หรือบางคนบอกว่าเป็นรูปไม้กางเขน ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1999 เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติครั้งสำคัญที่หาดูได้ยาก ซึ่งจะส่งผลให้เกิด โลกเผชิญม็อบดาวเคราะห์ 
    
    มหากากบาท ( GRAND CROSS)
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    
    การแบ่งแยกระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ 
    
    
    
    คำพยากรณ์ที่ 7 :  เกิดการแบ่งแยกระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ
    
    Un peu de temps les temples des couleurs
    
    De blanc et noir des deux exxtremmmelees :
    
    Rouges et jaunes leur embleront les leurs,
    
    Sang, terre, peste, faim, feu deau affolee. (VI, 10)
    
    ฝ่ายศาสนจักรจะฟื้นฟูอำนาจและอิทธิพลขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ
    
    พวกผิวขาวกับผิวดำจะรวมตัวกัน ส่วนพวกผิวแดงกับผิวเหลือง
    
    จะแยกออกไปรวมตัวอยู่ต่างหาก แผ่นดินจะนองไปด้วยเลือด เ
    
    กิดโรคระบาด ทุพภิกขภัย สงคราม และการปฏิวัติ
    
    การที่ฝ่ายตะวันออกไกลมีอำนาจทั้งการเมืองและการทหารเพิ่มขึ้นนั้น จะมีผลกระทบต่อความพยายามที่จะสร้างความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างประเทศ นอสตราดามุสสามารถมองเห็นอนาคตได้อย่างแจ่มชัดว่า จะเกิดความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ  องค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ จะเริ่มเกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงและจะสลายตัวไปในที่สุด ทั้งนี้เพราะอ้างเอาความแตกต่างระหว่างเผ่าพันธุ์มาเป็นเหตุและปัจจัย อีกประการหนึ่งก็เพราะมีการแข่งขันกันเพื่ออำนาจทางการเมืองระหว่างประเทศ พวกผิวแดงและผิวเหลือง ซึ่งหมายถึงชาติต่าง ๆ ในตะวันออกกลางและตะวันออกไกล จะพร้อมใจกันผละออกจากที่ประชุมเจรจาระหว่างประเทศ และต่างฝ่ายก็พยายามแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศด้วยกำลังทหาร  ผลที่ติดตามมาก็คือเกิดการสู้รบกันอย่างนองเลือดในเอเชีย ติดตามมาด้วยโรคระบาด  ทุพภิกขภัย  อัคคีภัย และอุทกภัยอย่างร้ายแรง นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นของมหาสงครามโลกครั้งที่ 3
  • ส.ธนาศิษฏ์

    24 ตุลาคม 2553 12:45 น. - comment id 119558

    ชีวะประวัติ นอสตราดามุส
    ตอนที่2 ( Nostradamus Biological  chapter 2 )
    
    ในวัยเด็ก นอสตราดามุส จะสนิทสนมกับคุณปู่และคุณตาที่เป็นถึงแพทย์หลวง ( Royal doctor )  เขาได้เรียนรูหลักวิชาและศึกศสศาสตร์แขนงต่างๆ มีความรอบรู้มากกว่าเด็กในยุคในวัยเดียวกัน รอบรู้ทั้งวรรณคดีคลาสสิค ประวัติศาสตร์ ดาราศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ สมุนไพร และวิชาอื่นๆอีกมาก
    
    ปัจจุบันนี้ผู้คนจะรู้จักนอสตราดามุสในฐานะนักพยากรณ์เอกของโลก แต่ความจริงแล้วเขาเป็นถึงแพทย์ปริญญา เภสัชกร นักสมุนไพร นักโภชนาการ นักคิดนักปฏิรูป นักดาราศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ ชีวิตของเขาฝ่ามรสุมมาอย่างโชกโชน
    นอสตราดามุสจบแพทย์ มหาวิทยาลัยมองต์เปลิเยต์ ปี 1525 เขาเป็นผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับวิชาการแพทย์ที่เก่าคร่ำครึ เช่น การไม่ยอมทำความสะอาดแผลของผู้ป่วย เพราะกลัวว่าเป็นการล้างบาป ซึ่งความคิดดังกล่าวทำให้ยุโรปยุคศตวรรษที่ 16 ตกอยู่ในช่วงการระบาดของเชื้อโรคมากมาย
    ในปี ค.ศ.1537 โรคระบาดแพร่ระบาดมาถึงเมืองอายีน คนตายกันเป็นเบือ และขณะที่นอสตราดามุสเดินทางไปรักษาคนป่วยอย่างเหน็ดเหนื่อย เขากลับมาบ้านและพบว่าภรรยาและลูกของเขาติดเชื้อกาฬโรคเสียแล้ว เขาพยายามทุกวิถีทางแต่ก็สายเกิน
    หลังจากที่ลูกเมียตาย นอสตราดามุสก็เข้าสู่ช่วงตกต่ำที่สุด นอกจากจะเสียใจที่สูญเสียคนรักแล้ว ชาวเมืองอายีนก็หมดศรัทธา ไม่ยอมเชื่อถือในวิชาแพทย์และการรักษาของเขาอีกต่อไป และคราวนี้นอสตราดามุสก็ทำอะไรไม่ถูกใจคนไปเสียหมด โดยระหว่างที่เขาเดินผ่านไปเห็นคนงานกำลังหล่อรูปพระแม่มารีอยู่นั้น เขาก็แหย่เล่นว่า กำลังหล่อรูปปีศาจใช่ไหม เพียงเท่านั้นนอสตราดามุสก็ถูกตราหน้าว่าไม่เคารพพระแม่มารี ทั้งยังถูกเจ้าหน้าที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนด้วย ในที่สุดนอสตราดามุสจึงตัดสินใจหนีออกจากเมืองอายีน หลบหนีพวกกรรมการสอบสวน เร่ร่อนไปทั่วยุโรปตอนใต้และตะวันตกอยู่ 6 ปี ซึ่งในช่วงเวลานี้เขาเสาะแสวงหาสัจธรรมของชีวิต และในที่สุดเขาก็ใช้วิธีอ่านเหตุการณ์ล่วงหน้า ให้กลายเป็นมิติภาพในจิตทัศน์ของเขาได้ เขาเสียชีวิตวันที่ 1 ก.ค. 1566 ด้วยโรคเกาต์
    
    คำพยากรณ์ของนอสตราดามุสที่ถูกต้องและเลื่องชื่อมากคือเขาเห็นบาทหลวงฟรานซิส ที่พบกันโดยบังเอิญ และพยากรณ์ว่าบาทหลวงผู้นี้จะเป็นองค์สันตปาปาในอนาคต ซึ่งตอนนั้นคนอื่นหัวเราะกันเอิ๊กอ๊าก เพราะบาทหลวงผู้นี้ไม่โดดเด่นเลย พื้นเพยังเป็นคนต่ำต้อยอีกด้วย นอกจากนี้คำพยากรณ์ว่าพระเจ้าอังรีที่ 2 จะสวรรคตด้วยการประมือกับคนหนุ่ม ก็เป็นจริง ภายหลังพระเจ้าอังรีที่ 2 ภายระหว่างการประลองยุทธ์กับนักรบหนุ่มในกองทหารสกอตรักษาพระองค์ ส่วนเหตุการณ์ยุคหลังๆที่ตรงได้แก่ การลอบสังหารประธานาธิบดีเคเนดี้ และโรเบิร์ต เคเนดี้ การระเบิดของยานอวกาศชาเลนเจอร์ สงครามอ่าวเปอร์เซีย  รวมถึง คำทำนายภัยพิบัติของโลก และวันสิ้นโลก
  • ส.ธนาศิษฏ์

    24 ตุลาคม 2553 12:46 น. - comment id 119559

    ชีวะประวัติ นอสตราดามุส
    ตอนที่1 ( Nostradamus Biological  chapter 1 )
    
    ชาติกำเนิด  นอสตราดามุส มีชื่อเต็มๆว่า มิเชล เดอ นอสเตรอดัม ( Michelde Nostredame )
    
    เป็นผู้ได้รับ การยกย่องจากชาวโลกว่าเป็น  ราชาโหรโลก   คนทั่วโลกส่วนมากรู้จักเขาในนาม  นอสตราดามุส ( Nostradamus ) ซึ่งเป็นชื่อที่เป็นภาษาลาติน นอสตราดามุส เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1503 (พ.ศ. 2046) ตามปฎิทินจูเลียนโบราณ ซึ่งตรงกับวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 1503   (พ.ศ. 2046) ตามปฎิทินแบบเกรกอเรียน ซึ่งตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิปดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา บ้านเกิดเมืองนอนอยู่ที่ แซงต์ เรมี เดอ โปรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศษ บิดาของท่านชื่อ จูมหรือจ๊าคส์ เป็นชาวฝรั่งเศษ เชื้อสาย ยิว ส่วนมารดาชื่อ เรนีร์ เดอ แซงต์ เรมี หลานสาวของนายแพทย์ผู้หนึ่ง ปกติชาวยิวเป็นคนขยัน มีความอดทน อยู่ที่ ไหนที่นั้นต้องเจริญ นอสตาดามุสก็เช่นกัน เป็นชาวยิวที่ขยันพ่อแม่ถ่ายทอดความรู้ต่างๆ
    ที่ชาวยิวสมัยนั้นสนใจให้ เช่น ภาษาศาสตร์ ศิลปศาสตร์,ไสยศาสตร์,โดนเฉพาะไสยศาสตร์
    ท่านจะมีความสามารถเป็นพิเศษ ณ.เวลานั้นวิชาโหรศาสตร์ ก็ถูกจัดเป็นแนวหนึ่งของ ไสยศาสตร์ด้วย
    
    คนที่ศึกษาหรือถอดข้อความใน  คำพยากรณ์  ของนอสตาดามุสต้องทำความเข้าใจในข้อเท็จจริงที่ว่า นอสตาดามุสมีภูมิหลังสืบเชื้อสายมาจากยิว ดังนั้นจึงต้องได้รับอิทธิพล จาก การอ่านตำราไสยศาสตร์ของพวกยิว ยิ่งกว่านั้น ตระกูลนอสตาดามุสสืบเชื้อสายมาจาก ยิว โบราณ อิสซาการ์ ซึ่งมีความแม่นยำทางด้าน ดาราศาสตร์ ( Astronomy )มาก สามารถอ่านปรากฎการณ์ ธรรมชาติต่างๆ มี่บังเกิดบนท้องฟ้าได้ นักประวัติศาสตร์ชาวยิวเคยกล่าวถึงพวกชนเผ่า อิสซาการ์ว่า เป็นพวกที่สามารถหยั่งรู้เรื่องราวในอนาคตได้
    นอสตาดามุสเป็นลูกคนโตของครอบครัว มีน้องร่วมท้องอีก 4 คน คือ เบอร์ทรันต์,เฮ็กโตร์ อังตวงและฌอง น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูขเกี่ยวกับพวกเขา ยกเว้น ฌอง น้องคนเล็กซึ่งเป็นนัก วิจารณ์เพลงพื้นเมืองของมณฑลโปรวองซ์ ในเวลาต่อมา ฌอง หันไปเล่นการเมือง ได้รับเลือก ตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทยราษฎรของมณฑลโปรวองซ์ นอสตาดามุสไม่ได้นับถือศาสนายิว แต่นับถือศาสนาคริสนิกาย โรมันคาทอลิก เนื่องจาก
    ก่อนหน้าที่นอสตาดามุสจะกำเนิดเพียง 2 ปี คือวันที่ 26 กันยายน ค.ศ. 1501 พระเจ้าหลุยส์ที่
    12 แห่งฝรั่งเศษทรงมีพระบรมราชองค์การป่าวประกาศ บังคับชาวยิวทุกคนให้เปลี่ยนศาสนา
    ด้วย ซึ่งมีหลักฐานปรากฎอย่างชัดเจนว่า เมื่อปี ค.ศ. 1502 เวลานั้นนอสตาดามุสมีอายุ 9 ขวบ
    พ่อแม่ของท่านเปลี่ยนศาสนา  มานับถือศาสนสคริสนิกายโรมันคา ทอลิก อย่างไรก็ตามครอบครัวของ         นอสตาดามุสก็ยังคงปฎิบัติศาสนกิจแบบยิวอยู่ โดยกระทำ อย่างมิดชิดเพื่อไม่ไห้ทางการฝรั่งเศษจับได้
  • ส.ธนาศิษฏ์

    24 ตุลาคม 2553 12:46 น. - comment id 119560

    นอสตราดามุส ( Nostradamus )
    การสิ้นสุดศตวรรษที่นับเป็นการสิ้นสุดยุคอันรุ่งเรืองเพิ่มเริ่มต้นยุคใหม่ที่ดีกว่า แต่ไม่ใช่การสิ้นสุดของโลก การสิ้นสุดโลก ( End of the world )  มาจากสาเหตุ 2ประการ คือ
    - ประการแรกได้แก่ สงครามโลกครั้งที่ 3 ที่มนุษย์เป็นผู้กระทำ เป็นการต่อสู้กันของ มนุษย์ชาติ ที่ต่างเผ่าพันธ์ ต่างภาษา และวัฒนธรรม  เกิดการสู้รบขยายวงกว้างออกไป บ้านเมือง มหานครใหญ่พังพินาศด้วยน้ำมือ ของมนุษย์ด้วยกันเอง
    ประการที่ 2  เกิดภัยธรรมชาติ อาทิ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด  น้ำท้วมโลกอย่างมหึมา อุกาบาตพุ่งชนโลก ล้างผลาญบ้านเมือง ทรัพย์สินและชีวิตผู้คน
    นั่น !! เป็นสิ่งที่ทำให้นอสตาดามุสตื่นตระหนก นอสตาดามุสได้  บันทึกเอาไว้ใน เซ็นจูรี่ที่8 โครงที่77 โดยระบุอย่างชัดเจนว่า สงครามโลก ครั้งที่3 จะเกิดอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 27 ปี เลือดจะท่วมกายมนุษย์  แม่น้ำจะกลายเป็นสีแดงเลือด กัมมันตภาพรังสีแผ่กระจายปกคลุมทั้วพื้นปฐพี  เกิดความเย็นยะเยือกเหมือนน้ำแข็ง (The Icy rain covering the entire earth)
    
    วาระสุดท้ายของโลกจะเป็นดั่งนอสตาดามุสพยากรกระนั้นหรือ ?
    
    ในจดหมายที่เขาเขียนถึงซีซาห์ลูกชายคนโปรด นอสตาดามุสกล่าวว่า วาระแห่งความสกปรก โรคระบาดและความรุนแรงกำลังมาเยือน กองทัพมุสลิมที่น่าสะพรึงกลัวเข้าโจมตียุโรป
    
    - ความสูญเสียมากมายทำให้สหภาพ  โซเวียตล่มสลาย รัฐต่างๆแยกเป็นอิสระ ระหว่างปี ค.ศ.1996-1999 สหรัฐ กับรัสเซียเรื่มขัดแย้งกัน
    
    - เหตุการณ์9-11 ผู้ก่อการร้ายชาวมุสลิม จี้เครื่องบินที่มีผู้โดยสารร้อยกว่าชีวิตก่อนจะพุ่งเข้าชนตึกเวิล์ด เทรดเซนเตอร์ กลางกรุงนิวยอร์ค ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
    
    -  สหรัฐอเมริกา เปิดฉากสงครามโจมตีอิรัก มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน เพื่อโค่นรัฐบาล ซัดดัม ฮุสเซน 
    
    
    ชะตาของโลกจะถึงจุดจบ มนุษย์ชาติจะเป็นอย่างไร Thainostradamus.com จะเป็นผู้ให้คำตอบกับท่าน 
    
    จากเว็ป  http://www.thainostradamus.com/
  • ส.ธนาศิษฏ์

    24 ตุลาคม 2553 12:53 น. - comment id 119561

    คือตอนนี้ที่ต้องตระหนักก็คือโลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  นึกไปถึงเรื่อง 2012  วันสิ้นโลกแล้วใจหาย  เลยเอาคำทำนายที่ตอนนี้ชาวลพบุรีหลายคนกำลังพูดถึงกันอยู่  ที่คิดนะตอนนี้จากที่ดูข่าวคือ  ป่าไม้ไทยเหลือเพียง 20% จาก 100 % ก็เพราะน้ำมือมนุษย์  และที่เกิดอุทกภัยครั้งนี้ก็มาจากมนุษย์นั่นเอง  สิ่งที่ช่วยเยียวยาเราได้คือการปลูกป่าทดแทนให้ได้มากที่สุด  และการรักษาทรัพยากรณ์น้ำซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ  เป็นหลอดเลือดใหญ่ที่ไหลเวียนให้เราได้มีชีวิตรอดตามที่พระราชินีทรงตรัสเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา  นี่ยังไม่ทันขาดคำเลยก็เห็นผลว่าการที่เราไม่ช่วยกันดูแลอุทกภัยครั้งนี้ก็เลยมาเยือน  มันเตือนเราด้วยการท่วมหลาย ๆ พื้นที่  หลาย ๆ จังหวัด  ครั้งต่อไปมันอาจจะจมหายไปทั้งประเทศแน่ถ้าเราไม่ช่วยกันปลูกป่าทดแทนให้เร็วที่สุด  ตอนนี้ก็ยังไม่สายนะคะ  ใครเห็นด้วยบ้างไหมคะ  ถ้าเห็นด้วยก็ช่วย ๆ กันนะคะ  คนละต้นก็ยังดี  60 ล้านคน  คนละต้น  ก็คงได้1/4 ของประเทศแน่ ๆ รณรงเรื่องการปลูกป่ากับรักษาต้นน้ำลำธารด้วยนะคะ
  • ส.ธนาศิษฏ์

    24 ตุลาคม 2553 13:09 น. - comment id 119562

    มีอีกเว็ปนะคะ
    พุทธพยากรณ์โลก
    
    พระพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์ไว้กับ พระอานนท์ว่า อานันทะดูกรอานนท์ ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกลงจากอากาศ จะเผาผลาญประชาชน และบุคคลให้พินาศจะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก แต่ว่า อานันทะ ดูกรอานนท์ ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงนักยังหาไม่ได้ 
    ทั้งนี้ ก็เพราะว่า หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว อานันทะ ดูกรอานนท์ จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ยักษ์นอกพุทธศาสนานั่นหมายถึง คนที่ไม่ได้เคารพพระพุทธศาสนา จะรบราฆ่าฟัน ซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตาย ฝ่ายละมากๆ สมณะ ชี พราหมณ์จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก นี่เป็นคำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 
    
    เป็นอันว่า ท่านดามุสคนนี้ ก็พยากรณ์ไว้ตรง แต่เขาบอกว่า ค.ศ.๒๐๐๐ โลกจะสลาย แต่ว่าพระพุทธเจ้าของเราบอกว่า โลก ยังไม่สลาย พระพุทธศาสนา จะทรงอยู่ได้ ตลอด ๕,๐๐๐ ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรงพยากรณ์ ไว้ที่ พระธาตุดอยกิตติ ครั้งหนึ่งทรงตรัสว่า 
    "ชี้ว่าเขตประเทศนี้ ต่อไปจะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาก จะสามารถทรงพระพุทธศาสนาครบ ๕,๐๐๐ ปี" นี่หมาย ถึงประเทศไทย 
    เป็นอันว่า สงครามจะเกิดขึ้นที่ดามุสบอก ก็หมายถึงสงครามซีกตะวันตก หมายถึงอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ กับตะวันออกกลาง สงครามจริงๆ ยังคงไม่ถึงประเทศไทย 
    ทีนี้เรามาย้อนรอยถอยหลังกันก่อนว่า ตามที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติตรัสรู้ว่า ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะมี การรบราฆ่าฟัน ซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกลงจากอากาศ ไฟจะลุกจากอากาศ ก็เป็นความจริง ในขณะนั้นปรากฏว่า ลูกปืนกลจากอากาศบ้าง ลูกระเบิดจากอากาศบ้าง ลูกระเบิดเพลิงบ้าง ทิ้งจากอากาศ ประเทศไทยเรา ก็พลอยยับเยิน ไม่น้อยเหมือนกัน เล่นเอาตู้รถไฟ ต้องไปขี่กัน ที่บางกอกน้อย ทั้งๆ ที่ตู้มันหนัก แต่แรงของระเบิด ดันตู้รถไฟจนไปขี่กัน ตึกบ้านเรือนโรงลำบากมาก 
    แต่ว่าสงครามนั้น เป็นเหตุบันดาลอย่างหนึ่ง นั่นคือว่า สร้างความทุกข์ บรรดาท่านพุทธบริษัท คำว่า สงคราม นี่ อาตมา ผู้พูดเอง ก็ยังรู้สึกหวาดเสียวอยู่ เพราะว่า เคยอยู่ในระหว่างสงคราม ขณะนั้นอยู่กรุงเทพฯ แสงไฟฟ้าก็ใช้อะไรไม่ได้ ต้องใช้ตะเกียง ตะเกียงน้ำมันก๊าดไม่มีจะใช้ น้ำมันโซล่าก็หาไม่ได้ ต้องใช้น้ำมันหมู หรือน้ำมันมะพร้าวมาทำตะเกียง ของทุก อย่าง ของกินของใช้ต้องปันส่วน เพราะหาไม่ได้ จะได้ก็ของจากญี่ปุ่น เวลานั้นของเรามีน้อย เวลานี้โรงงานมีมาก แต่ก็ไม่ แน่นัก เพราะระเบิดจากอากาศก็ดีจรวดก็ดี หรือว่าระเบิดจากภาคพื้นดินก็ดี อาจจะเกิดกับโรงงานต่างๆ ในประเทศไทยได้ ถ้าสงครามเขา เกิดขึ้น
    หากว่าท่านจะถามว่า ทำไมสงครามเกิดขึ้นที่ตะวันออกกลางแล้วจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับประเทศไทย ทำไมไทยจึงต้องหวาด ระแวง ความจริงไม่ได้พูดให้ระแวง พูดให้ทราบ ตามความจริง หรือ ตามความรู้สึก นึกคิด ถ้าเรื่องนี้ผิด ก็ต้องขออภัยด้วย เพราะว่าเป็นการคาดคะเน มากกว่าอย่างอื่น คิดว่าถ้าสงครามเกิดขึ้น ระหว่างสงครามศาสนา ก็จงอย่าลืมว่า ศาสนาที่อยู่ ระหว่างสงคราม ก็มีอยู่ในประเทศไทยทั้ง ๒ ศาสนา ถ้าเขารบกัน แต่เพียงภายนอกก็ดี แต่บังเอิญ คนที่นับถือศาสนานั้นๆ ทั้ง ๒ ศาสนาเกิดทะเลาะ วิวาท รบราฆ่าฟันกันในเขตของเรา เขตของเราก็ต้องยับเยิบไป เหมือนกับสนามหญ้ากับสุนัข ๒ ฝ่ายกัดกัน สนามหญ้าก็แหลก ถ้าบังเอิญเขารบกัน ก็ไม่เป็นไร ดีไม่ดีเขาจะชวนเรารบ เราจะรบหรือไม่รบ เขาก็จะรบหรือ ว่าเราไม่รบ เขาก็ไม่รบ แต่เขายึด เรายอมให้เขายึดไหม ในส่วนต่างๆ ส่วนใดส่วนหนึ่งของประเทศไทย 
    สำหรับความนึกคิด ในเวลานี้ ไม่ใช่หมอดูนะ ไม่ใช่พยากรณ์ ตามหลักวิทยาศาสตร์ หรือหลักอะไรทั้งหมด เป็นแต่การคาดคะเนว่า เหตุการณ์จะต้องเกิดขึ้น อาการต่าง ๆ ที่ปรากฏในปัจจุบันจะฟูขึ้น เพราะรับการสนับสนุนเรื่องการเงิน กำลังอาวุธจากที่อื่น จากนั้นเหล่าทหารตำรวจของเรา ก็ต้องเคลื่อนกำลังเข้าไปรักษาเขต ทีนี้เขตต่อเขต เขตยันเขต เขตที่เขาก่อขึ้นเป็นเขตในประเทศไทย และเขตต่อไปข้างหน้า ก็เป็นเขตที่เขาพวกเดียวกัน อะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง ลองวาดภาพกันดู ถ้ามันเกิดจริงๆ ตามเขาว่านะ อันนี้ไม่ได้รับรองว่า มันจะเกิดจริงหรือไม่ 
    ถ้าเกิดจริงส่วนประเทศไทย ทุกจุดทุกภาค ก็มีบุคคลที่ถือ ศาสนาตรงกันข้าม กับพระพุทธศาสนา ก็มีกำลังสูงขึ้น ที่เขาโต้กันที่เชียงใหม่ อภิปรายก่อนหน้าที่จะพูดนี้ไม่ถึงเดือน เขาโต้กันถึงหลักสูตรการศึกษาว่า 
    หลักสูตรพระพุทธศาสนา ถูกลดลงไป หลักสูตรศาสนาอื่น เข้ามาแทน อย่างนี้ก็ต้องมีอาการ น่าคิดว่า เขาวางแผนล่วงหน้าไว้ไกลมาก หรือว่าเป็นการวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน โดยเฉพาะระยะใกล้ก็ได้ 
    ก็เป็นอันว่า ในเมื่อสงครามใหญ่เกิดขึ้น ทางด้านตะวันออกกลาง ทีนี้ เศษสงครามมันก็อาจจะเข้ามาถึงประเทศไทย ต่อไปก็เป็นการเดาอีก ขอเดานะ ไม่ได้พูดตรงๆ จะหาว่าดูผิดก็ไม่ได้ เดามันผิดได้ ขอเดาว่า ถ้าสงครามเกิดขึ้นอย่างนั้นจริงๆ แต่ความจริงเวลานี้ ยังไม่มีใครจะให้เกิด เวลาที่พูดนี่นะ วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๓๓ แต่กว่าหนังสือนี่จะออกถึงเดือนมีนาคม ถ้าสงครามเกิดก็เกิดแล้ว ไม่เกิดก็ไม่เกิด ในระหว่างนี้ต่างคนต่างมองต่างคนต่างพูด แสดงเรื่องการเมือง เอาเหตุผลต่างๆ มาหักล้างกัน ก็ไม่แน่นักว่ามันจะเกิด ก็อยากจะบนบานศาลกล่าวว่ามันไม่เกิดนั่นแหละเป็นการดี แต่ทว่าพระดำรัสของ องค์สมเด็จพระชินสีห์ ไม่เคยผิด แต่ว่าท่านไม่ได้บอก พ.ศ. 
    เป็นอันว่าประเทศไทยก็จะถูกหาง หรือท้ายฝน ละอองฝนจากสงคราม ก็เป็นอันว่าเราถูกละอองฝน ดินแดนเราก็จะไม่เสีย แต่ว่าชีวิตคนอาจจะเสียไปบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สิ่งที่น่าห่วง ก็คือ ของกินของใช้ ราคามันจะแพงมาก ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่าเราต้องใช้น้ำมัน โรงงานต่างๆ ต้องใช้น้ำมัน ในเมื่อสงครามเกิดขึ้น ในเขตของบ่อน้ำมัน เราจะมีโอกาสซื้อน้ำมันได้หรือเปล่าก็ยังไม่แน่ 
    ท่านดามุส ท่านบอกว่า อำนาจของฝ่ายน้ำมัน มีอำนาจมาก สามารถเอาอาวุธ ใส่ในท้องปลา ไปยิงที่ไหนก็ได้ นั่นหมายถึง เรือดำน้ำ ถ้าเราส่งเรือไปซื้อของในเขตใดเขตหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตของศัตรูของเขาเรือดำน้ำของเขา ก็อาจจะยิงเรือพาณิชย์ ของเราก็ได้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ คนที่พบระหว่างสงคราม จะมีความรู้สึก หนาวๆ ร้อนๆ แต่ว่า ขอยืนยัน บรรดาท่าน พุทธบริษัทว่า สิ่งที่เราไม่ต้องกลัวอย่างหนึ่งคือ เขาประกาศบอกว่า การสงครามนี้เขาจะใช้อาวุธเคมีบ้าง จะใช้นิวเคลียร์บ้าง จะใช้นิวตรอนบ้าง อาวุธทั้งหลายเหล่านี้ น่ากลัวจริงๆ แต่สำหรับความรูสึกของผู้พูด ไม่มีความรู้สึกกลัวเลย เพราะว่าพระพุทธเจ้ามีความศักดิ์สิทธิ์ ของๆ ท่าน ทุกชิ้นที่ผลิตออกมา ท่านบอกว่า กันรังสีต่างๆ ได้หมด รังสีต่างๆ จะไม่สามารถกระทบกาย หรือทรัพย์สินบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีของของท่านได้ ที่ท่านทำให้นะ 
    ก็เป็นอันว่า ท่านยืนยันมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๑ และท่านทำทุกครั้ง ท่านก็ยืนยันทุกครั้งว่า เกี่ยวกับรังสีต่างๆ ไม่ต้องกลัวเลย รังสีจะไม่เข้าใกล้บุคคลที่มีของที่ท่านทำให้ของนั้นอยู่ไหน ก็หาเอาเองก็แล้วกัน ของนั้นจะขอบอกเป็นนัยๆ เอาตรงๆ เลย ก็ได้คือ พุทธานุสสติ นั่นคือนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์ และก็ภาวนาไว้ว่า พุทโธ เวลาหายใจเข้านึกว่า พุท เวลาหาย ใจออกนึกถึง โธ ก่อนจะออกจากบ้าน ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ บูชาพระก่อน ภาวนาว่า พุทโธ ก่อนอธิษฐานขอความปลอดภัยก่อน จะไปก็เสกน้ำลาย ด้วยกำลังของพุทโธสัก ๓ ครั้ง แล้วก็เดินออกจากบ้านไป หรืออยู่บ้านก็ได้ ภัยอันตรายจะไม่มีแก่ท่าน หรือว่าถ้าทำอย่างนั้น ยังไม่เกิดความมั่นใจ ก็เอาของที่องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงทำไว้ติดกับร่างกาย แต่ต้องอาราธนาทุกวัน ว่า นะโม ตัสสะฯ 3 ครั้ง แล้วก็ว่า พุทโธ เหมือนกัน และก็อธิษฐานให้ปลอดภัย อย่างนี้จะปลอดภัยจากรังสีต่างๆ แม้แต่สะเก็ดระเบิด หรือว่ากระสุนปืนของข้าศึก ก็จะไม่มีอันตรายกับท่าน ถ้าท่านทั้งหลายมี พุทธานุสสติ เป็นกำลังใจ 
    ทีนี้เรามาคุยกันต่อไปนี่มันเรื่องคุยนะ ถ้าบังเอิญเวลานี้มีอิรักตั้งท่ายัน อิรักปรากฏว่า ประกาศว่ามีคน ๑๘ ล้าน แต่ทว่า อิรัก อิรักอิหร่านนี่รบกันมาประมาณ ๘ ปี พออเมริกาส่งกำลังเข้ามาในอ่าวเปอร์เซีย อิรักอิหร่านดีกันฉิบ พื้นที่ของอิหร่านที่อิรัก ยึดได้ ก็พันตารางไมล์ก็ตาม คืนให้หมดปล่อยเชลยให้หมด เวลานี้ศัตรูกับศัตรู อิรักกับอิหร่านเป็นมิตรกัน อิหร่านก็เข้ากับอิรัก ไม่เห็นด้วยที่อเมริกา จะเอาวัฒนธรรมของเธอ มาใช้ในตะวันออกกลาง เขาถือว่า ผิดกฏของพระศาสนานี่ป็นอันว่า อิรักก็มีเพื่อน เข้าอีกหนึ่งประเทศ คือ อิหร่าน อิหร่านนี่ก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน หนักเหมือนกัน แล้วต่อมาอย่าลืมว่า สายเลือด ที่ร่วมกันมา เขาอาจจะไม่ทิ้งกันนั่นคือศาสนา คนที่นับถือศาสนาร่วมกัน อาจจะร่วมมือกันภายหลัง อย่างนี้สงครามใหญ่จะ เกิดขึ้น ซึ่งตรงกับคำพยากรณ์ของพระท่าน 
    ในปีที่ญวนแตกอเมริกาหนีกลับบ้าน ปีนั้นก็ถามพระท่านว่า หลังจากนี้จะมีอะไรบ้าง สงครามใหญ่จะเกิดขึ้นไหม ท่านบอกว่า คำว่าสงครามโลก ยังไม่เกิด คำว่าสงครามโลกนั่นหมายถึงว่า ทั้งโลกแบ่งกันเป็น ๒ พวก ร่วมกันทั้งหมด แล้วก็ตีกันในระหว่างฝ่ายต่อฝ่าย คือตีกันรบกันอย่างนี้เรียกว่า สงครามโลก แต่สงครามครั้งที่จะเกิดทางด้านตะวันออกกลาง ท่านบอกตรงว่า จะเกิดที่ด้านตะวันออกกลาง เขายังไม่เรียกว่าสงครามโลก เขาเรียกว่าสงครามใหญ่ สงครามใหญ่คราวนี้จะ มีความร้ายแรงไม่น้อย ร้ายแรงกว่าสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่ว่าท่านก็ไม่ได้บอกอย่างดามุสว่า ถึงแม้อเมริกาอาจจะถูกนิวเคลียร์ ท่านไม่ได้บอกไว้ คือไม่ได้ถาม
    รวมความว่าคำพยากรณ์ของท่านที่พยากรณ์ว่าจะเกิดที่ตะวันออกกลางก็ตรงแล้ว เวลานี้ตะวันออกกลางจะมีสงคราม อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสงครามเศรษฐกิจ เริ่มบีบรัดกันขึ้นมาการถูกบีบนี่ บรรดาท่านผู้ฟังและท่านผู้อ่าน สมัยเยอรมันก็ดี ญี่ปุ่นก็ดี อิตาลีก็ดี ที่ต้องประกาศเป็นสงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็เพราะว่า การถูกบีบคั้นจากโลกตะวันตกหรือหลายๆ ประเทศ ที่เรียกกัน ว่า สันนิบาตชาติ ในเวลานั้นทั้ง ๓ ประเทศ ลาออกจากสันนิบาตชาติ สันนิบาตชาติ ต่างคนต่างบีบคั้นต่างๆ หาทางกลั่นแกล้ง ถ้าไม่รบก็อดตายมีความจำเป็นต้องรบ หมายถึงว่า ยอมเสี่ยง ยอมเสี่ยงการเสียอิรภาพ การเสียประเทศจะต้อง เป็นเมืองขึ้นเขากับความตาย ทีนี้การรบความตายมันก็เกิด แต่เกิดเฉพาะบุคคลบางกลุ่มที่เป็นทหาร และบุคคลที่อยู่ใกล้จุดยุทธศาสตร์ที่ถูกระเบิด คนนอกนั้นจะไม่ตาย ถ้าไม่รบ ความอดเกิดขึ้น มันจะตายทั้งประเทศ เขาต้องตัดสินใจรบ เรื่อง สมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีฉันใด เวลานี้อิรักกับอิหร่าน กำลังจับมือกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศาสนามุสลิมเขาเป็นศาสนาที่มีความรักกันมาก 
    อย่างตอนใต้ประเทศไทย คราวนั้นฟังข่าวจากทางโทรทัศน์ จากท่านพันเอกณรงค์ กิตติขจร ท่านบอกว่า ใครล่ะ พันเอกกัดดาฟี มั้ง ถ้าพูดชื่อผิด ขออภัยด้วย ท่านเคยไปเจรจากัน บอกว่า อย่ามายุ่งกับประเทศไทยเลย แต่เขาบอกว่า รัฐบาลไม่ได้ยุ่งด้วย แต่ที่ยุ่งนั้นเป็นเรื่องของศาสนา ที่จะให้มีการแบ่งแยกประเทศไทย ออกเป็นของมุสลิมส่วนหนึ่ง ของไทยส่วนหนึ่ง เขาหวัง ๔ จังหวัด แต่ความจริงถ้าเขายึด ๔ จังหวัดได้ เขาจะเอาอีก ๘ จังหวัด ถ้า ๘ จังหวัดได้ เขาจะเอาอีก ๑๖ จังหวัด ผลที่สุดเขาต้องการยึดทั้งหมดทั้งประเทศไทย ความพอใจของคนไม่มีฉันใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ถ้าสงครามเกิดขึ้น ถ้าเราจำเป็น ต้องเสียดินแดน เรื่องเสียเฉพาะน่ะ ไม่มีแน่นอน มันต้องเสียกันเรื่อยไป เวลานี้เรา ก็ไม่มีพอที่จะเสียแล้ว แต่ที่พูดนี่ ก็ไม่ได้หมายความว่า สงครามจะเกิดจริง สมมติว่า ถ้ามันจะเกิดทีนี้เรื่องของศาสนา ก็จะเกิดขึ้นที่พูดนี่ไม่ได้ยุให้คน ๒ ศาสนาทะเลาะกันนะ เป็นแต่เพียงว่าท่านณรงค์ท่านบอกว่า ท่านไปพูดกับประธานาธิบดีของเขา ประธานาธิบดีของเขาก็บอกว่า รัฐบาลไม่ได้ยุ่งเป็นเรื่องของศาสนา ทีนี้ศาสนาจะเอาเงินมาจากไหน ก็ทราบไม่ได้เหมือนกัน 
    รวมความว่า หันมาคุยกันในประเทศไทย ถ้าสงครามเกิดขึ้นจริงๆ เราจะเป็นอย่างไร ประการแรก เรายังพูดถึงศาสนาก่อน ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ เราจะหนักเรื่อง น้ำมัน นิดหน่อย แต่ว่าน้ำมันในประเทศไทย ถ้าเร่งรัดจริงๆ จะเหลือใช้ เพราะอะไร เพราะว่าน้ำมันในประเทศไทยนี่มีมาก การเจาะ บรรดาท่านผู้อ่านและท่านผู้ฟัง ที่พูดนี่ก็ขอเดา คิดว่าท่านที่เจาะเขาคงจะเจาะไม่ถึงเพดานจริงๆ ของน้ำมัน รวมความว่า ถังน้ำมันถังใหญ่จริงๆ น่ะ เราจะพูดตามความเป็นจริงแล้ว ประเทศจีน เขาก็มีน้ำมันเขาอยู่สูงกว่าเรา ประเทศพม่าก็มีน้ำมัน อินโดนีเซียก็มีน้ำมัน แล้วก็ไทยล่ะอยู่กลางทำไมจะไม่มีน้ำมัน 
    ทีนี้เวลานี้การเจาะน้ำมัน การดูดน้ำมันเขาว่าได้น้อย แต่ความรู้สึกของผู้พูด หรือตามข่าวหนังสือพิมพ์ เขาบอกว่าความจริงประมาณน้ำมันที่ได้ มันมากกว่าข่าวที่เขาแจ้งมา ข้อนี้จะเท็จจริงประการใดก็ไม่ทราบ สุดแล้วแต่หนังสือพิมพ์ แต่เขาบอกว่าเขาแจ้งได้น้อย ก็ยังมีอีกหลายหลุมที่เขาเจาะพบแล้ว เขาบอกว่าไม่พอกับเชิงพาณิชย์ จึงไม่ยอมดูดขึ้นมา นี่ก็เป็นลีลาของพ่อค้าเป็นของธรรมดา ถ้ากำไรน้อยเขาจะไม่เอา หรือจะมาพูดกันอีกทีหนึ่ง 
    เวลานี้ทราบว่า คนไทยศึกษาเรื่องวิชาการเจาะน้ำมันมาได้ดีแล้ว มีความชำนาญพอแล้ว แล้วก็กำลังจะเจาะก่อน หนังสือจะออกคงจะเจาะแล้วละมั้ง เจาะก๊าซที่สงขลาใกล้ๆ กับบ่อเดิม จะเอาก๊าซมารวมกัน เข้ากับท่อเดียวกัน ขึ้นมาใช้จะได้มีปริมาณสูง ถ้าบังเอิญท่าน หรือนายทุนท่านใดท่านหนึ่ง ในพื้นที่ ที่ไม่มีสัญญาประมูลกับบริษัทต่างๆ แต่น้ำมันมีมาก ปริมาณของประเทศไทยนี่ ถ้าจะลองเจาะอย่างต่างประเทศเขา เอาที่ใดที่หนึ่งก็ได้สักที่หนึ่ง ที่พูดนี่เป็นการสมมติกันนะ จะเชื่อหรือไม่สมควรเชื่อ
    เพราะความรู้สึกว่ามีอยู่ว่าการเจาะที่แล้วมา เขาเจาะกันยังไม่ถึงฝาผนังหรือเพดาน ของถังน้ำมัน ซึ่งมันเป็น ถังใหญ่คลุมจักรวาล มันเป็นทะเลอีกชั้นหนึ่งต่างหาก คือเป็นทะเลน้ำมันจริงๆ ประเทศไทยตั้งอยู่เหนือทะเล น้ำมันจีน ก็เช่นเดียวกันแล้วก็พม่าก็เหมือนกัน อินโดนีเซียก็เหมือนกัน มาเลเซียก็เหมือนกัน บรูไนก็เหมือนกัน มันเป็นถังถังเดียวกัน ถ้าบังเอิญ เราจะเจาะอย่างอังกฤษ ที่เขาบอกว่า อังกฤษเจาะที่ทะเลเหนือ เจาะลง ไปลึกลงไปใต้ดินถึง ๖ กิโลเมตร ก็ได้น้ำมันขึ้นมาเพียงพอ 
    แต่ประเทศไทยเราสำรวจแล้วว่า ที่ใดที่หนึ่งมีน้ำมันพอที่จะเจาะได้ ก็ลองเจาะสัก ๖ กิโลเมตร จะมีผลเป็นประการใดเรื่อง นี้ก็ลองถามท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง ท่านมีความชำนาญในด้านนี้มาก ก็เรียกว่าดร.สรรพศาสตร์ ท่านดร.สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่า ถ้าเจาะลงไปถึง ๖ กิโลเมตร ในถังน้ำมันที่มีพื้นแผ่นดินหนา หมายความว่า หลังถังน่ะลึกลงไป เจาะลงไปแค่ ๓ กิโลเมตร จะถึงผิวถังน้ำมัน หรือหลังคาน้ำมัน ถ้าเจาะถึง ๖ กิโลเมตร ไอ้ท่อที่เจาะลงไปนั้น จะจมไปในตัวถังน้ำมัน บ่อน้ำมันจริงๆ ครึ่งกิโลเมตร ถ้าเจาะในที่ตื้น ที่บางจุดอยู่ไม่ไกลกรุงเทพนัก ในที่นี้ถ้าเจาะถึง ๖ กิโลเมตร ท่อจะจมลงไปในเขตของน้ำมัน ประมาณ ๖ กิโลเมตร ถามว่า ดร.สรรพศาสตร์ ถ้าเราจะดูดใช้อย่างปัจจุบันนี่ ถ้าทำอย่างนั้นจะใช้ได้สักกี่ปี ท่านบอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เอา ๓๐ เท่าของปัจจุบันใช้ไป ๕,๐๐๐ ปี น้ำมันยังไม่หมด ปริมาณยังไม่ลด 
    นี่แหละบรรดาท่านผู้อ่านและท่านผู้ฟัง ถ้าบังเอิญท่านดร.สรรพศาสตร์ ท่านพยากรณ์ตามความรู้ของท่าน ถ้าตรงตามนี้ประเทศไทยเราก็ไม่จน อย่างอื่นจะไม่มีก็ไม่เป็นไร ไฟของเรามีน้ำมันเราก็ถูก อุตสาหกรรมของเราลงทุนถูก เพราะน้ำมันถูก เราจะขายต่างชาติได้ดี ระยะนั้นประเทศไทยเราจะรวย 
    เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย เราคุยกันมาวันนี้ก็ป่วย แต่เกรงว่าเล่มที่ ๑๘ นี่จะไม่ครบ ทำไปแล้ว บ้างตามสมควร แต่ไม่แน่ใจ ว่าจะครบหรือไม่ครบ ก็ลุกขึ้นมาทำหันไปดูเวลาเหลือเวลาประมาณนาทีเศษ ก็ขอเตือนบรรดาญาติโยม พุทธบริษัท ซึ่งเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ว่า จงอย่าหวั่นไหว ต่อสงคราม ขอยืนยันว่า ถึงแม้ว่าสงครามจะเกิด ก็จริงแหล่แต่ทว่าเราจะไม่ตายเพราะสงครามโลก เราจะไม่อดตายเพราะสงครามโลก และนักเกษตรศาสตร์ก็ดี นักเกษตรศาสตร์นี่จะมีโชคดีมากคือจะรวย ข้าวจะแพง พวกที่เลี้ยงสัตว์ก็ดี ราคาจะแพง จะรวยทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าไม่มีความประมาท บรรดาท่านพุทธบริษัท ประเทศไทยจะมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ 
    
    พุทธทำนายล้านนาประเทศ
    
    
    จากคัมภีร์ใบลานเรื่อง "หมากน้ำเต้าจมหมากหินฟู" ของวัดป่าสักน้อย ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้จารชื่อ "อภิชัย ยาตันคหัสถ์" ผู้สร้างชื่อ "นายน้อยตัน" จารไว้เมื่อ พ.ศ.2492
    
     
    
    มีใจความว่า ครั้งที่พระพุทธเจ้าประทับที่เชตวันวนาราม ทรงปรารภถึงการดำรงอยู่นานหรือไม่นานของพระศาสนา โดยทรงปรารภเหตุที่เทวดาทั้งหลายได้กราบทูลถาม ซึ่งพระพุทธเจ้าตรัสเทศนาตอบ โดยที่ในมัชฌิมยามคืนหนึ่ง เหล่าเทพเข้าไปสู่ธัมมสภาคศาลาเป็นจำนวนมากเพื่อฟังธัมมกถาในสำนักของพระพุทธองค์ยามเที่ยงคืนทั้งนี้ มีเทวดาชื่อ "ปัณณเทพ" เป็นหัวหน้าได้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า การที่บางคนเกิดมาได้รับความลำบากยากแค้น แต่บางคนมีทรัพย์มั่งคั่ง บางคนรูปร้ายทุพพลภาพ บางคนอายุสั้น และบางคนอายุยืนยาวนั้นเป็นเพราะเหตุใด
    
    พระพุทธองค์ตรัสว่า การที่คนเกิดมาและอยู่ดีมีสุขนั้น เป็นเพราะในชาติก่อน ได้ทำบุญให้ทานถือศีลฟังธรรม ส่วนคนที่เกิดมาลำบากเข็ญใจนั้น เป็นเพราะในชาติก่อนมิได้ทำบุญให้ทาน ไม่สงเคราะห์แก่ผู้ใด มีแต่กระทำบาป เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดในนรก พ้นจากนรกก็เกิดเป็นเปรต หากยังมีกรรมหนาแน่นอยู่หรือเคยฆ่าสัตว์มาก่อน ก็ต้องเกิดเป็นสัตว์ที่ตนเคยฆ่าอีกห้าร้อยชาติ แล้วจึงเกิดมาเป็นคนอนาถายากไร้
    
    คนที่มีรูปงามและมีอายุยืนนั้น ก็เนื่องมาจากอดีตชาติเคยทำบุญให้ทาน รักษาศีล ไม่เบียดเบียนสัตว์ ไม่อิจฉาริษยาขึ้งโกรธต่อผู้ใด คนที่มีแต่ความอิจฉาริษยาอยู่ในใจนั้น มักเป็นผู้ผูกโกรธและไม่ทำบุญรักษาศีล พอเกิดมาจึงมีรูปร่างไม่งดงาม หรืออวัยวะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หรือมีอายุสั้น
    
    คนที่เกิดมามีสติปัญญาและความจำดี มีศิลปวิทยาเป็นประโยชน์ต่อตนและครอบครัว ทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่บ้านเมือง หรือเป็นครูผู้สอนศิลปวิทยาแก่ผู้อื่นมาก่อน เมื่อเกิดมาอีกจึงมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดส่วนคนที่เกิดมาแล้วโง่ทึบหรือเป็นบ้าเป็นใบ้นั้น เป็นเพราะในชาติก่อนมิได้ศึกษาเล่าเรียน ไม่ได้ฟังคำสอน หรือมีผู้สอนแล้วไม่เชื่อฟัง ก็ทำให้เกิดมาเป็นคนโง่ทึบและเป็นบ้าใบ้
    
    พระพุทธเจ้าตรัสต่อไปว่า พระองค์จะมีพระชนมายุเพียง 80 ชันษา ก็จะนิพพาน และได้กำหนดให้พระพุทธศาสนายืนอยู่ได้ 5,000 ปี เมื่อพระองค์นิพพานไปครบ1,000 ปีแล้ว ก็จะเกิดความยุ่งเหยิงเป็นครั้งคราว จะมีพระอริยสงฆ์และพระราชาช่วยกันกอบกู้เป็นระยะๆ เพื่อให้พระพุทธศาสนาสืบเนื่องต่อไปได้ครั้นพระองค์นิพพานไปแล้ว 2,500ปี พระศาสนาจะเริ่มถอยลง คนจะขาดความเคารพในพระธรรม พระภิกษุบางเหล่าจะแตกแยกกัน บางหมู่จะไปตั้งนิกายใหม่ บางหมู่จะนำเอาคำสอนของพระองค์ไปทำให้ไขว้เขว พระสงฆ์บางกลุ่มจะตั้งตนเป็นผู้วิเศษ ประพฤติตนเป็นมิจฉาทิฐิอลัชชี จะมีการหากินด้วยเดียรัจฉานวิชาต่างๆ คนทั้งหลายทำไร่นาลำบาก ท้าวพญาจะข่มเหงชาวบ้านชาวเมือง ความยุติธรรมจะบกพร่อง และเมื่อศาสนาของพระองค์มีอายุ 3,000 ปีแล้ว ท้าวพญาจะขัดแย้งกัน บ้านเมืองจะวุ่นวายฆ่าฟันกันไปทุกหย่อมหญ้า เกิดความแห้งแล้งและพืชผลจะตกต่ำ คนจะพากันล้มตายด้วยเหตุต่างๆ เป็นอันมาก และเมื่อโดยเฉพาะศาสนาของพระองค์พ้น 2,500 ปีไปแล้ว คนหลายๆ ครอบครัวจะได้ร่วมอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน หญิงชายอายุถึงสิบปีก็จะมีผัวมีเมียกันแล้ว
    
    ยามนั้นคนทั้งหลายจะไม่อ่อนน้อมต่อกัน และจะเกิดทุพภิกขภัยข้าวยากหมากแพงไปทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อศาสนาของพระองค์ล่วง 2,500 ปีไปแล้ว จะเกิดปัญหา "หมากน้ำเต้าจักจม หมากหินจักฟู" หมาจิ้งจอกจักไล่กัดเสือ ช้างจะพากันกินถ่านไฟแดง คนใจบุญใจกุศลจะต้องหาบ แต่คนใจบาปจะเดินตัวเปล่า พ่อค้าจะอาสาออกศึก น้ำไม่ลึกจะพากันทำที่ว่ายน้ำเล่น กบเขียดจะไล่กินงู พญาครุฑจะเป็นบริวารของกาดำ หมาจิ้งจอกจะกินอาหารจากถาดทอง และราชสีห์จะเป็นบริวารของหมาจิ้งจอก
    
    ครั้งนั้นเทวดาถามว่า เมื่อพระองค์นิพพานไปแล้ว พระองค์จะตั้งพระรัตนตรัยไว้อย่างไร ภายหน้าภายหลังไม่เสมอกันจะเป็นเหตุใด สัตว์ไม่เคยเกิดก็จะมี ที่มีแล้วก็จะเกิดมาอีก อันว่า หมากน้ำเต้าไม่เคยจมน้ำก็จักจม หมากหินซึ่งอยู่ใต้น้ำก็จักฟูลอยขึ้น จะเป็นด้วยเหตุใด
    
    พระพุทธองค์ตอบว่า เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไป 2,500 ปีแล้ว "หมากน้ำเต้าจม" ได้แก่ คนทั้งปวงที่เคยบวชและเรียนพระไตรปิฎกจนถ่องแท้แล้วนั้น ต่อมากลับทำบาปและไม่รักษาศีล อีกทั้งยังแนะให้คนอื่นหลงผิดจนตกนรกหมกไหม้เป็นอันมาก คนเหล่านั้นเมื่อสิ้นชีวิตแล้วก็จะไปจมอยู่ในอบายภูมิทั้ง 4 อันว่า "หินจะลอยไปตามกระแสน้ำ" นั้น ได้แก่ คนบ้านนอกซึ่งไม่รู้จักพุทธศาสนาจะพากันละเลิกมิจฉาทิฐินั้นแล้วทำบุญรักษาศีล และสร้างคุณงามความดีแก่บ้านเมือง เป็นผู้ค้นคว้าเอาวิชาความรู้มาเผยแพร่แก่กุลบุตรกุลธิดาสืบไปอีก คนเหล่านั้นจักได้ชื่อว่า "หมากหินจักฟู" ต่อมาท้าวพญาจะแย่งชิงอำนาจกันและแตกเป็นพวกเป็นเหล่า เมื่อรบกันแล้วผู้มีกำลังน้อยก็จะจ้างชาวป่าชาวดอยมาเป็นกำลัง โดยบอกว่าหากตนชนะแล้ว จะตั้งให้มีอำนาจและได้ทรัพย์สินของผู้แพ้นั้น พวกท้าวพญาหรือเสนาอำมาตย์ที่อาศัยพวกโจรหรือชาวบ้านชาวป่ามาเป็นนักรบ ซึ่งเมื่อชนะแล้วก็ตั้งให้มีตำแหน่งหน้าที่และได้ลูกเมียของพวกผู้แพ้ไปสมสู่อยู่กินด้วย อันนี้เรียกว่า "ราชสีห์จักได้เป็นบริวารของหมาจิ้งจอก" ส่วนวงศาลูกเมียของพญาผู้เสียอำนาจนั้นก็เท่ากับว่า "พญาครุฑไปเป็นบริวารของกาดำ" และพวกโจรหรือนักเลงชาวป่าชาวดอย เมื่อไม่มีความรู้แต่มีอำนาจหน้าที่แล้ว ก็จะใช้แต่ความหยาบช้าหาศีลธรรมมิได้ คนดีมีความรู้ก็จะพากันหันหนีเข้าป่า คนอธรรมจะได้ครองเมือง และบ้านเมืองก็ระส่ำระสายเกิดกลียุค อันนี้เรียกว่า "กบเขียดไล่กินงู" คือเมื่อศาสนาของพระองค์ผ่าน 2,500 ปีไปแล้ว คนทั้งหลายก็จะเป็นทุกข์และเดือดร้อนฉิบหายกันมากนัก
    
    เทวดาก็ทูลถามว่า หากเกิดเหตุเช่นนั้นจริง พระองค์จะให้พวกเทวดาทำอย่างไร พระพุทธองค์ตอบว่า หากคนยังเคารพและปฏิบัติตามในพระรัตนตรัยอยู่ ก็จะเป็นบุญของผู้นั้น แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็เป็นกรรมของผู้นั้น จึงขอให้เทวดาทั้งหลายทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนาฟังธรรมคำสอนของผู้รู้ สร้างกุศลและละเว้นจากบาป ทำจิตใจให้บริสุทธิ์แล้วตั้งจิตปรารถนาให้ได้พบพระพุทธอาริยเมตไตรย เทวดาทูลถามต่อว่า คนที่อยากพบพระอาริยเมตไตรยนั้นพึงทำอย่างไร พระพุทธองค์ก็ตอบว่าให้มั่นคงในการทำบุญรักษาศีลเจริญภาวนาแล้วตั้งความปรารถนาว่าให้ได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรย ก็จะได้พบกับพระพุทธอาริยเมตไตรยเป็นแน่แท้ เมื่อเทวดาทั้งหลาย มีปัณณเทพเป็นประธานได้รับฟังพระธรรมเทศนาจากพระพุทธเจ้าดังกล่าวแล้ว ก็มีความชมชื่นยินดีมากนัก จึงพากันกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้วอำลาคืนสู่วิมานของตน
    
    บัดนี้...เป็นไปอย่างพุทธทำนายของพระพุทธองค์แล้วหรือยัง?
    พิบัติทำนายฉบับลาว
       
     
      คงจำกันได้ ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาข่าวภัยพิบัติธรรมชาติจากอุตรดิตถ์ ไปจนถึงยอร์คจาร์การ์ตา อินโดนีเซีย ทำลายทรัพย์สินและคร่าชีวิตผู้คนมากมาย 
    
    ก่อนนั้นบ่ายวันหนึ่งต้นเดือนพฤษภาคมผมนั่งหลบร้อนอยู่ใต้ถุน จู่ๆก็มีเพื่อนบ้านเดินมาแจกเอกสาร2 เล่ม ลักษณะเป็นกระดาษเอ4 ซีรอกซ์ เย็บง่ายๆ ปกใช้กระดาษปอนด์สีฟ้าตัวพิมพ์คอมพิวเตอร์ ข้อความบนปกบอกว่าเป็นคัมภีร์ใบลานอักขระธรรมจากภูค้อของสามเณรคำ อีกเล่มเป็นกระดาษเอ4 พับครึ่งปกสีเดียวกันเป็นบทสวดใช้คู่กับเล่มแรก 
    
    เพื่อนบ้านคนนั้นระบุว่าต้องการฝากเอกสารฉบับดังกล่าวให้พ่อ(ของผม) ผมก็รับนำไปให้ท่าน ส่วนเขารีบเดินจากไปคงไปแจกต่อ 
    
    ครั้นพ่อรู้ว่าใครมาแจกก็ยิ้มๆอยู่ พูดงึมงำอะไรอยู่ในคอไม่ทันฟัง อ่านครู่หนึ่งก็วางแล้วกลับไปดูมวยช่วงเจ็ดสีต่อ ผมว่างมากวันนั้นก็ถือโอกาสนั่งพลิกๆอ่านเล่น พบเรื่องตื่นเต้นจริงบ้างเล่นบ้าง คล้ายเรื่องในอินเตอร์เนท ข่าวลือ จริง ลวง เท็จอย่างไร เผยแพร่ด้วยวัตถุประสงค์อันใด ไม่รู้ไม่มีที่มาชัดแจ้งนัก ที่ผมสนใจนี่เป็นการเผยแพร่แบบดั้งเดิมแบบชาวบ้านจริงๆ นี่แหละ (เดินแจก) ไม่ต้องพึ่งความเร็วของสื่อยุคใหม่ มาไกลเหมือนกัน และคงสร้างความเชื่อและแตกตื่นระดับหนึ่ง 
    
    ที่มาที่ไป ต้องการอะไร ใครได้ประโยชน์ เชื่อหรือไม่เชื่อไม่ใช่ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้ 
    
    หนังสือใบลานนี้ระบุว่าตกลงมาสู่วัดแห่งหนึ่งในแขวงอัตะปือ(น่าจะเป็นประเทศลาว) 
    
    ข้อความเริ่มที่ ....ข้าพเจ้า(คนเขียนเผยแพร่) บอกว่าได้รับรู้จากพระอาจารย์ ผู้ทรงศีลองค์หนึ่ง เผยแพร่ให้ทราบจึงเกิดศรัทธ่เสียสละทรัพย์ส่วนตัวพิมพ์แจกจ่ายมายังชาวพุทธทั้งหลาย เพื่อเป็นการกุศล และพิจารณาด้วยตนเอง ถึงมหันตภัยของโลกาภิวัตน์ซึ่งจะเกิดขึ้นตามพุทธทำนาย 
    
    ผม พลิกดูข้อความก็พบว่าเป็นการทำนายหายนะต่างๆที่จะเกิดขึ้น คัดมาเพียงบางตอนดังนี้ 
    
    ..ในปีระกา ปีจอนี้ มีเรือนแล้วจะไม่มีคนอยู่ มีนาไม่มีคนทำ เดือนเจ็ดจะมีงูเต็มไปทั่ว 
    ถึงเดือนสิบเอ็ด คนบาปจะตายเพราะไม่ซื่อสัตย์ จะมีภัยต่างดังนี้1.จะมีสงครามเกิดขึ้นทางน้ำ ,ท่าน้ำจะมีอันตราย
    2.จะเกิดนอนไม่หลับ
    3.ผัวเมียจะไม่เห็นหน้ากัน
    4.ทั้งลูกทั้งหลานจะไม่เห็นหน้ากัน 
    5.คนจะตายทั่วทั้งทวีป
    
    แต่ว่าการตาย จะไม่มีคนฝัง คนเผา ไม่มีผ้านุ่งผ้าถุง มีข้าวไม่มีคนกิน เพราะการกระ
    ทำบาปทั้งหลายในจำนวนคนหนึ่งหมื่นคนจะตายเหลือแค่หนึ่งพันคนเท่านั้น จะ
    เกิดโจรผู้ร้ายเรียกค่าคุ้มครอง เสือร้ายต่างๆ จะเกิดขึ้นสี่ห้า หกปี ไปจนถึงปีชวดก็จะหมดกั
    นแล้ว บ้านเมืองไม่สบายในห้าปีนี้ มันร้อนเต็มที่แลฯ .....
    
    ยังมีภัยอีกอย่างว่า ถ้ามีคนมาเรียกอย่าขาน กลัวผีมัมาเห็นเดือนหกออกใหม่ค่ำหนึ่งกับเดือนแรมเก้าไม่ให้ตักน้ำ ให้ตักไว้ก่อน กลัวผีมันเอายาใส่กินแล้วตาย ........
    
    น้ำอุบาทว์จะท่วมโลกโดยบังเอิญทั่วทั้งทวีป คิดกลัวจะไม่ถึงปีระกาและปีชวด ถ้าไม่เชื่อเดือนสิบสองจะบันดลให้คนไออกเลือดแล้วตาย .......
    
    ในปีจอต่อปีกุน ยามเดือนแจ้งจะเกิดมีงูพิษออกมาฉกกัดให้ตาย ฝูงชนทั้งหลายจะได้รับความเดือดร้อนหลายประการ เช่น ทุกข์ยากร้อนเพราะศึกสงครามไม่เสร็จสิ้น ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีน้ำมีไฟ ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีใครดูแลใคร ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีใครอยู่ทุ่งไร่นา ทุกข์ยากร้อนเพราะไม่มีผู้เฒ่าผู้แก่ ทุกข์ยากร้อนเพราะไปต่างประเทศสะดวก ทุกข์ยากร้อนนอนไม่หลับ
    
    ในปีจอนี้เมืองเวียงจันทร์จะมีองค์ฤาษีทองคำ ลาสิกขาบวชมาเป็นพ่อค้า ในปีจอออกใหม่ 8 ค่ำ ห้ามไม่ให้ต้กน้ำอาบน้ำกิน ตามห้วยหนอง คลองบึง หลังพระอาทิตย์ตกดิน หรือก่อนมืดค่ำ พระยายมราชจะนำเอายาพิษพ่นลงมายังโลกมนุษย์ 
    ในปีจอนี้เมืองกรุงเทพมหานครจะพังทลาย ในเวลาไก่ขัน......
    พระอินทร์จะลงโทษกับมนุษย์ใจบาป 9 ข้อนับแต่ปีจอถึงปีกุนคือ
    1.จะทำให้เกิดภัย ลมแรง แผ่นดินไหว
    2.จะเกิดไฟไหม้
    3.จะเกิดน้ำท่วม
    4.จะเกิดฟ้าผ่า
    5.จะทำให้เกิดเดือดร้อน ร้อนหลาย หนาวหลาย
    6.จะเกิดสารพิษต่างๆ อากาศ อาหารเป็นพิษ
    7.จะเกิดสารโรค พยาธิร้าย
    8.จะเกิดอดอยาก
    9.จะเกิดอาฆาต ฆ่าฟันกันเอง สำหรับคนบาป 
    
    มหันตภัย 9 อย่างนี้ จะหลุดพ้นแต่บุคคลผ็มีใจบุญใจกุศล ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น...
    
    จะเกิดภัยพิบัติในระยะไม่กี่ปีนี้ และมีภัยอีกอย่างหนึ่ง คนบาปมากในที่ต่างๆ มาทำให้เกิดพิษแก่ข้าว ถั่ว งา ให้เป็นพิษ ทำนาไม่ได้ข้าว ปลูกถั่ว งา ไม่มีผล ไม่มีหน่วย เงินสามสิบบาทซื้อข้าวไม่พออิ่ม คนจะอดอยากจะตายเพราะอดข้าว อีกอย่างหนึ่งจะตายทางน้ำมาก เช่นฝนตกลงมาเป็นพิษ ถูกเนื้อตัวเป็นผื่นคัน เป็นเม็ด เกิดน้ำเหลืองหรือเปื่อยเน่ารักษาไม่หาย อีกอย่างหนึ่งจะมีโจรผู้ร้ายใจบาปมาก ฆ่าพ่อ ตีแม่ตนเองเหยียบย่ำศาสนา ใจบาปทำความเดือดร้อนเรียกค่าคุ้มครองทั่วๆไปจนเกิดความหวาดกลัวและยังม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน