* * * หนูหี่ง ฯ ตอน ฤดูแห่งความสุข * * *

หิ่งห้อยน้อยใจ


อดีตกาล....  นานมาแล้ว....
ตั้งแต่ก่อนที่หนูหิ่ง ฯ จะลืมตาขึ้นมาดูโลกกลม ๆ ใบนี้
ครอบครัวของหนูหิ่ง ฯ ได้ย้ายมาจาก  บ้านถ้ำ  จ.เชียงราย  มาอยู่ หมู่บ้านแม่โถ  ต.บ่อสลี  อ.ฮอด  จ.เชียงใหม่
สมัยนั้นต้องเดินทางจากถนนหลวงไปอีก 17 กม.  จึงจะถึงหมู่บ้านแม่โถ  ต้องใช้แรงงานคน - ม้าและวัวในการบรรทุกสิ่งของ
แต่ละหมู่บ้านก็จะอยู่ห่างกันมากกว่า 3 กม.ขึ้นไป  บ้านแต่ละหลังก็จะอยู่ห่าง ๆ กัน  แต่มีอะไรก็จะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
ครอบครัวของหนูหิ่ง ฯ มาปักหลักอยู่โดยยึดอาชีพทำขนมจีนขาย  เริ่มต้นจากข้าวสาร  นำไปแช่น้ำ  นำไปบด  ทำเป็นเส้นขนมจีนแล้วก็ต้องทำน้ำขนมจีน
เสร็จเรียบร้อยแล้วพ่อ - พี่ชาย - พี่สาว  ก็จะหาบไปขายตามไร่ตามสวนตามหมู่บ้านต่าง ๆ  ขายแลกเงินบ้าง  แลกของบ้าง  ฝิ่นบ้าง ฯลฯ
ขากลับก็ต้องหาของป่าติดไม้ติดมือกลับบ้าน อาทิ  ต้นไผ่,  ดอกไม้กวาด,  หญ้าคา  รวมถึงผักผลไม้ที่หาได้จากป่า
ทุกคนต้องทำงานหนัก  เพื่อจะได้มีข้าวกินอิ่มท้องทุกมื้อ  ถึงกระนั้นบางวันก็ไม่มีข้าวกิน....
ต่อมามีคนมาติดต่อให้แม่ไปขายของให้กับคนงานกรมป่าไม้ที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่ง  ไกลจากบ้านแม่โถประมาณ 20 กม.  อยู่ในเขต จ.แม่ฮ่องสอน
แม่ก็พาพี่สาวไปด้วย 1 คน  พี่ชาย 1 คน  จากนั้นครอบครัวหนูหิ่ง ฯ ก็ต้องแยกกันอยู่ 2 หมู่บ้าน  ไปมาหาสู่กันก็ลำบากเพราะต้องเดิน
ทางเดินก็ต้องขึ้นเขาลงห้วยผ่านป่า  ในป่าก็มีทาก  (บรือส์.... หยะแหยง)  มีบางช่วงต้องข้ามแม่น้ำ  ในแม่น้ำก็มีปลิง  (บรือส์.... หยองขวัญ)
หลายครั้งก็เผชิญหน้ากับสัตว์ป่านานาชนิด  เราวิ่งหนีเขาบ้าง  เขาวิ่งหนีเราบ้าง  บางทีก็ต่างคนต่างวิ่ง  ^___^
ก่อนที่หนูหิ่ง ฯ จะลืมตาขึ้นมาดูโลกกลม ๆ ใบนี้  มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย....
จนกระทั่งหนูหิ่ง ฯ ได้ลืมตาแล้วก็เติบโตท่ามกลางความรักของพ่อ - แม่ และพี่ ๆ ครอบครัวของเราก็อยู่ดีกินดีกว่าแต่ก่อนมาก ๆ 
แต่กระนั้นก็ยังอยู่บ้านมุงด้วยหญ้าคา  ผนังทำด้วยไผ่ (ไม้ฟาก) เวลาลมพัดมาก็ทะลุเข้าไปในบ้าน  บางทีก็พาลมหนาวเข้าบ้าน
บางทีก็พาฝนเข้าบ้าน  หลายครั้งฝนเข้าทั้งทางหลังคา  และทางผนัง  มีอยู่ครั้งหนึ่งพายุได้พัดหลังคาบ้านปลิวไปตกที่สวนผู้ใหญ่บ้าน
ครอบครัวหนูหิ่ง ฯ ต้องไปอาศัยเพื่อนบ้านอยู่ชั่วคราวหลายวัน  จนกระทั่งเก็บหลังคากลับมาใส่ไว้เหมือนเดิม....
ไม่มีเงินสร้างบ้านใหม่  ก็ต้องทนอยู่ไป  ครอบครัวอื่นก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่เขาก็อยู่กันได้  เราก็อยู่ได้เหมือน ๆ กัน
มีหลายครั้งที่หนูหิ่ง ฯ ไปหาแม่กับพี่ ๆ ที่อีกหมู่บ้านหนึ่ง  แม่ต้องจ้างคนแบกไป  จำได้ว่าคนแบกเหม็นมาก - มากที่สุด
หนูหิ่ง ฯ ร้องให้  ไม่ยอมให้เขาแบก  แต่ท้ายที่สุดก็ต้องยอม  เพราะเดินไม่ไหว  โดยเฉพาะหนูหิ่ง ฯ กลัวทาก และปลิงเป็นที่สุด *___~
ตอนเดินทางเราก็ต้องห่อข้าวไปกินระหว่างทางด้วย  เพราะออกจากบ้านแต่เช้า  กว่าจะไปถึงก็เย็น  หรือมืดค่ำแล้ว
ก็จะมีข้าวสวยห่อใบสัก  น้ำพริกถั่วเน่า  น้ำพริกข่า  ไข่ต้ม  บางทีก็มีไก่ต้ม  หรือหมูทอดด้วย  หิวตรงไหนก็นั่งกินตรงนั้น  หาผักแถว ๆ นั้นกินกับน้ำพริก
จำได้ว่าอร่อยมาก ๆ กินซะจุกเลย  อาจจะเป็นเพราะหิวแล้วก็เหนื่อยมั้ง  กินอะไรก็อร่อยไปหมด....  ก็เลยทำให้หนูหิ่ง ฯ เป็นเด็กกินง่าย  ^___^
ตอนเด็ก ๆ หนูหิ่ง ฯ จะชอบฤดูฝนมาก ๆ เพราะฤดูฝนเป็นฤดูที่ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์  ไม่เคยต้องอดเลย
ต้นฤดูฝน  ก็จะมีแมงเม่า, แมงมัน, จิ้งหรีด, กบ, เขียด, อึ่งอ่าง, แมงจร, หอย, หน่อไม้, สารพัดเห็ด, ผักกูดและอีกสารพัดผัก   เป็นอาหาร
หนูหิ่ง ฯ กับเด็ก ๆ ในหมู่บ้านก็จะมีหน้าที่ไปขุดหน่อไม้,  ขุดจิ้งหรีด,  เก็บเห็ด, งมหอย และเก็บผัก   เป็นที่สนุกสนานเบิกบานสำราญใจ
กลับมาก็มีหน้าที่แกะหน่อล้างแล้วสับ  แม่ก็จะทำหน่อไม้ดอง  เห็ดก็ล้างแล้วก็ทำเห็ดส้ม  หรือทอด  เพื่อที่จะเก็บไว้กินได้นาน ๆ 
เพราะฉะนั้นฤดูฝน  จึงเป็นฤดูที่มีความสุขมากที่สุดในขณะนั้น  ได้เล่นน้ำฝน  ได้กินน้ำแข็งที่หล่นมาจากฟ้า  (ลูกเห็บ)  ^___^
ส่วนพวกผู้ชายก็จะไปจับกบ, เขียด, อึ่งอ่างในตอนกลางคืน  ฤดูนี้อาหารเพียบ  ต้องทำตากแห้งเก็บไว้กินนาน ๆ 
ส่วนฤดูหนาวจะหนาวสุด ๆ หนาวเข้าไปที่กระดูก  ต้องออกมาก่อไฟผิงกันนอกบ้าน  แต่ก็ดีนะ  ได้พูดคุยกันกับเพื่อนบ้านที่ช่วยกันหาฟืนมาก่อไฟ
แล้วก็ได้กินข้าวหลามกับเผือกเผามันเผาแล้วก็มีข้าวปุก (ข้าวเหนียวนึ่งสุกแล้วตำให้ละเอียดกินกับงาดำตำละเอียดใส่เกลือนิดหน่อยแล้วก็ใส่น้ำอ้อย)  
บางทีก็นำข้าวปุกไปตากแห้งเก็บไว้กินนาน ๆ วิธีกินก็นำไปปิ้งเพื่อให้ข้าวเหนียวนิ่มแล้วก็ร้อน  บางทีก็นำไปทอด  กินกับงาดำตำ,  น้ำตาลทราย  หรือนมข้นก็อร่อย
เด็ก ๆ ก็จะมีหน้าที่อีกแล้ว  ต้องไปเก็บผักหวาน,  ดอกเสี้ยว,  ดอกแก,  จับจั๊กจั่น,  ขุดจิ้งหรีด  สนุกสนานเหมือนกัน  แต่ฤดูฝนสนุกกว่า  
เด็กผู้ชายก็จะมีของกว่างเป็นของเล่น  ฤดูนี้จะได้กินเกาเลียง (เป็นต้นเล็ก ๆ สีเขียวคล้ายต้นไผ่  มีรสหวานเหมือนอ้อย  กรอบอร่อยมาก)  ได้กินข้าวใหม่หอม ๆ  ^___^
ฤดูร้อน ก็จะเป็นช่วงพักผ่อน  แล้วก็เตรียมไร่เตรียมสวนสำหรับเพาะปลูก  สมัยนั้นจะถางหญ้าแล้วก็เผา  แล้วก็ขุดกลับหน้าดินเพื่อตากแดด
พวกผู้ใหญ่ก็จะไปไล่เหล่า  (ไปยิงสัตว์ป่าเป็นกลุ่ม  ไล่ต้อนแล้วก็ยิงด้วยปืนแก๊บที่ทำเอง)  หลายครั้งก็ดักได้นกสวย ๆ มาฝากเด็ก ๆ 
บางครั้งก็จับกระต่ายกับเต่าเป็น ๆ มาให้เด็ก ๆ เลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น  หนูหิ่ง ฯ เปล่ารังแกสัตว์นะคะ  ^___^
เด็ก ๆ ก็มีหน้าที่เหมือนกันค่ะ  ไปหาผลไม้ป่าเช่น ลูกหว้า,  มะม่วงป่า, หมากเม่า (เป็นพวงมีเม็ดเล็ก ๆ รสชาดเปรี้ยว  ตากแดดเก็บไว้กินนาน ๆ ได้)
กระเจี๊ยบ,  มะเดื่อ, มะขามป้อม,  ลูกไข่ปลา - ไข่ปู - ไข่กุ้ง  เสร็จแล้วก็จะเป็นหน้าที่ของแม่และพี่ ๆ ที่จะต้องช่วยกันดอง  หรือตากให้แห้ง  
หนูหิ่ง ฯ จำได้ว่าตอนเด็ก ๆ ทุกฤดูเป็นฤดูที่มีความสุข  ถึงจะได้ทำงานแต่ก็สนุกสนาน  เพราะเห็นเป็นเรื่องเล่น ๆ ไปหมด
เวลาเข้าป่าไปทำงานตามคำสั่งของแม่ก็จะมีวิทยุไปด้วย  พวกเราก็จะร้องรำทำเพลงไปก่อนถึงจุดหมายปลายทาง  จะทำเสียงดังตลอดเส้นทาง
เพื่อที่จะให้สัตว์ได้ยินเสียงแล้วก็หลีกทางไปไกล ๆ จะได้ไม่ต้องเผชิญหน้ากัน  
บางทีก็ต้องวิ่งกันจ้าละหวั่นเพราะเจอคู่อริตลอดกาลของหนูหิ่ง ฯ * งู * นั่นเองค่ะ
เป็นเพราะหนูหิ่ง ฯ เกลียดและกลัวงูที่สุดในโลกหรือเปล่าน้า....  เลยต้องอยู่บนคานมาจนกระทั่งทุกวันนี้  คิก ๆ ๆ ๆ 
จบแค่นี้ก่อนจ้า  
				
หนูหิ่ง ฯ กับหลานสาวคนโตค่ะ  

กลมบ๊อก ^___^

ถนนเพิ่งถึงหมู่บ้านตอนหนูหิ่งอายุได้ 2 - 3 ขวบค่ะ				
comments powered by Disqus
  • กระบี่ใบไม้

    16 กุมภาพันธ์ 2554 18:21 น. - comment id 122131

    แวะมาเยี่ยมโดเรมี(หิ่งฯ)จ้า8.gif กลมบ๊อกเลยนะจ๊ะ 555555555 น่ารักจัง...
    
    แหมชีวิตเมื่อก่อน แม้จะดูลำบากแต่ก็สนุกนะจ๊ะ ชีวิตพี่ใบไม้ก็เป็นอย่างนี้เหมือนกันจ้า..11.gif
    แต่พี่ใบไม้ก็ดีใจนะ เพราะชีวิตแบบนี้เป็นสีสันที่เด็กรุ่นใหม่ก็หาไม่ได้30.gif
    ดีใจนะจ๊ะที่นู๋หิ่งฯเอามาเล่าให้ฟังจ้า....16.gif16.gif
  • เอื้องอังกูร

    11 กุมภาพันธ์ 2554 17:09 น. - comment id 122226

    หวัดดีครับ
      คนที่คิดถึงอดีต..คือคนโรแมนติกต่างหาก
    5555
       ขับรถก้อ..ระวังๆๆบ้างครับ..ลดความเร็วบ้างก้อดี
      ช่วงกำแพงเพชร- นครสวรรค์ทางมันตรง
    ครับ..ก้อระวังหลับในละกัน
      รู้สึกชีพจรลงเท้าจัง  เดินทางอีกแระ
        ให้สดใส..สดชื่นตลอดการเดินทางจ้า16.gif36.gif
  • หนูหิ่ง ฯ

    12 กุมภาพันธ์ 2554 07:59 น. - comment id 122230

    สวัสดีเจ้า
    
    คุณเอื้องอังกูร  :  งั้นหนูหิ่ง ฯ ก็เป็นคนโคตรโรแมนติก  อิ ๆ ๆ ๆ เพราะคิดถึงอดีตบ่อยมาก
    
    หนูหิ่ง ฯ เคยหลับในครั้งเดียวเองค่ะ      7.gif
    
    แถวถนนเชียงใหม่ไปลำพูน  โชคดีไม่มีรถสวน
     
    จริง ๆ แล้วหนูหิ่ง ฯ เดินทางมากะกว่านั้นนะค
    
    เมื่อวานกะเมื่อวานซืน  ไปอยุธยา - อ่างทอง - สิงห์บุรี - ลพบุรี - สระบุรี - ปทุมธานี แล้วก็เข้ากทม
    
    11.gif11.gif11.gif
    
    ตอนแรกกะจะไปนครสวรรค์ด้วย  แต่ขับรถม่ายหวายแล้ว  ค่ำแล้วด้วย  อิ ๆ ๆ ๆ  ที่สำคัญคือ.... น้ำมันจะหมดแล้วด้วยจ้า
    
    
    74.gif74.gif74.gif
  • โอ้ละหนอ

    10 กุมภาพันธ์ 2554 12:20 น. - comment id 122293

    41.gif41.gif41.gif8.gif8.gif8.gif
    อ่านแล้วมีความสุขร่วมไปกับคุณมากกกค่ะ36.gif36.gif36.gif
  • คนไกล

    10 กุมภาพันธ์ 2554 15:13 น. - comment id 122302

    น้องหลิงครับ
    เป็นครั้งแรกที่อ่านเรื่องของเธอแล้วสนุก คิดถึงเรื่องสมัยเด็ก ๆ พี่เองก็คงไม่ต่างจากเธอเท่าไรเลยความจนเป็นโศกนาฏกรรมที่เจ็บปวดที่สุดของมนุษย์ ไม่รู้ใครกล่าวไว้ แต่ถ้าเราเป็นคนรวยเราคงไม่ได้มานั่งเขียนเรื่องนี้หรอกจริงมะ นี่เป็นเพราะเราจน เป็นเพราะความทุกข์ศกเราถึงได้เป็นเพื่อนกันไง ชิมิเคยอ่านนิยายเรื่องลูกอีสานของคำพูน  บุญทวี ที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ มันเป็นแนวสารคดีคล้ายเรื่อง
    น้องหลิงแต่งนี่แหละ แต่มันมีตัวละคร เป็นตัวดำเนินเรื่อง เขาชื่อคูณ เป็นเด็ก เป็นพระเอกของเรื่องขอชมเชยที่น้องหลิงยังจำได้ดีและถ่ายทอดได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ เอาอีกนะคะ 
    อ้ายคนไกลขอเป็นกำลังใจ๋ให้เน้อ................
    อ้ายคนไกล......................
    36.gif36.gif36.gif
    ปล. ข้าวเหนียวที่โขลกกับงาและน้ำอ้อยชาวอีสานเรียกข้าวแดกงา ครับเคยกินมันนานมาแล้วแม่ทำให้กิน เห็ดดองนี่ไม่เคยเห็นจ้า
  • เอื้องอังกูร

    10 กุมภาพันธ์ 2554 15:22 น. - comment id 122303

    หวัดดีคับ
     อ่านจบแล้ว...ชื่นใจมีคนที่มีชีวิตคล้ายกับเรา
    เดะเลย..ตอนเปนละอ่อนน้อย..ก็เป๋นจะอี้คับ
       มันเปนชีวิตที่มีชีวา..มากครับ...
      แม้แทบจะไม่มีอะไรกิน..แต่ก้อเปนวิถีชีวิต
    ที่เรียบง่าย...มีความสุข..
    ชีวิตมราไม่ต้องปรุ่งแต่งอะไร..มีธรรมชาติ
    ปรุงแต่งที่..งดงามมาก..
    .กึดเติงหาอดีตขนาดคับ..
      ชอบหนูหิ่งฯเล่า..เปนเรื่องเปนราว..มีชีวิตดี
        เป๋นจะไดพ่อง...ตอนนี้สบายดีแล้วนะครับ
    ปะก้นแหมใหม่เน้อเจ้า
  • หนูหิ่ง ฯ

    10 กุมภาพันธ์ 2554 23:34 น. - comment id 122335

    สวัสดีเจ้า
    
    คุณโอ้ละหนอ  :  ดีใจที่สามารถทำให้คุณมีความสุขนะคะ
    
    คุณคนไกล  :  ดีใจอีกครั้งที่สามารถทำให้คุณสนุกได้นะคะ
    
         สำหรับหนูหิ่ง ฯ แล้ว....ความจนไม่ใช่โศกนาฏกรรม  แต่ความจนทำให้เกิดโศกนาฏกรรม
    
         ความจนทำให้เข้าใจคน  ทำให้เห็นซึ้งถึงน้ำใจของคน  
    
         ความจนสอนอะไรหลาย ๆ อย่าง.... รวมถึงอย่าดูถูกคนด้วย
    
         โดยปรกติแล้วหนูหิ่ง ฯ จะเขียนตามความรู้สึก  ไม่ว่าจะเป็นร้อยแก้ว.... หรือร้อยกรองก็ตาม
    
         หนูหิ่ง ฯ บอกก็ความลับอีกอย่าง  หนูหิ่ง ฯ เป็นคนจำแม่นนะ  แต่ไม่ค่อยอยากจะจำ  อิ ๆ ๆ ๆ 
    
         ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่ให้สม่ำเสมอ  และหนูหิ่ง ฯ ก็หวังว่าจะเอ็นดูหนูหิ่ง ฯ อย่างเสมอต้นเสมอปลายนะคะ  
    
         ปล. 1  บางบ้านก็เรียกข้าวหนุกงาค่ะ
         ปล. 2  เห็ดดองทำไม่ยากค่ะ  ทำได้ทั้งสดและก็ต้มหรือนึ่งก็ได้  ตำเกลือกับกระเทียมเข้าด้วยกัน  จะใส่ข้าวสวยด้วยก็ได้  ไม่ใส่ก็ได้
                 แล้วก็นำมาคลุกเคล้าด้วยกันแล้วใส่ถุงมัดให้แน่น  อย่าให้ลมเข้า  ประมาณ 3 - 4 วันก็เปรี้ยวกินได้แล้วค่ะ
                 วิธีกินก็.... ใส่ปากเคี้ยว ๆ แล้วก็กลืนนะคะ  หรือจะนำไปผัดน้ำมันก็ได้  ใส่ไข่ก็ได้  หรือจะใส่พริกขี้หนูลงไปด้วยถ้าชอบเผ็ด
    
    
    
    
    คุณเอื้องอังกูร  :  ดีจัง....  มีพยานแล้ว.... กะเดี๋ยวเด็กกรุงจะหาว่าหนูหิ่ง ฯ ยกเมฆ  อิ ๆ ๆ ๆ 
    
         บางคนบอกว่า.... คนที่คิดถึงอดีต.... มักจะเป็นผู้สูงอายุ.... 
    
         ทำให้หนูหิ่ง ฯ รู้สึกแปลก ๆ พิกล.... เพราะหนูหิ่ง ฯ คิดถึงอดีตอยู่เสมอ....
    
         ดีจัง.... ตอนนี้หนูหิ่ง ฯ มีคุณเอื้องอังกูรเป็นผู้สูงอายุด้วยกันแล้ว  คิก ๆ ๆ ๆ 
    
         ตอนนี้หนูหิ่ง ฯ สบายดีค่ะ  ขอบคุณที่เป็นห่วงนะคะ  แต่ก็ต้องคอยเตือนตัวเองเสมอว่าอย่าขับรถเร็ว
    
         หลังจากที่หลากเรื่องราวเกิดกับคนแล้ว  รู้สึกว่าตอนนี้กำลังเกิดกับรถค่ะ  งื้อ ! แย่จัง
    
         เมื่อวันที่ 28 มค.  ขับรถชนสุนัขแถวกำแพงเพชร  กันชนแตก  สุนัขขาเดี้ยงวิ่งตุปัดตุเป๋หนีไป
    
         มาถึงนครสวรรค์ความร้อนขึ้น  ก็เลยต้องเคลมประกัน  ตอนแรกกะว่าจะยังไม่เคลม  เพราะใกล้จะหมดประกันแล้ว
    
         เดี๋ยวเบี้ยประกันขึ้น  แต่ความร้อนขึ้นขับไม่ได้  ก็เลยต้องเคลมทั้งกันชนและหม้อน้ำ  ตอนนี้รออะหลั่ยอยู่ค่ะ
    
         เข้ากทม.แล้วก็ไปจันทบุรี  พี่หล้าขับรถไปสะดุดจอบขุดดิน  ยางรั่ว  เสียตังค์ค่าเปลี่ยนยาง 50 % เคลมประกันได้ครึ่งหนึ่งค่ะ
    
         ตอนนี้ก็ต้องประคบประหงบรถสุดที่รักนิดหนึ่งค่ะ
    
         โอกาสหน้าน้องจะมาหาใหม่.... เจ้าค่ะ
    
    
    11.gif11.gif11.gif
  • Noo Hing

    25 กุมภาพันธ์ 2554 22:17 น. - comment id 122730

    Hi P'Baimai happy to see you again and sorry for my late reply na kha. Air card it's not work  i use china phone can't type in Thai kha ^__^

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน