อินทิรานาคา

บุหรง

531590_202528829876817_2001699500_n.jpg"ใบพรู...ใบพรูรรรรรรรรรรรรร...."  
เสียงเด็กหนุ่มทุ่มกร้าวตะโกนไล่หลังหญิงสาววัยดรุณซึ่งเป็นเจ้าของชื่อ 
"ใบพรู" เหลียวซ้ายแลขวา  เพื่อหาต้นเสียงว่าดังมาจากทิศทางใด  
จังหวะเดียวกับที่เด็กหนุ่มผู้เป็นที่มาของเสียงวิ่งกระหือกระหอบมาหยุดอยู่ตรงหน้า
เขายืนหอบแห๊กๆ  อยู่ตรงหน้าของเธอ...แล้วพูดรวนๆ  ด้วยความเหนื่อย
"เราๆๆ เรียกนายหลายครั้ง ไม่ได้ยินหรอ?"  เด็กหนุ่มเอ่ยทั้งที่หายใจไม่เต็มปอด
"ไม่นี่  เราไม่ได้ยินเสียงนายเรียกเลย"  ใบพรูทำหน้า งง ๆ
"แล้วนี่  นายจะไปไหน? ใบพรู"  เด็กหนุ่มจ้องเขม็งหมายเอาคำตอบ
"เราจะไปบ้านคุณยาย  ไปด้วยกันไหม๊"   ใบพรูเอ่ยชวน เด็กหนุ่มวัยไล่เลี่ยกัน
"ไปสิ  ไปด้วยนะ"  เด็กหนุ่มยิ้มแววตาเป็นประกาย
"ขวัญข้าว"  เป็นเด็กที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในหมู่บ้าน  พ่อของขวัญข้าวเป็นนายอำเภอที่เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน ใบพรูกับขวัญข้าวรู้จักกันที่โรงเรียนเรียนเพราะเป็นเพื่อนร่วมห้อง พ่อของขวัญข้าวเป็นเจ้าของสวนใกล้ๆ  กับบ้านคุณยายละเอียด  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านใบพรูนัก ทำให้เด็กทั้งสองคุ้นเคยกันด้วยวัยที่ไล่เลี่ยกันทำให้คุ้นเคยกันได้ง่าย  อีกทั้งพ่อ-แม่ ก็รู้จักกันเป็นอย่างดี  
เด็กทั้งสองเดินลัดเลาะสวนข้างบ้านมาเรื่อยๆ ไม่ไกลมานักก็ถึงบ้านเรือนไทยที่ปลูกอยู่กลางทิวไม้ร่มรื่น ในบริเวณรอบๆ  บ้านเต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับที่อุดมสมบูรณ์  บอกได้ว่าเจ้าของบ้านคอยดูแลเป็นอย่างดี เพราะมองไปทางไหนก็เห็นออกดอกงามน่าจะออกดอกตลอดทั้งปี และยังดูร่มรื่น  ฉอุ่มเขียวระรานตา  บ้านของคุณยายละเอียดเป็นบ้านเรือนไทยทรงสูง  ที่ปัจจุบันหาดูได้ยากนักคุณยายละเอียดยังคงอนุรักษ์ไว้
คุณยายละเอียดอยู่กับน้าจำรูญ  น้าจำรูญเป็นญาติห่างๆ  แต่รักและคอยดูแลคุณยายละเอียดตั้งแต่คุณยายละเอียดเกษียณมา แม่ของใบพรูก็เป็นหลานห่างๆ  เช่นกัน  เพราะคุณยายละเอียดไม่ได้แต่งงานไม่มีลูกหลาน  และน้าจรูญก็ไม่ได้แต่งงานจึงมาคอยอยู่ดูแลคุณยายละเอียด
ใบพรู  ชอบที่จะมาคลุกอยู่กับคุณยายละเอียดในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์  แม่ของใบพรูก็ไม่ว่ากะไร  กลับเห็นดีซะอีก เพราะคุณยายละเอียดเป็นคนแก่ใจดี  ทั้งเป็นคนเจ้าระเบียบอีกด้วย  คุณยายละเอียดจะอบรมใบพรูเสมอๆ ใบพรูเองก็เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย  ไม่ดื้อรั้น  อ่อนน้อม  น่ารัก  น่าเอ็นดู  และช่างประจบคุณยายละเอียดตามประสา
ใบพรูและขวัญข้าว...
ทั้งสองเดินมาถึงบันไดหน้าบ้านเรือนไทยทรงงามแล้วพากันล้างเท้าก่อนเดินขึ้นบันไดบ้าน  เสียงน้ำทำให้คุณยายละเอียดรู้ว่ามีคนมาและเดาได้ว่าไม่ใช่ใคร  น่าจะเป็นแม่ใบพรูจะเป็นใครไม่ได้
"แม่จำรูญ  แม่จำรูญ...แม่ใบพรูมาแล้ว เตรียมขนมไว้หรือยัง?"  เสียงคุณยายละเอียดถามน้าจำรูญด้วยความดีใจ
"เตรียมแล้วจ๊ะ "  น้าจำรูญยิ้มแต้ เพราะดีใจไม่แพ้กัน
"โน่นๆ กระโดกกระเดกมาเชียวคนดีของแม่จำรูญ" คุณยายละเอียดเอ็ดแกมเอ็นดูให้น้าจำรูญฟัง
น้าจำรูญได้แต่ยิ้มแกมขำในวัยใสของหลานสาว
"แล้วนั่น  มาพร้อมใครล่ะน่ะ"  น้าจำรูญเอ่ยพร้อมกับมองหน้าคุณยายละเอียด
"ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนนะคะคุณยาย"  น้าจำรูญแจง  คุณยายได้แต่เพ่งมองหน้าเด็กหนุ่มที่เดินตามหลังใบพรูมาต้อยๆ
ใบพรูมาถึงนั่งพับเพียบลงแล้วกราบคุณยายที่ตักงดงาม  แล้วหันมาไหว้น้าจำรูญที่นั่งอยู่อีกทาง
"ว่าอย่างไร? แม่ พาใครมาด้วยละนั่น"  คุณยายเอ่ยขอคำตอบ
"ขวัญข้าวค่ะ  คุณยาย"  ใบพรูยิ้มแล้วผายมือไปที่ขวัญข้าว  ขวัญข้าวไหว้คุณยายและน้าจำรูญ
"ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนนี่พ่อ  ลูกเต้าใครรึ"  คุณยายเอ่ยถามพร้อมมองหน้าผู้ถูกแนะนำ
"บ้านผมอยู่สวนถัดไปครับ"  เด็กหนุ่มตอบด้วยเสียงนุ่มสุภาพ
"อือ...ลูกของนายอำเภอที่เพิ่งย้ายมาดอกรึ"  คุณยายละเอียดเอ่ย
"ครับ"  เสียงเด็กหนุ่มตอบนุ่มนวล
"แล้วไปรู้จักมักจี่กันได้อย่างไรเล่าแม่ "คุณยายหันมาถามใบพรู
"ใบพรูกับขวัญข้าวเรียนห้องเดียวกันค่ะ คุณยาย"  หญิงสาววัยดรุณตอบ
"อือ....ดีจะได้มีเพื่อนเทียวเรียน"  คุณยายมองหน้าทั้งสองแล้วนิ่ง
"พรุ่งนี้วันเข้าพรรษาแล้วรึแม่จำรูญ"  คุณยายเอ่ยลอยๆ
"ค่ะคุณยาย "น้าจำรูญรับคำ
"พาเด็กๆ  ไปนั่งเล่นริมน้ำใต้ต้นพิกุลโน้นนะ"คุณยายสำทับน้าจำรูญ
"คุณยายเหนื่อยหรือค่ะวันนี้" ใบพรูมองอย่างอ้อนๆ 
"ยายขอเอนหลังแล้ว  แม่ใบพรูพาขวัญขว้าอยู่คุยกับแม่จำรูญไปนะ"  คุณยายบอกกับใบพรู
"คุณยายพักผ่อนก็ดีค่ะ  จะได้สดชื่น"  ใบพรูยิ้มอ้อนแล้วกราบคุณยายละเอียดพร้อมส่งสัญญาณให้ผู้ติดตามทำเหมือนตน
น้าจำรูญเตรียมขนมและผลไม้  พร้อมน้ำเสาวรสที่เป็นฝีมือคุณยายละเอียดแล้วบอกเด็กๆ ไปนั่งเล่นศาลาริมน้ำ
ใต้ต้นพิกุลรอเดี๋ยวน้าจำรูญต้องพาคุณยายละเอียดไปพักในห้อง เด็กทั้งสองพากันถือถาดขนมผลไม้เดินไปตามคำสั่ง
คุณยายละเอียดวัย ๗๗  นอนผ่อนลมหายใจเบาเบาๆ แล้วค่อยๆ ปิดเปลือกตาด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ
"แม่จำรูญ  ผ่านเจ็ดวันเจ็ดคืนค่อยจุดกำยานนะ"  คุณยายละเอียดบอกน้าจำรูญด้วยเสียงเรียบๆ  เบานุ่ม
"ค่ะคุณยาย" น้าจำรูญรับคำแล้วเดินออกจากห้องไป
เด็กทั้งสองกำลังนั่งเล่นกันตามประสา...
ศาลาริมน้ำที่ลมเย็น  ร่มรื่นด้วยร่มจากต้นพิกุลลมพัดเย็นหอมโชยกลิ่นจำปีอ่อนๆ
บ้านคุณยายละเอียดมีแต่พรรณไม้สีขาวและมีกลิ่นหอม  และเป็นไม้มงคลที่หายากเพราะพรรณไม้ต่างๆ  นี่เองที่ทำให้ร่มรื่นและต้นไม้ในบริเวณก็ดูอุดมสมบูรณ์ยิ่งนัก
"คุยกันถึงไหน?  แล้วจ๊ะเด็กๆ"  น้าจำรูญเอ่ยท้วงเด็กๆ
"คุณยายหลับแล้วหรือค่ะ  คุณน้า"  ใบพรูถามด้วยเป็นห่วงคุณยาย
"จ๊ะ  ให้คุณยายท่านพักผ่อนเถอะเดี๋ยวน้าจะพาทำขนมไว้ใส่บาตรพรุ่งนี้" น้าจำรูญยิ้มสวย
"ดีเลยค่ะ  ใบพรูจะได้เรียนทำขนมไทยกับน้าด้วย"  ใบพรูพูดจบหันไปยิ้มให้ขวัญข้าว
น้าจำรูญเป็นหญิงสาววัย 38  ที่คุณยายเอ็นดูเลี้ยงมาและให้เรียนการเรือนอย่างหญิงไทย เมื่อเรียนสำเร็จก็มาอยู่กับคุณยายเสมอมา   คุณน้าเป็นคนสวย  สวยทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและจิตใจงามอีกด้วย คุณน้าคอยดูแลคุณยายละเอียดและจัดการทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินหรือทุกอย่างเกี่ยวกับคุณยาย น้าจำรูญมักพาคุณยายไปทำบุญอยู่เสมอๆ  นั่นเป็นกิจวัตร  และคุณยายละเอียดเป็นคนชอบทำบุญสุนทาน
"คุณน้าค่ะ  ใบพรูอยากรู้เรื่องคุณยายตอนสาวๆ  คุณน้าเล่าให้ฟังได้ไหมค่ะ" ใบพรูยิ้มอ้อนๆ
"ทำไม? จ๊ะ "น้าจำรูญมองหน้าเด็กสาววัยดรุณ มือก็จีบใบตองห่อขนมไปด้วย
"คุณยายเป็นคนสวยแต่ทำไมไม่แต่งงานมีลูกหลานเหมือนคุณย่าและคุณยายของใบพรูละค่ะ" เด็กสาวทำหน้างงๆ
"อยากรู้จริงรึ  น้าก็ฟังท่านเล่ามาบ้าง" น้าจำรูญยิ้มๆ  
"คุณน้าเล่านะคะ"  ใบพรูออดอ้อน
"น้าก็สงสัยอย่างใบพรูนี่แหละ  คุณยายท่านก็ยอมเล่าให้ฟัง"  น้าจำรูญยิ้ม
คุณยายเล่าครั้งยังสาวว่า...
"คราเมื่ออายุ ๑๖ ย่าง ๑๗  คุณยายก็มีรักครั้งแรกแล้ว เป็นรักที่งดงามแต่ไม่อาจเคียงได้เพราะคุณยายยังเด็กนัก นั่นเป็นรักแรก  ที่คุณยายมีและมีครั้งเดียวไม่เคยรักใครอีกเลย  มีคนมาเกี้ยวคุณยายก็เยอะ  ทุกคนล้วนเป็นคนดีมีฐานะ  เพียบพร้อมด้วยรูปสมบัติ  คุณสมบัติแต่คุณยายก็ไม่เคยรักใคร  จนล่วงเลยมาถึงอายุ ๓๕  ย่าง ๓๖ คุณยายจึงได้ตั้งจิตอธิฐานเอานิพพานเป็นที่ตั้ง  จวบจนถึงปัจจุบันนี้"
ปรากฏร่างหญิงสาวใบหน้างดงาม ผิวพรรณผ่องดุจจันทร์เพ็ญ รูปร่างอรชร 
แต่งอาภรณ์ประดับจินดานั่งพับเพียบนบน้อมอยู่เบื้องล่าง 
"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?" บุรุษหนุ่มรูปงามผู้นั่งอยู่เบื้องบนเอ่ยถาม
"มีความสุขดีพระองค์"  พร้อมกับเงยใบหน้างดงามสบตา
"อีกไม่นานเจ้าก็จะกลับมาหาเรา" บุรุษหนุ่มสบตาแน่นิ่ง
"เหตุใดพระองค์ ไม่ปล่อยให้น้องบวชเสีย" หญิงสาวจ้องมองเมินเฉย
"เจ้ายังบวชไม่ได้  หากเราไม่อนุโมทนา" ผู้เหนือกว่าเอย
"พระองค์จะทรงเหนี่ยวรั้งน้องไว้ทำไม? " เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ
"เจ้ายังบวชไม่ได้  เมื่อใดเด็กใบพรูอายุครบ ๒๐ ปี 
กายหยาบเจ้าก็จักสิ้นอายุไขย และเมื่อนั้นเจ้าจักกลับมาจุติเป็นนาคอีก ๑๐๐ กัปล์" บุรุษหนุ่มหยุดแล้วเอ่ย
"แม้ว่าเจ้าจะหนีเราไป  อย่างไรเสียเจ้าก็ต้องกลับมายังวรรณะเดิมของเจ้าเรารอคอยวันนั้นนานนัก"
"ด้วยเหตุนี้ น้องจึงมิได้ครองคู่เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ใช่หรือไม่" หญิงสาวเอ่ยพ้อ
"ใช่...แม้เจ้ามีใจอ่อนไหวยามใดจะมีแรงผลักออกไป เจ้าจะรักใครมิได้เพราะวิญญาเจ้าปฏิพัทธิ์เรา" บุรุษหนุ่มเอ่ยเน้นต่อไปว่า
"ไม่ว่าอย่างไร  เจ้าต้องกลับมาหาเรา  เมื่อใดเด็กใบพรูอายุครบเบญจเพศ บริวารของเจ้าจะตามกลับมารับใช้เจ้าดังเดิม
และเมื่อครบ ๑๐๐ กัปล์เจ้าจักไปเกิดเป็นมนุษย์เพศบุรุษและได้บวชในพุทธศาสนาจวบเข้าสู่นิพพาน"บุรุษหนุ่มเล่าเรียบเฉย
"แล้วเหตุใดพระองค์  ไม่ให้น้องบวชเมื่อครั้งน้องอายุครบ ๓๕  " หญิงสาวมองสบตาแน่นิ่ง
"ยังไม่ถึงวาระของเจ้า เราจำเป็นต้องขัดขวางในครั้งนั้น" บุรุษหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเรียบ
"น้องจำยอมรับและรอคอยต่อไป อีก ๑๐๐ กัปล์ หรือ?"  เสียงตัดพ้อเหนื่อยอ่อน
กลิ่นกำยานฟุ้ง  โชยมาอ่อนๆ   
"เจ้าต้องกลับไปแล้ว  'อินทิรานาคา' อีกไม่นานเจ้าจะกลับมาหาเรา"  บุรุษหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ
"น้องทูลลา"  หญิงสาวกราบบาทนบน้อม แล้วเลือนหายพร้อมควันของกำยานที่คุ้งกำจร
ห่างจากพื้นน้ำลงไป ๑๖  โยชน์  เป็นเมืองบาดาลมีนาคราชหนุ่มผู้ครองอาณาเขตทิศบูรพาสุดเขตยังทิศปัจฉิม  นามว่า อิศเรนทร์นาคินทร์  ครองนาครมาเนิ่นนานชั่วกัปล์  มีมเหสีชื่อ "อินทิรานาคา" เคียงคู่บารมีมาหลายชั่วกัปล์ แต่นางกลับมีใจใฝ่ธรรมจึงหนีองค์อิศเรนทร์นาคินทร์ไปกำเหนิดยังแดนมนุษย์หวังเจริญภาวนาศึกษาธรรมเป็นที่ตั้ง  องค์อิศเรนทร์ยังคงติดตามคอยดูแลด้วยยังรักมั่นในองค์นิ่มน้องอินทิรา  จึงให้บริวารไปจุติคอยรับใช้  ที่ใดมี 'อินทิรานาคา' ที่แห่งนั้นจะต้องอยู่ใกล้สายน้ำและอุดมสมบูรณ์
"แม่จำรูญ  แม่จำรูญ"  เสียงคุณยายละเอียดเบาแต่ชัด
"อยู่นี่ค่ะ  คุณยาย"  น้าจำรูญเอียงเข้าไปใกล้แล้วประคองให้คุณยายละเอียดลุกขึ้น
"แม่จำรูญ  ใบพรูอายุเท่าใดแล้ว"  คุณยายถามชัดแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ริมหน้าต่าง
"๑๖ ย่าง ๑๗ ได้ค่ะคุณยาย"  น้าจำรูญตอบเน้น
"จำรูญจัดการเรื่องทุกอย่างเรียบร้อยหรือยัง?"  คุณยายละเอียดเอ่ยถามพร้อมมองใบหน้างาม
"เรียบร้อยดีแล้วค่ะคุณยาย"  น้าจำรูญรายงาน
คุณยายละเอียดวัย ๗๗  ยืนนิ่งเงียบ ใบหน้าหม่นเห็นได้ชัด  
ใบหน้าที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นตามสังขารของวัยที่ล่วงมาแล้วแม้ยังดูแข็งแรงดี  แต่สภาพของธาตุ ไม่อาจคงอยู่ได้ย่อมสลายไปตามกาล 
"อีกไม่นาน  เราต้องกลับไปแล้วสินะ"  หญิงชรามองออกไปยังพื้นน้ำกว้างที่ต้องแสงแดดระยิบระยับ				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    6 สิงหาคม 2555 08:09 น. - comment id 130022

    
    
    ใบพลู...หรือใบพรูดีน้อ 
    
    แต่ชอบอ่ะคุณยายละเอียด
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • จวว

    7 สิงหาคม 2555 16:07 น. - comment id 130040

    คุณยายหยาบมาแล้วค่ะ 65.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน