ขอบฟ้าของดวงจันทร์ แสงตะวันของดวงอาทิตย์ ตอนที่ 3

สิดามัน

3
เหตุบังเอิญ
วันนี้ผมรู้สึกไม่คุ้นเคย อาจเพราะด้วยไม่ได้เขียนลงสมุดบันทึกเล่มเดิม มันดูเหมือนผิดที่ผิดทางไปหมด    อาจเกิดจากเมื่อคืนก่อน   เธอที่ผมคิดว่าคุ้นหน้าคุ้นตา เธอคงเป็นดาราหรือนักร้องอะไรนี่ละ ผมว่าเธอดูหม่นหมองเหลือเกินเวลาที่ขาดแสงไฟ แต่สายตาเธอเปล่งประกาย แต่ดูไปนานๆ ก็เกิดความสวยอย่างประหลาด ความสมดุลไม่ว่าจะเป็นคิ้ว ตา ปากจมูก ที่สอดรับกันอย่างมีเสน่ห์ จนผมเผลอจ้องหน้าไปอยู่นาน ผมว่าเธอมีรอยยิ้มที่สดใส   แม้ผมจะไม่ได้เห็นมันก็ตามผมคิดอย่างนั้น เธอดูมีพลังในทุกก้าวที่เธอเดิน  ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอคิดอะไร แต่ที่แน่ ๆ สมุดบันทึกของเธอมันสลับกับของผมแล้ว    ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามสมุดบันทึกของผมและของเธอเหมือนกันอย่างกับแกะ   ผมเองก็ยังงงอยู่เพราะวันนั้นต่างฝ่ายต่างเดินไม่ดู  ด้วยเหตุที่ผมกำลังมองดาวตกอยู่เธอก็วิ่งเข้ามา ชนผม  คงเป็นตอนนั้นที่ทำให้สมุดบันทึกของเราสลับกัน ผมก็พึ่งมารู้เมื่อก่อนเขียนนี่ละว่ามันหายไป  ผมไม่กล้าไปจดบันทึกในสมุดของเธอ เพราะมันอาจมีความหมายมากมายที่ผมอาจทดแทนไม่ได้   สมุดบันทึกของเธอเหมือนกับกล่องแพนโดร่า  ที่ทำให้ผมอยากไปเปิดดูอยากสัมผัสถึงตัวอักษรที่เธอนำมาร้อยเรียง   ด้วยเหตุที่ผมรักการจดบันทึก  ผมกลับอยากรู้  แต่เธอเป็นนักร้องวิธีชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไร สมุดเล่มนี้ อาจจะบันทึกคิวงานการแสดงของเธอก็ได้  อาจจะไม่ได้มีความหมายอะไรมากนักทางด้านจิตใจ แต่คงจะมีความหมายทางด้านธุรกิจเสียมากกว่า   สำหรับเธอ ดูเหมือนค้นหาบางสิ่งอยู่  แววตาที่มีเสน่ห์ หน้าตาที่หม่นหมอง ดูเหมือนหุ่นยนต์ของเธอ มันเหมือนความว่างเปล่า เธอเสน่ห์ของต่าง ๆ ของเธอดึงดูดให้สายตาของผมมองเธอ  สมแล้วที่เธอเป็นนักร้องชื่อดัง  ในชีวิตนี้ผมคงจะได้เจอเธออย่างใกล้ชิดแค่นี้
และแล้วความวุ่นวายก็เกิดกับฉันอีกแล้วหรือนี่  โอ้ย ฉันอยากจะบ้าตาย สมุดบันทึกของฉันดันไปสลับกับตานั้นเวรกรรมของฉันจริง ๆ สงสัยจะเป็นกรรมของฉันเวลาความสุขของฉันจะมีทุกข์ร่วมด้วยเสมอ   ชายคนนั้นที่ดูท่าทางรักธรรมชาติ และดูอบอุ่นเป็นมิตร  บ้าใหญ่แล้ว  ถึงแม้ฉันจะคิดอะไรไปบ้าง แต่ฉันพอได้เปิดอ่านบันทึกที่เขาเขียนไว้  เขาดูช่างเหงาเศร้าไม่ต่างกับฉันเท่าไร  แต่ดูห่างไกลกับฉันไม่น้อย เหมือนยืนอยู่กันคนละมุม แต่อย่างน้อยความชอบบางอย่างของเขาก็ไม่ต่างจากฉัน   จุดยืนของฉันและจุดยืนของเขาต่างกัน  ในความคิดของเขาที่ถ่ายทอดลงเป็นประโยค มันน่าจดจำไปเสียหมด และความเหงาของเขามันเข้าสู่จิตใจของฉันได้อย่างรวดเร็วราวกับว่าเป็นความเหงาของคนคนเดียวกัน   ฉันรู้สึกว่าเขาอ่อนไหว  และมีมุมมองที่รักผู้อื่น   และนี่อาจเป็นความบังเอิญที่สมุดบันทึกของเขาตกอยู่ในมือของฉัน  เพราะมันช่วยให้ฉันยังรับรู้ว่ามีคนเหงาอีกคนเช่นกัน  และไม่รู้ว่าวันนี้เขาจะออกมาดูพระจันทร์อีกหรือเป่า   แม้พระจันทร์คืนนี้เป็นคืนเดือนมีดที่มันก็มีเสน่ห์ในแบบของมัน อาจไม่ดูดีเท่ากับพระจันทร์ยามเต็มดวงแต่ก็มีแรงดึงดูดให้หลาย ๆ คนจ้องมอง อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้แสงดาวดวงเล็ก ทอแสง แข่งกันในความมืด  มิน่าเขาถึงได้หลงใหลพระจันทร์นัก  
ป่าคอนกรีตตอนรับผมอีกครั้งด้วยฝุ่นควันและมลพิษ มันยอดเยี่ยมทีเดียวที่วันนี้ผมต้องเดินทางไปในหลาย ๆ ที่ ซึ่งบางที่ผมเดินเข้าไปในแบบผม  แต่บางที่ผมต้องเขาไปแบบไม่ใช่ผม และวันนี้ผมคงต้องเอาหน้ากากมาหลายใบเพราะว่าต้องไปหลายที่  ธุรกิจเป็นสิ่งที่ผมคิดว่าหาความจริงใจได้น้อย เรามักคุยกันด้วยผลประโยชน์เสียมากกว่า  ความคิดต่าง ๆ ที่ในบางครั้งอันมีมูลค่ามหาศาลสำหรับบุคคลทั่วไป หรือกับโลก และสิ่งมีชีวิตต่างๆ นี้ กลับถูกปัดทิ้งด้วยเหตุที่มันไม่มีกำไรขาดทุน  ไม่คุ้มทุน  เป็นเหตุทำให้นักคิดต่างๆ สมองฝ่อ ท้อแท้ ไร้พลังในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ กำลังใจเท่านั้นที่อาจช่วยให้ก้าวผ่านปัญหาต่าง ๆ  วิกฤตการณ์รอบ ๆตัวเกิดขึ้นทุกวินาที ผมคิดอย่างนั้น  แต่ผมคงไม่นำเอาปัญหามารวมกัน เพราะบางปัญหามีความสำคัญแตกต่างกัน เวลาจะเป็นตัวแปรที่ทำให้เลือกที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้น อันไหนด่วน อันไหนช้า  ทำให้ผมสบาย กับการทำงานถึงแม้จะไม่ค่อยชอบการทำงานแบบนี้  แต่มันเป็นงานที่ผมรัก  ผมฝันไว้ว่าผมจะทำมันให้ดีที่สุด
จุดมุ่งหมายของผมอาจไม่ใหญ่เหมือนใคร ๆ  แต่อย่างไรผมก็มีจุดหมายแม้หนทางที่จะไปสู่จุดหมายของผมอาจจะก้าวไปยากนัก  แต่ถ้าผมค่อยๆ  ก้าวซักวันก็คงไปถึง  แม้จะช้าบ้างหรือว่ามีขั้นบันไดที่สูงเกินไปบ้าง  ทำให้ต้องหาทางปีนป่าย หรือเอาอุปกรณ์มาปีนให้ผ่านไป อาจจะเหนื่อย อาจจะลำบาก อาจจะต้องได้ความช่วยเหลือจากคนอื่นบ้าง แต่นั้นคงเป็นความสุขอย่างหนึ่งที่ให้ชีวิตคน ๆ หนึ่งมีความสุข ได้รู้จักคำว่าทุก คำว่า สุข ปนกันไป
  สิ่งใดที่ได้มาอย่างยากลำบากอาจทำให้เราประทับไม่รู้ลืม
	ความรักก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ฉันคิดว่ามันอยู่ห่างไกลฉันเหลือเกิน  จุดหมายของฉันก็คือมีคนที่ฉันรักซักคนคอยห่วงใยดูแลฉัน  ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่เพ้อฝันแต่มันไม่ง่ายเลย  ฉันเคยมีความรักมาแล้ว  แต่มันความผิดหวังและรอยด่างในชีวิตฉัน ที่ฉันรัก คบกับฉันเพื่อหาผลประโยชน์ ไม่ต่างอะไรจากปลิง หรือทากที่คอยดูดเลือดไปเพื่อความสุขของตัวเอง  ถึงอย่างนั้น บ่อย  ๆ ครั้งฉันก็ไม่อาจจะลืมเขาได้  มันยังฝังอยู่ในช่องแห่งความทรงจำภายในช่องว่างของสมองอยู่เสมอ  แล้วทุก ๆ ครั้งที่ได้ยินเสียงเพลงหรือภาพสถานที่มันจะคอยกระทุ้งช่องว่างนั้นให้ปริออกมาพร้อมกับเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่ทำให้ฉันน้ำตาไหลขึ้นมาทุก ๆ ครั้งที่คิด  ฉันอาจจะผิดเองที่รักมากจนไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง ใครเตือนอย่างไรก็ฟัง  แต่มันก็ช่วยฉันทำให้ฉันโตขึ้นเข้มแข็งรู้จักเด็ดเดี่ยวและยืนด้วยตัวของฉันเอง  ถึงแม้เป้าหมายของฉัน จะเป็นความรักที่ฉันโหยหา   แต่ฉันรู้ว่า ความรักมีปัจจัยและองค์ประกอบหลากหลาย  การที่สร้างความรักนั้นมันไม่ง่ายนัก  ความรักของฉันคงคล้ายกับการกลั่นน้ำ   น้ำก็เปรียบเหมือนความจริงใจ ความเข้าใจ  ความคิด การให้อภัย ความชอบที่คล้ายกัน  ผ่านการต้มให้เดือด ซึ่งมันต้องใช้ความอดทน  ระยะเวลา จนกระทั่งน้ำเดือดเป็นไอ และเวลาจะทำให้มันกลั่นตัวเป็นหยดน้ำรวมกันลงมาเติมให้เต็ม ซึ่งการเปรียบเทียบของฉันอาจฝังดูไม่เข้าท่านัก   แต่ฉันคิดว่ามันเป็นรักในรูปแบบของฉัน  ซึ่งแต่ละคนคงจะมีความรักในแบบของตัวเองอยู่แล้ว   พรุ่งนี้แล้วซินะที่ฉันจะพบเขาและก็สมุดบันทึกของฉันจะกลับมาหาฉันเสียที  ฉันนัดเขาไว้ที่ร้านกาแฟแถวที่ทำงาน จะว่าไปที่งานเขากับฉันไม่ห่างกันมาก แต่ว่าฉันจำหน้าเขาไม่ได้นี่สิ แย่เลย อืมเกือบลืมไป เขาก็มีเบอร์โทรศัพท์เรา และเราก็มีเบอร์โทรศัพท์เขานี่  อีกไม่นานเพื่อนคู่ใจของฉันจะกลับมาแล้ว เพราะฉันก็เบื่อเต็มทนแล้วที่จะต้องมานั่งเขียนใส่กระดาษเปล่า ที่ไม่คุ้นเคย  แปลกใจจัง ไม่ว่าคนหรือสิ่งของเรามักจะมองไม่เห็นคุณค่าและคิดถึงมันเลย เวลามันอยู่กับเรา  แต่เมื่อเสียมันไป หรือว่ามันพังไป ทำไมเราถึงได้คิดถึงแล้วมองเห็นคุณค่ามันหนัก   แล้วทำไมเราไม่รู้จักดูแลและเห็นคุณค่าก่อนมันแตกสลายหรือหายไปละ   
	เป็นครั้งแรกที่ผมตัดสินใจหาโทรหาเธอเพื่อจะนัดเธอเพื่อคืนสมุดบันทึก  เสียงของเธอดูสดใสต่างกับในบันทึกอย่างลิบลับ  น้ำเสียงเธอทำให้ผมเห็นหน้าเธอทันทีว่าเธอพูดอย่างมีรอยยิ้ม  และสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือที่ทำงานของเธอกับที่ทำงานของผมไม่ห่างกันนัก  ผมเลยนัดเธอมาเจอกันที่ร้านกาแฟ ซึ่งไม่ห่างจากที่ทำงานทั้งผมและเธอ ร้านกาแฟแห่งนี้ เป็นร้านที่มีสร้างความประทับใจให้ผมทุกๆ ครั้ง   ด้วยบรรยากาศที่ให้ความอบอุ่น กลิ่นกาแฟอ่อน ๆ ลอยเรื่อยๆ พร้อมเสียงเพลงในยุค 60 ที่กล่อมให้กาแฟออกรสอย่างเต็มอรรถรส  โซฟานิ่ม ๆ อยู่ริมกระจกที่มีน้ำไหลตลอดมองออกไปเห็นใบไม้สีเขียวอยู่เบื้อหน้า ด้านหลังเป็นภาพบรรยากาศการจราจรที่ขับขังที่ไม่ชัดนักเพราะถูกบดบังด้วยม่านน้ำที่พลิ้วไหว ช่วยให้ผมรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้ง   แม้วันนี้ผมจะรู้สึกตื่นเต้นที่ผมจะต้องไปเจอ ดาราศิลปินที่ผมคาดไม่ถึง  แต่นั้นละจะทำอย่างไรได้  ผมไม่แน่ใจว่าผมจะทำให้เธอถูกใจหรือเปล่า  ตามหน้าหนังสือพิมพ์ เธอดูเหมือนหงุดหงิดเจ้าอารมณ์ ขี้โมโหอยู่เสมอ  แต่ผมกลับไม่คิดอย่างนั้น  น้ำเสียงเธอที่คุยกับผมคล้ายกับเด็กที่เต็มไปด้วยความสดใส แต่ดูท่าทางลึก ๆ แล้วเธออาจมีปัญหาบางอย่าง ผมเดาว่าอย่างนั้น   แล้วทำไมวันนี้ผมต้องตื่นเต้น จนจิตใจไม่อยู่กับตัว  พรุ่งนี้แล้วซินะที่ผมต้องไปเจอเธอ  ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี ผมอาจจะพูดไม่เก่งนัก  แต่เธออาจแค่แวะมาเอาสมุดบันทึกแค่นั้น   เป็นว่าผมคิดมากไป  จงเตรียมตัวสู่วันพรุ่งนี้ 
	ความเข็มแข็งจากภายใน จะส่งให้จิตใจเข็มแข็งด้วย				
comments powered by Disqus
  • Completely

    19 มีนาคม 2547 12:40 น. - comment id 71903

    ถ้าคุณดูเวลาที่เราโพสก็คงจะรู้เลยว่า เราเป็นคนอ่านเร็วมาก และพอดีเพิ่งจะเห็นเรื่องของคุณทีเดียว 3 ตอนรวดในเช้าวันนี้ ... คุณเขียนหนังสือได้ดีทีเดียวค่ะ เลือกใช้คำได้ดี ... แยกออกชัดเจนของคาแรกเตอร์และบทบาท จนถึงลักษณะของคนสองคนนี้
    
    ฉันจะรออ่านตอนที่ 4 ของคุณค่ะ ... ถ้าว่าง ยังไงก็แวะไปอ่าน * ความปวดร้าวแห่งเกลียวคลื่น* บ้างนะคะ อยู่ที่ตอนที่ 3 เหมือนกันค่ะ
    
    จาก มิตรรักการอ่านเรื่องราวของคุณ
    ... Completely ...
  • สิดามัน

    19 มีนาคม 2547 13:54 น. - comment id 71911

    ขอบคุณที่ตามอ่านนะครับคุณ Completely ตอนที่สี่กำลังเขียนอยู่ ผมจะตามไปเยี่ยมชมคุณนะครับ  แต่ตอนนี้ต้องทำงานก่อนนะครับ
  • Completely

    20 มีนาคม 2547 00:28 น. - comment id 71939

    สู้ๆนะคะ คุณ สิดามัน จะรออ่านค่ะ ... ยังไงก็อย่าหักโหมนะคะ พักผ่อนให้เยอะๆนะ
  • สิดามัน

    20 มีนาคม 2547 01:24 น. - comment id 71943

    ดูเหมือน จะมีแต่คุณค่อยอ่านนะครับ completely จริงบทที่ 4 เสร็จแล้วละครับ
    แต่ว่ายังไม่ได้โพส
  • กัลปพฤกษ์

    20 มีนาคม 2547 11:50 น. - comment id 71959

    ชักจะเริ่มเข้มข้นแล้วสิ
    เรื่องราวถ้ามีพระเอกนางเอกผมชอบครับ
    
  • Completely

    20 มีนาคม 2547 22:07 น. - comment id 71976

    ตอนที่ 4 เสร็จแล้วเหมือนกันค่ะ ...
    
    ไม่ได้มีแต่ฉันที่คอยอ่านนะคะ ... คุณ กัลปพฤกษ์ คนอ่านผู้น่ารักของฉันก็อ่านงานของคุณเช่นกัน
    
    ดูเหมือนว่า คุณ กัลปพฤกษ์ จะชอบเรื่องที่จบแบบ Happy Ending นะคะ ... ^__^

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน