๑๑).@..._,.-:ค่าชีวิต *``*:-.,@-

tiki

ชีวิต.....แต่ละวัน.........ที่เลื่อนไหล
ค่าที่มี........อยู่ตรงไหน..........ใครแลเห็น
เพียงดื่มกิน........เวลา............มาเช้าเย็น
   นิ่งสงบ........บำเพ็ญ.............ถ้าทำดี
...@..._,.-:*``*:-.,_. ใน,.-:*``*:-.,,.-:*``*:-นาม .,_,.-:ของ*``*:-.,_,.*``*:-.,
ความ_,.-:*``*:-_,.-:*``*:-.,รัก .,_,.-:*``.`*:-...แม่ไทย*``*:-.,_,.-:*``*:-.,@-     
    
 บันทึกเช้านี้    พระพฤหัส ๒๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗.....เวลาเริ่ม
บันทึก ๗:๕๓ นาฬิกา
       เมื่อ วานนี้.....มีหลายอย่างที่ทำต่อเนื่องกันไป  หลายเรื่อง  แต่ที่
ต้อง
จัดการเร่งด่วนในตอนกลางวันเมื่อวานก็ได้ทำเรียบร้อยไป..
         พี่ชายโทรศัพท์มาจากธนาคารสำนักงานใหญ่ย่านจตุจักร..
    คุณไปรับสายแล้วมาบอกว่า.* คุณยายแม่ น้าๆ เสียนะ สวดที่วัดไป
ไหม.?*
          ฉันไม่ตอบอะไร เพราะสิ่งที่จะทำยามเย็นเมื่อวานหลายเรื่อง  
ข้าวของที่ขนมาจากบ้านคุณแม่เต็มอยู่ในเบาะหลังและท้ายรถ...
           คุณเดินไปเดินมา จัดเสื้อผ้าลงกระเป๋า ถามหาโน่นนี่.....ฉัน
ออกไปดูให้สองสามหน อย่างไม่ค่อยเดือดร้อน นึกดีใจที่คุณจะเดิน
ทางห่างๆไปเสียบ้าง
          ออกไปดูโต๊ะอาหาร ให้เรียบร้อยตอนสี่โมงกว่า แล้วกลับเข้า
มาที่หน้าจอคอมพ์       ซึ่งนายโมฮ็อค(ของน้องเรน)  เค้ากำลังคร่ำ
เคร่ง เปิดโปรแกรมโซนิคพร้อม เลือกเพลง Incubus จากเว็บไซท์ 
Incubus มาเปิดให้ฟัง
       แล้วเขาก็พรรณนาว่า ปีสี่ที่จะเรียนต่อไปปีนี้ เป็นปีที่เขาจะยุ่งกับ
การทำกิจกรรมเขียนแบบสถาปัตยกรรมภายในของเขาส่งอาจารย์
เป็นอันมากแน่ๆ เขาจะจัดห้องนะ จะย้ายพระ ฯ ล ฯ  
        ไม่มีคำโต้แย้ง จากฉัน เหมือนแต่ก่อน..
         ชีวิตได้สอนให้รู้จัก เปิดทิศทางให้เด็กรุ่นใหม่ ที่จะฉายแววเป็น
ผู้ใหญ่ต่อไปภายภาคหน้าได้แสดงความสามารถเขาบ้าง
           แล้วเขาก็บอกกิจกรรมว่า พักนี้ จะต้องไป ฝึกมือให้น้องเพื่อน
ที่หอ เพื่อจะสอบเข้า คณะศิลปกรรมของเขา แล้วก็ บรรยาย ต่อเนื่อง 
ให้เห็นว่า กิจการซ้อมดนตรี ร้องเพลงของเขา ก็ยังเป็นกิจกรรมหลัก
สำคัญอีกเช่นเก่า  แล้วก็เสริมต่อว่า  วันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ ต้องไปถ่าย
หนังโฆษณา ที่ตนเองได้รับการคัดเลือกไปเป็นตัวประกอบนะ และจะ
ได้เงินค่าถ่ายหนังด้วย  
            ฉันยิ้มเรื่อยๆ ให้โอกาสเขาเป็นพระเอกบ้าง     ด้วยปกติ ส่วน
ใหญ่บ้านนี้จะ โอ๋นางเอก อีกคนนั่นอยู่เสมอ   ว่าที่ พระเอกนี้ จะงอน
บ่อยๆว่า ไม่ค่อยได้รับความสนใจซะบ้างเลย
             ฟังราคาค่าถ่ายหนังของเขา ช่างน้อยนิด แต่นึกถึงตัวเองสมัย
ไปฝึกงานที่ร้าน Mini-Meni  -ของ ท่านอาจารย์ ทรงคุณ อัตถากร ที่
สยามสแควร์ สมัยเป็นนิสิต ก็เห็นใจเขามั่งจังเลย เพราะตอนนั้น  เงิน
ค่าฝึกงานน้อยมาก แต่อยากฝึกมาก และได้เงินมา ก็ได้ลงไปเที่ยว
 มาเลย์เซียกับคณะฯ  ยังจำได้ ว่าภูมิใจมากที่ได้เงินจากน้ำพักน้ำแรง
ตัวเองในตอนปิดเทอม
         เมื่อคืนวานก็เขียนงานเรื่อ ง  ค่าของเงินออกมาด้วย  ระบุไปอยู่
แล้วค่าเขียนเรื่องส่งนิตยสาร รายได้สมัยเรียน ทำให้มีเงินมาซื้ออะไร
ที่อยากได้ตามสบาย ไม่ต้องไปขอคุณพ่อคุณแม่......				
สักพักคุณก็โผล่มาบอกว่า
         ..**ขับรถไปส่งดอนเมืองให้หน่อยสิ**
         ได้ได้  ฉันตอบเรียบๆ.. แล้วก็หิ้วของหลายอย่างของตัวเองลง
ไปที่รถเปิดดูข้าวของบางอย่างที่จะไปให้หลายคน แล้วก็เคลื่อนรถมา
จอดหน้าตึก

          คุณเดินลงมา  เปลี่ยนนิสัยไปมาก...เคยขึ้นมาขับไปเอง เดี่ยวนี้
กลับให้ฉันขับให้..เราก็ไม่ค่อยได้คุยกันมากเหมือนเดิม ถามแต่เพียง
ว่า วันนี้เครื่องบินจะออกกี่โมง  เห็นรถติดนักก็ขับขึ้น โทลล์เวย์ซึ่งมี
ชื่อไทยว่า * ถนนอุตราภิมุข*
         ระหว่างทาง   ก็คุยเรื่อง รถราอะไรไปตามเรื่อง  ก็ไม่วายที่ฉันจะ
เปิดวิทยุฟัง ดาด้า  กับ บอย เค้าจัดรายการเย็น ที่ 95.5 fm เสียหน่อย 
คุณทำท่ารำคาญเสียงเด็กไทยวู้วี้ นิดหนึ่ง  คุณจะไม่ชอบฟังวิทยุไทย
เลย ฟังแต่ วิทยุพากย์ฝรั่งจนชิน

           ฉันส่งคุณที่ทางขาออกดอนเมือง เอียงแก้มให้คุณหอมแบบ
เอาใจหน่อยแล้วก็ดีใจ๊ ดีใจ (ที่จะได้มีอิสระส่วนตัวไม่ต้องคอยห่วง
กังวลเรื่องคุณ)  
          ขับวนไปทางตรงข้ามดอนเมือง  ทะลุไปออกเมืองทองธานี 
ว่าจะไปเยี่ยมคุณแม่ ด้านนั้น แล้วกลับเปลี่ยนใจ ขึ้นทางด่วนไปลง
 พระรามสี่เสียแทน ด้วยไม่ได้ไปดูร้านค้าที่นั่น มาสองสามวันแล้ว

           เดินไปมา คุยกับพวก กลุ่มเจ้าของร้านเด็กๆพวกสถาปัตย์ 
ศิลปกรรม จุฬามั่ง ศิลปากรมั่ง แถว ๆ ซอยสอง ซอย สาม แล้วก็เข้า
ร้าน   น้องที่ดูร้านบอก พี่มาทำไม ไม่ต้องมาก็ได้ ไม่ขายอะไรหรอก
       อืมม์ พี่อยากมานั่งกินบรรยากาศ แบบเซอร์ๆไทยๆโบราณในร้าน
พี่มั่งน่ะ      อย่างน้อยก็ไว้อาลัย ไม่รู้จะได้มีร้านอยู่เป็นขวัญใจไปอีก
นานแค่ไหน
       เพราะเมื่องานที่ ภูเก็ต เริ่มแล้วนี่ ก็คงต้อง แว้บไปมาดูบ้าง  บาง
ครั้งแม้นว่าจะเป็นงานของบริษัทเพื่อน ก็ตาม ก็ก๊วนเดียวกันอยู่ดี ...

       จุดธูปไหว้พระ จัดหน้าร้านสบายใจ สำรวจ เตาAroma Therapy
ว่ายังมีอีกเท่าไหร่  จัดตู้เครื่องประดับแก้วแหวนเงินทอง ลูกปัด  หิน
ลูกแก้ว พลอยทั้งหลาย   ต้มน้ำ ชงมาม่า ชงกาแฟ เงียบๆ สบายใจ 
        น้องโผล่มาถามอะไรแล้วก็หลบไปนอนห้องข้างๆ น้องแดง เค้า
จะ นอนทุกที ถ้าเห็นฉันมา เพราะ ร้านเขา สี่ร้าน ทำให้เขาห่วงกังวล 
 แต่ถ้ามีฉันมานั่งในร้าน นี้ เขาก็จะหลบไปนอนในเตียงไม้ในร้านเขา
 ปล่อยเราดูสินค้าใหม่ๆเขาไปเรื่อย

         ฟังวิทยุในร้าน  โทรศัพท์คุยกับคนโน้นคนนี้บ้าง แล้วแต่ ดู
เหมือนมีเพื่อนใหม่ในเว็บ สองสามคนที่คุย โทรศัพท์กัน
         แล้วก็ นั่งคิดเขียนอะไรไปเรื่อยๆ  ส่วนใหญ่ก็เรื่องว่าด้วยปัญหา
ในชีวิตครอบครัวไทย  ระหว่างยุคเก่ายุคใหม่ จะผสานกันแบบไหน
 อาศัยงานวิจัยวิเคราะห์ของท่านอาจารย์มหาวิทยาลัยบางมหาวิทยาลัย 
ก็ดูได้ว่า ควรจะเสริมแรงไปด้านไหน ให้สังคมไทยเราสามารถก้าวไป
อย่างหนักแน่น สามัคคี ไม่มีช่องว่างระหว่างยุคสมัย

        เขียนกลอนไว้ได้อีกสามสี่เรื่อง ในสมุด
       ห้าทุ่มกว่าแล้วนะ เวลาช่างเร็วเหลือเกิน...เก็บทุกอย่างลงกระเป๋า
 ลงที่ทางเหมือนเดิม คุณโทรฯมาว่า มาถึงแต่ ทุ่มกว่า หารถได้แล้ว 
เข้ประชุมที่โรงแรมกับทีมงานเขาแล้ว กำลังจะออกไปที่รีสอร์ตที่จะ
ไปพัก 
         ฉันก็รับทราบ แล้วก็ ไปขับรถมาหน้าร้าน มาขนหนังสือหนักๆ
ออกจากร้านมา				
แวะดูอพาร์ตเม้นท์คุณหนู ลูกสาวหน่อย ขนเตาไมโครเวฟ ของ
เราที่เคยอยู่ในบ้านคุณแม่ พร้อม วิทยุ เครื่องเล็กๆขึ้นไปให้เธอ ดูเธอ
 นอนอ่านหนังสือสบายใจตามที่เธอต้องการในชีวิต แล้ว ก็จากลากัน
เพื่อจะมาดูแล ชีวิตของฉัน ห้องของฉันบ้าง

      แต่ก็แวะไปที่ร้านเน็ตใหญ่ริมถนน  จอดรถไว้ปากซอยฝั่งตรงข้าม 
เข้าไปสั่งพิมพ์งานกลอน จากหน้าเว็บไทยโพเอ็มดอทคอม หน้าละ 6 
บาท สั่งไปสั่งมา ค่าพิมพ์เข้าไปตั้ง 324 บาท อะไรกันนักกันหนา แต่ก็
คุ้ม เพราะพิมพ์เลเซอร็ได้คมสวยน่ารักน่าอ่านดี  เด็กๆ ลูกเจ้าของร้าน 
ปกติ ปิดตีหนึ่ง ไล่แขกกลับ แต่กับฉัน เธอบอกไม่เป็นไร เพราะไป
บ่อย     เสร็จงาน ตีหนึ่งครึ่ง บ๊ายบายลา ข้ามฝั่งมา ขับรถเข้าที่พัก

 หอบของกะรุงกะรังขึ้นไป  วันนี้ คุณไม่มีไม่มีคุณมาช่วยขนของนะคะ

         เข้ามาในห้องหน้า   เจ้าสุนัขของคุณสองตัว ไอ้ตัวใหญ่คับบ้าน
 ลาบราดอร์สีน้ำตาล ทำหูตูบ ตาตก  คงเฝ้าคอยคุณเหมือนเดิมละซี  
เจ้าตัวเล็ก เจ้าปั๊ก ตัวสีน้ำตาลเบจ น้ำตาลอ่อน หน้ามอมก็วิ่งจู๊ดหนีไป
หลบใต้โต๊ะทำงานคุณ

      ฉันวางของทุกอย่างไว้บนโต๊ะ เข้าไปดูโต๊ะอาหาร เรียบร้อยดี เก็บ
ล้างจานถ้วยนิดหน่อย ไม่มากเหมือนทุกวัน ชงกาแฟรอบดึก ตีหนึ่งครึ่ง
 ลูกสาวฝากทองม้วนที่เธอไปซื้อมาจากกาญจนบุรีเมื่อวันเสาร์มาให้
ถุงใหญ่ 

        นายหัวโมฮ็อค ยังคงยุ่งกับ Incubus  กับเกมยิงตัวประหลาดอะไร
ของเขาเหมือนเดิม  ฉันก็อาบน้ำ แล้วนั่งจัดเรียงหน้ากระดาษงาน ที่
พริ้นท์ มา ความสุข ความภูมิใจลมๆแล้งๆของฉันน่ะ ที่เด็กๆเค้าชอบว่า
 **จะเขียนให้มันได้อะไรขึ้นมากันนะเนี่ย..?*

    นานๆที  นายหัวเธอก็โผล่มา ทำบะหมี่ไข่ มั่ง หยิบขนมกินมั่ง ดื่มนม
อะไรของเธอวุ่นวาย  พอฉันไม่สนใจเลย เธอก็ว่า **จะเล่นคอมไหม ?*
           *จ้ะ* ฉันบอกเธอ แล้วก็หอบงานทั้งหมดมาหน้าคอมพ์เธอ 

       จากนั้น ประดาเรื่องราวกลอนอะไรสารพัดที่ตอบไปตอบมา ก็หล่น
พราวมาอยู่ในหน้าเน็ต เป็นเรื่องที่.....โอ๋ย โยว่ โหยว  337 เหรอ   โอ๊ย 
เหลือเชื่อว่าฉันเขียนกลอนใน thaipoem.com มาสามร้อยกว่าเรื่อง 
โหย ไม่น่าเป็นไปได้เล้ย  อะไรจะขนาดนั้น  ก็ปกติแต่ก่อนน่ะ กว่าจะ
เขียนได้เรื่องหนึ่งก็ยากเย็นเข็ญใจ

          ขอบคุณ http://www.thaipoem.com นี้จริงจริง
            ครูแรงจริง ส่งให้ฉันผลิตงานอะไรมาตั้งมากมายขนาดนี้ได้ไง 
ไม่น่าเชื่อสายตา  ก็ฉันมันนักกลอนซะที่ไหนล่ะ เหอ เหอ เหอ เหอ
          ขำดี
         แล้วจะเขียนให้ทราบทีหลังว่าเป็นนักอะไรกันมั่งอีก นอกจากนัก
เล่นเกมคอมพิวเตอร์  นักเขียนโฆษณาในอดีต  นักเขียนเรื่องสั้นใน
อดีต  นักท่องเที่ยวมัง....นักอะไรอีกล่ะ...นักเรียน ใช่สิ ชอบเป็น
นักเรียนมาก..				
วันนี้ฉันเขียนกลอนเรื่อง   @..._,.-.@..ค่าแห่งมิตร..แม้นนิดน้อย..@..  ใหม่ล่าสุด คืออันดับที่ 337 นะ

แต่กลอนที่ฉันยกมาคือ อันดับที่ 336 คือ@..._,.-:ค่าชีวิต *``*:-,@- tiki 
 เขียนลงไว้เมื่อบ่ายเมื่อวาน....

           มองผลดี........นั้นที่   ใจ........ใสสงบ
ใจวิจัย........ใจประสบ........พบดีสู่
   ประคองตน........บนทางดี........ด้วยมีครู
คอยค้ำชู........ชี้ทาง........ระหว่างใจ

           จึงชีวิต........แต่ละวัน........อันผ่านมา
จะมีค่า........    ดั่งธารา........อันเย็นไหล
ธรรมที่จาร........พานประสบ........พบข้างใน
   งามหน้าตา........วาจาใส........กริยาเย็น

           คือ   *หน้าที่........อยู่ที่หน้า**........ของทุกวัน
ธรรมบากบั่น........ผลอดทน........คนแลเห็น
บน   *หน้าที่*........สัตยะ........มานะเป็น
   ใจบำเพ็ญ........สงบนิ่ง........ดิ่งศิลา

นะ ฉันชอบกลอน ของฉันทุกเรื่องเลย ชอบเสียจริงมันช่างมีสีสันมีวิญญาน
แปลกๆในเรื่องที่บรรยายไม่ถูกเลย
            สงสัยฉันจะเป็นนักกลอนซะแล้วมัง อิอิ

ทิกิ_tiki
เวลาจบบันทึก ๙; ๐๐ นาฬิกาค่ะ

ขอใช้สิทธิ สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติ
Copy rights .  All rights  reserved				
comments powered by Disqus
  • tiki

    25 มีนาคม 2547 10:13 น. - comment id 72090

    ข้อคิดจาก สมศรีน็อนสต๊อปมาแถมที่นี่บ้างเช้าวันนี้
    ข้อคิดวันนี้ ::: 
     
    \"แต่ละคนในทีมงานเหมือนจิ๊กซอว์หนึ่งตัว ที่ไม่มีใครอาจทดแทนกันได้ 
    ต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีตำแหน่งหน้าที่ที่เจาะจง 
    มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกันและกัน\"..
     
     
     ขอให้มีความสุขกับการทำงานในวันนี้นะค่ะ^o^
     
    
  • น้ำตาซาตาน

    25 มีนาคม 2547 14:01 น. - comment id 72092

    ปกติ ..ก็เขี่ยนไดอารี่ 
    แต่เป็นไดอารี่ขี้อาย จึงน้อยคนนักจะได้รู้จักกับมัน ..
    
    
    แต่แท้จริงแล้ว
    ในไดอารี่ มันมีอะไร ที่ไม่สามารถบอกใครมากกว่า
    
    ไดอารี่น่าสนุกดี 
    คล้าย ๆ ของเรา .. ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า
    เวลามีไรดีๆ เราไม่ชอบบันทึก 
    แต่เวลามีไรไม่ดี ชอบเล่าให้ไดอารี่ฟัง
    
    จึงเป็นที่มา ..ไดอารี่ขี้บ่น
  • tiki

    25 มีนาคม 2547 17:41 น. - comment id 72099

    ใช่นะคะ บางทีขึ้นอะไรดีๆว่าจะเขียนเหมือนเรื่องสั้น ก็กลายเป็นอย่างนี้ไปได้ค่ะ แบบว่าขี้บ่นจริงๆนะคะ
  • กัลปพฤกษ์

    25 มีนาคม 2547 19:30 น. - comment id 72104

    นอกจากความสามารถในการเขียนกลอน
    การเขียนพรรณาก็เยี่ยมเหมือนกันครับ
    
    อะไรครับมาจับมือเขียน จะเขียนได้มากมายทุกวันขนาดนี้
    
  • tiki

    25 มีนาคม 2547 20:08 น. - comment id 72108

    นอกจากความสามารถในการเขียนกลอน
    การเขียนพรรณาก็เยี่ยมเหมือนกันครับ
    
    อะไรครับมาจับมือเขียน จะเขียนได้มากมายทุกวันขนาดนี้
     
     จาก : กัลปพฤกษ์  
     รหัส - วัน เวลา : 6775 - 25 มี.ค. 47 - 19:30 
    
    โอ คุณกัลปพฤกษ์ สมชื่อนะคะ
    มาให้กำลังใจถ้อยคำงามๆๆๆๆทุกวัน
    ขอบพระคุณมากนะคะ
    สงสัยเพราะแรงดลใจจากดาวกัลปพฤกษ์น่ะค่ะ
    อิอิ
    
    
  tiki

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน