ซึ้งจับใจ

คุซาโนะคุง

ผม บอมและกบ ซึ่งเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมาตั้งแต่ ม.ต้นได้มาอยู่ห้องเดียวกันในชั้น ม.4 คงเป็น    เหตุการณ์นั้นที่ทำให้พวกเราได้รู้จักกับนุ่น นี่เธอๆ ยืมของเราก็ได้นะ บอมพูดพร้อมกับยื่นดินสอ 2b ให้ 1 แท่ง เธอก็รับไปพร้อมด้วยรอยยิ้มและเหล็กดัดฟันกลับมา รอยยิ้มที่เราได้เห็นทำให้พวกผมนึกไปถึงรอยยิ้มของน้องสาวตัวเล็กๆน่ารักคนหนึ่ง หลังจากหมดชั่งโมงศิลปะ พวกผมอาสาพาเธอไปกินข้าวที่โรงอาหาร และตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มพวกผม พร้อมกับความแปลกใจของหลายๆคนที่เห็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งนั่งอยู่ในกลุ่มของเด็กผู้ชายที่กำลังคุยกันเสียงดังด้วยคำสบถต่างๆ ซึ่งเป็นคำธรรมดาในความคิดของเด็กผู้ชาย 
จากวันเป็นเดือน......จากเดือนเป็นปี...เมื่อเพื่อนคบกันมานานก็ย่อมรู้ใจกัน และเริ่มรับรู้บางอย่างในวันที่นุ่นตัดผมสั้นมาใหม่ เฮ้ยนี่แกอะไรเข้าฝันวะ ผมพูด อี๋ ทรงเก่าดีกว่าแยะเลย กบพูดพร้อมกับเสียงหัวเราะจากทุกคน แต่เราว่าน่ารักดีนะ บอมพูด คำๆนี้ของบอมทำให้หน้าขาวๆของนุ่นแดงขึ้นมา ตั้งแต่เราเริ่มสังเกตุจากวันนั้น เราก็รู้ว่าคำพูดของบอมมีอิทธิพลกับนุ่นมาก และรู้ว่านุ่นต้องแอบปลื้มบอมไม่มากก็น้อย แต่ไม่เคยมีคำว่ารักคำใดเกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อน 
     ณ โต๊ะประจำกลุ่มของเรา ขนมมาแล้วจ๊ะ เสียงใสๆของนุ่นที่มาพร้อมกับขนมหลายถุงที่ถือเดินคู่มากับบอม (การซื้อขนมเบื้องของนุ่น มักเป็นกิจวัตรประจำ พวกเราเคยปฎิเสธเพราะพวกผมยังไม่รู้ว่านั่นมาจากเงินเล็กน้อยของคุณหนูนุ่นนั่นเอง) ขณะที่กินขนมอยู่นั้น นุ่นถามถึงอาชีพในอนาคตของทุกคน ผม กับ กบ ยังไม่ได้คิดอะไร ถ้าเอ็นติดอะไรก็เรียนไป ความฝันของบอมคือ เข้าเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ และเป็นนักวิเคราะห์การเงินเหมือนพ่อของเขา ความฝันของนุ่นที่ต้องการเป็นนักสังคมสงเคราะห์ช่วยเหลือเด็กไม่ทำให้พวกผมแปลกใจเลย เพราะการชอบช่วยเหลือผู้อื่น และมองโลกในแง่ดีเป็นนิสัยของเธอ สิ่งที่เรารู้กันเลยก็คือนุ่นต้องอยากเรียนสังคมสงเคราะห์ที่ธรรมศาสตร์แน่นอน เมื่อนุ่นพูดจบบอมก็หยิบสมุดจดศัพย์ภาษาอังกฤษของนุ่นที่วางอยู่มาเปิดไปหน้าสุดท้ายของสมุดแล้วเขียนว่า...เราสองคนจะต้องเป็นลูกแม่โดมให้ได้นะ... ลงชื่อ....บอม ... สิ่งที่เราเห็นต่อมาคือรอยยิ้มของนุ่นพร้อมกับหน้าแดงนาน 2-3นาที ยิ้มน่ารักมากกว่าสิ่งใดๆ............
     วันแรกของ ม.6 ไม่มีอะไรมากนอกจากการฉลองที่นุ่นได้อนุญาติให้ ไป-กลับ โรงเรียนเองเหมือนนักเรียนทั่วไป ซึ่งเป็นสิ่งที่นุ่นต้องการมาตลอด 4-5 ปีที่แม่คอยรับคอยส่ง วันนี้ผมได้เห็นอาการดีใจของคนที่ได้รับสิ่งที่ผมเรียกมันว่า.... อิสรภาพ......... ชีวิตของนักเรียน ม.6 หลายๆคนคงไม่พ้นการเรียนพิเศษต่อตั้งแต่ 5 โมง - 2 ทุ่ม แต่การที่ได้เรียนกับเพื่อนรักของผมทำให้ผมไม่เคยคิดเหนื่อยหรือท้อแท้เลย 
     โต๊ะ 4 ตัวหลังสุดเป็นที่รู้กันว่าเป็นโต๊ะของกลุ่มผม ขณะที่พวกเรากำลังนั่งคุยรออาจารย์อยู่นั้น บอมได้ชี้ไปที่นักเรียนหญิงใส่ชุด uniform แขนยาว หน้าตาสวยมากคนหนึ่งพร้อมพูดว่า นี่ดูผู้หญิงคนนั้นสิเราชอบเขามากเลยนะ ตั้งแต่วันนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เป็นประเด็นสนทนาในกลุ่มอีกบ่อย แต่ทุกครั้งที่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นผม รู้สึกว่านุ่นมีความรู้สึกแปลกๆที่ไม่แสดงออกมา จนผมคิดว่าต้องให้บอมถามให้ได้ว่าเป็นอะไรเพราะเขาสองคนสนิทกันมากที่สุด แต่บอมก็ไม่เคยสงสัยและถาม สักพักผมเลิกสนใจกับสิ่งนี้เพราะผมก็แค่ผู้ชายที่ไม่เคยคิดจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของผู้หญิง 
     เวลาที่พวกผมได้ผักผ่อนมากที่สุดจากการเรียนคงเป็นตอนหลังเลิกเรียนพิเศษ ซึ่งพวกผมจะเวียนไปฝากท้องตามร้านต่างๆ หลังจากนั้นก็มักไปเล่นเกม เกมประจำตัวของผมคือ Daytona ของกบชอบเล่น DJ โดยเฉพาะตอนมีสาวๆมองเยอะจะออกลีลาเป็นพิเศษ เครื่องตู้เกม Tetris ที่อยู่หลังร้านเหมือนเป็นเกมที่สร้างมาเพื่อบอมและนุ่น ผมได้เห็นทั้งคู่เล่นด้วยกัน เล่นแข่งกันได้ ดูเวลาที่เขาแกล้งกัน นุ่นมักปัดมือของบอมให้ออกจากจอยเกมส์เป็นประจำเวลาที่ทั้งคู่เล่นแข่ง เพราะบอมเป็นคนที่เล่นเก่งมาก แต่บอมก็ชอบและไม่เคยเห็น บอมโกรธนุ่นสักครั้งเวลาที่นุ่นคอยแหย่คอยกวน ผมคิดว่าทั้งคู่คงมีความสุขมากที่ได้อยู่ใกล้ๆกัน พลางคิดไปถึงคำพูดในหนังรักไม่ได้ ที่ว่า เป็นเพื่อนกันดีที่สุด จะได้คบกันนานๆ แต่สำหรับสำหรับคู่นี้ผมนึกภาพไปถึงตอนที่ทั้งคู่เป็นคนชราคู่หนึ่ง ที่ใช้เวลาบั้นปลายชีวิตนั่งนับดาวบนท้องฟ้าด้วยกัน และต่อเติมความสุขซึ่งกันและกัน ทุกครั้งที่มองคู่นี้อยู่ด้วยกัน ผมคิดว่าเค้ากำลังร่วมสร้างและต่อเติมความรักซึ่งกันและกันอยู่ แม้เพื่อนสนิทอย่างผมจะแซวว่าทั้งคู่ไม่เหมือนแค่เพื่อนสนิทเท่านั้น แต่ว่าสิ่งที่ผมเห็นคือรอยยิ้มของทั้งคู่พร้อมอาการเขิน และสายตาของนุ่นที่หันไปมองบอม แล้วทั้งคู่ก็ช่วยกันปฎิเสธ นุ่นก็มักจะพูดว่า พวกนี้เนี่ย ไม่พูดด้วยแล้ว พร้อมกับหันหลังเดินไปซื้อขนม และบอมก็เดินตามติดๆกันไป 
วันศุกร์ใกล้ปิดคอร์สเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ เมื่อพวกเรามาถึงที่เรียนพิเศษปรากฏว่าไฟดับ โรงเรียนจึงนัดชดเชยให้วันอื่น วันนี้จึงไม่ค่อยได้เรียน เพราะวันศุกที่โรงเรียนมีเรียนแค่ 2 วิชา พวกเราจึงถือสมุดหนังสือไปเรียนเพียงไม่กี่เล่ม หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า วันนี้นุ่นผิดปกติดูซึมๆตั้งแต่เช้า พวกเรารบเร้าเท่าไหร่ก็ไม่บอก ขณะที่เดินเล่นกันอยู่บอมได้จับ หน้าผากของนุ่น บอมตกใจมากเพราะนุ่นตัวร้อนจัด บอมจึงพูดว่า นุ่นเธอตัวร้อนมากนะกินยาอะไรหรือยัง? ปวดหัวนิดหน่อยไม่เป็นไรหรอก นุ่นตอบ พวกผมจึงรบเร้าให้นุ่นรีบกลับไปผักผ่อนที่บ้าน และตัดสินใจให้บอมเดินไปส่งนุ่นขึ้น taxi โดยผมกับกบจะไปรอที่ food center ก่อนที่ผมจะแยกย้ายกับนุ่น บอมแซวนุ่นว่า นี่ไม่สบายขนาดนี้ยังไม่ยอมนอนพักอยู่บ้านอีก ก็ฉันเป็นเด็กขยันนะซิจ๊ะ นุ่นตอบพร้อมกับยิ้มมา ดูนุ่นสิหน้าเหมือนคนจะตายอยู่แล้วยังยิ้มออกอีก บอมพูดไปโดยไม่รู้ว่ารอยยิ้มนี้จะเป็นรอยยิ้มที่พวกผมจะไม่มีวันลืม 
สำหรับผมเหตุผลเดียวที่นุ่นมาเรียนวันนี้คือการที่ได้มานั่งเรียนพิเศษข้างๆบอม หลังจากผมแยกย้ายกับนุ่นบอมก็เดิน ไปส่งนุ่นขึ้น taxi กลับบ้าน ........เอี๊ยด.....ปัง......อัก...... รถบบรทุกคันหนึ่งวิ่งคร่อมเลนมาชนกับ taxi คันหนึ่งที่วิ่งมาด้วยความเร็วค่อนข้างสูง ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยกระเด็นกระแทกกระจกรถออกมาตกลงบนพื้น และ ไถลไปข้างหน้าอีก 7-10 เมตร สมุด หนังสือ ดินสอกระจัดกระจายอยู่บนถนนบ้าง บนทางเท้าบ้าง กล่องดินสอ มือถือแตกเป็น 2 ส่วน พลเมืองดีผู้หนึ่งอุ้มร่างที่เต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลไปส่งโรงพยาบาล 
     เช้าวันเสาร์ ณ ที่เรียนพิเศษวิชาคณิต พวกผมรู้สึกแปลกใจที่นุ่นมาเรียนสาย เพราะปกตินุ่นจะมาเป็นคนแรก แต่พวกผมก็คิดว่านุ่นคงยังไม่ค่อยสบายและผักผ่อนอยู่ที่บ้าน แต่ขณะที่เริ่มเรียนไปได้15นาที เพจของบอมก็ดังขึ้นพรอ้มกับข้อความจากแม่ของนุ่นที่ว่า ตอนนี้นุ่นอยู่ห้อง ICU โรงพยาบาลเปาโล ต้องการพบบอมด่วน เมื่อพวกผมอ่านข้อความนี้จบ ก็เดินออกจากห้องทันที มารู้ตัวอีกทีก็คือเห็นรอยช้ำของขอบตาที่เกิดจากการร้องไห้ของแม่ของนุ่น พร้อมกับน้ำตาที่ไหล ออกมาอย่างไม่ยอมหยุดที่หน้าห้อง ICU เมื่อเราเดินเข้าไปในห้องหมอบอกพวกผมว่านุ่นเสียเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว พวกผมเหมือนตกอยู่ในภวัง น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากทุกคนที่เรียกตัวเองว่าลูกผู้ชาย ทุกคนยืนร้องไห้อยู่ข้างๆเตียงของนุ่น ไม่มีสักคนเปิดผ้าที่คลุมร่างที่ไร้วิญญาณของนุ่นดูเพราะทุกคนรู้ดีว่านุ่นไม่ต้องการให้ใครเห็นนุ่นในสภาพอย่างนี้แน่ 
     เหตุการณ์นี้แม้ว่าผมจะเสียใจมาก แต่ยังไงก็คงไม่เท่าบอม เพราะทุกคนรู้ดีว่าบอมเสียใจมากที่สุด แต่บอมก็เก่งมาก เพราะหลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่งก็ไม่เห็นบอมร้องไห้อีก ขณะนั่งเรียนวิชาคณิตในคาบที่ 7 หลังจากงานชาปณกิจนุ่น 2 วัน แม่ของนุ่นได้ขออนุญาติอาจารย์เดินเข้ามาหาบอมในห้องและพูดว่า ในห้อง ICU ก่อนที่นุ่นจะสิ้นใจนุ่นบอกกับแม่ให้นำ diary เล่มนี้มาให้บอมให้ได้ แล้วแม่ของนุ่นก็ยื่นถุงกระดาษที่ข้างในมีdiary เล่มหนึ่งมาให้ หลังจากหมดคาบผมและบอมได้หยิบ diary ขึ้นมา มันเป็น diary เล่มสีชมพูที่นุ่นใช้เขียนความคิดและความฝันต่างๆของนุ่น ชื่อของบอมมีอยู่ใน diary ของนุ่นทุกหน้า ตั้งแต่วันที่เธอ ได้พบกับบอมที่ห้องศิลปะ เมื่อพลิกกลับมาช่วงกลางเล่มน้ำตาของบอมก็หยดลงบนรูปๆหนึ่ง ที่นุ่นวาดขึ้นใน diary เป็นรูปนุ่นกับบอมที่ยืนยิ้มโดยนุ่นยืนกอดแขนบอมอยู่ และทั้งคู่ใส่ชุดนักศึกษามหาลัยธรรมศาสตร์ ทำไมนุ่นไม่รู้ล่ะว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน บอมพูดเมื่ออ่าน diary และได้รู้ว่านุ่นรอคอยคำว่ารักจากบอมอยู่ และเมื่อช่วงหนึ่งในdiary จึงได้รู้ว่านุ่นเข้าใจผิดว่าบอมไปรักผู้หญิงคนหนึ่งที่บอมชี้ให้พวกเราดูที่เรียนพิเศษ สิ่งต่อมาที่ผมได้รู้ก็ คือ นุ่นไม่เคยเข้าใจสิ่งที่บอมพูดเสมอในกลุ่มว่า รัก กับ ชอบ นั้นแตกต่างกันมาก ผมได้แต่นึกเสียดายที่บอมไม่ยอมพูดความรู้สึกของตัวเองให้นุ่นได้รับรู้ ได้แต่ปล่อยให้นุ่นคิดไปต่างๆนาๆ เพราะถ้าบอมได้พูดและอธิบายความรู้สึกของตัวเอง นุ่นก็คงจากไปอย่างมีความสุขกว่านี้ 
     ก่อนการเร่งสอบปลายภาคไม่กี่วัน เพื่อให้เวลานักเรียนอ่านหนังสือเตรียมเอ็น ครั้งที่2 ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งคุยกัน กบได้ตะโกนถามเพื่อนๆทุกคนว่า ถ้าตอนนี้มีพรวิเศษขออะไรก็ได้สิ่งหนึ่งจะขออะไร คำตอบที่ได้ก็แตกต่างกันไป บ้างขอให้ หล่อ รวย สวย เอ็นติด ทุกคนตอบต่างๆกันไป เมื่อกบหันมามองหน้าบอมทุกคนก็ หันมาเหมือนจะรอคำตอบจากบอม เราขอแค่ได้พบนุ่นอีกครั้งแล้วเราจะบอกเค้าว่าเรารักเค้ามากขนาดไหน บอมตอบ มาพร้อมๆกับน้ำตาที่ค่อยๆคลอออกมา หลังที่บอมพูดจบเพื่อนในห้องหลายคนหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับน้ำตาของตน 
     วันนั้นผมจึงได้รู้ว่า นุ่นยังคงอยู่ในใจของบอมอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง วันที่ผมได้รู้อานุภาพของความรักก็คือวันประกาศผลเอ็น เรานัดเปิดซองจดหมายผลสอบพร้อมกันที่บ้านของกบ กบติด ม.เชียงใหม่ ผมติดที่  ประสานมิตร  แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากคือ คนที่ได้คะแนน60กว่าเกือบทุกวิชาไม่ติดเศรษฐศาสตร์ได้อย่างไร แต่คำอธิบายของบอมก็ทำให้ผมรู้ว่า บอมทิ้งความฝันที่จะเป็นนักการเงินของเขามาเรียนสังคมสงเคราะห์เพื่อเดินตามความฝันของนุ่น ทำให้ผมได้เห็นความรักที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนๆหนึ่ง ความฝันของบอมเปลี่ยนเป็นการได้สร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า และได้นำชื่อณัฐธิดาที่เป็นชื่อจริงของนุ่นมาตั้งเป็นชื่อสถานเลี้ยงเด็กเพื่อเป็นอนุสรณ์ของผู้หญิงจิตใจดีงามคนหนึ่งที่เค้าได้เคยพบเจอในชีวิต คนที่ไม่รู้จักบอมดีจะมองเค้าเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ปิดตัวเองไม่ยอมเปิดใจให้ใคร แต่สำหรับผมรู้ดีว่าใครอยู่ในหัวใจของเขาตลอดเวลา ........ 
     ในเวลาโพล้เพล้สายลมลมพัดเมฆมาก่อตัวรวมกันจนกลั่นป็นเม็ดฝนลงมาสู่ดินทุกหนแห่ง ลมพัดเข้ามาในหัองผมอย่าง แรง ทำให้กรอบรูปที่มีรูปถ่ายของพวกเราอยู่ คว่ำด้านหน้าลง ผมหยิบมันพลิกขึ้นวางที่เดิม และมองไปที่รูปนั้นอีกครั้ง หนึ่งที่มันทำให้ผมนึกถึงเธอ... 
         เธอ ผู้ที่ทำให้พวกผมรู้ได้รู้ว่าคนดัดฟันกินอาหารบางอย่างไม่ได้ 
                เธอ ผู้ที่ทำให้พวกผมได้หัดฟังเพลงค่าย DOJO CITY 
       เธอผู้ที่แนะนำให้พวกผมมองโลกในแง่ดี และออกไปต่อสู้กับปัญหา 
            เธอผู้ที่นำความงดงามของจิตใจเธอมาให้พวกผมได้สัมผัส 
                          เธอผู้ที่มาเปลื่ยนแปลงชีวิตของพวกผม 
                             เธอผู้ที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมา 
     ฝนยังคงกระหน่ำลงบนถนนสายหนึ่ง เม็ดฝนกระหน่ำลงมาปานจะฉีกสมุดที่อยู่ในดงหญ้าข้างๆทางเท้าเล่มหนึ่งยุ่ยขาดเป็นส่วน แม้จะผ่านลมฝนลมหนาวมานานเท่าใดแต่สมุดเล่มนี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิมพร้อมกับรอยหมึกคำสัญญาที่ไม่อาจเป็นจริงได้เพราะคนๆหนึ่งได้จากไปแล้ว..... 
     รัก บางคนคิดว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่จำเป็นต้องพูด แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่ามี บางคนใช้ชีวิตเพื่อเสาะหาและรอคอยคำๆนี้จากปากคุณอยู่ เมื่อคุณมั่นใจแล้วคุณควรที่จะพูดออกไป ดีกว่าที่จะต้องมานั่ง เสียดายและเสียใจเพราะว่าวันนี้เป็นวันที่..สาย..เกิน..ไป..!				
comments powered by Disqus
  • เคียวโกะซัง

    8 กันยายน 2545 11:29 น. - comment id 66318

    ฮือฮือฮือ เศร้าจังเลย.......น้ำตาไหลแล้วอ่ะ 
    แต่งเก่งจังเลย สงสารบอมอ่ะ
  • เพื่อนนาย

    10 กันยายน 2545 19:27 น. - comment id 66339

    สุดยอดยาวเลย ตอนแรกเปิดมากะว่าจะไม่อ่านแล้วนะเนี่ย แต่ไม่มีไรทำเลยอ่าน สุดยอดซึ้งเลยว่ะ...... กะว่าจะไม่ร้องไห้นะเนี่ย
  • คนที่รออยู่เหมือนกัน

    17 กันยายน 2545 15:27 น. - comment id 66416

    เราว่านะคงจะมีคนอีกหลายคนที่รอคำดบางคำจากปากของคนที่เราอยากจะฟังไม่ว่าคำ คำนั้นมันจะส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ใดก็ตาม ยังไง คนที่อยากจะฟัง ก็คงรอคำตอบอยู่ดี
  • SeeM AnGle

    20 กันยายน 2545 13:08 น. - comment id 66455

    เคยอ่านแล้วล่ะ
  • คุซาโนะคุง

    21 กันยายน 2545 17:31 น. - comment id 66464

    ผมเอาใจช่วย "คนที่รออยู่เหมือนกัน" เต็มที่เลยนะครับ..
  • ผู้หญิงคนหนึ่ง

    7 ตุลาคม 2545 14:58 น. - comment id 66627

    ซึ้งมากเลยอ่ะ
  • เงาของชายคนหนึ่ง

    7 ตุลาคม 2545 15:14 น. - comment id 66628

    สุดยอด(ยังม่ะอ่านทีอ่ะ)

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน