เพรงเงา ( ตอนที่ 3 )

กระดาษทรายสีทอง

เพรงเงา
    ( ตอนที่ 3 )
การไปเข้าค่ายครั้งนี้แบ่งออกเป็นห้องๆละ 2-3 คนดังนั้นวิไลย์วัลย์กับลลิตตาจึงมีเพื่อนเพิ่มขึ้นมากอีกคนเธอชื่อว่า  อารียา  เธอเป็นคนกล้าทำกล้าแสดงออก เธอเรียนค่อนข้างเก่ง อารียานี่เป็นคนพูดน้อยแต่ท่าทางมั่งคง รอบคอบ ดังนั้นตอนนี้เธอได้รู้จักกับ วิไลย์วัลย์ และ ลลิตตาแล้ว เข้าค่ายครั้งนี้มีกำหนดเวลา สี่สัปดาห์ ซึ่ง วิไลย์วัลย์ ลลิตตา และ เพื่อนใหม่ อารียา ก็อยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมด้วยกันจนตกกลางคือวันหนึ่ง ณีรดากลับพวก ก็แอบไปที่บ้านพักของ  วัลย์ ตา และ ยา ทำลายของของขีดเขียนรูปภาพไว้ตามฝาผนัง เทนมราดพื้น เทกาวลงบนเก้าอี้และโต๊ะ เช้าขึ้นมา ทุกคนต้องตกใจเมื่อเห็นสภาพของห้องไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมเสียแล้ว ทั่งสามต้องทำความสะอาดกันเกือบทั้งวัน เธอสามคนจึงอดที่จะทำกิจกรรมสำคัญในวันนี้ ซึ่งเป็นที่พอใจอย่างมากของ ณีรดา
                             ณีรดา.. ทำ   วิไลย์วัลย์ได้ยินเสียงนี้ขณะทำความสะอาดห้อง  นี่ตา รู้ได้ไงว่า ณีรดาเป็นคนแกล้งพวกเรา  วิไลย์วัลย์ถามขึ้น  เธอว่าอะไรนะ ฉันยังไม่ได้พูดไรซักคำเลย  ลลิตตาตอบกลับมาด้วยสีหน้า งง              งั้นก็เธอละสิ ยา  วิไลย์วัลย์ถามต่อไปอีก  อะไรฉันกำลัง จะเดินออกไปล้างเก้าอี้  อารียา ตอบด้วยความงงเช่นเดี่ยวกับ ลลิตตา   วัลย์ แล้วเธอรู้ได้ไงว่าเป็น  ณีรดาทำ  อารียาถามขึ้นลอยๆ  ก็ไม่รู้ใครนะสิ พูดกับฉัน  เธอตอบ    ทุกคนเงียบกันไปซักพักนึ่ง ทันใดนั้น เสียงตีฆ้องโรงเรียนเรียกทานข้าวของโรงเรียนก็ดังขึ้นทำให้ทั้งสามคนหยุดมือ แล้วเดินไปรับประทานอาหารที่โรงอาหารกับเพื่อน  ณีรดา..เป็นคนแกล้งเธอวัลย์  เสียงนี่ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่งทำให้ วิไลย์วัลย์ถึงกลับขนลุก แต่เธอก็เก็บอาการไง แล้วตั้งทำถามให้ใจว่า  เสียงนั้นคือเสียงของ.ใคร!  
                                กลางคืนหลังจากที่เหตุการณ์สงบลง  ลลิตตากับอารียาหลับแล้วเหลือแต่ วิไลย์วัลย์ที่กำลังคิดว่าเสียงที่ตนเองได้ยินนั้นคือเสียงของใคร   เธอไม่ต้องกลัวฉันหรอ ฉันน่ะเป็นแค่วิญาณเร่ร่อน  เสียงลอยมากลับสายลม  วิไลย์วัลย์เริ่มตัวสั่น   ทำไมไม่มีใครเห็นเธอนอกจากฉัน  เธอถามขึ้นเมื่อมีสติกลับคืนมา  เธอน่ะได้สลับวิญาณกับเด็กหญิงผู้มีญาณวิเศษ หรือเรียกว่า ( สัมผัสที่หกไง )   เสียงที่ลอยมาจากลมตอบ ทำตอบนี่ทำให้ วิไลย์วัลย์นั่งไม่กระดุกกระดิกไปคู่หนึ่ง  แล้วเธอเป็นใครล่ะ  เธอถามออกมาเมื่อเธอมีสติกลับคืนมาอีกครั้ง   ฉันชื่อ  เฟื่องพิมาน  ..ฉันเป็นญาณของเด็กหญิงของคนนั้นค่อยปกป้องเธอ  เธอยังกล่าวต่อด้วยเสียงเศร้าสร้อยว่าเพราะเมื่อชาติที่แล้วเธอเคยดูแลฉันอยู่ตลอดเวลาที่ฉันไม่สบาย  วิไลย์วัลย์ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี ว่ามันเรื่องอะไรที่ต้องมาเกี่ยวกับเธอ เป็นเพราะกรรมหรือว่าบุญกันแน่ที่ทำให้เธอต้องมี ญาณพิเศษอันนี้   แล้วถ้าฉันอยากจะเจอคุณอีก..จะต้องทำไง   วิไลย์วัลย์ คุยกับสายลม  เรียกชื่อฉันสิ .เฟื่องพิมานเดี่ยวฉันก็จะมาหา  จากนั้นเธอหายไป ไม่นานนักวัลย์ก็หลับไปด้วยความเหนื่อย นี่คงไม่ใช้ความฝัน เธอคิดในใจ แต่เธอก็คงยังไม่กล้าที่จะเรียกชื่อ  เฟื่องพิมาน อยู่ดี
                                เป็นที่น่าประหลาดใจที่ห้องที่ ณีรดาอยู่นั้นเลอะเทอะไปด้วย เศษเถาวัลย์ เศษกิ่งไม้ เศษใบไม้ และ ฯลฯ อีกมากมาย ณีรดาคิดว่าน่าจะเป็น ฝีมือของ สามคนนั้นแต่เธอก็ไม่มีหลักฐานที่จะกล่าวหาพวกนั้นได้ เธอจึงต้องทำความสะอาดห้องตัวเองหนักกว่าห้องของสามคนนั้น ทว่าเด็กผู้หญิงสามคนนั้นไม่ไดรู้เรื่องอะไรเลย!!!!!!!!!!!!!!				
comments powered by Disqus
  • ปลาทูสามเข่ง

    17 กันยายน 2545 13:36 น. - comment id 66406

    มาตามอ่านๆ...หนุกหนานๆจ้า อุอุให้อารมณ์ได้ยอดเยี่ยมกระเทียมเจียวเนอะ เด๋วจามาอ่านต่อน๊า...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน