เพรงเงา ( ตอนที่ 5 )

กระดาษทรายสีทอง

เพรงเงา 
( ตอนที่ 5 )
          ฉันอยากจะเห็นรู้ร่างที่แท้จริงของเธอได้ริเปล่า นั้นเป็นคำถามแรกที่วิไลย์วัลย์ ถามขึ้น
 เธอไม่จำเป็นที่จะต้องจงมองตัวฉันที่กระจก..เธอต้องใช่การรวมจิตเป็นหนึ่งเดียวและทำใจให้ผ่อนคลายแค่นั้นเธอก็สามารถมองเห็นฉันได้ เฟื่องพิมานกล่าวขึ้น วิไลย์วัลย์นั้นก็ทำตามรวมจิต..ใจผ่อนคลาย เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมองไปรอบๆห้อง เธอได้สังเกตเห็นเงาดำๆบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีในห้องเธอ เธอจึงรวมจิตไปตรงเงาดำๆนั้น ในไม่กี่วินาทีต่อมาเลาดำๆ ก็ๆได้กลายเป็นรูปเป็นร่าง วิไลย์วัลย์แทบไม่เชื่อสายตาตนเองเพราะ ญาณที่เธอคุยด้วยและคุยกับเธอเกือบ สี่ครั้งนั้นมีรูปร่างที่สวยและสง่างามเช่นนี้   ทำไมเมื่อสองทุ่มกว่าเธอไม่ยอมปรากฏตัวให้ฉันเห็น วิไลย์วัลย์ถามขึ้นเป็นคำถามที่สองเมื่อรู้แล้วว่าเสียงที่เธอได้ยินรูปร่างที่เธอเห็นมีตัวตน  ฉันลืมบอกเธอไปว่า เกินห้าทุ่มเท่านั้นที่เธอจะสื่อสารกับฉันได้ เวลากลางวันนั้นฉันมีพลังไม่พอ.ที่สำคัญจำไว้ว่าเธอจะเห็นฉันแค่คนเดียวเท่านั้นแค่คนเดียว  เฟื่องพอมานซ้ำคำว่าแค่คนเดียวเท่านั้นถึงสองครั้ง  ฉันอยากรู้ว่าที่มารดามพูดขึ้นคืออะไร  วิไลย์วัลย์ตั้งใจที่จะได้คำตอบนี่มาก  ก็ไม่มีไรมากแค่มีเด็กผู้หญิง ม.ปลายขึ้นไปบนห้องใต้หลังคานั้นแล้วเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ เกรีดแขนตนเองแล้วผู้คอตาย รู้สึกว่าเด็กคนนั้นชื่อ นภาลัย เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว จึงไม่มีใครขึ้นไปบนห้องใต้หลังคาบ่อยๆ
เฟื่องพิมานตอบด้วยความไว  แล้วที่เธอค่อยมาเตือนฉัน เรื่องที่ให้ฉันระวังคือเรื่องอะไรหรอ วิไลย์ถามขณะเมื่อประมาณเย็นวันนี้เธอยังติดปากอยู่เลยว่า เฟื่องพิมานเคยมาบอกเธอว่าอะไร  ฉันบอกเธอได้แค่นี้จริงๆ เพราะฉันบอกอะไรเธอมากกว่านี้ไม่ได้..เพราะ  เธอไม่ทันตอบ  ฉันต้องไปแล้วเวลานั้นไม่ค่อยใคร..ระวังตัวด้วยนะ  รูปร่างที่               
 วิไลย์วัลย์พูดคุยด้วยนั้นก็เลื่อนหายไป  นี่คงเป็นบทสนทนาที่ยาวที่สุดตั้งแต่ที่ได้คุยกับเสียงและวันนี้เป็นวันที่เธอได้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของ เฟื่องพิมานแล้ว เธอหันไปมองเวลาแล้วอุทานขึ้น  ตายแล้วตีสองกว่าต้องรีบเข้านอนแล้ว วิไลย์วัลย์เดินไปที่เตียงนอนแล้วหลับไปโดยไม่รู้ตัว
                                         เช้าวันรุ่งขึ้นเธอเรียนอย่างไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเธอนอนตั้ง ตีสองเธฮจึงไม่มีสมาธิในการเรียนเมื่อเรียนจบในวันนี้แล้วเด็กนักเรียนสามคนเดินผ่านมารดามคนเดิมทั้งสองคนอารียาและลลิตตาเดินก้มหน้าส่วนวัลย์
นั้นได้พูดลอยๆเสียงค่อนข้างดังว่า  นภาลัยๆๆ  มารดามคนที่เดินผ่านได้ยินถึงกับสะดุ้งสุดตัว เพราะเด็กรุ่นนี้ไม่มีคนที่ชื่อ นภาลัยซักคน  เด็กทั้งสามคนเดินกับมาถึงห้อง  นี่ วัลย์ เธอพูดอะไรน่ะ  ยาถามขึ้น  ใช้เมื่อกี้นี้เธอพูดอะไร   ตาพูดเสริมต่อ วิไลย์วัลย์จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ห้องใต้หลังคาให้เพื่อนๆฟัง   เธอรู้ได้ยังไง  อารียาและลลิตตาถามขึ้นพร้อมๆกันเมื่อฟังจบ  พูดไปเธอก็ไม่เชื่อ  วิไลย์วัลย์เอ๋ยขึ้น  พูดมาเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วน่ะ  ยาพูดด้วยอาการ เครียดๆ  ใช้พูดมาเถอะ  ลลิตตาเป็นกองเชียร์ ดังนั้น วิไลย์วัลย์จึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานให้ฟัง เมื่อเธอเล่าจบทำให้ลลิตตาจำอะไรบางอย่างได้อย่างไม่คาดคิด   เป็นไปไม่ได้แน่ๆ  ลลิตตาพูดขึ้น  เป็นไปไม่ได้เรื่องอะไร  อารียาถามขึ้น   ฉันรู้จักคนที่มีลักษณะอย่างวิไลย์วัลย์เล่ามาทุกประการ  				
comments powered by Disqus
  • ปลาทูสามเข่ง

    19 กันยายน 2545 13:33 น. - comment id 66441

    อะโหยยใครกันเน้อ? กำลังหนุกๆๆเล๊ยยย...ง่า..เด๋วเราจาติดตามตอนต่อไปน่ะ!

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน