เพรงเงา ( ตอนที่7 )

กระดาษทรายสีทอง

เพรงเงา ( ตอนที่ 7 )
 ก็ขอให้วัลย์ไปที่สลัมข้างบ้านของวัลย์ . เฟื่องพิมานอธิบายว่าจะให้วัลย์ทำอะไรบ้าง อีกไม่กี่วันแล้วที่โรงเรียนจะปิดเทอมซึ่งเธอจะต้องกลับไปที่บ้านของเธอ และไปสืบให้เฟื่องพิมาน เพื่อช่วยพ่อเธอ วิไลย์วัลย์นั้นยังเด็กนักที่จะรู้ถึงความลำบากที่ไม่มีอะไรมาเปรียบได้เท่ากับ เฟื่องพิมาน  ดังนั้น เฟื่องพิมานจึงตั้งความหวังไว้กับวิไลย์วัลย์มากที่จะลบล้างความผิดให้พ่อเธอ เวลาล่วงเลยผ่านไป วิไลย์วัลย์ ก็เข้านอน การสอบปลายภาคครั้งแรกของเธอ ผ่านไปด้วยดี จากนั้นเธอก็กลับบ้านไปเพื่อสืบหาความจริงให้แก่ เฟื่องพิมาน กัปนาทลัตนะภาน์ เวลาของเธอนั้นมีไม่ถึง สามอาทิตย์เพราะเธฮต้องเรียนเสริมอีกมากมายที่พ่อของเธอสั่งไว้ก่อนที่จะไปทำธุระที่ ออสเตเรีย  สอบสี่วันกับแม่เธอเหตุการณ์บางอย่างที่เธอใช้สมองและสติปัญญาของเธอจึงเริ่มขึ้น
                                วันแรกของการปิดเทอมเธอได้เดินไปซื้อของที่จำเป็ฯในการสืบหาเรื่องราวมาลบล่างความผิดให้ พ่อของเฟื่องพิมาน ของที่เธอซื้อนั้นมี  เชือก กาวยาง นม สีทาบ้าน ไฟฉาย อุปกรณ์ป้องกันตัวหลายๆอย่างที่ผู้ใหญ่อย่างเราๆนึกไม่ถึง เธอรอบครอบยิ่งกว่าผู้ใหญ่บางคนเสียอีก เมื่อเธอซื้อของหลักเสร็จแล้ว เธอยังซื้อของปลีกย่อยที่สำคัญๆค่าใช้จ่ายนั้นรวมๆกันประมาณ สองหมื่นกว่าๆ ซึ่งเป็นเงินที่น้อยสำหรับพ่อเธอแต่เป็นเงินที่มหาศาสสำหรับเธอ     
                                  เธอเริ่มด้วยการใส่กางเกงขาสั้น เสื้อเชิ้ต โทรศัพท์มือถือ และเป้ใบใหญ่อีกใบที่บรรจุของที่เธอชื้อมาด้วยราคาแพงอย่างเต็มเป้ หลังจากนั้นไม่นานวัลย์ก็ออกเดินทางไปในสลัมข้างบ้านเธออย่างไม่มีใครที่รู้เรื่องเลย เวลานั่นเป็นเวลาประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆแล้ว เธอยังรับรู้ในจิตใจข้างในของเธอว่า มีใครติดตามเธอมาด้วยอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าใดนัก ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่า..นั้นคือ เฟื่องพิมาน  
                                  เมื่อเธอถึงจุดหมายปลายทางคือที่โกดังเก่าๆที่อยู๋ลึกลงไปในซอยของสลัม แถวๆนี่นั้นมีแต่ป่าที่รกด้วยต้นไม้ใบไม้ซึ่งก็ไม่มีคนอาศัยอยู่แล้ว หลักฐานที่ เฟื่องพิมานให้วิไลย์วัลย์หาให้นั้นคือ เอกสารที่ระบุว่าบริษัทที่พ่อของเธอกับเพื่อนพ่อของเธอที่ทำงานด้วยกัน แอบนำหุ้นส่วนของพ่อเธอไปขายและใส่ความว่าค้าของผิดกฎหมายทำให้พ่อเธอเป็ฯแพะรับบาป เมื่อวัลย์เข้าไปในโกดังนั้นแล้วเธอจึงลงมือหาหลักฐานดังกล่าว ซักพักหนึ่งเมื่อเธอเงยน่าดูนาฬิกาแล้ว เธอจึงรู้ว่าเวลานี่เป็นเวลาตีสองกว่าแล้วเธอได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบ้างคนเข้ามาใกล้ๆเธอ ด้วยสติปัญญาที่ดีของวัลย์และประกอบด้วยความฉลาดแล้วเธฮจึงเข้าไปหลบใต้กล่องใบใหญ่ใบหนึ่งซึ่งตั้งอยู้ข้างๆโกดังสองถึงสามใบเมื่อเธฮเข้าไปใน กล่องแล้วเธอได้พบกับประตูบานเล็กๆมีที่ใส่กุญแจเพื่อที่จะเปิดออก แต่ดูแล้วมันคงเก่ามาก เมื่อเธอนึกออกว่าเธอหยิบวิทยุอันเล็กๆของเธอเพื่อมาอัดคำพูดที่คนข้างนอกพูดกัน คำพูดที่เธอได้ยินนั้นกล่าวว่า  ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระแล้วเพราะ มันแท้ๆต้องขอบคุณมันที่ทำให้ฉันเป็นอิสระ ฮาฮา..ฮาฮา.   เสียงนั้นดูคล้ายไเสียงที่เป็นคนที่เธฮรู้จักเมื่อเธฮพยามที่จะมอง แทบไม่น่าเชื่อคนๆนั้นจะเป็น.เธอได้เหยียบกิ่งไม้ทำในเกิดเสียงที่ดังก้องกังวาลในโกดัง ทุกคนหันมาทางกล่องใบที่วิไลย์วัลย์หลบบอยู่และ..				
comments powered by Disqus
  • ปลาทูสามเข่ง

    4 ตุลาคม 2545 14:19 น. - comment id 66589

    อะโห เล่นสีสันบาดตาจังเลยจ้า แหมชอบมาจบไอตอนที่จะมีเรื่องดีดีเกิดขึ้นจังงน๊า อืม !! เราจะติดตามละ..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน