อัลมิตรา

ยิ่งดึก ลมยิ่งเย็นยะเยือก ผ้าเช็ดผมผืนเล็กไม่ได้ช่วยป้องกันความหนาวได้เลย แก้มสองข้างเย็นเฉียบ คนเรือยังแวะจอดเรือเป็นระยะ เพื่อให้ดูความงดงามของหิ่งห้อยจนพอใจ คนเรือบอกว่า หิ่งห้อยตัวผู้แสงจะจ้ากว่าตัวเมีย เพราะแสงจะมีสองปล้อง ส่วนตัวเมียจะมีหนึ่งปล้อง 
ลูกลิงหันกลับไปถามหิ่งห้อยที่นั่งท้ายเรือว่า 
   ตกลงเธอมีแสงหนึ่งปล้องใช่ไหม คืนนี้ขอดูหน่อยนะ  ฮา ..   
แต่ที่เด็ดกว่านั้น คือคำที่คนเรือบอกว่า   คงไม่มีแสงครับ แบบว่าหลอดชื้น ฮ่า ...ก๊าก คือว่าผมเห็นใครก็ไม่รู้สองคนพายเรือแล้วเรือล่มครับ   
ศาลาไทยหัวเราะ ฮ่า ฮ่า แล้วบอกว่า   โอ๊ย พี่วิทย์ มุขเด็ดจัง 
 คนอื่นก็ขำหรอกน่ะ แต่ลูกลิงกับหิ่งห้อยอะดิ ขำไม่ออก ลูกลิงทำไม่รู้ไม่ชี้ พยายามกดเบอร์โทรหา นายรมย์ กะว่าโทรติดจะอวดซักหน่อยว่าตอนนี้ดูหิ่งห้อยอยู่ แต่หมอนี่สงสัยบ้านอยู่หลังเขา (เขาค้อ) โทรไม่ติดซักที ไม่มีสัญญาณ  ลูกลิงสังเกตุเห็นคนเรือจอดเรือนิ่ง เหมือนจะรออะไรอยู่ ก็เลยถามเขาด้วยความเกรงใจ  
 รออะไรหรือเปล่าคะ ถ้ารอให้โทรติด ไม่ต้องรอนะคะ   
เขาตอบว่า   ครับ ไม่รอ งั้นผมกลับก่อนนะครับ   
อ๊าก ! อีกหนแล้ว ที่เรียกเสียงฮาจากเพื่อนลั่นไปทั้งคุ้งคลอง 
ลูกลิงก็บอกทันทีเช่นกันว่า   ตามสบายค่ะ เรือทิ้งไว้นี่นะคะ เดี๋ยวจัดการเองค่ะ เมื่อเย็นซ้อมพายเรือแล้ว นี่เรือเครื่อง คงไม่เท่าไหร่ อย่างดี ก็พรวดพราดเกยตลิ่งได้เองค่ะ  
เขาเรือสวนกลับมาว่า   กลัวจะติดเครื่องไม่เป็นครับ แล้วน้ำก็เชี่ยวเสียด้วย ลอยตามน้ำไปตอนนี้ คงไปถึงตลาดน้ำที่ตะกี้ไปมาน่ะครับ  
ไหมล่ะ คนเรือของเรา เห็นมาดขรึมตั้งแต่ต้น มาตอนนี้ หยอดมุขเด็ดมารับแทบไม่ทัน  ไอ้ที่หนาวตะกี้ ตอนนี้ลูกลิงร้อนรุ่มแล้วล่ะ .. ยี้ .. ฝากไว้ก่อนนายวิทย์
ตามเส้นทางเรือขากลับ ก็จะเห็นคนนั่งซุ่มตกปลาเป็นระยะ ๆ แปลกนะ ที่เขาหันหน้าเข้าทางตลิ่งกันเสียหมด ไม่รู้มีเคล็ดลับอะไร ตกปลาได้กันหรือเปล่าหนอ ( คิดในใจ) .. จากนั้น ออยซึ่งเป็นคนพูดน้อยที่สุดในกลุ่ม (แต่ลูกลิงไม่ใช่คนพูดมากน๊า โน่นเลย หิ่งห้อย กะ รวยระรินกลิ่นชาต่างหาก..) ขึ้นเพลง  ..ฉั น นั่ ง ต ก ป ล า  อ ยู่ ริ ม ต ลิ่ ง.. ทันที่ที่ต้นเสียงร้องนำขึ้น ลูกลิงก็ร้องต่ออีกท่อนว่า .. แ ป ล ก ใ จ เ สี ย จ ริ ง   ป ล า ไ ม่ กิ น เ ห ยื่ อ  ... ฮ่า ฮ่า .. นึกแล้วก็ขำ กลัวคนที่นั่งตกปลาจะหันมาด่าเหมือนกัน แต่ลูกลิงคำนวนแล้วว่า เรือเครื่องย่อมไปเร็วกว่าเรือพายอยู่แล้ว ไม่กลัวหรอก ..กิ..กิ..
สามทุ่มนิด ๆ ที่คนเรือมาส่งพวกเราที่บ้านพัก ลูกลิงก็มัวแต่คิดว่า จะอาบน้ำดี หรือว่า อาบแห้งดี ก็เพราะเมื่อเย็นอาบน้ำไปแล้ว ตอนนี้อากาศก็เย็น น้ำก็เย็น ไม่อาบดีกว่า  มัวแต่โยนหัวก้อยในห้องนอน สักพักปู่ลิงตะโกนมาจากระเบียงหน้าบ้านว่า กระเป๋าเงินสีน้ำตาล ของลูกลิงนี่หว่า ตกอยู่ในเรือ ลูกลิงมาดูหน่อย  นายสุวิทย์เขาเอามาคืน ตอนแรกลูกลิงก็ไม่สนใจหรอก เพราะว่าลูกลิงฝากกระเป๋าเงินไว้ที่ออย  ได้ยินตอนแรกยังเฉย ๆ จนปู่ลิงเรียกหาซ้ำสอง ก็เลยเดินไปดูซักหน่อย จริงด้วยกระเป๋าเงินของลูกลิงเอง โอย .. หายไปล่ะ แย่ บัตรอะไรต่อมิอะไร อยู่เพียบ 
  ออย ออย อยู่ไหน บีบคอตายเลย ดีนะ กระเป๋าหล่นในเรือ ไม่หล่นน้ำตอนก้าวข้ามขึ้น-ลงเรือ หรือหล่นหายในตลาด ยุ่งเลยทีนี้   ลูกลิงบ่น เสียงอ่อย ๆ จากออย ตอบมาว่า  
 แหะ แหะ ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจ กระเป๋ากางเกงมันตื้น อ่ะ    เฮ้อ ! บ่นไปก็เท่านั้น ได้กระเป๋าคืนมาก็ดีแล้วล่ะ ว่าแล้วโมเมไม่อาบน้ำซะเลย แปรงฟันอย่างเดียว แล้วเข้านอน คว้าผ้าห่มเพิ่มไปอีกชุด อากาศเย็น ๆ อย่างนี้ น่าจะเอาถุงเท้ามา เท้าเย็น นอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมา พลิกสองทีเอง ยังไม่สุกเต็มที่ ก็หลับผล็อย.. 				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน