พวกพ้อง

Sirawit

               ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในแคว้นไฟ เรย์ นนท์และฟ้า สังกัดอยู่ในทีมที่ 18 ได้รับมอบหมายภารกิจหนึ่งจากคิม ซึ่งเป็นคุณครูของพวกเขาภารกิจนี้คือการเดินทางไปเอาคัมภีร์ของแคว้นดินที่ป่าโชกเลือด ซึ่งต้องเดินทางข้ามแคว้นจากแคว้นไฟไปยังแคว้นดิน

ในภารกิจนี้เรย์ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมโดยคิม แต่นนท์มีความรู้สึกไม่ถูกอกถูกใจอย่างลับๆ ซึ่งคิมได้บอกกับทุกคนไว้ว่า การเดินทางในครั้งนี้อาจต้องใช้เวลาหลายวันเมื่อถึงที่แห่งนั้นก็ควรระวังตัวเองไว้ให้ดี ไม่ควรประมาทเป็นอันขาด ทุกคนรับทราบแล้วจึงกลับไปยังบ้านของพวกเขาเพื่อไปเตรียมอุปกรณ์ในการปฏิบัติภารกิจนี้ 

เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง เวลาก็ผ่านไปร่วมครึ่งชั่วโมง ซึ่งสายจากเวลาที่นัดไว้มาก นนท์ได้เดินทางมาถึงจุดนัดพบในการออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ

        “ขอโทษนะ พอดีระหว่างทางที่ฉันกำลังเดินทางมา ก็ได้พบคุณยายคนหนึ่งโดยบังเอิญ  และช่วยคุณยายถือของแล้วจึงส่งคุณยายกลับบ้าน ก็เลย...” นนท์รีบบอกทุก ๆ คน

         “รู้ไหม ? การที่นายมาไม่ตรงเวลาแบบนี้ มันผิดกับที่พวกเรานัดไว้มาก แล้วรู้ไว้ซะด้วยว่า ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎและกติกานั่นคือสวะ”  นนท์พูดยังไม่ทันจบ เรย์จึงต่อว่านนท์ที่มาไม่ตรงเวลาโดยทันที

         นนท์ไม่พอใจ จึงคิดที่จะไปโต้เถียงกับเรย์ แต่ฟ้ามาห้ามไว้ก่อนที่ทั้งสองคนจะเกิดการทะเลาะกันขึ้น

         “เอาน่า...ทั้งสองคนอยู่ทีมเดียวกันแท้ ๆ อย่าทะเลาะกันเลยนะ”  ฟ้าพูดไกล่เกลี่ย

          “พวกเราจะเสียเวลาอยู่ที่นี่ไม่ได้แล้ว ออกเดินทางกันเถอะ” เรย์พูด

     เมื่อเดินทางไปได้ช่วงหนึ่งจนถึงปากทางเข้าไปในป่าโชกเลือด พวกเขาเจอสัตว์มีพิษ ซุ่มโจมตีอยู่ นนท์วิ่งเข้าไปต่อสู้กับสัตว์พวกนั้นอย่างห้าวหาญ แต่ก็พลาดท่าถูกสวนกลับ แต่เรย์มาช่วยไว้ทันและไล่สัตว์พวกนั้นกลับถิ่นของพวกมันไปได้สำเร็จ หลังจากนั้นฟ้าได้ทำการปฐมพยาบาลโดยการห้ามเลือดและถอนพิษให้นนท์ และเตือนเขาด้วยความเป็นห่วงว่าไม่ให้ทำอะไรวู่วามแบบนี้อีก จากนั้นเรย์ได้เข้ามาตักเตือนนนท์ว่า ไม่ให้นนท์ทำอะไรโดยไม่คิดเพราะมันผิดกฎ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก นนท์ก็สำนึกเพราะรู้ตัวว่าตนเองกระทำผิดจึงยอมรับผิดแต่โดยดี

    ตะวันลับขอบฟ้า เรย์ได้ออกไปหาอาหาร โดยเหลือเพียงแค่นนท์กับฟ้าอยู่เฝ้าแค้มป์กันสองคน นนท์สงสัยจึงถามฟ้าว่า ถึงแม้จะเข้าใจว่าเรย์เก่ง แต่เรย์ก็ชอบดูถูกเขาอยู่เรื่อย ฟ้าจึงเล่าเรื่องพ่อของเรย์ให้นนท์ฟัง และเมื่อตกค่ำก็ถึงเวลานอนพักผ่อน เรย์เป็นคนเฝ้ายามที่ได้ผลัดเปลี่ยนกับนนท์เรียบร้อยแล้ว นนท์นอนนึกถึงเรื่องของพ่อของเรย์ที่ได้ฟังจากฟ้า และนั่นทำให้เขาเริ่มเข้าใจเรย์ยิ่งขึ้น

  ถึงเวลาออกเดินทางอีกครั้ง ทั้ง 3 คนร่วมปฏิบัติภารกิจกันอีก ซึ่งคราวนี้เกิดความสามัคคีมากยิ่งขึ้น                นนท์สามารถปฏิบัติภารกิจได้ดีและไม่ออกนอกลู่นอกทาง แต่เมื่อใกล้ถึงจุดหมายในระหว่างที่ทั้ง 3 คนกำลังพักเหนื่อยกันอยู่ ก็มีโจรป่า 3 คน มาลักพาตัวฟ้าไป นนท์เห็นเช่นนั้น จึงทำท่าวิ่งตามโจรป่าพวกนั้นไป

“ไม่ ! เราต้องปฏิบัติภารกิจต่อไป ถึงต้องสละพวกพ้อง ก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จจงได้”  เรย์พูดและห้ามนนท์ไว้ เพื่อไม่ให้วิ่งตามกลุ่มโจรป่าไป

“ไม่มีทาง ! ฉันไม่ยอมทิ้งเพื่อนแม้แต่คนเดียวโดยเด็ดขาด !”  นนท์พูดเสียงดังแสดงถึงความตั้งใจจริงของเขา

“นายมีอะไรมายืนยันไหมล่ะ ? ว่าถ้าไปช่วยฟ้าแล้วจะปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จน่ะ ดังนั้นภารกิจต้องมาก่อนเท่านั้น” เรย์บอกกับนนท์ด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“แล้วนายจะปล่อยให้ฟ้าถูกจับตัวไปอย่างนั้นเหรอ ! นายจะกล้ายืนยันไหม ว่าถ้าไม่ไปช่วยฟ้าแล้วจะสามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จลุล่วงน่ะ !”  นนท์โมโห

“พวกเราต้องปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงเท่านั้น และฉันน่าจะบอกนายไปแล้วว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎและกติกานั่นคือสวะ”  เรย์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แก !”  นนท์เลือดขึ้นหน้าถึงขนาดชกเรย์จนล้มหงายหลัง

“พอกันที ! ฉันจะไปช่วยฟ้าคนเดียว”  นนท์บอกกับเรย์

“นายจะยอมละทิ้งภารกิจนี้รึ...” เรย์ลุกขึ้นแล้วพูด

“ถึงคนที่ฝ่าฝืนกฎหรือกติกาจะถูกกล่าวหาว่าเป็นสวะ แต่คนที่ไม่เห็นความสำคัญของ  พวกพ้องเป็นยิ่งกว่าเศษสวะเสียอีก”  นนท์พูดกับเรย์

“และฉันไม่ยอมทิ้งเพื่อนแม้แต่คนเดียวโดยเด็ดขาด !”  ก่อนจะจากไปนนท์ได้หันกลับมาบอกเรย์ด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความตั้งใจจริงของเขาอีกครั้ง

คำพูดของนนท์ทำให้เรย์นึกถึงภาพของพ่อตนเองในอดีต ย้อนไปในอดีตเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ระหว่างปฏิบัติภารกิจ พ่อของเรย์ยอมละทิ้งภารกิจเพื่อช่วยเพื่อน ๆ ที่ถูกจับเป็นตัวประกัน เขาดีใจที่ได้ช่วยเพื่อนพ้องกลับมาอย่างปลอดภัยได้ทุกคน แต่นั่นเป็นผลทำให้การปฏิบัติภารกิจไม่สำเร็จ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่ทำให้เรย์ถึงยึดติดกับกฎและกติกายิ่งนัก

เมื่อนนท์มาช่วยฟ้าด้วยตัวคนเดียว แล้วต่อสู้กับโจรป่าที่เฝ้ารังลับอยู่ คน และเกือบเสียท่าถูกโจรป่าเล่นงาน แต่ในที่สุดเรย์เข้ามาช่วยไว้ได้ทัน เพราะเขาสำนึกได้จึงมาช่วยนนท์ แต่นั่นทำให้เรย์ถูกฟันเข้าที่แขนซ้าย แต่ไม่เป็นอะไรมาก ทั้งสองจึงเข้าสู่กับโจรป่า และสังหารโจรป่าทั้งสองได้ในที่สุด

เรย์พักเหนื่อย แต่อาการบาดเจ็บของเขายิ่งรุนแรงขึ้น นนท์จึงใช้ชุดปฐมพยาบาลที่ได้รับ มาจากฟ้าช่วยเรย์เอาไว้ เรย์คิดอยู่ในใจถึงความสำคัญของเพื่อน เขาได้รับรู้ว่าถ้าไม่มีฟ้าที่คอยรักษาบาดแผลให้ในระหว่างทำภารกิจ ทั้งเขาและนนท์ก็ไม่สามารถปฏิบัติภารกิจมาได้จนถึงตอนนี้    

“ฉันขอโทษ...” เรย์หันไปขอโทษนนท์ เขาสำนึกผิดในความผิดพลาดของตน

“ไม่เป็นไร...ฉันก็ขอโทษด้วยเหมือนกัน แล้วก็ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้นะ” นนท์รับคำขอโทษและบอกขอบคุณเรย์ที่เข้ามาช่วยเขาไว้ในขณะที่กำลังแย่เหมือนกัน

หลังจากนั้นทั้งคู่จึงบุกเข้าไปในรังลับของโจรป่าที่ขังฟ้าไว้ และได้ร่วมกันต่อสู้ด้วยกัน ความร่วมมือของทั้งคู่ ทำให้ฝ่าเข้าไปช่วยฟ้าได้ ฟ้าแปลกใจและแอบยิ้มเล็ก ๆ ที่ทั้งสองสามารถเข้าขากันได้ดีขนาดนี้     

เมื่อช่วยฟ้าได้แล้ว ทั้ง 3 คนก็ได้ร่วมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้วยกันอีกครั้ง พวกเขาได้พบกับคัมภีร์ของแคว้นดินและได้นำสิ่งนั้นกลับไปยังหมู่บ้านด้วย เมื่อทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาสำเร็จแล้ว ทั้ง 3 คน ได้เดินทางออกจากป่าโชกเลือดได้อย่างปลอดภัยและกลับหมู่บ้านด้วยกัน  อย่างเป็นปกติสุข

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจนั่นทำให้เรย์ได้รับรู้ว่า ต่อให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมานั้นสำคัญแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนพ้องที่ร่วมปฏิบัติภารกิจนั้นด้วยกัน  ก็ไม่สามารถทำให้ปฏิบัติภารกิจนั้นสำเร็จลุล่วงได้

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน