นิทานพื้นบ้านร้อยตอน เรื่อง: สิบสามอภินิหาร ตอน กำเนิดสมุทรดารา 3

อมตะลักขณา

การเสด็จลงจากสรวงสวรรค์ สำหรับเทพ ขั้น มหาเทพ นั้นถือเป็นภารกิจ ที่สำคัญระดับฟ้าดิน เนื่องจาก ท้าวลัคนาเทพ ได้ทำนายทายทักไว้ว่า เมื่อกาลแลเวลา บรรจบ แต่ รัตติกาล เมื่อนั้น ดินแดน มหาอัคคี จะกำเนิด แลเมื่อกาลนั้นผ่านพ้น แดนนั้น จะเปลี่ยนเป็น มหาวารี เมื่อ มหาวารีกำเนิด จะมีผู้มีบุญญา สร้างดินแดนขึ้นใหม่ แลจำเป็นต้องอาศัย ทิพย์โอสถ สำหรับรักษาดินแดนให้คงไว้ซึ่งสมุทรวารี (สายน้ำอันป็นนิรันดร์) เพื่อป้องกันการกลับมาของ ปีศาจกินภวังค์ แต่ทิพย์โอสถนั้น ต้องดำรงอยู่ทั้ง อัคคี แล วารี เพื่อรอคอยเวลา รวมเข้ากับผู้พิทักษ์ ซึ่งจะกลืนดวงชะตาของเทพแลปีศาจไว้ด้วยกับตน
                      ด้วยเหตุนี้องค์อัมรินทร์ จึ่ง รับสั่งให้ท้าวสุนทรสมุทร ลงมาจุติเป็น พฤกษาสมุทรดารา ให้รากหยิ่งถึงแกนโลก กลั่นโอสถทิพย์ ละลายเข้ากับอัคคีแล วารี เพื่อธำรงไว้ซึ่ง แดนกลาง ป้องกันการไหลเวียนของอัคคีแล วารี ไม่ให้เกิดการสอดแทรกแล ระเบิดเป็นจุล 
                      มหาเทพสมุทรยันตรา ได้ฟังคำตรัสดั่งนั้น จึ่ง เสนอพระองค์เสด็จตามคุ้มกัน พฤกษาสมุทรดารา ให้ปลอดภัยจาก ปีศาจทั้งปวง เนื่องจากท้าวสุนทรสมุทร จะมิมีเทพฤทธาใดๆ ระหว่างที่เนรมิตตอนเป็นพฤกษา
                      ครั้น ท้าวสุริยัน ปราบปีศาจกินภวังค์สำเร็จ แลเสด็จสู่สวรรค์ มหาเทพสมุทรยันตรา ได้เนรมิตห้วงสมุทรม่านวารี เพื่อกำบังตา พฤกษาสุมทรดารา เพื่อรอคอยการรวมกันของผู้พิทักษ์ไว้ ใต้สมุทรดินแดนแห่งนี้ แลได้สร้างเทวาลัยองค์อัมรินทราธิราช  หลอกตาผู้พบเห็น
                      พระเจ้ากัลปังหา ครั้งเมื่อสร้างนคร ได้ พบเทวาลัยฯ ด้วยความไม่ตั้งใจ เนื่องจากทรงเสด็จ ตรวจดูแล ดินแดน ทรงแลเห็นเทวาลัยฯ อยู่เหนือม่านน้ำในห้วงสมุทรนี้ เพียงพระองค์เดียว ทรงหลับพระเนตร ตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อให้เทวาลัยฯ แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพกราบไหว้ของข้าเมืองโดยทั่วกัน จึงเกิดเหตุ อัศจรรย์ ม่านน้ำเปิดออกเป็นวงกว้าง แหวกสายนทีออกโดยรอบ ปรากฎเป็นเทวาลัยองค์อัมรินทราธิราช ฉลององค์ทรงกษัตริย์ศึก สี่กร สองพักตร์ ทั้งองค์เป็นสีขาวเพชร แวววับ ราวกับ มณีหยาดฟ้า เหล่าข้าราชบริพารแล พสกนิกรเห็นดังนั้น พากันก้มบังคม กราบไหว้ แลสรรเสริญ พระเจ้ากัลป์ปังหาเป็น เทพกษัตริย์ ผู้มีบุญญาบารมี โทยทั่วกัน
                      ครั้งนี้ พระเจ้ากัลปังหาเสด็จถึงยังเทวาลัย เป็นเวลาเที่ยงวัน พอดี ทรงสักการะ บูชาด้วยเครื่องประกอบพิธี ครบตามธรรมเนียม ขณะทรงเสด็จปิดทองยังองค์เทวาลัยฯ กลับบังเกิด ฟ้ามืด ห้วงน้ำกลับปิด พระเจ้ากัลปังหา พระนางดาราเทพ แลเหล่าข้าราชบริพาร โดนขังอยู่ในห้วงน้ำ เหตุการณ์ยังมิทันสงบ องค์เทวาลัยฯ กลับเลื่อนถอยหลัง ปรากฏเป็นสายน้ำพุ่งขึ้นจากห้วงน้ำ หลังจากพายุวารีสงบกลับบังเกิดเป็น พฤกษา สีเขียวสด ลำต้นสูงใหญ่ กิ่งก้านแผ่เต็มห้วงสมุทรเทวาลัยฯ สร้างความอัศจรรจ์ใจแก่พระเจ้ากัลปังหาแล ข้าราชบริพารเป็นยิ่งนัก
                      เสียงหนึ่งบังเกิดจากต้นพฤกษานั้น 
                      เราคือ สมุทรดารา พฤกษา ผู้สร้างโอสถทิพย์ เพื่อปกป้อง วารีอันเป็นนิรันดร์ บัดนี้ได้บังเกิด ผู้พิทักษ์ แล ปีศาจ ขึ้น เจ้าจงตั้งจิตอธิษฐาน นำเราไปหาผู้พิทักษ์ บัดเดี๋ยวนี้
                      สิ้นเสียงนั้น พระเจ้ากัลปังหา ยกพระหัตถ์ ตั้งจิตอธิษฐาน รับพฤกษาสมุทรดาราสู่พานแก้ว พฤกษาสมุทรดาราเมื่ออยู่บนพานแก้วกลับ เนรมิตตอนเหลือลำต้นเล็กเพียงพอขอบพาน
                      คืนนั้น พระเจ้ากัลปังหา สนทนากับ พฤกษาสมุทรดารา จึ่งได้เข้าพระทัยว่า ที่โอรส สินนที ก็คือ ดาวบัลลัยกัลป์ มาจุติ เพื่อปราบปีศาจกินภังค์ในภาคของครึ่งมนุษย์ ครึ่งปีศาจ ซึ่งกำลังสำแดงเดช อยู่ในพระนครตอนนี้ พระนางดาราเทพรู้สึกเป็นห่วง พระโอรส ขึ้นมาทันใด แต่ก็ไม่สามารถ เสด็จกลับในขณะนี้ได้ พระเจ้ากัลปังหา ทรงตรัสกับพระนางดาราเทพ ด้วยท่าที ไม่ประหวั่นพรั่นหรึงแต่อย่างใด
                      ลูกของเรา เอาตัวรอดได้ เจ้าอย่าได้ห่วง อย่าได้ดูแคลน สติ แลปัญญา ของลูกเราสิ ดารา
โปรดติดตามตอนต่อไป ...				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน