กว่าจะรู้ ตอน 2

วิญญาณศิลา

กว่าจะรู้...
เอี๊ยดดดดดดดดดดด เสียงเบรค อย่างฉับพลันของเซฟิโรสีเหลืองคันหรู เมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหน้ารถคันงามอย่างรวดเร็ว เอี๊ยดดดดด.ดดดด  โครม 
เอ๊ก อี้ เอ๊ก เอ๊ก เสียงไก่ ขันยามเช้า ดวงอาทิตย์พึ่งโผล่พ้นขอบฟ้า 
ริมรั้วบ้านสวนทรงไทย
คุณเนตรนภา พร้อมสาวใช้ออกมาตักบาตรพระ หน้าบ้านเป็นประจำทุกเช้า
จีวรพระเหลืองอร่าม แลดู สงบเหยือกเย็น ทำให้เป็นที่ศรัทธาของผู้พบเห็นยิ่งนัก อากัปกิริยารับบาตร ก็สำรวมเหมาะกับสมณะเพศ เมื่อรับบาตรเสร็จท่านจึงเดินไปข้างหน้าเพื่อโปรดสัตว์ต่อไป โดยคุณเนตรนภา ไหว้ อย่างสำรวมเมื่อใส่บาตรเสร็จ หันหลังกลับเพื่อเข้าบ้าน พร้อมกับ เจอหน้าเปรมกลมลูกชายของตนเอง เดินยิ้ม ลงมาจากบนเรือน 
คุณเนตรนภา ยิ้มกริ่ม ดั่งกับรับผลบุญจากการใส่บาตรพระเมือตะกี้ พร้อมทักทายลูกชายตน  ไงพ่อเปรม เมื่อคืนไปหิ้วลูกสาวใครมา ดูขมุกขมอม ไปทั้งตัว มาถึงหลับเป็นตายเลย
อ้อ ทิชา ลูกศิษย์ ที่ผมที่มหาวิทยาลัยเองครับ ลูกชายคนโปรดของคุณเนตรนภาไม่พูดเปล่า เดินตรงเข้าไปโอบกอดผู้เป็นแม่ของตนทำเป็นเหมือนเด็กตัวเล็ก ๆ ขอความรักจากแม่ ตักบาตรหรือครับแม่
อืมม ตื่นเช้า ๆ ทำบุญบ้าง  แต่ยังไม่บอกเลยเรื่องมันเป็นมายังไง
ผมไม่รู้หรอกว่า เธอไปทำอะไรมาเห็นอยู่ดี ๆ ก็วิ่งตัดหน้ารถผม ดีน่ะที่ผมเบรคทัน แต่เธอก็สลบก่อน ดีนะไม่เป็นอะไรมาก ทำให้ผมต้องแบกขึ้นรถกลับมาที่บ้านเราก่อนนะครับคุณแม่
คุณผู้ชายขา ผู้หญิงที่คุณผู้ชาย พามาเมื่อคืน ตื่นแล้วค่ะ สาวใช้ เดินตรงมาบอกแม่ลูกที่กำลังสนทนากันอยู่
งั้นผมขอตัวไปดูลูกศิษย์ผมก่อนนะครับคุณแม่   เชิญจ๊ะพ่อเจ้าประคุณ
เออ นี่ คุณเนตรนภา พูดบอกลูกชายของเธอก่อนเดินไป ให้เขาอาบน้ำอาบท่าให้ดีก่อนนะ แล้วมากินข้าวเช้ากัน เปรมกมลยิ้มให้กับผู้เป็นแม่ของตนก่อนเดินไป
ทิชา ตื่น มาอย่างกำลังคิดว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับตน เมื่อคืนตนกลับมาถึงบ้าน แล้วทะเลาะกับพ่อของตนแล้วตนเอง ก็วิ่งหนีออกมาจากบ้าน อย่างไม่มีจุดหมาย แล้วจู่ ๆ ตนเองก็เห็นแสงไฟวูบหนึ่ง จากนั้น ก็ไม่รู้อะไรเลย จนถึงในขณะนี้ ตนอยู่ไหนกัน โรงพยาบาล ก็ไม่ใช่ สถานีตำรวจก็ไม่ใช่ แล้วมันที่ไหนกัน ก่อนที่ หล่อนจะคิดอะไรมากไปกว่านี้ เปรมกมล ก็เดินเข้ามา
อาจารย์เปรม ทิชาอุทานขึ้นเบา ๆ เมื่อหันไปพบกับเปรมกมลที่เดินมาถึงพร้อมกับสาวใช้เขาที่เดินตามมา
ตื่นแล้วเหรอ ทิชา เปลมกมล ทักทาย เป็นไงบ้านครูหลับสบายป่าว
ยังไม่ทันที่ทิชา จะตอบอะไรออกไป ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดูสิเนื้อตัวมอมแมม ไปหมด เปรมกมลบอก พร้อมกับให้สาวใช้ พาทิชาไปอาบน้ำ ใช้ชุดของคุณอร ก่อนก็ได้นะ
คุณอร ทิชา ทวนคำของอาจารย์หนุ่ม น้องสาวครูเอง ตอนนี้ไปเรียนต่อที่อเมริกา เสื้อผ้าเลยไม่มีใครใช้ เธอใช้ก่อนก็ได้แล้วไปกินข้าวเช้าพร้อมกันนะ พูดจบเปรมกมลก็ เดินนำหน้าออกไป แล้วให้สาวใช้พาทิชาไปอาบน้ำ ให้เรียบร้อย
ที่โต๊ะรับประทานอาหาร คุณเนตรนภา และ เปรมกมล นั่งรอทิชาอยู่ก่อนแล้ว
นี่ แม่อาจารย์เอง เปรมกมล แนะนำ ทิชา ไหว้อย่างประหม่า พร้อมกับแลดูมายังอาจารย์หนุ่ม ที่แนะนำเขากับแม่เขาเช่นกัน นี่ ทิชา ลูกศิษย์ที่มหาวิทยาลัยผมเองแหล่ะครับ
ไหว้พระเถอะลูก
ค่ะ
มา มากินข้าวกันก่อน มีอะไรแล้วค่อยคุยกันทีหลัง คุณเนตรนภา เชื้อเชิญเด็กสาว อย่างเป็นกัน 
หลังจากรับประทานอาหารมื้อเช้าแล้ว 
คุณเนตรนภา เปรมกมล พร้อม ทิชา ก็มานั่งสอบถามเรื่องราวกันที่ห้องรับแขก
เรื่องมันเป็นยังไง หนู ถึงมาสลบอยู่หน้ารถของพ่อเปรม ลูกชายป้าล่ะ คุณเนตรนภา ถามเรื่องราวจากทิชาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันแอง เหมือนแม่ กับลูกสาวคุณหนึ่ง
ทิชา จึงค่อยพอนึกได้ว่า เมื่อคืนหลังจากที่ตน วิ่งออกจากบ้านมาก็ได้ถูกรถเฉี่ยว จน สลบไป ที่แท้เป็นรถของอาจารย์เปรมกมลนี่เอง
ทิชา มีแววตาเหม่อลอย เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องราวเมื่อวานนี้พร้อมกับเริ่มเล่า เมื่อวานตอนบ่าย หนูขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ ไปเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า พร้อมกับสัญญากับที่บ้านว่าจะไม่กลับให้มืดนัก พอดีไปเจอกับเพื่อนสนิทสมัยมัธยม ที่ได้เจอกันมานาน พอเจอกัน ก็ทักกัน  จึงได้รู้ว่า เธอกำลังจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ โดยไปเที่ยวบินตอน 5 ทุ่ม ครึ่ง เพื่อนหนูชวนหนูไปส่งขึ้นเครื่อง เพราะ ไปคราวหนี เพื่อนคนนี้ เขาจะไปนาน อีกหลายปีคงไม่ได้เจอกัน หนูก็เลยคิดว่า ไปส่งเพื่อนขึ้นเครื่องคงไม่เป็นไรมาก จึงไปส่งเพื่อนขึ้นเครื่องบิน แล้วนั่งรถ TAXI กลับบ้าน  พอถึงบ้านทิชา เงียบสักพักพร้อมใบหน้าที่เริ่มเศร้าขึ้นมาทันที พอถึงบ้าน พ่อหนูไม่ยอมฟังเหตุผลหนู มาถึงก็ผลักหนูไปติดข้างฝาบ้าน และตีหนูด้วยก้านมะยม หล่อนก้มหน้า เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา  ไม่ฟังเหตุผลหนู หนูเจ็บและโกรธพ่อหนูมาก จึงได้วิ่งออกมาจากบ้านแล้วแล้วแล้วเพียงแค่นี้  
ทิชา ก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร จนอาจารย์เปรมกมลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต้องหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาส่งให้เธอ
ในห้องรับแขก เงียบอยู่สักพัก จนคุณเนตรนภา ต้อง เอ่ยปากออกมา แล้วหนูคิดว่าไงล่ะ
หนูคิดว่า พ่อไม่รักหนู ถึงทำกับหนูอย่างนี้ ทิชา พูดไปสะอื้นไป
ไม่จริงหรอก คุณเนตรนภา เอ่ยขึ้นมาลอย ๆ เพื่อสะกิดใจ ทิชา
ทำไมคะ คุณพ่อหนู ตีหนู ยังกะไม่ใช่ลูกของท่าน หนูเจ็บนะค่ะ ขนาดคุณแม่มาห้าม คุณพ่อก็ไม่ยอมหยุด
 ที่พ่อหนู ตีหนูให้เจ็บวันนี้ เพื่อไม่ต้องการให้หนูไปเจ็บในวันข้างหน้า คุณเนตรนภา เริ่มให้สติ ทิชา หากวันนี้ พ่อหนูไม่ตีหนู แล้วหนู ไปเกิด อันตรายในวันข้างหน้า คนที่จะเสียใจ ไม่ใช่หนู แต่จะเป็น ตัวคุณพ่อหนูและแม่หนูเอง ทิชา ฟังอย่างเริ่มคิด หนูกลับบ้านมืด ๆ ค่ำ ๆ พ่อแม่ทุกคนย่อมเป็นห่วง กลัวว่า จะเกิดอันตรายกับลูกตนเอง ต้องอดหลับ อดนอน เพื่อรอเวลาที่ให้ลูกตัวเองกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
อันตรายตอนกลางคืนมีมากมาย เขาย่อมห่วงลูกตนเองเป็นธรรมดา
หนูคงไม่รู้หรอกว่า คนที่เขาตีหนู หนูไม่ได้เจ็บคนเดียว ตัวคนตีก็เจ็บด้วย
ป้า เคยตี เจ้าเปรม ลูกชายตัวดีของป้า คุณเนตรนภา พูดพลางชำเลือง ไปทางอาจารย์เปรมกมล
มือป้าตี แต่ใจป้าเจ็บ เจ็บเหมือนใครเอาอะไรแหลม ๆ มาทิ่มที่ใจป้า แต่ป้าต้องทำ
ใช่ แล้ว ทิชา ถ้า แม่ไม่ตี เมื่อวันนั้น อาจารย์ คงไม่ได้มาเป็นอาจารย์สอนเธอในวันนี้แน่นอน อาจารย์เชื่ออย่างนั้น เปรมกมล สนับสนุนแม่ตนเองพร้อมกับส่งสายตายิ้มให้ลูกศิษย์ของตัว
ทิชา เงียบพักใหญ่ แล้วจะให้หนูทำอย่างไรล่ะค่ะ หล่อนก้มหน้าที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ถามอย่างเบา ๆ
สองแม่ลูกหันสบตาแล้วยิ้มให้กัน กลับไปถึงบ้านกราบเท้าคุณพ่อ แล้วสัญญา กับท่านว่า จะไม่ทำอย่างนี้อีก คุณเนตรนภา พูดสอน อย่างให้ความอบอุ่นแก่ทิชา ทางวาจา
พ่อแม่ ทุกคน ล้วนรักลูกของตัวเอง หากโกรธ ก็โกรธได้ไม่นานหรอก เชื่อป้าเถอะ
เดี๋ยวอาจารย์จะไปส่งที่บ้าน เปรมกมล อาสาเป็นสารถี ไปส่งที่บ้าน ทิชา ไป
ค่ะ  ทิชารับแต่โดยดี พร้อมกับกราบเท้า ขอบคุณ คุณเนตรนภา ที่ช่วยเตือนสติ ตน
จ๊ะ คุณเนตรนภา ลูบหัว ทิชาเบา ๆ มีปัญหาอะไร ก็มาคุยที่บ้านป้าได้เสมอนะ ดีซะอีก ป้าจะได้มีเพื่อนคุย เพราะเจ้าเปรม ลูกป้าไม่ค่อยอยู่บ้านหรอก ออกทุกวัน ไม่วายที่คุณเนตรนภาจะแหนบลูกชายของตน ทำให้ทิชายิ้มออกมาบ้าง 
ขับรถพา หนูทิชา เขากลับบ้านดี ๆ ล่ะพ่อเปรม คุณเนตรนภา เดินออกมาส่งทิชา ที่รถเซฟิโร สีเหลืองคันหรู
ครับคุณแม่ เปรมกมลยิ้มรับคำ พร้อมกับเคลื่อนพาหนะคู่ใจ ออกจากประตูรั้วบ้านไป
.....................
เหตุการณ์ผ่านพ้นไปด้วยดี หรือ ?				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน