กระท่อมใบตอง - บ้านดวงใจ

keekie

รุ่งเช้า ฉันตื่นทันเห็นดวงตะวันทักทายขอบฟ้า
	แม้ดวงไม่กลมโตสุกปลั่งเหมือนดั่งตะวันหน้าหนาว 
	แต่ก็สดใสแรระบายฟากฟ้าและขุนเขาเป็นสีกุหลาบ มลังเมลืองจับตา
	"ในเมืองใหญ่ เราแทบจะไม่มีเวลาแหงนหน้ามองฟ้าเลยนะลูก 
	ยามเช้านี่เป็นเวลาที่ดีที่สุด เสียดายที่พ่อทำงานดึกดื่นจนสว่าง 
	พอเวลาที่ดีที่สุด พ่อก็กลับมอบมันให้กับการนอนอุตุเสียนี่"  
	พ่อพูดพลางจัดเตรียมจานสีสำหรับเขียนรูป
	ฉันช่วยพ่อเตรียมกระดาษและเกิดอยากวาดรูปสีน้ำขึ้นมาบาง
	พ่อเลยสละกระดานรองเขียนให้ และใช้ฝาเรือแพแทน 
	"คงจะได้จังหวะการไหลของสีที่แปลกๆ "  พ่อว่า
	เราวาดรูปยามเช้ากันอย่างสนุกสนาน  อาชีวันลงมาหุงข้าว
	หอบผักหญ้ามาด้วย "ตื่นเช้าเหมือนกันหรอ" คงแปลกใจที่เราตื่นกันแต่มืดอย่างนั้น
	"ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่ มักจะมานอนอุตุเสียมากกว่า" 
	"ก็เขามาพักผ่อนกันนี่"  พ่อพูด
	"ใช่ มาพักผ่อนจริงๆ ไม่ขยับตัวไปไหนเลย ดื่ม กิน นอน บางคนก็ว่ายน้ำนะ
	น่าเห็นใจ เขาทำงานมามากแล้ว พอมาป่าก็เลยนอนลูกเดียว" 
	
	"เดี๋ยวให้หนูช่วยทำกับข้าวนะคะ .. "  ฉันบอก
	"ดี แต่เขียนรูปให้เสร็จนะ ลองดูสิ เวลาอย่างนี้เขียนยากนะ 
	หนูต้องคุมโทนสีให้ดี เขียนชุ่มๆ นะ สวย อือม์ ดีนี่ "  อาชีวันยื่นหน้าเข้ามาดูรูปที่ฉันวาด
	"หนูเข้าใจธรรมชาติของสีน้ำดีแล้วนี่ มันเส้นผมบังภูเขานะเขียนรูปนี่ สำคัญคือบรรยากาศ อารมณ์ ความรู้สึก ไม่ใช่รายละเอียด" 
	"ดูของผมก่อน ท่าจะเน่าเสียแล้ว .. "  พ่อว่า 
	"คุณใจร้อนไปนะ รอให้หมาดหน่อยสิ นี่แหละเขาว่า เรื่องศิลปะนี่ผู้ใหญ่สู้เด็กไม่ได้หรอก 
	มันใสสดและมีจินตนาการกว่า คุณมันเรียลิสติก แต่ดันจะฝันเฟื่อง"  อาชีวันพูด
	"เออ ท่าจะจริง แย่จัง เดี๋ยวเอาใหม่"  พ่อยอมรับ มาดูรูปของฉันแล้วชมเปาะ 
	"มันสดใสดีจริงๆ ไม่ต้องเกลี่ยแล้วนะ ดวงตะวันน่ะ สดดีแล้ว เออ สู้ลูกไม่ได้เสียแล้ว 
	เอ .. เขียนรูปนี่มันเหมือนชีวิตเหมือนกันนะนี่ .. " 
	"เหมือนยังไงหรอคะ?"  ฉันสงสัยเสียจริง พ่อมักลากเข้าเรื่องชีวิตจนได้ทุกเรื่องแหละ พิลึกจริง
	
	"อ้าว ก็จังหวะไง จังหวะและโอกาส สีน้ำนี่จังหวะพลาดแล้วหมดโอกาสเลย เปียกโชกไปก็ไม่ได้  แห้งไปก็ไม่ได้ แข็งกระด้างเลย ต้องจังหวะสีกำลังหมาดพอดี แล้วก็ต้องใช้ความกล้าด้วย กล้าระบาย กล้าทิ้งขาว เปิดช่องว่างให้มีพื้นที่หายใจ มีแสง มีอากาศ ทีป้ายก็ต้องแม่นย้ำ มั่นใจ ช้าไม่ได้ จับจดไม่ได้ เห็นไหม? ชีวิตก็ต้องเป็นอย่างนี้ เราจะพลาดโอกาสไปเลย เน่าเสียไปเลย 
	แบบรูปนี้สีมันหนักไป ไม่พอดี เอ๊ะ เอาไปเอามาก็ลงที่คำว่า พอดี .. เออ ดีจริงๆ พอดีนี่เรียกว่า สายกลาง ถ้าเราวางชีวิตไว้ตรงสายกลาง มันก็จะดีนะลูก .. .. .. 
	.. พอดี .. เออ คำนี้ดีจริงๆ "  พ่อพึมพำ หันไปคว้ากระดาษจดบันทึก 
	"นึกอะไรได้แล้ว .. " พ่ออุบอิบในคอ " พอดี .. "  พ่อรีบเขียนสิ่งที่ตัวเองคิดได้ 
	จมอยู่ในความเงียบครู่ใหญ่ ก็เงยหน้าขึ้นยิ้มพราย ร้องเรียกหาอาชีวันเสียงดัง ..
	"ฟังนะ ชีวัน เข้าท่าไหม? ผมเพิ่งเขียนได้ถูกใจวันนี้ละ .. " 
	
	อาชีวันฟังไม่ฟังก็ไม่รู้ กุกกักอยู่หน้าเตาไฟ แต่พ่อก็รีบอ่าน ยังกะกลัวว่า 
	ความคิดนั้นมันจะหายไปทันทีทันใดอย่างนั้นแหละ .. 
	' สันติสุขแห่งจิตใจ 
	เธอสร้างได้ด้วยความพอ
	พอจิตพอใจต่อ
	สิ่งที่มี สิ่งที่เป็น
	สงบ เงียบ งาม ง่าย
	ไม่ฟูมฟายในทุกข์เข็ญ
	ชีพร้อนก็ผ่อนเย็น
	ปรับหัวใจให้พอดี' 
	"โอโฮ ยอดไปเลย เขียนได้ไงน่ะ รวดเร็วทันใจ " อาชีวันก็พลอยเป็นไปอีกคน
	"ผมเขียนมั่ง .. 
  
	วันนี้คือความจริง 
	เป็นความจริงยิ่งกว่าฝัน 
	ชีวิตคือหนึ่งวัน 
	มากกว่านั้นอาจไม่มี
	ฝันพรุ่งจุ่งมุ่งไป
	หาที่ไหนวันพรุ่งนี้
	ทำเถอะถ้ามันดี
	ทำวันนี้ให้งดงาม "
	"โอ๊ย เยี่ยมนี่ เรามาเขียนให้จบเล่มกันเลยเป็นไง"  พ่อว่า
	เช้านั้นเราเลยไม่ได้รูป แต่มีบทกวียาวเหยียดถึงสิบสี่บทแทน 
	แทบไม่กินข้าวกินปลาและออกไปไหน
                                               - พิบูลย์ศักดิ์  ละครพล -				
comments powered by Disqus
  • nig...

    5 กุมภาพันธ์ 2549 13:05 น. - comment id 89396

    55.gif
    
    พี่กี้คับ ขอคั่นรายการหน่อยนะคับ
    มีงานพี่คมทวนคันธนู มาฝากคับ 
    
     มือสานมือคือมิตรสานจิตมั่น
           ฝันสานฝันเพื่อฝ่าฝูงห่าโหง
           รักสานรัก จักเอื้อม ใจเชื่อมโยง
           ผลาญโคตรโกงโคตรกินแผ่นดินกู
           
           เท้าสืบเท้าก้าวรุดยังจุดหมาย
           ตายเป็นตายตาต่อตาต้านหมาหมู่
           แสงสาดแสงแจ้งจำการย้ำรู้
           สู้เพื่อสู้เพื่อสร้างหนทางเดิน
           
           มาเถิดมาฟ้าหมองย่อมผ่องฟ้า
           ขอเพียงกล้าแกร่งประสานร้อยนานเนิ่น
           ชูธงธรรม นำทัพศีลไม่หมิ่นเมิน
           เสียงสรรเสริญ แซ่ซ้อง จึงก้องไกร
           
           มือกุมมือถือเหมือนกุมเพื่อนโอบ
           ไล่เหล่าโลภล้างล่าพวกสาไถ
           โคตรทักษิณปลิ้นปลอกต้องออกไป
           อธิปไตยเต็มผืนต้องคืนมา
           
           คือเราผู้เข้ารวม สำนึกร่วมไม่โรยรา
           เราผู้เป็นภูผา ขลังเข้มแข็งด้วยแรงคน
           แรงที่หวังพลีทอด มิถอยถอดแม้ทุกข์ทน
           ช่วงโชติเขาโฉดฉน แด่ผืนแดงแด่แผ่นดิน
           
           แน่นเนืองถึงเบื้องหน้า ทั้งแน่นหนาเต็มธรณินทร์
           จักสู้จอมทุศิณ อัครยำหยันย่ำยี
           เปล่งเสียงสำเนียงซึ่ง ขลังขังขึงสามัคคี
           สำเนียงทุกเสียงนี้ จักปลุกให้เมืองไทยฟื้น
           สำเนียงทุกเสียงนี้ จักปลุกให้มวลไทยฟื้น
    36.gif
  • กุ้งหนามแดง

    6 กุมภาพันธ์ 2549 09:11 น. - comment id 89402

    :)  วันพักผ่อนกับการวาดภาพ ก็ผ่อนคลายไปอีกแบบน่ะค่ะ..ถ้ามีมิตรสหายร่วมสนทนายิ่งเยี่ยมค่ะ..
    ..
  • แสงไร้เงา

    9 กุมภาพันธ์ 2549 05:11 น. - comment id 89433

    แวะมาอ่านค่ะ
    
    
    36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน