เพลงรัก เพลงละคร ตอนที่4

เก่งกาจ

ทำไม !ทำไม! ต้องทำเป็นไม่รู้จักฉัน ทำไม!โดมตวาดเสียงดัง พร้อมมือก็ปัดของกระเด็นกระดอนไปทั่วห้อง
	เมื่อสงบสติอารมณ์ ก็ทรุดลงนั่ง พร้อมน้ำตาที่ไหลรินออกมา เขาปัดน้ำตาทิ้ง พร้อมทุบพื้นเพราะในใจลืมผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เสียที
	ภาพในวัยเด็กของโดมผุดขึ้นในความทรงจำ ในตอนนั้นเป็นตอนเย็นที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งตอนนั้น ทั้งโดมและเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยังไม่มีผู้ปกครองมารับ  ทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นประถมหก
	โดมมักจะพาเด็กผู้หญิงคนนี้มาที่ที่ห้องดนตรี ห้องนี้มีเปียโนตัวโปรดของเขาตั้งอยู่
	มีอะไรหรือโดม พาเรามาที่ห้องนี้ทำไมเด็กผู้หญิงคนนั้นถามโดมพร้อมยิ้มให้เขา
	ฉันมีอะไรจะให้เธอโดมกล่าว จากนั้นหยิบสมุดที่มีตัวโน๊ตเพลงขึ้นมา และบรรเลงเพลง ๆ หนึ่งขึ้น 
เพลง ๆนั้นคือเพลง First love ที่เขายกให้ยาหยีนั่นเอง โดมเล่นพร้อมมองเด็กหญิงคนนั้นด้วยความรู้สึกรักและหวนแหนสุดใจ
	ทันทีที่เล่นเพลงนี้จบโดมก็เดินเข้าไปหาเด็กผู้หญิงคนนั้น
	เพราะจัง เพลงนี้ฉันไม่เห็นเธอเคยเล่นเด็กหญิงคนนั้นกล่าว
	เพลงนี้ฉันแต่งมันเองโดมกล่าว พร้อมยิ้มให้เด็กหญิงนั้น
	จริงเหรอ เก่งจังเด็กหญิงชมโดม
	จริงสิ  ฉันแต่งมันเพื่อเธอนะโดมกล่าว
	จริงเหรอ?เด็กหญิงคนนั้นร้องอย่างยินดี พร้อมจับมือโดมขึ้นมากุม โดมได้แต่เขิน
	จริง ฉันจะอัดเพลงนี้ใส่เทปให้เธอนะ โดมกล่าวอย่างเขินอาย
ดีจ๊ะ ว่าแต่เธอตั้งชื่อเพลงนี้หรือยังเค้กเอ่ยถามทันที่นึกได้
ยัง เธอช่วยตั้งชื่อให้หน่อยสิโดมตอบ พร้อมยิ้มให้เค้ก
อือ... First love ดีไหมเค้กทำท่านึกก่อนตอบแล้วยิ้มออกมาเพราะถูกใจชื่อนั้น
First Love หมายถึงรักแรกอย่างอย่างนั้นหรือ ทำไมเธอถึงตั้งชื่อนี้ละเค้กโดมเอ่ยถามประโยคสุดท้ายเหมือนต้องการรู้ความในใจเด็กหญิง
ไม่บอกเค้กส่ายหน้า พร้อมยิ้มให้โดมอย่างเขินอาย
เสาร์นี้เธอว่างไหมโดมกล่าว พร้อมมองหน้าเด็กหญิงด้วยแววตามีความหมาย
	ว่าง ทำไมหรือเด็กหญิงเอ่ยถาม พลางมองเพื่อนชายด้วยแววตาสงสัย
	เรามาเจอกันที่สวนสาธารณะแถวบ้านฉัน ฉันจะให้เทปนั้นกับเธอโดมเอ่ยอย่างรู้สึกเป็นสุขใจ
	ได้สิแล้ววันเสาร์ เจอกันนะ เด็กหญิงคนนั้นกล่าว พร้อมมองไปที่ประตู พ่อแม่ของเธอมารับแล้ว เธอจึงหันมาบอกโดมว่า
	พ่อกับแม่ฉันมารับแล้ว ฉันกลับบ้านก่อนล่ะนะเด็กหญิงคนนั้นกล่าว พร้อมเดินจากไป ก่อนกลับ โบกมืออำลาเพื่อน โดมมองตามเพื่อนสาวนั้นด้วยความรู้สึกที่สุขใจยิ่งนัก
	วันเสาร์ที่โดมกับเด็กหญิงผู้นั้นเฝ้ารอก็มาถึง โดมได้มารอที่สวนสาธารณะ
	แต่จนแล้วจนรอดเด็กหญิงก็ไม่ยอมมา เขาเฝ้ารอตั้งแต่เช้าจดเย็น แต่ก็ไร้แววเด็กหญิง เขาเดินกลับบ้านด้วยหน้าตาเศร้าสร้อย พร้อมมองที่ทางเดินเห็นกลุ่มคนมามุงดูอะไร แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจว่าเหตุใดคนจึงมามุงดูกัน 
 เขาเดินกลับบ้านต่อไปโดยหันไปมองสิ่งที่กลุ่มคนนั้นมุงดูกัน
เมื่อโดมตื่นจากภวังค์ในวัยเด็กของเขา เขาก็นั่งนิ่ง ๆอยู่อย่างนั้น
วันนี้เขายินดีที่เขาได้เจอ เด็กหญิงผู้นั้น  ไม่สิวันนี้เด็กหญิงคนนั้น ได้เติบโตเป็นสาวน้อยแสนสวย หากทว่า วันนี้ เธอกลับจำเขาไม่ได้ หนำซ้ำยังบอกว่าเขาจำคนผิด 
สาวน้อยคนนั้นคือเพื่อนใหม่ของหยี  ที่ชื่อ เค้กนั้นเอง
เค้กคือเด็กหญิงที่โดมเฝ้ารอมาตลอดทั้งชีวิต
หยีซึ่งเป็นห่วงว่าเพื่อนเป็นอะไร ได้ตามมาที่บ้านโดม เธอเห็นข้าวของกระจัดกระจาย ได้แต่เป็นห่วง และแปลกใจว่าเพื่อนเป็นอะไรไป
โดม แกเป็นอะไร ทำไมต้องปาข้าวของขนาดนี้ด้วยหยีเดินเข้าไปนั่ง ข้าง ๆโดม พร้อมจับไหล่เพื่อนด้วยความเป็นห่วง
ไม่มีอะไร แค่รู้สึกเซ็งสุด ๆ เลยหาอะไรทำเล่น ๆโดมกล่าวเล่น ๆ แต่หยีได้แต่มองเพื่อนอย่างไม่เชื่อ
อย่าโกหก ฉันเป็นเพื่อนแกนะ มีอะไรก็บอกกันสิ  ทีฉันยังไม่เคยปิดบังแกเลยหยีกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล พร้อมมองเพื่อนเหมือนต้องการคาดคั้นความจริง
ถ้าแกมีคนคนหนึ่ง ที่แกรู้จักและรอคอยเขามาตลอดชีวิต แต่วันหนึ่งพอแกเจอเขา เขากลับบอกว่าจำคนผิด แกจะรู้สึกยังไงโดมระบายความในใจที่อัดอั้นออกมา
	เค้กใช่ไหม  เฮ้ย..ใจเย็น ๆนะแก เขาอาจจะไม่เป็นอย่างที่แกคิดก็ได้ ดูท่าเขาก็ไม่น่าโกหกหยีปลอบใจเพื่อน แต่กลับทำให้โดมโกรธ
	ยัยนั่นแหละโกหก!โดมตวาดใส่เพื่อน
	เฮ้ย ทำไมต้องตวาดด้วยว่ะหยีหันไปตวาดเพื่อนบ้าง
	โดมได้แต่หันหน้าไปทางอื่น ไม่อยากทะเลาะกับเพื่อน หยีเห็นดังนั้นจึงพูดด้วยอารมณ์เย็นลงมา
	เขาอาจจะจำหน้าแกไม่ได้ก็ได้หยีพยายามให้เพื่อนคิดในแง่ดี
	แกคิดว่าคนที่ไม่เจอกันไม่กี่ปี จะลืมหน้ากันไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรือ!โดมหันมาพูดกับเพื่อนอย่างมีอารมณ์
	ฉันมันบ้าเอง   เฝ้าหลงแต่อดีตที่คนอย่างเค้าพยายามจะลืมมันทิ้งเขาพูดด้วยน้ำเสียงขื่นขม
	เพราะเหตุนี้ใช่ไหม แกถึงยกเพลงFirst loveให้ฉันหยีเอ่ยถามเหมือนเข้าใจความรู้สึกของเพื่อน
	ฉันเคยเล่นเพลงนั้นให้เขาฟัง เขาเคยชมมันว่าเพราะ เพลงนั้นมันสิ่งแทนใจฉัน ซึ่งฉันเต็มใจจะมอบให้เขาเพียงคนเดียว  แต่ในความคิดเขา มันก็เป็นแค่เพลง ๆหนึ่ง  ถ้าหากเขารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่าสักนิด เขาคงไม่ผิดนัดฉันในวันนั้นหรอกโดมระบาย พร้อมก้มหน้าไม่อยากให้เห็นน้ำตาที่กำลังร่วงลงมา
	แล้วทำไมแกไม่คิดบ้างละ ว่าแม้วันนี้เขาจะจำแกได้จริง เขาก็ไม่ทางกลับไปเหมือนเดิมกับแกได้อีกหยีกล่าวกับเพื่อนเรียบ ๆแต่ชัดเจน เมื่อนึกถึงว่ากริชกำลังคบหาดูใจกับเค้ก
	ทำไมล่ะโดมหันหน้ามามองเพื่อนทั้งน้ำตา
	เพราะวันนี้เขามีคนอื่นอยู่ในหัวใจแล้วสิหยีกล่าวพร้อมเอามือปาดน้ำตาให้เพื่อนอย่างเห็นใจ จะว่าก็รู้สึกเห็นใจตนเองด้วย
	โดมปล่อยโฮออกมาอย่างอดกลั้นไม่ได้ เค้กเปรียบเสมือนรักแรกและรักเดียวในใจเขา เขารับไม่ได้จริงที่เค้กไม่เคยมองเขาเช่นเดียวกับที่เขารู้สึกกับเธอ หยีเห็นดังนั้นได้แต่กอดเพื่อนเป็นการปลอบประโลม พึ่งเห็นว่าโดมทุกข์กับเขาเป็นก็วันนี้
	หยีเห็นดังนั้นจึงจะเดินไปห้อง ๆหนึ่ง เพื่อจะเอากระดาษทิชชูมาให้เพื่อนซับน้ำตา
	แต่ก่อนที่จะถึงห้องนั้น แล้วเปิดประตู
	หยีแกจะไปไหน?โดมกล่าวทั้งน้ำตา เมื่อเห็นเพื่อนจะเปิดประตูห้อง ห้องหนึ่ง
	ห้องนั้นเป็นห้องที่โดมหวงและไม่ยอมให้ใครเข้าไปทั้งนั้นแม้แต่เพื่อนสนิท
	ก็ห้องนี้สิ แกเก็บของไว้ไม่ใช่หรือ ฉันจะเอาทิชชูมาให้แกหยีกล่าวพร้อมจะเปิดประตูห้อง แต่โดมมาขวางเอาไว้
	เข้าไม่ได้นะ!โดมเสียงแข็งพร้อมเอาตัวไปขวาง
	ทำไมละหยีเอ่ยถามอย่างสงสัย
	ไม่ต้องถาม  บอกเข้าไม่ได้ ก็ไม่ได้!โดมเอ่ยเสียงแข็ง พร้อมมองเพื่อนเป็นเชิงห้าม
	ชักสงสัยแล้วสิ ห้องนี้มันต้องมีอะไรแน่เลย เห็นหวงนักหวงหนาหยีถามพลางมองเพื่อนอย่างคาดคั้น
	ไม่มี ไป ๆ ไม่มีธุระแล้วก็กลับไปได้แล้วโดมไม่ฟังเสียงเพื่อน ลากหยีออกจากบ้านพร้อมปิดประตูบ้านไม่ยอมให้เข้า หยีเห็นดังนั้นได้แต่ถอนใจไม่รู้จะทำอะไร จึงเดินกลับบ้านไป
	ทางด้านเค้กก็นั่งรอกริชที่ห้องรับแขก เธอเดินดูรอบ ๆห้อง แล้วก็เห็นภาพฉากที่กริชช่วยกันกับหยีวาดขึ้นเมื่อคืน
	เธอหยิบมันขึ้นมาดู รู้สึกชื่นชมในฝีมือภาพนั้น
	กริชเดินมาทางด้านหลังหญิงสาว
	เค้กหันไปหาชายหนุ่ม แล้วยิ้ม
	ภาพสวยมากเลยจ๊ะเค้กกล่าวชม
	สวยหรือ วาดสวย หรือระบายสีสวยละกริชเอ่ยถามพร้อมดูภาพไปด้วย
	อือ ระบายสวยกว่าวาดจ๊ะเค้กวิจารณ์
	งั้นชมผิดคนแล้ว เค้กต้องไปชมหยีเค้า เพราะเค้าเป็นคนระบาย ส่วนผมเป็นคนวาดกริชพูดถึงหยีด้วยน้ำเสียงที่มีความหมายจนเค้กจับกระแสเสียงนั้นได้ แต่เหมือนกริชไม่รู้ตัว
	เค้กรู้สึกเจ็บลึก ๆ นึกรู้ว่าชายคนรักกำลังเปลี่ยนไป เธอคิดในใจ หากเขาเป็นดังที่เธอคิด วันนั้นเธอจะทำอย่างไรดี 
	แต่เธอก็หยุดคิดฟุ้งซ่าน ปลอบใจตนเองว่าอาจไม่เป็นอย่างที่คิด
	เราออกไปเดินเล่นกันดีไหมจ๊ะเค้กเอ่ยชวน
	ก็ดีจ๊ะ  ขี่จักรยานแถวสวนสาธารณะดีไหมกริชออกความเห็น พร้อมยิ้มให้เค้ก
	ดีจ๊ะเค้กยิ้มรับ
	จากนั้นทั้งคู่ก็เอาจักรยานมาขี่มุ่งหน้าไปสวนสาธารณะในหมู่บ้าน โดยที่กริชเป็นคนขี่ และเค้กเป็นคนซ้อนท้าย  โดยไม่ทันสังเกตว่าโดมและหยีมองดูภาพตรงหน้านั้นด้วยสายตาเศร้าหมอง เจ็บลึกในใจ
	ไม่นานทั้งกริชและเค้กก็ถึงสวนสาธารณะ 
	แต่ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของเค้กดังขึ้น
	สวัสดีค่ะพี่กุ๊กเค้กรับสาย
	น้องเค้กจ๊ะ พี่จะโทรมาบอกว่า ที่นัดกันทำฉากของละคร ให้ไปเจอกันที่บ้านไอ้โดมพรุ่งนี้สายนะจ๊ะเจ๊กุ๊กพูดธุระ
	ค่ะเค้กตอบรับด้วยคำเรียบง่าย
	แล้วไปบ้านไอ้โดมถูกหรือเปล่าเจ๊กุ๊กถามอย่างเป็นห่วง
	คิดว่าไปได้ค่ะ เดี๋ยวถามหยีเอาก็ได้เค้กตอบเพื่อให้คู่สนทนาคลายความกังวล
	จ๊ะ งั้นแค่นี้น่ะจากนั้นเจ๊กุ๊กก็วางสาย
	พี่กุ๊กโทรมาหรือกริชถามแฟนสาว
	จ๊ะ  โทรมาบอกว่าเจอกันที่บ้านโดมพรุ่งนี้เค้กตอบพร้อมยิ้มให้แฟนหนุ่ม
	จากนั้นเค้กก็หยุดสายตาไปที่ร้านดอกไม้เล็กริมถนนฝั่งตรงข้าม เธอเห็นดังนั้นคิดจะทำอะไรบางอย่าง
	กริช รอเค้กแป๊บหนึ่งนะเค้กหันมาพูดกับแฟนหนุ่ม
	จะไปไหนจ๊ะกริชถามแฟนสาวอย่างสงสัย
	เดี๋ยวก็รู้เค้กไม่ตอบแต่วิ่งไปที่ร้านดอกไม้  
	กริชมองตามแฟนสาว นึกรู้ว่าเค้กอยากซื้อดอกไม้ให้ตน เห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา 
	เค้กซื้อดอกกุหลาบสีแดงให้กริช เธอหันหน้ามาหากริชพร้อมดอกกุหลาบแดงในมือ แล้วยิ้มให้เขา 
	แต่กริชเห็นหน้าเค้กเป็นหยี เขาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างยินดีที่สุด แต่ก็สลัดภาพนั้นทิ้งไป และก็รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือเค้ก ไม่ใช่หยี เห็นดังนั้นก็หุบยิ้มลงอย่างผิดหวังลึก ๆ
	ขณะที่เค้กจะข้ามถนน  ก็ไม่ทันสังเกตว่ามีรถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วสูง และวิ่งตรงมายังเธอ เค้กทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น  
	เค้กระวัง! ! !กริชตะโกน
	วินาทีนั้นกริชก็ผลักเธอและตัวเองหลบจากวิถีทางรถนั้น ทั้งสองกลิ้งไปข้างทาง จนไปหยุดอยู่ข้างถนน
	ทันใดนั้นภาพในอดีตก็ผุดขึ้นในหัวของเค้ก
	มันเป็นภาพในวัยเด็กตอนที่เค้กกำลังเดินมาที่สวนสาธารณะเพื่อเจอใครคนหนึ่ง คนคนนั้นคือโดมนั่นเอง
	เมื่อมาถึงสวนสาธารณะ เธอเห็นร้านดอกไม้ตั้งอยู่ริมถนน เธอคิดอยากจะซื้อดอกไม้ให้โดม
	เธอตรงไปที่ร้านนั้นทันที พร้อมเลือกดอกกุหลาบแดง เธอถือมันด้วยความรู้สึกเปี่ยมสุข เธอเอาแต่มองดอกไม้ที่อยู่ในมือ 
	แต่ในขณะนั้นเอง ตอนที่เธอจะข้ามถนน ก็มีรถคันหนึ่งวิ่งมาด้วยความเร็วปานกลางแต่การที่เธอไม่สามารถหลบทัน จึงถูกรถคันนั้นชนให้อย่างจัง เธอกระเด็นไปตามแรงรถ ร่างกลิ้งไปตามถนน และหัวชนฟุตบาท
	เค้กสลบไม่ได้สติ เลือดไหลออกจากศีรษะไม่หยุด
	ทุกคนในที่นั้นมามุงดูร่างเธอ พร้อมเรียกรถพยาบาล 
	แต่วันนั้นเป็นวันเดียวกับที่โดมนัดเค้กเพื่อมารับเทปเพลงFirst loveจากเขา เป็นวันที่เขาคิดว่าเค้กผิดสัญญา เป็นวันที่โดมไม่เฉลียวใจสักนิดว่าวันนั้นเกิดอุบัติเหตุที่เปลี่ยนชีวิตและความทรงจำของเค้กทั้งหมด
	วันที่โดมไม่ยอมไปดูว่าคนมุงดูอะไรกัน วันที่โดมไม่รู้ว่าเค้กพยายามแค่ไหนที่จะไปตามนัด
	เค้กพยายามลบภาพที่เกิดขึ้นในหัวสมอง ซึ่งเป็นภาพในวัยเด็ก เธอกุมศีรษะไว้อย่างรู้สึกเจ็บมาก
	เค้ก เป็นไงบ้างกริชถามด้วยความเป็นห่วง
	แต่เค้ก
	โดม โดมช่วยเค้กด้วยเค้กผวากอดกริช แต่อุทานชื่อโดม
	นี่ผมกริชนะ ไม่ใช่โดมกริชพยายามเรียกสติแฟนสาว
	เค้กเห็นดังนั้น รู้สึกตัว ค่อย ๆหายใจ
	เค้กไม่เป็นไรแล้ว  กริชช่วยพาเค้กกลับบ้านทีนะเค้กพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ
	ในใจกริชสงสัยว่าทำไมเค้กจึงอุทานชื่อโดม แต่ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้
	กริชพาเค้กกลับบ้าน โดยขับรถไปส่ง ระหว่างทางเค้กไม่ยอมพูดจาอะไรเลย
	ไม่นานก็ถึงบ้านเค้ก ก่อนเค้กลงจากรถ กริชดึงมือหญิงสาวเอาไว้
	เค้ก ไม่เป็นไรแน่นะกริชถามอย่างเป็นห่วง
	จ๊ะ เค้กไม่เป็นไร เค้กไปนะเค้กแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงแจ่มใส  จากนั้นก็ลงจากรถไป
	กริชมองตามแฟนอย่างอดห่วงไม่ได้
	ในห้องนอนเค้ก เค้กทรุดตัวนั่งลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง   เธอคิดถึงใครคนหนึ่งหลังจากที่สิบปีเต็ม ๆที่ไม่เคยคิดถึงเลยสักครา
	แต่ภาพในวัยเด็กของเด็กชายคนหนึ่งผุดขึ้นในทรงจำ 
	หากแต่เธอก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน
	โดม เธออยู่ที่ไหน ฉันอยากพบเธอเค้กพึมพำกับตนเอง
	วันรุ่งขึ้นทางด้านชมรมละคร เจ๊กุ๊กกำลังมีว่าได๋ที่ไม่ยอมเอาของที่สั่งไปไว้ที่บ้านโดม
	ไอ้ได๋ ทำไมแกไม่เอาของไปไว้ที่บ้านไอ้โดมเจ๊กุ๊กว่าเสียงดัง แต่ได๋ก็ไม่ยอมเหมือนกัน
	โหพี่กุ๊ก ฉากนะ ไม่ใช่กล่องลำไย จะได้ขนมาที่นี่ ไปที่นั่นได้สะดวก  สู้ทำๆแล้วเก็บไว้ที่นี่ดีกว่าต้องไปทำบ้านไอ้โดม แล้วเป็นงานขนมาอีกได๋เถียงแต่ก็เถียงอย่างมีเหตุผล
	เออ ก็ได้ งั้นแกก็โทรไปบอกพวกไอ้หยี กับเค้กด้วยล่ะกันเจ๊กุ๊กสั่งได๋ต่อ
	หือ พี่  ผมต้องเตรียมของทำฉากอีกนะงานล้นมือแล้ว พี่นะแหละคนโทรได๋โยนไปให้เจ๊กุ๊กอย่างหงุดหงิด
	ก็ได้ ๆ ตกลงฉันเป็นหัวหน้า หรือลูกน้องแกกันแน่นะนี่เจ๊กุ๊กบ่นอย่างอารมณ์เสีย
	ไม่เคยได้ยินหรือ หัวหน้า ก็เหมือนคนใช้นั่นแหละได๋อดแขวะเจ๊กุ๊กไม่ได้
	อะไรนะเจ๊กุ๊กได้ยินแว่ว จึงหันมาถามแต่พอ ส่ายหัวเหมือนไม่มีอะไร จึงไม่เอาเรื่อง
	ขณะที่กริชกำลังจะออกจากบ้านเพื่อไปบ้านโดม  ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของตนดังขึ้น
	สวัสดีครับพี่กุ๊กกริชรับสายด้วยถ้อยคำสุภาพ
	น้องกริชเหรอจ๊ะ คือวันนี้พี่เปลี่ยนสถานที่นัดกันนะ คือเราจะมาทำฉากกันที่ห้องชมรมกัน แค่นี้น่ะจ๊ะเจ๊กุ๊กกล่าวจบก็วางสายไปทันที
	ครับแต่ประโยคนี้ไม่ทันเอาเสียแล้ว
	ในตอนนั้นหยีก็เดินออกมาจากบ้านพอดี หญิงสาวเห็นกริช เธอยิ้มให้นิดหนึ่งก่อนกล่าวคำทักทายตามมารยาท
	หวัดดีหยีกล่าว
	หวัดดีจ๊ะกริชกล่าว หยีไม่กล่าวสิ่งใด เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ทำตัวสนิทสนมกับกริชเพราะไม่อยากถลำหัวใจให้มากกว่านี้
	เดี๋ยวสิกริชท้วงขึ้น
	อะไรหรือหยีหันหน้ามาทางเขาแต่ไม่ยอมสบตา แต่ชายหนุ่มยังไม่รู้สึกผิดปกติ
	พี่กุ๊กพึ่งโทรมาบอก ว่าวันนี้เปลี่ยนสถานที่นัด ไปทำที่ชมรม แทนกริชกล่าวพร้อมยิ้มให้หยีเห็นดังนั้นได้แต่หลบสายตา ไม่อยากให้หวั่นไหวไปมากกว่านี้
	อือ รู้แล้ว ขอบใจนะหยีกล่าวเรียบ ๆ  แล้วรีบผละไปทันที แต่
	ไปด้วยกันไหมเขาพูดขัดขึ้นก่อนที่หญิงสาวจะผละออกไป
	ไม่เป็นไร เราอยากขี่จักรยานไปมากกว่าหยีปฏิเสธเรียบ ๆ 
	กริชหน้าเจื่อนลง แต่ก็ยิ้มแล้วพูดว่า
	ผมไปด้วยสิกริชขอซ้อนท้ายจักรยานไปกับหยี
	อย่าดีกว่า ฉันขี่ไม่ค่อยแข็ง ฉันไปนะหยีกล่าวจบรีบจูงจักรยานหนีไปทันที ไม่หันหลังกลับมามองกริชที่ตอนนี้เต็มไปด้วยสีหน้าผิดหวังที่ไม่ได้ใกล้ชิดกับหญิงสาว
	เขาเริ่มแน่ใจว่าหยีตั้งใจหลบหน้าเขา จากนั้นก็ขึ้นรถของตนไปแล้วขับไปที่มหาวิทยาลัยการละครที่หยีเรียนอยู่ทันที				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน