*+*+*+*+* คนขายหนังสือ+*+*+*+*+*+*+

13 นางมาร

ปี๊บๆๆๆมี ขวด กระดาษ เศษเหล็กหนังสือพิมพ์มาขายไหมค๊าบ ปี๊บๆๆ
               เสียงรถซาเล็ง ดังมากระทบโสตประสาท ทำให้ฉันตื่นขึ้นมารับอรุณ
วันนี้วันเสาร์ วันที่สมควรนอนตื่นสายให้สมกับที่ได้ ลุยงานมา 5 วัน
               แต่ในเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วก็ไม่สามารถที่จะนอนหลับได้อีก  พลิกตัวไปมา สายตาเหลือบไปเห็น ชั้นวางหนังสือที่มีหนังสือเล่มน้อยใหญ่เรียงกันมากมาย หนังสือพวกนี้คงเหงาเพราะว่านานแล้วที่ไม่ได้หยิบมาอ่าน
ว่าแล้ว ฉันก็ลุกไปหยิบ มาหนึ่งเล่ม ปกสีคล้ำ สภาพกระดาษกรอบเหลือง ฉันพลิกดู
เห็นลายเซ็น ของแม่ ที่เซ็นพร้อมวันเดือนปีที่ตั้งต้นเป็นเจ้าของ ไพรวรรณ 10 มกราคม 2510
เปิดหน้าแรก ด้วยความเก่าและกลิ่นอายของอดีต ที่มากระทบปลายจมูกทำให้ ภาพในอดีต หลั่งไหลเข้ามาในความทรงจำ
              หวนคิดถึง  บ้านเล็กๆ ที่มีเพียง เราสามคน แม่ลูก บ้านที่
มีพื้นที่แวดล้อมไปด้วย ต้นไม้นานาพันธุ์  จนอาจดูรกไปบ้าง
รอบๆบ้านก็คือ บ้านแบบเดียวกับฉัน ปลูกติดๆกันเป็นหมู่บ้าน
จะว่าไปหมู่บ้านฉันเป็นหมู่บ้านที่สร้างยุคแรกๆ ที่เริ่มมีบ้านจัดสรรทีเดียว
ข้างๆตัวบ้านมี ห้องเก็บของที่ดู อย่างไรก็ไม่เหมือนห้อง น่าจะเรียกว่าเพิงเก็บของมากกว่า
มีเพียงหลังคาและไม้ผุๆ ในนั้นเป็นที่เก็บของ หนังสือมากมายหลากหลายประเภท
              ยามนั้นฉันยังตัวเล็ก ได้แต่แหงนหน้ามอง กองหนังสือที่ท้วมหัว
ด้วยความรู้สึกว่ามันเป็นขุมทรัพย์อันยิ่งใหญ่ ที่ยามเหงา ไม่มีอะไรทำก็จะ
เข้าไปตะกุย ขุดคุ้ย หนังสือสักเล่มออกมา เปิดดู ซึ่งแตกต่างจากพี่สาวของฉัน
ที่ไม่เคยสนใจ กองหนังสือในห้องนั้น ไม่เคยแม้แต่จะหยิบมันขึ้นมาดู 
             หนังสือในนั้นส่วนใหญ่เป็นหนังสือของคุณแม่ ซึ่งแม่ฉันนั้นเป็นลูกแม่โดม
ในยุคนั้น แม่เป็น สาวรุ่นใหม่ ที่ เรียนเอกภาษาอังกฤษ อีกทั้งยังอยู่
ชมรม การละคอนอ  เพราะฉะนั้น หนังสือในนั้น ฉันคิดว่ามันคงจะ เล่มที่แม่ชอบจริงๆ
แม่ถึงได้หอบ หิ้วมัน มา  นับตั้งแต่ ที่แม่เรียนจบแล้วแม่ก็แต่งงานกับ 
พ่อซึ่งเป็นตำรวจตระเวนชายแดน ยามนั้นต้องร่อนเร่ไปประจำตามจังหวัดต่างๆๆ
 ฉันได้ทราบเพียงว่าพ่อแต่งงานกับแม่ที่กรุงเทพเช้ามา แม่และพ่อเดินทางไปกับสัมภาระเล็กน้อย
 โดยรถเต่าคันเล็ก ไม่รู้ว่าหนังสือพวกนี้ตอนนั้นไม่ไปฝากใครไว้ แต่ฉันว่าพวกมันคงเหงาเพราะว่าคง
ไม่มีใครจะหยิบมันขึ้นมาอ่าน
             10 ปีผ่านไป  หลังจากที่แม่และลูกได้ย้ายกลับมากรุงเทพ และให้พ่ออยู่ประจำที่ต่างจังหวัดคนเดียว
หนังสือคงไม่เหงา แล้วเพราะ ตอนนี้ หนังสือที่แม่ได้ทิ้งไปได้กลับมาหา เจ้าของอีกครั้ง หนังสือคงดีใจ
แต่หารู้ไม่เวลา ต่อมาพวกมันจะต้องจากเราไปหาเจ้าของคนใหม่
เวลานั้นฉันและพี่ ยังเล็กนัก ประมาณ 8 ขวบ ฉันได้แต่หยิบหนังสือ เล่มโตๆๆมาเปิดไปมา แต่มันก็เป็นจุดเริ่ม
ต้น ที่ค่อยๆซึมซับทำให้ ฉันหลงรักตัวอักษรมาจนบัดนี้
               วันหนึ่ง ฉันกับแม่ไปซื้อของนอกบ้าน เมื่อกลับมา พี่สาววิ่งมาบอกแม่อย่างดีใจว่า
              "แม่ แม่วันนี้ ได้เงินตั้ง 38 บาทนี่ไง" พี่สาวฉันวิ่งมาบอกแม่ด้วยเสียงภูมิใจ
              " เอามาจากไหนล่ะลูก" แม่ถามด้วยความสงสัย
             " ก็ วันนี้มีคนมารับซื้อหนังสือเก่า หนูเลยขายหนังสือของแม่ไป เค้ากิโลตั้ง 1 บาท" 
     เวลานั้นฉันมองเห็นแม่ มองลูกสาวตัวน้อยที่ทำหน้าภาคภูมิใจที่ได้หาเงินมาได้ แต่สำหรับตัวฉันเอง
 แม้ฉันจะเด็กแต่ ฉันก็ได้รับรู้กระแสของความเสียใจ ที่หลั่งรินออกมาจาก ความรู้สึกของคนรักหนังสือ
            " แม่ แม่ แต่หนูคัดบางเล่มและเก็บไว้ อยู่ในห้องเก็บของแม่ไปดูสิค่ะ"
ฉันจำได้ว่าเวลานั้น แม่ไม่มีคำพูดอะไรสักคำ ออกจากปาก
แม่ได้แต่ไปดู เพิงหนังสือของเรา และลูบคลำหนังสือที่เหลือด้วยแววตาที่เสียดายอย่างสุดซึ้ง
คงจะไม่มีประโยชน์ที่แม่จะดุว่าพี่สาวเพราะ อย่างไรหนังสือก็ได้เปลี่ยนเจ้าของไปแล้ว
           ฉันได้แต่ภาวนาว่า ขอให้หนังสือพวกนั้นได้ไปอยู่กับเจ้านายคนใหม่ที่ดี และได้ใช้ประโยชน์
จาก ข้อความข้างในอย่างเต็มที่
           " ขอให้โชคดีน่ะเจ้าหนังสือ " ขอให้เดินทางโดยปลอดภัย
          
            วันนี้ ฉันมีหนังสือเป็นของตัวเองส่วนหนึ่งของทั้งหมดก็คือหนังสือที่ยังเหลือรอด จากการขายให้ ซาเล็ง
ได้ถูกนำมาจัดเรียงบนชั้นวาง ข้างเตียงนอน ของฉัน น่าขอบใจที่วันนั้น เจ๊ก ขายขวดไม่ได้เหมาซื้อหนังสือทั้งหมดและน่าขอบใจ ที่พี่สาวฉันอุตสาห์เหลือไว้ให้ ทำให้อย่างน้อย วันนี้ก็มีหนังสือของแม่
เหลือให้ฉันอ่าน ......... ฉันสัญญาจะดูแลเธออย่างดี จะไม่ให้เธอต้องไปอยู่ บนรถซาเล็งอีก
ฉันสัญญา				
comments powered by Disqus
  • แนทตี้

    24 กรกฎาคม 2545 20:45 น. - comment id 65968

    ~~@__~~~_ขออ่านด้วยจ้า..รักหนังสือที่สุด
  • โคลอน

    28 กรกฎาคม 2545 20:45 น. - comment id 66005

    ชมรมคนรักหนังสือได้ก่อตั้งขึ้นแล้วที่นี่
    
    (o^___^o)
  • 13 นางมาร

    31 กรกฎาคม 2545 17:33 น. - comment id 66022

    ตอบคุณ แนตตี้ รักหนังสือด้วยจ้า
     ขอบใจที่เข้ามาเติมกำลังใจ
     ตอบคุณ โคลอน 
     ชื่นใจ ที่ได้เพื่อนรักหนังสืออีกคน
     ตั้งชมรมแล้วใครจะเป็นประธานดีหนอ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน