ความรักที่ปลายฟ้า

เจ้าสาวแห่งโลกวิญญาณ

 ปลายฟ้า...จะสิ้นสุดลงตรงไหน..หัวใจ...ก็ไม่สิ้นสุด...รักเธอ...
             บทกลอนนี้ที่ใครบางคนเอื้อนเอ่ยให้ฟังทุกค่ำคืน...ยามตื่นก็ทักทายด้วยคำว่า  "อรุณสวัสดิ์ที่รัก  วันนี้ช่างเป็นเช้าวันใหม่ที่มีความหมายกับการได้คิดถึงกัน  รักนะ  ตั้งใจทำงานนะคนดี"  เวลากลางวัน  ใครบางคนก็กระซิบว่า  "ที่รักจ๋า  ได้เวลาที่ต้องทานอาหารแล้ว  อย่าคร่ำเคร่งกับงานนักเลยนะจ๊ะ  เดี๋ยวร่างกายจะสู้ไม่ไหว  มามะ  มาทานข้าวซะดีดี"  ตอนเย็น  ก็ได้ยินเสียงพร่ำบอกว่า  "คนดีจ๋า...เหนื่อยมาทั้งวัน  พักผ่อนบ้างนะจ๊ะ  หน้าตาจะได้สดชื่น  ผ่อนคลายบ้างเครียดมาทั้งวัน  มาฟังกลอนที่ตักฉัน  จะได้รู้สึกดี"   ก่อนนอน  "ที่รักจ๋า  คืนนี้เธอคือคนที่สวยที่สุด  เธอคือคนที่ฉันรัก  เธอคือทุกทุกลมหายใจของฉัน  ฝันดีนะจ๊ะ  สุดที่รัก" 
            ทุกทุกวันฉันช่างเป็นคนมีความสุขเหลือเกิน  กับการที่มีใครบางคนคอยอยู่เคียงข้าง  คอยห่วงใย  เอาใจใส่  แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมานับ  10ปี  ที่เธอจากฉันไปอย่างไม่มีวันกลับ  ฉันสัมผัสได้ถึงทุกสัมผัส  ลมหายใจ  เสียงกระซิบเบาเบา  เมื่อฉันเหนื่อย  ท้อแท้  อ่อนล้า  อ้อมกอดอันอบอุ่นคล้ายจะบรรเทาความเจ็บปวดให้กับฉัน  ขณะที่ฉันสิ้นหวัง  ฉันกอดตัวเอง  จะสัมผัสถึงความรู้สึกของเธอ   รู้ว่าเธออยู่ใกล้ใกล้  คอยสัมผัส  ให้ไออุ่น  ฉันรู้ว่าฉันต้องมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะสร้างความฝัน  อุดมการณ์ที่เราวาดหวังไว้  การอุทิศตนเพื่อ       ช่วยเหลือผู้อื่น  ด้วยความตั้งใจและจริงใจ....
              บนเส้นทางสีขาวที่ว่างเปล่า...ฉันมองเห็นเพียงเงามืดลอยเคว้งคว้าง...ขาดความหวัง  ขาดพลังคอยนำทาง...ตั้งแต่วันที่เราห่างกันแสนไกล...ฉันรู้ว่านับจากันที่เธอจากไปโดยไม่หวนกลับคืนมา  ฉันต้องกัดฟันสู้อย่างลำพัง  ทั้งทั้งที่อยากจะตามเธอไปเหลือเกิน...จากอุบัติเหตุวันนั้น...วันที่  14  กุมภาพันธ์  วันแห่งความรัก...วันที่ใครหลายคนมีความสุข  สดชื่น  กับคนที่รัก...กลับเป็นวันแห่งความทุกข์ทนที่สุดของฉัน  เพราะฉันขาดคนที่รักไป  เพราะอุบัติเหตุในครั้งนั้น...ชายคนหนึ่งเมาสุรา  ขับรถมาด้วยความเร็วสูง  ในขณะที่รถของเราขับเคลื่อนที่ไปช้าช้า  เนื่องจากฝนตกหนัก  ขณะอยู่ในรถ...เธอถามฉันว่า...ฉันรักเธอหรือเปล่า...ฉันตอบว่าเธอคือชีวิตของฉัน...เธอบอกฉันว่า  เธอรักฉันมากที่สุด  รักมากและจะรักตลอดไป...เธอถามว่า  หากวันนี้ไม่มีเธออยู่  ฉันจะมีชีวิตอยู่ได้หรือไม่?  นั่นคือคำถามคำสุดท้ายที่ฉันได้ยิน  แล้วรถเราก็ชนโครมกับรถสิบล้อ  เธอเสียชีวิตทันที  ส่วนฉันได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย  เหมือนปาฏิหาริย์ที่ฉันรอด  แต่ฉันกลับเสียคนที่รักมากที่สุดไป...รถของเรายุบไปทั้งแถบ  แปลกตรงที่ว่า  บริเวณที่ฉันนั่งมีคาถาป้องกันอันตรายที่เธอเขียนติดไว้ข้างข้างที่นั่งของฉัน  เธอเคยพูดว่า  ถ้าเกิดอันตรายใดใดขึ้น  ขอให้คาถานี้คุ้มครองชีวิตฉันให้ปลอดภัยด้วยเทอญ  เธอพูดแกมหัวเราะซึ่งฉันก็ปรามไม่ให้เธอพูด  เนื่องจากคิดว่าเป็นลางร้าย...
              เธอรู้หรือไม่  ชีวิตฉันแทบไม่เหลืออะไรแล้ว  นับจากวันที่ไม่มีเธอ  ฉันคิดว่า  ฉันต้องตามเธอไป  เพราะชีวิตฉันขาดเธอไม่ได้  ฉันทุกข์ทรมานอย่างที่สุด  ในวันที่เธอเสียชีวิต  มีคนไข้ที่ต้องผ่าตัดหัวใจ  ซึ่งเธอได้บริจาคร่างกายไว้  มันไม่ยุติธรรมเลย!  กับการแลกชีวิตของเธอ  กับชีวิตของใครอีกคน  ที่ไม่รู้จัก  ฉันเกลียดโชคชะตา  ที่ทำให้ฉันต้องพลัดพรากกัน  ทำไมคนดีดีอย่างเธอต้องจากไปด้วยวัยอันไม่สมควรเช่นนี้...
              ฉันตื่นมาอีกทีกับความเป็นจริง...ภาพของคนที่รับหัวใจของเธอปรากฏขึ้นมาในใจ...เขาเข้ามาขอบคุณที่ได้ให้ชีวิตใหม่กับเขา...ภรรยาและลูกของเขาต่างเข้ามาแสดงคำขอบคุณ  ในการให้ชีวิตใหม่...ถ้าหากขาดคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวไป  ชีวิตของพวกเขาคงต้องลำบาก  เพราะพ่อเป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัว..ฉันได้เห็นภาพแห่งความสุข   รอยยิ้ม  เสียงหัวเราะ  คราบน้ำตาแห่งความสุข  ฉันจึงย้อนคิดถึงคำพูดของเธอว่า...ร่างกายไม่ใช่ของเรา...หากเธอจากไป         ร่างกายของเธอก็จะเป็นประโยชน์แก่คนอื่น อย่าให้ฉันไปยึดติดกับของนอกกายให้มีความสุขกับการสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น...
              ฉันอุทิศตนให้กับวิชาชีพพยาบาลเพื่อทำตามปณิธานและอุดมการณ์ที่เธอและฉันได้ตั้งไว้  ฉันทุ่มเททั้งกายใจ  และรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ากับสังคม  ฉันไม่ได้อยู่เพียงลำพัง  ยังมีคนหลายคนที่พร้อมจะเดินไปเคียงข้างฉัน  แม้ความรู้สึกลึกลึกในหัวใจจะเย็นชาก็ตามที...ก่อนที่ชีวิตตจะหาไม่  ขอสร้างสิ่งที่มีคุณค่าไว้ให้โลกจดจำ...เธอที่รัก...เธอจะอยู่ในใจฉันตลอดไป...ความรักของเราจะอยู่ในใจไม่เปลี่ยนแปลง  รอวันที่ฉันจะได้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป..
             ลมหายใจฉันเริ่มผ่อนลงช้าช้า...เมื่อฉันมองเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอ  ซึ่งเธอกำลังเดินเข้ามาใกล้ใกล้  เธอบอกว่า"ที่รักจ๋า...ในที่สุดการรอคอยของเธอก็ไม่ได้สิ้นหวัง...เราจะได้อยู่ด้วยกัน  ไม่มีอะไรมาพรากเราได้"  สัมผัสอันอ่อนโยนที่ได้รับจากมือใหญ่ใหญ่อันอบอุ่น  สัมผัสที่คุ้นเคยที่ฉันโหยหามาตลอดชีวิต...วันนี้คือวันที่คงถึงวันที่ฉันรอคอยมานาน...ฉันจับมือเธอและเดินไปพร้อมพร้อมกับเธอด้วยรอยยิ้ม...ในขณะที่แพทย์กำลังปั้มหัวใจ  และในที่สุดทุกอย่างก็เงียบสงบ...มีเพียงรอยยิ้มที่อยู่บนร่างอันไร้วิญญาณ
  
ปลายฟ้า...จะสิ้นสุดลงตรงไหน..หัวใจ...ก็ไม่สิ้นสุด...รักเธอ
				
comments powered by Disqus
  • ตามรอยตะวัน

    11 สิงหาคม 2550 21:26 น. - comment id 97202

    คุณเขียนได้ดีจังเลยคะ... คล้ายๆ เราเลย  แต่เราเป็นวิญญาณที่ยังมีชีวิตอยู่  แต่ไม่มีโอกาสได้เจอกัน... เจอกันแต่ในความฝัน.. และจินตนาการ ทุกวันทุกคืน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน