วุ่นนัก เด็กเฟรชชี่

Benjarat



วุ่นนัก...เด็กเฟรชชี่

                                                                                                                  ขวดน้ำ

 

      ฉันกับน้อยหน่าเราเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้นพอจบมัธยมศึกษา ตอนปลาย ฉันกับน้อยหน่าก็ยังสอบติดมหาวิทยาลัยเซนต์เกอร์นานาชาติ และคณะจิตวิทยาเหมือนกันอีก ก่อนถึงวันรับน้องปี 1 สองวัน น้อยหน่าก็พาฉันมาดูดวงจากตำราที่เธอเพิ่งจะซื้อมา น้อยหน่าไม่รอช้ารีบหาดวงของฉันและอ่านคำทำนาย   “ ผู้ที่เกิดวันอังคาร ที่ 27 เดือนสิบ ปีกุน ในช่วงนี้การเรียนจะมีมิตรสหายคอยช่วยเหลือ ความรักจะมีผู้ที่อายุมากกว่ามาพัวพันด้วย และจะทำให้ชีวิตของเธอนั้นเปลี่ยนไป” น้อยหน่าพูดด้วยสีหน้าที่จริงจังเอามากๆ แถมเธอยังบอกว่าตำราเล่มนี้ดูดวงได้แม่นมากๆ เลยทำให้ฉันแอบหวั่นใจลึกๆข้างใน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก

 

                   

          วันรับน้องของคณะจิตวิทยา ฉันกับน้อยหน่าเรามายื่นเอกสารให้รุ่นพี่ที่หอประชุมของคณะเพื่อที่รุ่นพี่ จะได้ทำประวัติของน้องๆในคณะ

               

          “ น้องๆที่มาถึงแล้วขอให้มาลงทะเบียนด้านหน้านี้ด้วยนะครับ ” รุ่นพี่คนหนึ่งพูด ฉันส่งเอกสารเสร็จก่อนน้อยหน่า ฉันก็เลยออกไปเดินเล่นแถวๆข้างตึกหอประชุมของคณะ พอกลับมาอีกทีกิจกรรมอย่างแรกที่พี่ๆให้พวกเราทำคือ จับคู่ระหว่างรุ่นพี่ปี 2 กับน้องปี 1 ทุกคนได้คู่กันหมดแล้ว เหลือแค่ฉันคนเดียวที่ยังไม่มีคู่ และรุ่นพี่ที่พูดในหอประชุม ฉันเลยได้คู่กับรุ่นพี่คนนี้

          

           “ สวัสดีจ๊ะ น้องชื่ออะไรหรอ พี่ชื่อปิแอร์นะ น้องมีไลน์ไหม เผื่อพี่จะติดต่องานของคณะได้ ” ปิแอร์พูดด้วย สายตาเจ้าเล่ห์ที่ทรงเสน่ห์มาก จนฉันหลงใหลเขาไปชั่วขณะ

          

           “ สวัสดีค่ะ ชื่อวนิลาค่ะ นี่ค่ะไลน์ของวนิลา Vanilla@gtza ” ที่ฉันให้ไลน์ไปก็เพราะว่าพี่เขาจะปรึกษาเรื่องงานของคณะหรอกนะ แต่ในใจฉันก็แอบดีใจ ที่มีหนุ่มหล่อมาพูดอย่างนี้

           

            มาถึงด่านที่จะต้องใบ้คำให้คู่ของตนเองนั้นทายให้ถูก และใครถ้าแพ้ในด่านนี้จะต้องโดนลงโทษด้วยการทำความสะอาดหอประชุมของคณะ เมื่อถึงตาของฉันกับพี่ปิแอร์ที่จะต้องเล่นเกมส์ โดยที่รุ่นน้องจะเป็นคนใบ้คำและรุ่นพี่จะต้องเป็นคนตอบ ฉันจับได้คำว่าเกลือเป็นหนอน ตอนที่ฉันเห็นคำใบ้ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องใบ้ยังไงให้พี่ปิแอร์เข้าใจ ฉันจึงทำท่ากระดึบๆให้เหมือนหนอน และทำสีหน้าเหมือนคนที่กำลังกินของเค็ม ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าพี่ปิแอร์เขาหัวเราะฉันอะไรหนักหนา แต่เวลาที่พี่เขายิ้มหรือหัวเราะด้วยสายตาที่อ่อนโยน ทำให้ฉันก็แอบใจละลายเลยล่ะ แต่ถึงฉันจะทำท่าตลกขนานไหน พี่ปิแอร์ก็ทายไม่ถูกอยู่ดี ทำให้คนที่โดนลงโทษคือ ฉันกับพี่ปิแอร์นั่นเอง พอจบกิจกรรมน้อยหน่าก็มาพูดคุยกับฉันในเรื่องวันนี้

           

            “ วนิลา วันนี้เธอกับพี่ปิแอร์ดูสนิทกันเร็วมากเลยนะ แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนเลยนะ ฉันได้ข่าวว่าพี่ปิแอร์เนี่ยเป็นเพลย์บอยตัวพ่อเลยนะ แล้วพี่เขาก็เพิ่งเลิกกับพี่ลิซ่า ดาวมหาลัย คณะนิเทศศาสตร์  ฉัน ว่าเธออย่าไปยุ่งกับพี่เขามากเลย ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปยุ่งมากเลย บางทีเดี๋ยวพี่ลิซ่าเขาจะหาว่าเธอเป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาสองคนเลิกกัน ”

          

            “ น้อยหน้า เธอจะบ้าหรอ ฉันเพิ่งรู้จักพี่ปิแอร์วันนี้เองนะ แล้วจะเป็นต้นเหตุทำให้เขาสองคนเลิกกันได้ยังไงล่ะ ”  หลังจากที่ฉันคุยกับน้อยหน่าเสร็จ ฉันก็เดินไปส่งน้อยหน้าที่ด้านหน้าหอประชุม และฉันก็กลับเข้ามาทำความสะอาดต่อ เมื่อฉันกำลังจะเริ่มทำความสะอาด พี่ปิแอร์ก็มาตีสนิทกับฉันและเสนอว่าเดี๋ยวพี่ทำความสะอาดเอง แถมยังอาสามาส่งฉันที่บ้านอีกด้วย ฉันไม่ได้คิดอะไรมากก็เลยให้พี่เขาไปส่งที่บ้าน

            

              เช้าวันต่อมา พี่ลิซ่าแฟนเก่าของพี่ปิแอร์ ก็บุกมาหาเรื่องฉันถึงคณะมาถึงก็เหวี่ยงใส่ฉัน จนทำฉันหน้าชาไปชั่วขณะ

 

           “ เธอชื่อวนิลาใช่ไหม ”

        

         “ ใช่ค่ะ มีอะไรหรอค่ะ พี่ลิซ่า

        

           “ เธอนี่กล้ามากนะ ฉันเพิ่งเลิกกับปิแอร์ ยังไม่พ้นวันเลย เธอก็มายุ่งกับเขาแล้ว หรือว่าเธอเป็นสาเหตุทำให้ฉันต้องเลิกกับปิแอร์ ” พอพี่ลิซ่าพูดจบ คนทั้งคณะก็มองฉันด้วยสายตาเหยียดหยาม แต่ฉันไม่ยอมให้พี่เขามาว่าฉันฝ่ายเดียวหรอกนะ

       

          “ฉัน ว่าฉันพอจะรู้แล้ว ว่าทำไมพี่ปิแอร์ถึงต้องขอเลิก ก็ทั้งขี้หึง จอมเหวี่ยงแบบนี้ไง ใครเขาจะทนไหว เฮ้อ ” ฉันตอบด้วยสีหน้ากวนประสาท แต่พี่ลิซ่าก็โวยวายต่อไม่หยุดเรื่องที่พี่ปิแอร์ไปส่งฉันที่บ้าน จนฉันทนไม่ไหวเลยพูดออกไปว่า

      

         “ ใช่ ฉันคบกับพี่ปิแอร์แล้ว ทำไมจะไปรับ-ส่ง ฉันที่บ้านไม่ได้ล่ะ ” จู่ๆปิแอร์ก็เข้ามายืนข้างๆฉัน และเล่นละครเนียนว่าเราเป็นแฟนกัน จนทำยัยพี่ลิซ่าหน้าแตกอายคนทั้งคณะ และไม่มายุ่งกับฉันอีกเลย พี่ปิแอร์พาฉันมานั่งตรงไม้หินอ่อน และบอกกับฉันว่าตอนนี้ทุกคนก็คิดว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะ คำพูดที่ฉันพูดออกไปเหมือนเป็นการมัดมือชกตัวเองทางอ้อม ฉันกับพี่ปิแอร์เลยได้เป็นแฟนหลอกๆแบบนี้ไปโดยปริยาย

       

         หลังจากวันนั้นพี่ปิแอร์ก็มารับ-ส่งฉันเป็นประจำที่มหาวิทยาลัย เพื่อแสดงว่าเราเป็นแฟนกัน ฉันเริ่มรู้สึกแปลกๆแต่ฉันก็รู้สึกดีนะ น้อยหน่าเพื่อนของฉันก็แซวฉันทั้งวัน จนฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันกับพี่ปิแอร์เราเป็นแฟนกันจริงๆ ฉันกับปิแอร์ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ทำให้ฉันเริ่มใจอ่อนกับเขา ฉันเจอเขาครั้งแรกที่ข้างตึกหอประ   

ชุมของคณะเป็นวันรับน้องปี 1 ฉัน เห็นพี่ปิแอร์กำลังทะเลาะกับพี่ลิซ่า

     

           “ ทำไมต้องเลิก คุณมีคนอื่นใช่ไหม บอกมานะว่ามันเป็นใคร

       

          “ เราจบกันแล้วนะ ซ่าเลิกยุ่งกับเราเหอะ เรายังเป็นเพื่อนกันได้นิ

     

           “ แต่ซ่าไม่ยอม อ๋อหรือว่าที่คุณทำตัวเป็นเพลย์บอยมาจีบซ่า ก็เพราะเรียกร้องความสนใจจากแม่ของคุณ” พี่ปิแอร์ไม่พูดอะไร แต่เดินหนีไปแทน และฉันก็เดินตามมาติดๆ ทำให้ฉันกับพี่ปิแอร์เราได้คู่กัน

      

          สองวันต่อมา ปิแอร์บอกกับฉันว่าแม่เขาอยากเจอฉัน สีหน้าของเขาที่บอกดูเป็นกังวลเอามาก ฉันเลยถามปิแอร์ว่าแม่เขาเป็นคนยังไง แต่ปิแอร์ก็เล่นลิ้น บอกว่าถ้าเขาบอก ฉันจะต้องมาเป็นแฟนตัวจริงกับเขา ฉันเขินอายมาก แต่ในใจฉันก็ชอบเขาเหมือนกันเลยตอบตกลง เขาบอกความจริงกับฉันว่า ที่จริงเขาไม่อยากทำตัวเจ้าชู้ ตั้งแต่พ่อเขาเสียไป แม่ก็เอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้กับเขา เขาอยากให้แม่แบ่งเวลาให้เขาบ้าง ทุกวันนี้เวลาเขากลับบ้านเขาก็เหมือนว่าอยู่คนเดียว เขาเลยอยากมีใครสักคนมาอยู่ข้างๆ พวกเรานั่งรอแม่ของปิแอร์อยู่ 2 ชั่วโมง

       

             “ สวัสดีค่ะคุณแม่ ”

       

              “ สวัสดีจ๊ะ ขอโทษด้วยที่วันนี้มาช้า พอดีแม่ติดคุยงานกับลูกค้า VIP ลูกปิแอร์คงไม่ว่าอะไร ”

    

             “ ไม่หรอกครับ แม่ก็ไม่เคยเห็นเรื่องของผมสำคัญกว่างานของแม่อยู่แล้วนิ ” สองแม่ลูกคู่นี้ประชดประชันกันไปมา ปิแอร์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ฉันเลยเปิดอกคุยกับแม่ของปิแอร์ตรงๆว่าทำไมถึงไม่มีเวลาให้เขาบ้างเลย เขาต้องการความอบอุ่นจากคุณแม่มาก แม่ของปิแอร์ก็บอกแต่ว่าเขาต้องทำงานหาเงินให้เขาไว้ใช้ ฉันต้องทำอะไรสักอย่างให้สองแม่ลูกคู่นี้เข้าใจกัน เมื่อปิแอร์มาถึงฉันก็ขอร้องให้คุณแม่อยู่ใช้เวลากับปิแอร์ และฉันก็จะคอยดูอยู่ห่างๆ พวกเขาเริ่มคุยกันแบบเปิดอก จริงๆแล้วพี่ปิแอร์ก็ไม่อยากทำตัวเพลย์บอย และแม่ของเขาก็อยากมีเวลาให้แต่เขากลัวว่าจะร้องไห้ต่อหน้า เลยเอางานมาบังหน้า ทั้งคู่ปรับความเข้าใจได้ด้วยดี ฉันเห็นแล้วรู้สึกว่าอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แม่ของปิแอร์จึงไปรับประทานอาหารกลางวันกับฉันและปิแอร์ที่โรงอาหารของคณะ ปิแอร์บอกกับแม่ของเขาว่าถ้าเรียนจบเขาจะขอฉันแต่งงาน แม่ปิแอร์ก็ไม่คัดค้านอะไร ออกแนวยินดีด้วยซ้ำ ฉันล่ะดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลย

      

          4 ปีต่อมา เมื่อฉันเรียนจบ ฉันก็แต่งงานกับปิแอร์ โดยที่น้อยหน่าเพื่อนรักของฉันก็คุยโม้ว่าตำราของตนนั้นแม่นจริงๆ ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปเมื่อพบพี่ปิแอร์ ไหนจะมีเรื่องกับดาวมหาวิทยา อย่างพี่ลิซ่า และปรับความเข้าใจให้ระหว่างพี่ปิแอร์และแม่ของเขา มันทำให้ฉันเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น ฉันไม่ควรมองคนแค่ภายนอก และเวลาที่ไม่เข้าใจอะไรกัน ควรที่จะหันหน้ามาพูดคุยกันดีๆ อย่าใช้ความคิดของตนเป็นใหญ่ ถ้ายังไม่รับฟังความคิดของคนอื่น ฉันกับปิแอร์เราก็เป็นคู่แต่งงานที่มีความสุขมากคู่หนึ่ง และพี่ปิแอร์ก็ไม่สนใจผู้หญิงอื่นนอกจากฉัน ส่วนแม่ของพี่ปิแอร์ก็แบ่งเวลาให้กับครอบครัว โดยถือเอาวันอาทิตย์เป็นวันหยุดของครอบครัว

                                                                                                                 

 

    

 

 

comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน