16 สิงหาคม 2546 19:48 น.

ชวนน้องเข้าครัว : น้ำพริกปลาทู

แก้ว กรุงเก่า

.........น้ำพริกปลาทูเจ้า........จัดแจง
กะปิกระเทียมพริกแดง.........โขลกเข้า
ปลาทูนึ่งพลิกแพลง............ทอดหรือ ย่างนา
จิ้มผักสดคลุกข้าว...............อร่อยล้ำ คำชม


๑...น้ำพริกปลาทู รสดีชิมดู รู้จักดัดแปลง เปรี้ยวเผ็ดเค็มหวาน
ทานดีมีแรง  กะปิของแพง ใส่ไปอย่ากลัว
๒...พริกใส่พอเผ็ด มากน้อยกี่เม็ด ตามใจแม่ครัว ครกสากต้องเตรียม
กระเทียมอีกหัว โขลกให้ระรัว เรียบร้อยเร็วไว
๓...ปลาทูนึ่งสุก แกะเนื้อเคล้าคลุก กับน้ำพริกไป แล้วโขลกให้แหลก
ตักแจกทันใด ผักสดจานใหญ่ ข้าวสวยอีกจาน
๔...แต่มีเคล็ดลับ ขอกล่าวสำทับ อย่าเพิ่งรำคาญ อย่ากินคนเดียว
จะเปลี่ยวดวงมาลย์ อยากสุขสำราญ จงทานสองคน
๕...อิ่มหมีพีมัน พลันดวงตะวัน ลาลับทิวสน ค่ำนี้สายใจ
อย่าได้กังวล พี่อยู่ทั้งคน จะกล่อมน้องนอน
๖...ช้าโอละเห่  ขวัญเอยอย่าเห จากเรือนจากดอน ขวัญอย่าลาลับ
จงกลับคืนคอน ใจพี่อาวรณ์  ห่วงเจ้าเช้าเย็น
๗...หรีดหริ่งเรไร ส่งเสียงสดใส สุขใจที่เห็น ดวงพักตร์พิสุทธิ์
ดุจดวงจันทร์เพ็ญ เนื้อเอ๋ยเนื้อเย็น หลับเถิดคนดี				
15 สิงหาคม 2546 21:11 น.

ชวนน้องเข้าครัว : แกงบอน

แก้ว กรุงเก่า



๑. ก้านบอนจืด*ที่เราเลือก         นำมาปอกเปลือก
แล้วต้มให้สุกทิ้งน้ำ
๒. มะพร้าวขูดคั้นใส่ชาม          กะปิมะขาม
น้ำตาล**ปลาป่นพริกแกง
๓. เครื่องพร้อมจงรีบจัดแจง   เร่งไฟแรงแรง
เคี่ยวหัวกะทิทันใด
๔. นำพริกแกงใส่ลงไป            แค่เพียงพอให้
เด็กเด็กกินได้พอดี
๕. ปรุงรสลองชิมอีกที            อร่อยได้ที่
จึงนำบอน***ใส่ลงไป
๖. ผัดไปผัดมาเร็วไว              หางกะทิใส่
แค่เพียงพอให้ท่วมบอน
๗. ควรรอให้เดือดเสียก่อน      ปรุงรสแกงบอน
มะขามน้ำตาลใส่ไป
๘. แล้วโรยปลาป่นลงใส่          หากไม่ชอบใจ
เปลี่ยนเป็นเนื้อไก่เนื้อหมู
๙. สุกแล้วจึงชิมรสดู              แล้วเคี่ยวสักครู่
จึงค่อยยกลงจากไฟ
๑๐. แกงบอนคนแก่ชอบใจ      ลูกหลานทำให้
เคี้ยวง่ายเจริญอาหาร
๑๑. แกงบอนนี้ของโบราณ      ทำมาช้านาน
อาหารในรั้วในวัง
๑๒. มีเกร็ดจะเล่าให้ฟัง           เพื่อคนรุ่นหลัง
รู้จดรู้จำคำฉัน
๑๓. แกงบอนนี้ของรามัญ  แรกเริ่มทำกัน
แพร่หลายไปทั่วถิ่นไทย
๑๔. ท่านว่ากินแกงบอนไป        แล้วพูดเหลวไหล
จะให้คันปากนักหนา
๑๕. แก้เคล็ดให้กินน้ำปลา         กล่าวขอขมา
จึงหายปากคันนั้นแลฯ

* บอนจืด  บอนมี ๒ ชนิดคือบอนจืด (กินได้) และบอนคัน (กินไม่ได้)
**น้ำตาล  แกงบอนนิยมใช้น้ำตาลปี๊บ
***บอน ในที่นี้ หมายถึง บอนที่ต้มสุกแล้ว				
13 สิงหาคม 2546 14:16 น.

ชวนน้องเข้าครัว : แกงเลียง

แก้ว กรุงเก่า

กาพย์ยานี ๑๑

๑. ผักสดหลายชนิด         คนไทยคิดประดิษฐ์ทำ
แกงเลียงเพียงสักคำ        แสนเลิศล้ำรสน้ำแกง
๒. พริกสดและพริกไทย    ตำลงไปกับกุ้งแห้ง
กะปิกระชายหอมแดง       ละลายแกงยกตั้งไฟ
๓. ส่วนผสมเริ่มเดือดดี    ผักที่มีใส่ลงไป
ปรุงรสตามชอบใจ          มิควรให้รสหวานนัก
๔. ตำลึงฟักทองบวบ       พริกยอดอวบล้วนยอดผัก
อย่าลืมใบแมงลัก             หอมประจักษ์รสถูกใจ
๕. แกงเลียงมีตำนาน       คนโบราณท่านว่าไว้
ยอดยาสมุนไพร              แก้ไข้บำรุงน้ำนม
๖. อิ่มอร่อยมีประโยชน์     อาหารโปรดคนนิยม
ชิมเพลินจำเริญรมย์        อย่าลืมชมคนแกงเลียง				
12 สิงหาคม 2546 19:54 น.

จากหน่อไม้...ถึงต้นไผ่

แก้ว กรุงเก่า

(กาพย์ฉบัง ๑๖)

๑. หน่อไม้ทางภาคอิสาน           เป็นยอดอาหาร
ปัญญาชาวบ้านท้องถิ่น
๒. โบราณนานมาทำกิน             ลูกหลานเคยชิน
จดจำทำตามสืบมา
๓. หน้าฝนหน่อไม้ในป่า             หลากหลายนำมา
สันทัดฝึกหัดจัดแจง
๔. อาหารหลายอย่างดัดแปลง    ผัดนึ่งต้มแกง
ปรุงด้วยหน่อไม้มากมี
๕. ทำหน่อไม้ดองของดี            เก็บกินนานปี
แจกพี่แจกน้องแบ่งปัน
๖. บ้างนำมาแกงสดกัน             กับใส่ใบมัน(เทศ)
หรือใส่น้ำคั้นย่านาง
๗. โรยด้วยแคบหมูบางบาง      ตะไคร้หั่นขวาง
ใส่ยอดแมงลักฟักทอง
๘. ยามแล้งน้ำแห้งหน้าหมอง     ควรนึกตรึกตรอง
หาแขนงไผ่มากิน
๙. ขมนิดทนเอาเราชิน              ชีวิตไม่สิ้น
ต้องดิ้นต้องด้นค้นหา
๑๐. เมื่อได้แขนงไผ่มา              เผาไฟอย่าช้า
ทุบเปลือกใส่น้ำตั้งไฟ
๑๑. รสขมเหลือน้อยเมื่อใด       จงเอาไปใช้
ต้มแกงกินกันต่อไป
๑๒. จากหน่อมาเป็นต้นไผ่          ประโยชน์ยิ่งใหญ่
แต่เกิดจวบจนวันตาย
๑๓. ปลูกสร้างบ้านเรือนสบาย    ของใช้ทั้งหลาย
ทำจากไม้ไผ่มากมี
๑๔. กระจาด กระบุง บุ้งกี๋         ตะกร้าก็ดี
กระด้ง กระเช้า กระเชอ ฯลฯ
๑๕. ไปเที่ยวแห่งใดถ้าเจอ         อุดหนุนนะเธอ
สินค้าหัตถกรรมคนไทย
๑๖. ฝีมือเปลี่ยนเป็นปัจจัย        ว่างจากนาไร่
มิใช้ชีวิตสิ้นเปลือง
๑๗. สร้างความเจริญรุ่งเรือง     ให้แก่บ้านเมือง
ท้องถิ่นที่ตนเกิดมา
๑๘. สมดังตั้งเจตนา                 ผองเราไพร่ฟ้า
ควรสนองคุณแผ่นดิน
๑๙. เศรษฐกิจพอเพียงเคยยิน      แนวทางทำกิน
ในหลวงพระราชทาน
๒๐. แต่นี้ต่อไปไม่นาน                 ทั่วโลกกล่าวขาน
ยกย่องชื่นชมชาติไทย				
12 สิงหาคม 2546 10:12 น.

แม่

แก้ว กรุงเก่า

อกอิ่มอิ่มเอิบอาบกำซาบซ่าน 
รินสายธารกษิรชลเลี้ยงต้นกล้า 
ตราบต้นข้าวเขียวเข้มเต็มทุ่งนา 
วันเวลาฤดูกาลผ่านพ้นไป 

ข้าวทุกต้นได้ผลดีเพราะมีแม่ 
หมั่นดูแลขัดเกลาเอาใจใส่ 
คอยปกป้องคุ้มครองพ้นผองภัย 
กล่อมจิตใจเกื้อหนุนคุณความดี 

ผ่านร้อนหนาวสุขทุกข์สนุกเศร้า 
จนต้นข้าวเจริญงามตามหน้าที่ 
แม่อดเพื่อลูกอิ่มเป็นพิมพ์ดี 
พระคุณนี้สุกสว่างกลางดวงใจ 

บัดนี้..ข้าวแตกรวงเหลืองอร่าม 
เป็นความงามกลางท้องนาน่าพิสมัย 
เป็นแสงเทียนส่องทางสังคมไทย 
ลูกภูมิใจแม่ปลื้มจินต์รินน้ำตา				
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแก้ว กรุงเก่า
Lovings  แก้ว กรุงเก่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแก้ว กรุงเก่า