5 มิถุนายน 2551 14:26 น.

"เป็นกลาง แตกต่าง แตกแยก"

แทนคุณแทนไท

ณ สถานการณ์เช่นที่ว่านี้
ความแล้งร้อนของโลกว่าน่ากลัวแล้ว จิตใจที่ร้อนรุ่มกลับน่ากลัวกว่าเป็นเท่าทวี

สิ่งที่เราเป็น ความจริง ทุกคนย่อมตระหนักรู้อยู่แก่ใจตัว ทั่วทุกคน

วาทะกรรมต่างๆที่ทุกคนสร้างขึ้น บางวาทะก็เพียงอยากบอกว่าตัวเป็นคนเช่นไรเท่านั้น 
แหละบางวาทะก็ไม่ต่างกัน เพียงอยากใช้กล่าวถึงเพื่อปรามาสหรือชื่นชม ว่าใครเป็นคนเช่นแบบไหน

จะเป็นข้าพเจ้า หรือว่าใครๆ เราต่างมีจริตและความเห็นที่ต่างเป็นไทในตัวเอง

"อิสระ และ ชอบธรรม" 

การอันใดที่เราแสดงออก ต่างอาศัยเหตุปัจจัย2 สิ่ง นี้ทั้งสิ้น

แต่สิ่งหนึ่งที่เลี่ยงไม่ได้คือ บางจริตที่เลือกจะแสดงออก จะชอบธรรมในบริบทของสังคมบางสังคมที่มีจริตที่แตกต่างกับเราหรือไม่ อย่างไร ก็เพียงนั้น

อิสระ และ ความชอบธรรม จึงต้องเตรียมเหตุผลที่หนักแน่นเพียงพอที่จะตอบบางใครให้ได้เมื่อไปกระทบถึงความรู้สึกใครอันบริสุทธิใจที่ถามหาถึงความพอดี พองาม และพอควร

อย่างน้อยตอบสามัญสำนึกแห่งความเป็นสัตว์สังคมผู้ควรมีหน้าที่ได้บ้าง แม้เพียงหนึ่งน้อยก็ยังดี

แม้ในเวทีการต่อสู้ ผู้หมายมั่นเป็นนักรบ จะได้รับการปลุกใจจากแม่ทัพเสมอว่า
"การใหญ่จะสำเร็จ อาจต้องขืน และต้องข่มความเจ็บปวดกับการสูญเสียบ้างก็ตาม"

แต่นั่น ก็มิได้เป็นเหตุผลซึ่งใครจะยอมรับได้ทุกคน โดยเฉพาะฝั่งที่คิดเห็นเป็นประการที่แตกต่างออกไป

การแสดงออกใดอันเป็นที่ประจักษ์ใจในขณะนี้ 
ไม่ว่าจากผู้เป็น ไท ฟากใด ล้วนมีข้อโต้แย้งและข้อกังขาให้แคลงใจเสมอ

การเป็นแบบหนึ่งอาจเกิดจากกระบวนการคิดแบบหนึ่ง
แหละการเป็นอีกสิ่งหนึ่งอาจเกิดจากอีกกระบวนการคิดที่ต่างออกไป

ในโลกที่หลากสี สีขาวสำหรับบางคนอาจเป็นสีแห่งความศิวิไล แต่สำหรับบางใครสีดำเป็นสีอันน่าพิสมัยยิ่งกว่า

ขณะที่มีไม่น้อย ที่จะไม่ยี่หระที่จะประกาศตัวบอกใครๆว่า ข้านี่แหละหลงใหลสีเทา ยิ่งกว่าสิ่งใด

ขาว เทา หรือ ดำ เป็นความถูกต้องที่แท้ก็ต่อเมื่อเกิดการตกผลึกของสังคม ที่ได้รับข้อมูลอย่างรอบด้าน และนำมาซึ่งการยอมรับร่วมกันแล้วเท่านั้น

สหายทั้งหลาย เคยคิดบ้างหรือไม่ว่า วันนี้ทำไมเรามิอาจหันหน้ามาปรองดองกันได้ แบบที่ควรจะทำและควรจะเป็น

ปัญหาอยู่ที่เราเห็นแตกต่าง หรืออยู่ที่การ ไร้พื้นที่ สำหรับความแตกต่างที่มีหนอ

โดยส่วนตัว ข้าพเจ้าเชื่อในบริบทของกระบวนการคิดข้าพเจ้าว่า เมื่อมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้น โดยเฉพาะการเมือง คนที่คิดเห็นในเรื่องนั้นๆเป็นกลางไม่เคยมี มีแต่เห็นด้วย เห็นต่าง หรือเห็นด้วยเห็นต่างอย่างมีข้อแม้หรือข้อจำกัดเท่านั้น

คนที่บอกเห็นกลาง หากเป็นกลางที่ถูกต้อง ในความนึกคิดของข้าพเจ้า น่าจะเป็นคนที่เลือกยืนอยู่ตรงกลางซะมากกว่า (แต่ในจริตต้องคิดเห็นในสิ่งนั้นเป็นประการใดประการหนึ่งแน่แท้)

ให้ทัศนะเชิงบวก อาจจะหมายถึง ไม่ปรารถนาให้เกิดความขัดแย้ง หรือปรารถนาจะบรรเทาความร้อนระอุ และคอยประสานความขัดแย้งหรือผู้ขัดแย้งในสังคม ให้ยังคงไม่หลงลืมไปว่าเราเป็นเนื้อไทยเดียวกันก็เป็นได้

คนกลาง จึงยังเกิดอยู่ และข้าพเจ้าก็ต้องยอมรับว่ายังมีความหมายและจำเป็นในเวทีของประเทศที่ประชาธิปไตยยังไม่เติบโตมากนัก เช่นประเทศนี้

ประเทศที่ เป็นประชาธิปไตยที่มีกฎหมาย แต่การบังคับใช้อย่างอ่อนแอ  ย้ำว่าอ่อนแอเหลือเกิน

ดังนั้น คนเห็นด้วย คนยืนกลาง และคนเห็นแย้ง จึงยังเป็นความจำเป็นที่ยังขาดไม่ได้ 

ประเทศที่มีเสรี มีสิทธิ และหน้าที่ในกฎหมายและรัฐธรรมนูญ 
แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องใช้สิ่งเหล่านั้น กลับไม่เคยปรากฏแยกได้ชัดในการบังคับใช้ 

เสรี สิทธิ และหน้าที่ จึงยังแสดงจุดยืนได้ทับซ้อนกันจนยากจะแยกแยะได้ว่า ใครควรเป็นและควรทำเช่นไหน อย่างไร และแค่ไหน

"ตราบเท่าที่ การปฏิรูปกฎหมายและการบังคับใช้อย่างเข้มแข็งไม่เกิดขึ้นในประเทศนี้"

อย่าหวังเลย ว่าจะได้เห็น ตุลา  พฤษภา หรือแม้แต่กันยา เป็นฉากเศร้าสุดท้ายของประชาธิปไตยที่โหยหา

เมื่อผู้รักษากฎซึ่งเป็นด่านหน้าของการบังคับใช้ ยังต้องเลือกว่าจะให้ความเป็นธรรมในขั้นต้นกับผู้ใด ก็ต่อเมื่อได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาสูงสุด 

เมื่อผู้รักษากฎสูงสุดคือนักการเมืองบางจำพวก ซึ่งมีอยู่เต็มค่อนสภาที่ได้รับการเลือกตั้งมาโดยไม่เคยยี่หระถึงความศักดิ์สิทธิของกฎหมายในประเทศนี้

ประกอบกับ ประชาชนจำนวนหนึ่งยอมขายสิทธิต่างๆที่ตนพึงมีเพียง 1 นาที ให้กับบางใครเพื่อเดินเข้าสภาไปย่ำยีประเทศชาติได้ตามสบายใจฉัน

เมื่อพื้นฐานอันเป็นหัวใจในการใช้กฎหมาย ณ รากฐานของประชาธิปไตยล้มเหลว
จะหวังให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงได้อย่างไร

"ระบบกฎหมายล้มเหลว" ประชาธิปไตยที่แท้จึงมิได้มาสวัสดีประชาชนสักที

นักกินเมืองในระบบประชาธิปไตยจึงมีอยู่ค่อนสภา 
ประชาชน ทั้งผู้สำคัญผิดและผู้เต็มใจเมื่อได้ขายสิทธิอันสำคัญยิ่งให้บางใครไปแล้วซิโรราบแล้วต่อความเห็นแก่ได้เพียงชั่วแล่น 

จึงไม่แปลกที่ผู้ได้มาซึ่งการปกครองแบบตัวแทนในประเทศนี้จึงมิได้ยอมรับการเมืองภาคประชาชน

เพราะบางใครคิดว่ากลุ่มอำนาจตนได้ซื้อสิทธินี้อย่างเด็ดขาดมาเสียแล้ว
ประกอบกับบางคนก็คิดว่าสิทธิของตัวจะมีอีกครั้งเมื่อถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า

สหายท่านหนึ่งเคยบอก

ทั้งหมดนี้มิใช่ปัญหานักการเมือง หรือ ประชาชน

แต่เป็นปัญหาของการบังคับใช้กฎ กฎที่ว่าคือกฎหมาย

ในประเทศที่ระบบกฎหมายเข้มแข็ง ประชาธิปไตยจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
คนขายสิทธิอันพึงมีของตนไม่ปรากฏ คนได้อำนาจปวงชนโดยการซื้อหาก็อย่าได้คิดฝันหวานเข้าสภา

คนอยู่ในสภาจึงเต็มไปด้วยผู้กระหายความชอบธรรม เคารพกฎหมายและรักประชาชน 

เมื่อมีข้อโต้แย้งใดๆเกิดขึ้นในสังคม ความเห็นต่างที่ไม่ถูกประณามก็เกิดขึ้นได้
ความเห็นแย้งที่ไม่ถูกด่าทอก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน

ไม่จำเป็นต้องหาคนมายืนอยู่ตรงกลางเพื่อลดการเผชิญหน้า

เพราะคนกลางคือกฎหมายที่จะได้รับโดยการบังคับใช้โดยบุคคลซึ่งดำรงความยุติธรรม เพื่อให้สังคมเกิดความยุติ

สหายทั้งหลาย
ไทยทั้งนั้น ที่บีบขยี้หัวใจประชาธิปไตยมาตั้งแต่ต้น เราทำลายระบบกฎอันศักดิ์สิทธิ

แม้ถึงว่าวันนี้ เราต้องเจ็บปวด กับความขัดแย้งที่เห็นด้วย ยืนกลาง หรือเห็นต่าง ก็กลืนฝืนความเจ็บปวดไปก่อนเถิด 

เพราะหากเรายังอ่อนแอ  เมินเฉย มิกล้าแสดงตัว พร้อมทั้งเหยียดหยามทุกความเห็นต่าง เราจะก้าวข้ามไปสู่แดนแห่งอุดมคติได้อย่างไรเล่า 

วันนี้สังคมยังต้องการคนยืนกลาง ก่อนที่เปิดโอกาสให้เขาแสดงตัวในวันพรุ่ง เมื่อประชาธิปไตยที่แท้ได้เบิกบาน

แม้ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายแตกต่างกันในจุดยืนเชิงทัศนะคติ แต่เข้าใจในเหตุผลของกันและกันบ้าง เราอาจได้สร้างสังคมอันงดงามเพื่อบางใครในวันหน้า

ก่อนที่จะสายไป ตรองเถิดสหายทั้งหลาย เรากำลังต่อสู้กับสิ่งใด

เผื่อว่าบางทีลูกหลานของเราในกาลหน้า อาจได้มีโอกาสแสดงจริตที่แตกต่างกันบนแดนประชาธิปไตยที่สวยงาม ภายใต้ใบหน้าที่เบิกบาน

ข้าพเจ้าเชื่อมั่น และวาดหวังเช่นนั้น


แทนคุณแทนไท / นนทบุรี				
Calendar
Lovers  2 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟแทนคุณแทนไท
Lovings  แทนคุณแทนไท เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงแทนคุณแทนไท